ตอนที่ 6 ตกลง
ตอนที่ 6 ตกลง
"ต้นไผ่...ฉันอยากให้แกสบายนะ ที่จริงถ้าไม่ถือเรื่องนั้น ฉันคิดว่างานนี้ก็เป็นงานสุจริตอย่างหนึ่ง เราไม่ได้ไปคดโกงใคร ส่วนนักธุรกิจคนนั้นคงมาเมืองไทยแค่ไม่กี่วัน ไม่แน่...งานนี้งานเดียวเขาอาจจะเปย์ให้แกจนไม่ต้องทำงานไปจนกว่าจะเรียนจบเลยก็ได้"
"..........." ต้นไผ่เริ่มคิดหนัก เธอตกงาน เงินที่ต้องจับจ่ายใช้สอยก็เรียกได้ว่าไม่น่าจะพอใช้ เธอมีให้เลือกอยู่สองทางคือ หนึ่ง...ขอแด๊ดดี้เพิ่ม แต่เธอไม่อยากรบกวนเขา สอง...เลือกทำงานนี้!
"เดือนหน้ามีกิจกรรม ต้องใช้เงินเยอะอยู่นะ รีบๆคิดนะ ถ้ามีคนทำงานนี้แล้วแกก็หมดสิทธิ์แล้วนะ" ลูกตาลไม่ได้มีเจตนาร้ายกับเพื่อนแต่อย่างใด เธอแค่อยากให้เพื่อนทำงานสบายเงินดี สามปีที่ผ่านมาลูกตาลรู้มาตลอดว่าเพื่อนของเธอเหนื่อยมากแค่ไหน ไหนจะต้องเรียนงานก็ต้องทำ ชีวิตแบบนี้ไม่ได้ง่าย ซึ่งลูกตาลก็เป็นคนหนึ่งที่ทำงานอยู่กับต้นไผ่มาตลอด
"นานมั้ย" ต้นไผ่ถามถึงระยะเวลาของงานที่เธอต้องทำ
"เขาไม่ใช่คนไทย เห็นว่ามาติดต่อธุรกิจไม่นาน เต็มที่ก็แค่อาทิตย์สองอาทิตย์" จากประสบการณ์ที่ลูกตาลพบเห็นมาก็ประมาณนี้
"ถ้าฉันตกลง งานที่ฉันต้องทำมีอะไรบ้าง"
"มา! เดี๋ยวฉันจะเล่าให้ฟัง งานง่ายๆเงินดี แกก็แค่เอาอกเอาใจ..." ลูกตาลเริ่มเล่าถึงลักษณะงานที่เพื่อนจะต้องทำ ในแบบคร่าวๆ เนื่องจากเพื่อนแค่ถามแต่ยังไม่ได้ตกลงเต็มปากเต็มคำ
"เรื่องอื่นฉันไม่ติด ฉันติดเรื่องนั้นเรื่องเดียว" เรื่องบนเตียง! เธอไม่รู้ว่าจะทำใจให้ร่างกายกับใครคนนั้น ที่เธอไม่รู้จักแถมยังไม่เคยเห็นหน้าได้หรือเปล่า
"เอาจริงๆมั้ย ฉันเนี่ยอยากได้แค่เรื่องนั้นที่แกไม่ชอบเรื่องเดียว เรื่องอื่นฉันไม่อยากทำเลย" สักวันต้นไผ่จะติดใจเหมือนลูกตาล
"ห๊ะ!!" ต้นไผ่ตาโต อะไรจะขนาดนั้น
"เออ...จริงๆ ถ้าได้ทำกับคนที่เราถูกใจ มันมีความสุขและสนุก เชื่อฉัน!" ลูกตาลยืนยันความฟินอีกครั้ง เป็นเพื่อนกันมาสามปีต้นไผ่รู้ว่าลูกตาลไว้ใจได้และไม่โกหกเธออย่างแน่นอน
"ยังไงวะ" ต้นไผ่ไม่เข้าใจ แต่เธอก็ไม่ได้รู้สึกเสียดายความบริสุทธิ์ของตัวเองแต่อย่างใด เธอก็แค่ยังไม่เคยและกลัวเรื่องนั้น
"ถ้าอยากรู้ก็ลองดิ แล้วจะติดใจ" ลูกตาลเองก็อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน อีกอย่างถ้าจะให้เล่าทุกฉากทุกมุมเธอก็เขินเป็น
"บ้า..." แต่เป็นคนฟังมากกว่าที่เขินจนหน้าแดง ไม่ใช่คนเล่า
"ตกลงแกจะลองทำงานนี้ดูมั้ย แล้วแต่แกนะ ฉันไม่บังคับ"
"แล้วผู้ชายคนนั้น จะอ้วน ลงพุง แก่ หัวล้านมั้ยอ่ะ คือฉันไม่ได้อะไรนะ...แต่ขอทำใจก่อนได้มั้ย" เรื่องนี้ลูกตาลก็ไม่รู้เหมือนกัน เพราะเธอก็ยังไม่เคยเห็นใบหน้าของนักธุรกิจคนนั้นที่ป๋าของเธอพูดถึง
"สรุป...คือแกตกลงแล้วใช่มั้ย ฉันจะได้โทรไปถามป๋าให้" ต้นไผ่พยักหน้า ลองดูสักครั้งก็ได้ จะได้เคยซะอย่างที่เพื่อนบอก
ช่วงเที่ยงๆ ป๋าของลูกตาลโทรมาบอกว่าตกลงเลือกต้นไผ่ เริ่มงานเย็นนี้เลย!
"ต้นไผ่ๆ ป๋าโทรมาแล้วนะบอกว่าตกลงเลือกแก" สำหรับลูกตาลถือว่าเป็นข่าวดี เธอรีบบอกเพื่อนทันทีที่วางสายไป
"จริงเหรอ"
"เริ่มงานเย็นนี้นะ"
"ห๊ะ!!" น้ำเสียงตกใจของต้นไผ่ ทำให้ลูกตาลรีบหันมองซ้ายมองขวา กลัวคนแถวนั้นที่เธอกับเพื่อนนั่งอยู่จะตกใจไปกับเพื่อนของเธอด้วย
"ไม่ต้องห๊ะ ป๋าบอกว่านักธุรกิจคนนั้นมาถึงตั้งแต่เมื่อวานแล้ว"
"แล้วรูปร่างหน้าตาล่ะ" ต้นไผ่ถามต่อ...
"ลืมถามว่ะ มัวแต่ดีใจที่แกได้งานแล้ว"
"น่าจะถามให้สักหน่อย"
"ไม่ทันแล้ว ฉันตกลงไปแล้ว คนรวยระดับนั้น ถึงจะแก่หรืออ้วนลงพุงยังไง เขาก็ดูแลตัวเอง ไม่ได้แย่อย่างที่แกคิดหรอก" ลูกตาลยังคงพูดให้กำลังใจเพื่อน
"ฉันขอยกเลิกได้มั้ย คือฉัน..." ต้นไผ่รู้สึกว่าตัวเองยังไม่ค่อยพร้อมกับเรื่องนี้สักเท่าไหร่
"ไม่ได้! ตกลงไปแล้ว ป๋าฉันไม่ใช่เพื่อนเล่นของฉันนะ เขาเป็นผู้ใหญ่ ฉันไม่กล้าพูดกลับไปกลับมากับเขาหรอก แก...เห็นใจฉันเถอะ"
"โอเคก็ได้ เย็นนี้กี่โมง ที่ไหน"
"ป๋าบอกว่าให้แกนั่งรถกลับไปกับฉันตอนเย็น" ในทุกๆวัน ลูกตาลจะมีคนขับรถส่วนตัวมาค่อยรับค่อยส่ง
"ไม่ต้องอาบน้ำก่อนเหรอ ตั้งแต่เช้าจนเย็นฉันไม่ค่อยมั่นใจเลย"
"จะบ้าหรือไง เขามีห้องอาบน้ำให้ ห้องน้ำใหญ่กว่าห้องคอนโดที่แกนอนอีก มีเสื้อผ้าเตรียมไว้ให้ พรุ่งนี้วันหยุดพอดี ฉันต้องดูแลป๋า มีอะไรทักข้อความมาหาได้ แต่ถ้าฉันตอบช้าหน่อยแกก็อย่าว่านะ"
"เรื่องนี้ฉันรู้ ขอบใจแกมาก ที่หางานให้" ใบหน้าของต้นไผ่ไม่ได้เหมือนคนรู้สึกดีเลยสักนิด
"สีหน้าของแกไม่เหมือนอยากจะขอบใจฉันเลยนะ เอาไว้อยากขอบใจจริงๆแล้วค่อยพูด เก็บเอาไว้ก่อนก็ได้ แค่ไม่โทษไม่ด่าฉัน ฉันก็พอใจแล้ว"
"ฉันรู้ว่าแกหวังดี...ลูกตาล ไหนๆฉันก็รับปากรับคำไปแล้วนี่ เอาก็เอา เป็นไงเป็นกัน แต่แกช่วยปลอบใจฉันหน่อยได้มั้ย ฉันกลัว..." ยิ่งเวลาใกล้เข้ามามากขึ้น ต้นไผ่ก็ยิ่งตื่นเต้น จะขอยกเลิกตอนนี้ก็เห็นทีว่าจะไม่ได้แล้ว...
"โอ๋ๆเพื่อนรัก มันไม่ได้แย่ แกต้องเชื่อฉันนะ ฉันเป็นผู้มีประสบการณ์ ถ้าแกไม่เชื่อฉันแล้วแกจะเชื่อใคร"
"ถ้าฉันเจอคนไม่ดีล่ะ" ต้นไผ่ไม่เคยทำงานแบบนี้คงไม่แปลกถ้าเธอจะกังวล
"แกอย่าคิดเยอะสิ บั่นทอนจิตใจเปล่าๆ" ต้นไผ่พยักหน้าให้เพื่อน จากนั้นทั้งสองคนก็ขึ้นห้องไปเรียนตามปกติ แต่วันนี้วิชาที่ได้เรียนต้นไผ่ฟังอาจารย์สอนไม่รู้เรื่องเลย เนื่องจากเธอกังวลเรื่องงานใหม่ของตัวเองที่กำลังจะเริ่มทำเย็นนี้
ช่วงเย็นหลังเลิกเรียน ต้นไผ่ไม่ได้กลับคอนโด แต่เลือกที่จะนั่งรถไปกับลูกตาลเลย รถคันนั้นที่ต้นไผ่และลูกตาลนั่งมา พามาจอดอยู่ที่โรงแรมหรูแห่งหนึ่ง
"คุณผู้หญิง...เชิญทางนี้ครับ" คนขับรถผายมือให้หญิงสาวทั้งสองคนที่สวมชุดนักศึกษารัดรูปเดินตามไป
"ไปสิแก ไม่มีอะไรหรอกน่า อย่าเกร็งทำใจดีๆเข้าไว้ ถ้าแกผ่านครั้งแรกไปได้ ครั้งต่อไปก็สบาย..." ลูกตาลให้กำลังใจเพื่อนอีกครั้ง หญิงสาวทั้งสองคนเดินตามคนขับรถไปติดๆ ซึ่งลูกตาลเองก็มีหน้าที่ไปบริการป๋าของเธอเช่นกัน
"คุณต้นไผ่ใช่มั้ยครับ" เมื่อเธอทั้งสองเดินเข้ามาในโรงแรม ก็มีผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่สวมชุดสีดำหนึ่งคน เดินเข้ามาพูดกับต้นไผ่ด้วยภาษาอังกฤษ
"ใช่ค่ะ"
"คุณมิเชล บอกว่าให้คุณต้นไผ่ไปรออยู่ที่ห้อง 925 ก่อนครับ นี่ครับคีย์การ์ด" ผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่คนนั้นส่งคีย์การ์ดให้เธอจากนั้นเขาก็เดินออกไป
คุณมิเชล...ชื่อคุ้นหูจังเลย แต่นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออกไม่รู้ว่าเคยได้ยินชื่อนี้จากที่ไหน
"ฉันอยู่ชั้นสิบแปดแกอยู่ชั้นสิบเก้า ป่ะเดินไปพร้อมกัน" ลูกตาลพาต้นไผ่เดินเข้าลิฟต์เพื่อที่จะขึ้นห้องตามเบอร์คีย์การ์ดที่ชายชุดดำให้มา
"ฉันต้องทำอะไรบ้าง" ที่เพื่อนเล่าให้ฟังเมื่อเช้า ตอนนี้ต้นไผ่ลืมไปหมดแล้ว ตอนนี้เธอตื่นเต้นมาก
"มือเย็นเฉียบเลย ไหวมั้ยเนี่ยแก..."
"ไหว..." ตอบไม่ไหวได้ด้วยเหรอ!
"อาบน้ำให้ตัวหอมๆแล้วก็ไปนอนรอบนเตียง...แค่นี้พอ จากนั้นก็ทำตัวทำใจให้สบายๆ ไม่ต้องคิดอะไรเยอะ เข้าใจที่ฉันพูดมั้ยเนี่ย" อาการของเพื่อนตอนนี้น่าเป็นห่วงมาก ลูกตาลคงทำได้แค่ให้กำลังใจ
"เข้าใจ"
"โอเค ถึงชั้นสิบแปดของฉันแล้วไปนะ" เป็นจังหวะที่ลิฟต์เปิดออกที่ชั้นสิบแปดพอดี แต่ต้นไผ่ต้องขึ้นไปอีกหนึ่งชั้น
