บท
ตั้งค่า

บทที่ 2

ความเดียวดายที่เกิดขึ้นฉับพลันในวันนั้นมันทำให้ชีวิตของเธอเสียศูนย์อย่างรุนแรง หากไม่ได้เพื่อนสนิทของมารดาอย่างคุณป้าฉัตรแก้วยื่นมือเข้ามาช่วยในช่วงเวลาดังกล่าว เธอเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะไปในทิศทางไหนต่อเหมือนกัน เพราะนอกจากพ่อกับแม่แล้ว เธอก็ไม่มีใครที่ไหนอีก ญาติพี่น้องแม้จะพอมีแต่ก็ไม่ได้สนิทสนมกลมเกลียวกันเท่าไหร่ บุญคุณของท่านในครั้งนี้ถือว่าใหญ่หลวงมากนัก หากมีโอกาสเธอจะตอบแทนท่าน ในสักวันใดวันหนึ่ง

“ถึงแล้วครับคุณอ้อน” เป็นเสียงของลุงชุม คนขับรถเรียกสติหญิงสาว ก่อนที่เจ้าของดวงตาเศร้าจะหันไปมอง ‘ท่ารถ’ ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางของตนเองอย่างชั่งใจ ว่าจะลงไปดีหรือไม่ แต่หากไม่ลงไปตอนนี้ ก็ไม่รู้จะไปที่ไหนได้อีก เพราะนอกจากพ่อกับแม่แล้ว ญาติคนอื่นๆ ที่เหลือ ต่างก็แยกย้ายไปมีครอบครัวเป็นของตัวเองกันหมด และเธอก็ไม่กล้าเอ่ยปากขอความช่วยเหลือจากใคร ครั้นจะให้ไปอยู่กับคุณป้าฉัตรที่บ้าน ก็เกรงว่าจะไม่ปลอดภัยจากสามีของท่าน ที่ใครๆ ก็รู้ว่าคุณลุงคนนั้นเจ้าชู้มากแค่ไหน เพราะเหตุผลนี้เองเลยทำให้เธอต้องดั้นด้นมาไกลถึงที่นี่

นั้นเป็นเพราะว่ามัน...เป็นทางเลือกเดียวที่เธอมีอยู่ในตอนนี้

“ผมคงส่งได้เท่านี้นะครับคุณอ้อน” แม้ใจจะอยากส่งคนของผู้นายผู้หญิงไปให้ถึงจุดหมายอย่างปลอดภัยสักแค่ไหน แต่เพราะนี่เป็นคำสั่งเด็ดขาดของลูกชายคนโตของท่าน เขาซึ่งเป็นแค่คนขับรถจึงไม่กล้าขัดใจ จำเป็นต้องทำตามคำสั่งที่ได้รับมาอย่างเคร่งครัด ส่วนเหตุผลนั้นก็ไม่มีอะไรซับซ้อน ก็แค่เพราะอีกฝ่ายไม่ชอบให้ ‘คนนอก’ เข้าไปวุ่นวายในเขตหวงห้ามของตัวเอง ไม่ว่าใครคนไหน

“ไม่เป็นไรค่ะลุง ขอบคุณมากนะคะที่มาส่งอ้อน ขับรถกลับดีๆ นะคะ ฝากบอกคุณป้าฉัตรด้วยว่าถ้าถึงแล้วอ้อนจะโทรหาค่ะ” แก้วเจ้าจอมยกมือไหว้ขอบคุณอีกฝ่าย ก่อนจะพาตัวเองลงจากรถพร้อมกระเป๋าเสื้อผ้าใบเก่า ที่นอกจากรูปถ่ายของครอบครัวกับเงินติดตัวไม่กี่พันบาทแล้ว เธอก็ไม่มีของมีค่าอะไรติดตัวมามากนัก

แม้แต่บ้านที่เคยเป็นจุดกำเนิดความสุข ก็ต้องปล่อยขายไปเพื่อนำเงินมาใช้หนี้ที่พ่อไปกู้ยืมมาส่งเสียเธอเรียน คราแรกคุณป้าฉัตรเสนอจะปิดหนี้ก้อนนั้นให้ เป็นเธอที่อยากจัดการมันด้วยตัวเอง อย่างน้อยก็อยากยืนด้วยขาตัวเองดูสักครั้ง แค่สักครั้งเดียวก็ยังดี...

