ตอนที่ 3 วนเวียนอยู่ใกล้ ๆ
ตอนที่ 3 วนเวียนอยู่ใกล้ ๆ
น้ำค้างถอนหายใจออกมาหลังจากที่ทำแผลอะไรเสร็จเรียบร้อยแล้ว เธอมานั่งรอเอายาที่หน้าห้องจ่ายยา กำลังมองเงินในบัญชีด้วยสายตาอ่อนล้า ทำงานมาตั้งหลายวัน สรุปแล้วก็ต้องมารักษาตัวเองจนได้ แต่พอถึงเวลาจ่ายเงินคนตัวสูงที่ยืนอยู่ข้างหลังก็จัดการแทนให้ทุกอย่าง เธอหันไปมองด้วยแววตาเป็นประกาย ใจก็อยากปฏิเสธอยู่นะ แต่เธอจนนี่สิก็เลยยิ้มแห้งไปให้ชายหนุ่มพร้อมกับเอ่ยปากขอบคุณเขาออกไป
“ขอบคุณนะคะ”
“หึ ไปได้แล้ว รถของเธอล้อบิดนิดหน่อยคนของฉันจัดการให้แล้วเดี๋ยวเอาไปส่งให้ บอกที่อยู่เธอมา”
“เอ่อ ถ้างั้นค่าซ่อมเท่าไรคะ พี่จ่ายค่ารักษาให้ค้างแล้ว ค้างเกรงใจ”
“ช่างมันเถอะ” เขาไม่ได้คิดเล็กคิดน้อยอะไรอยู่แล้ว สิ่งที่ชายหนุ่มทำให้มานั้นมันทำให้คนตัวเล็กรู้สึกขอบคุณเขามากจริง ๆ ไม่คิดว่าคนนิ่ง ๆ ดุ ๆ เย็นชา จะใจดีขนาดนี้
“คิดอะไรอยู่” เพราะจู่ ๆ หญิงสาวก็เงียบไปนั่นจึงทำให้เพลิงอดไม่ได้ที่จะถามออกไป
“คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยค่ะ”
“แล้วคิดอะไรล่ะ”
“ก็คิดว่าทำไมพี่ใจดีขนาดนี้ไงคะ นึกว่าจะหยิ่งอะไรทำนองนั้น”
“ว่าฉัน?”
“ปะ เปล่านะคะ ค้างไม่ได้ว่าอะไรพี่เลย” เธอพูดอย่างที่ใจคิดไปหน่อย จนเผลอพูดออกไป รู้ตัวอีกทีก็ไม่ทันแล้ว
“ขึ้นรถจะไปส่ง”
“เอ่อ ค่ะ ขอบคุณนะคะ” เขาไม่ได้ตอบอะไรกลับมานอกจากเดินขึ้นไปนั่งบนรถ ทำให้คนตัวเล็กที่เดินกะเผลกตามหลังมองบนเล็กน้อยกับท่าทีเหล่านั้น เธอเปิดประตูรถสุดหรูพร้อมค่อย ๆ เข้าไปนั่ง เกิดมาเกือบอายุยี่สิบปีก็เป็นครั้งแรกนี่แหละที่เธอได้นั่งรถหรูขนาดนี้ กลัวเหมือนกันว่าจะคันก้น นึกไปคนตัวเล็กก็อมยิ้มไป ท่าทีของหญิงสาวทำให้ชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะหันหน้าไปมอง พอเห็นสายตานั้นน้ำค้างก็นั่งนิ่งทันที ไม่แสดงท่าทีใด ๆ ออกมาอีก
เพลิงขับรถมาส่งน้ำค้างตามที่เธอบอก เขามองหอพักของเธอเล็กน้อยก่อนจะหันไปมองหน้าของหญิงสาวที่ยิ้มให้กับเขาอยู่ ไม่นานคนของเขาก็เอารถมอเตอร์ไซค์มาให้กับคนตัวเล็ก น้ำค้างรีบหยิบกุญแจก่อนจะยกมือไหว้ขอบคุณรุ่นพี่หนุ่มที่ช่วยเหลือเธอทั้ง ๆ ที่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเธอเองก็ประมาทเหมือนกัน
“อยู่ชั้นไหน?” เขาเงยหน้ามองหอพักพลางก้มมองหญิงสาวดูสภาพขาของเธอ
“ชั้นสามค่ะ”
“ไม่มีลิฟต์ใช่ไหม?”
“ค่ะ แต่ไม่เป็นไรค้างค่อย ๆ เดินขึ้นไปก็ได้ค่ะ” แค่นี้เธอก็รบกวนเขามากพอแล้ว เธอรู้สึกเกรงใจจนไม่อยากรบกวนอะไรชายหนุ่มอีก
“เดินมาจะไปส่ง”
“คะ?”
“งงอะไร เดินสิ”
“อ้อ ค่ะ ขอบคุณนะคะ” หัวใจของหญิงสาวเต้นแรงแทบไม่เป็นจังหวะ นับว่านี่เป็นครั้งแรกเลยที่มีผู้ชายขึ้นไปส่งเธอถึงห้อง หอที่เธออยู่เป็นหอรวม ผู้ชายสามารถขึ้นได้ แต่ก็มีความปลอดภัยในระดับนึงเหมือนกัน
เพลิงพยุงแขนหญิงสาวพาเธอค่อย ๆ ขึ้นบันได น้ำค้างอยากจะร้องไห้ หัวเข่าเธอมันตึงจนก้าวขายากมาก เพลิงมองท่าทีของคนตัวเล็กก่อนจะพ่นลมหายใจออกมา เขาไม่พูดอะไรออกมาสักคำแต่ถือวิสาสะอุ้มเธอขึ้น ทำเอาคนถูกอุ้มหน้าเหวอไปทันที เธอหันหน้ามามองชายหนุ่ม เขาไม่แม้แต่จะมองเธอด้วยซ้ำมองทางเดินอย่างเดียว
“ตัวหนัก”
“นี่พี่ งั้นปล่อยสิคะ อย่ามาอุ้มค้าง” คนถูกบ่นว่าตัวหนักชักสีหน้าออกมา เธอไม่ได้ขอร้องให้เขามาอุ้มเธอเสียหน่อย
“หึ โกรธเหรอ”
“ไม่มีผู้หญิงคนไหนชอบหรอกนะคะที่ถูกผู้ชายบ่นว่าอ้วน”
“ไม่ได้บอกว่าอ้วนซะหน่อยแค่บอกว่าตัวหนัก”
“มันก็เหมือนกันนั่นแหละ ปล่อยค้างลงก็ได้ค้างเดินเองได้”
“ปล่อยให้เธอเดินเองชาติไหนจะถึง ห้องไหน?” เพราะมัวแต่คุยเถียงเขาจนไม่รู้เลยว่าในตอนนี้เขาพาเธอมาอยู่ที่ชั้น 3 แล้ว คนอะไรขายาวชะมัด
“ห้อง 307 ค่ะ” เธอตอบ เขามองก่อนจะพาเธอมาหยุดที่หน้าห้อง คนตัวเล็กถอนหายให้ออกมา เธอไม่ได้เดินเอง แต่รู้สึกใจเต้นแรงเหมือนอย่างกับไปวิ่งมาไม่มีผิด
“ขอบคุณอีกครั้งนะคะ” คนตัวสูงพยักหน้าก่อนจะบอกให้เธอเข้าไปในห้อง แต่ทว่าพอคนตัวเล็กกำลังจะเดินเข้าไปมือหนาก็คว้าเธอเอาไว้ก่อน
“คะ?”
“อย่าลืมกินยา ระวังแผลติดเชื้อด้วย”
“เอ่อ ค่ะ ขอบคุณนะคะ” คนตัวเล็กยิ้มให้ก่อนจะปิดประตู ถึงแม้ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงใจดีกับเธอขนาดนี้ แต่ทว่ามันก็อดไม่ได้ที่จะดีใจออกมา
“อบอุ่นชะมัด งื้อ พ่อคนเย็นชาของค้าง” เธอเพ้อพึมพำตามประสาของตัวเอง ก่อนจะเดินไปทิ้งตัวบนเตียงขนาดเล็ก หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาส่องเพจหนุ่มหล่อนักศึกษา เลื่อนไปไม่นานก็เห็นภาพของรุ่นพี่หนุ่มแล้ว เธอก็คงเป็นผู้หญิงอีกคนที่แอบปลื้มเขาอยู่ไกล ๆ อะไรทำนองนั้นนั่นแหละไม่คิดคาดหวังอะไรเกินตัวหรอก แค่ได้มองได้ส่องก็ดีใจแล้ว
“บ้าจริง เป็นอะไรของแกไปเนี่ย อย่าบอกนะว่าแกตกหลุมรักผู้ชายคนนั้นจริง ๆ”
“ไม่ได้ ๆ ต่างกันเกินไป ไม่อยากน้ำตาเช็ดหัวเข่า” คนตัวเล็กตั้งสติก่อนจะกดช่องแชตเพื่อนสนิทพูดคุยเรื่องที่เธอเกิดอุบัติเหตุ เธอคงต้องพักจากการไปทำงานสักสองสามวันเลย จนกว่าจะเดินคล่องเหมือนเดิม
หลายวันผ่านไป
น้ำค้างที่ในตอนนี้เริ่มกลับมาหายดีเต็มร้อยแล้วก็มาเรียนตามปกติ ดีที่เธอเกิดอุบัติเหตุวันศุกร์พอดี ทำให้วันเสาร์อาทิตย์เธอไม่ต้องไปมหาวิทยาลัยแต่รู้สึกเสียดายที่ไม่ได้ไปทำงานนี่แหละ ปกติแล้ววันเสาร์วันอาทิตย์เธอจะได้ค่าแรงดีมาก แถมได้เพิ่มจากลูกค้าอีก นึกแล้วก็เสียดาย
“ปัด ทางนี้” พอเห็นลูกปัดเพื่อนสนิทของเธอกำลังเดินมา หญิงสาวก็ยกมือโบกไปโบกมาทันที สีหน้าของเพื่อนดูซีดเผือดยังไงชอบกล ทำให้น้ำค้างอดไม่ได้ที่จะเป็นห่วง
“เป็นอะไรไปทำไมดูเหมือนไม่สบาย”
“ปะ เปล่าไม่ได้เป็นอะไร แล้วนี่เธอหายดีแน่แล้วใช่ไหม”
“ก็เจ็บนิดหน่อย แต่เดินพอคล่องแล้ว”
“เฮ้อ ดีนะที่ไม่ได้เจ็บตัวไปมากกว่านี้”
“อืม ถือว่าฟาดเคราะห์ไป” ก็ยังดีที่เธอไม่ได้เจ็บหนักไปมากกว่านี้ ถือว่าเป็นช่วงดวงตกของเธอก็แล้วกัน
ในระหว่างที่สองสาวกำลังพูดคุยกันอยู่นั้นจู่ ๆ ก็มีเสียงดังของนักศึกษาพูดคุยกันดังขึ้น ทำให้ทั้งน้ำค้างและลูกปัดหันหลังไปมอง พอเห็นว่าเป็นกลุ่มรุ่นพี่วิศวะที่เดินมาก็ต่างคนต่างชะงักไปพร้อม ๆ กัน
น้ำค้างมองรุ่นพี่หนุ่มที่เดินผ่านหน้าเธอไปในจังหวะนั้นเธอรู้สึกเหมือนสบสายตากับเพลิงไม่มีผิด จนหัวใจดวงน้อย ๆ เต้นแรงขึ้นก่อนจะเป็นเธอที่ก้มหน้าหนีเขา ไม่อยากเสียอาการให้อีกฝ่ายได้รับรู้เธอจึงแสดงท่าทีอย่างนี้ออกมา
“ใจเต้นแรงชะมัด”
“เธอว่าอะไรนะ” ลูกปัดหันหน้ามาถามเพื่อน หญิงสาวได้ยินอย่างนั้นก็สะดุ้งก่อนจะรีบส่ายหน้าไปมาทันที
วันนี้สองสาวมีเรียนถึงบ่าย พอเลิกเรียนก็กลับไปอาบน้ำแต่งตัวเตรียมไปทำงานที่สนามเหมือนเดิม ครั้งนี้เธอไม่ได้ทำโซน VIP เพราะเหมือนกลุ่มเดิมกลับมาแล้ว ปกติจะเป็นอีกกลุ่มที่ขึ้นไปข้างบน ถึงแม้จะรู้สึกเสียดายแต่น้ำค้างก็พยายามหยุดคิดอะไรเรื่อยเปื่อย
เธอก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่ของตัวเอง พอได้เวลาพักคนตัวเล็กก็รีบเดินไปเข้าห้องน้ำเพราะปวดฉี่มาก ๆ ในระหว่างที่เดินออกมาก็ต้องตกใจเมื่อเห็นใครอีกคนยืนสูบบุหรี่อยู่ด้านนอก เธอไม่รู้ว่าเขามายืนอยู่ตรงนี้ได้ยังไง
“เอ่อ พี่มาอยู่ตรงนี้ได้ไงคะ” เขาไม่ตอบแต่โชว์บุหรี่ให้เห็น เธอรู้ว่าเขามาสูบบุหรี่ แต่ถ้าจำไม่ผิด โซน VIP ก็มีจุดที่สูบบุหรี่อยู่ไม่ใช่เหรอ คนตัวเล็กได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้แต่ไม่ได้เอ่ยถามอะไรออกไป เธอกำลังจะเดินผ่านชายหนุ่มทว่าเสียงของเขาก็ดังขึ้นมาเสียก่อน
“หายดีแล้วเหรอ” เขามองหัวเข่าของเธอที่มีเพียงปลาสเตอร์ติดอยู่เท่านั้น
“ดีขึ้นมากแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะ”
คนตัวสูงพยักหน้าไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก เขานึกหงุดหงิดขึ้นมาที่เธอไม่ได้ไปทำโซน VIP เหมือนก่อนหน้านั้น ถึงได้มาแอบดักรอเธอตรงนี้