หญิงสาวมองหาสักพักก็พบกับม้านั่งสีแดงที่ ‘ลูกชายคุณป้าฉัตร’ บอกไว้ว่าจะมารับ เมื่อมาถึงที่หมายแล้วให้ไปนั่งรอ ถึงได้เดินไปทิ้งตัวลงนั่ง ภาวนาต่ออะไรก็ตามที่พอจะนึกออก ให้เขาไม่ลืมกัน

“คุณอ้อนใช่ไหมครับ” สักพักใหญ่เห็นจะได้ว่าจะมีชายร่างท้วมคนหนึ่งวิ่งหอบตรงเข้ามาหา ซึ่งมองแล้วเขาไม่น่าใช่คนที่เธอกำลังรออยู่ หญิงสาวจ้องมองเจ้าของน้ำเสียงดุดันนั้นไม่วางตา จนเมื่อนึกขึ้นมาได้ว่าเมื่อครู่เขาเพิ่งจะขานชื่อเธอถึงได้ส่งยิ้มกลับไปให้

“ใช่ค่ะ” หากเป็นคนนอกคงไม่มีทางรู้ชื่อเธอแน่ ถึงได้วางใจ

“เชิญครับ รถจอดอยู่ทางนั้น นายรออยู่ในรถแล้วครับ” หญิงสาวยิ้มรับอย่างเข้าใจต่อคำอธิบายเมื่อครู่ เธอรู้จักกับคุณป้าฉัตรมานาน นานพอจะได้ยินชื่อเสียงของ ‘นาย’ ที่ว่าของเขามาพอสมควรว่าเป็นคนแบบไหน คุณ ‘ราม’ ชอบทำงานเป็นชีวิตจิตใจ เพราะอย่างนั้นเขาถึงได้ดูยุ่งตลอด จนบางครั้งก็ไม่มีแม้แต่เวลาหาแฟน ซึ่งเรื่องนี้เองที่ทำให้ป้าฉัตรต้องปวดหัวอยู่บ่อยๆ แต่ก็ไม่กล้าที่จะพูดอะไรออกไปเพราะกลัวอีกฝ่ายโกรธ สุดท้ายท่านก็ทำได้แค่มองดูอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ ซึ่งเธอเห็นด้วยกับทางออกนี้ที่ท่านเลือก

การที่เราจะรักหรือตกลงปลงใจกับใครสักคนอย่างมีความสุขนั้น...สิ่งแรกที่ควรเกิดขึ้นคือความรักที่ต่างฝ่ายต่างมีให้กัน

ซึ่งลูกชายของป้าฉัตรจะรักชอบใครมันก็ไม่เกี่ยวกับเธออยู่ดี

แค่เขายอมมารับด้วยตัวเองถึงที่หมายแบบนี้ ก็ถือว่าเกินความคาดหมายมากแล้ว เธอไม่หวังว่า เขา จะเดินมารับด้วยตัวเอง

จะใครมารับ มันก็คงไม่ได้มีผลอะไรต่อชีวิตของเธอมากนัก

เพราะสุดท้าย... เธอก็กลายเป็นคนไม่เหลือใครในชีวิตอยู่ดี

และนั่นต่างหากคือความจริงที่ทำให้เจ็บปวดทุกครั้งที่คิดถึง แต่ชีวิตคนเราก็มีแค่นี้ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป เป็นเรื่องธรรมชาติ

ที่ต้องพบเจอกันทุกคน แค่ว่าจะเมื่อไหร่ก็เท่านั้น...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel