อยากรู้!
ใบหน้าสวยหวาน ปราศจากรอยยิ้ม และเริ่มหน้าตึงขึ้นไปทุกที ดวงตากลมโตหรี่มองผู้ชายที่ดูสนอกสนใจเธอมากกว่าใคร จดจำทุกถ้อยคำและใบหน้าของเขาไว้ในใจเงียบๆ เพื่อเลี่ยงการพบกันอีก แม้ใบหน้านั้นจะดูดีมากจนอยากจะกระโจนใส่ก็เถอะ แต่เธอไม่คิดว่าเขาจะเป็นคนแบบนี้
“ยี่หวา ยี่หวาใช่ไหมครับ”
ไม่ใช่แค่ยี่หวาที่ตกใจกับเสียงทักที่ดังแข่งกับเสียงเพลงเหมือนดีใจ คนโต๊ะข้างๆที่นินทาเรื่องเธอก็ดูตกใจไม่น้อย คนทั้งสี่ที่นั่งอยู่โต๊ะข้างๆ รวมสายตาจดจ้องผู้หญิงที่ถูกทัก ยิ่งมองเห็นใบหน้าเธอชัดเจน คนทั้งหมดยิ่งทำหน้าตกใจ ก่อนจะเริ่มเลยไปที่โต๊ะข้างๆ จนกลายเป็นว่าตอนนี้รอบตัวยี่หวา ทุกคนกำลังจ้องมองมาที่เธออย่างสนอกสนใจ
“ทักคนผิดแล้วค่ะ” ยี่หวายังคงนั่งนิ่ง ยกแก้วเหล้าขึ้นจิบอย่างไม่สนใจจะรักษาภาพลักษณ์การเป็นดาราของตัวเอง ถึงจะมีคนรู้ เธอก็ไม่แคร์หรอก ในเมื่อนี่ไม่ใช่เวลางาน คนเราก็ต้องมีชีวิตเป็นของตัวเองบ้าง
“มึงว่าใช่ไหม?” คิมหันต์รู้สึกตื่นเต้นแปลกๆ เขาว่าใช่เธอแน่ๆ แต่ไม่แน่ใจเพราะคำพูดปฏิเสธของเธอนั้นแหละ เกิดทักผิดแล้วหน้าแหกขึ้นมา หมอคงไม่รับเย็บหน้าให้เขาแน่
“ไม่น่าใช่มั้ง ยี่หวาอะไรจะจืดขนาดนั้น” จิราไม่เคยเห็นยี่หวาหน้าสด คือเอาจริงๆเธอไม่ได้สนใจยี่หวามากขนาดนั้น รู้แค่ว่าน้องเป็นดาราทำงานผ่านตาบ่อยๆ แต่ก็ไม่ได้สนใจ เธอจำหน้าคนไม่เก่งซะด้วย ยิ่งหน้าผู้หญิงที่คิมหันต์ชอบยิ่งไม่ใคร่สนใจจะจดจำ
“ก็ใช่แหละ” พธูสรุป เขานั่งมองสำรวจผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงนั้นมานานแล้ว เพราะเขากับเธอนั่งหันหน้าเข้าหากัน แต่เธอเหมือนอยากจะดื่มเงียบๆ เขาจึงไม่อยากบอกเพื่อนว่าพวกมันกำลังนินทาเธอระยะเผาขน กลัวพวกมันไปรบกวนการดื่มของเธอ
“นี่คุณ! บอกว่าไม่ใช่ไงคะ”
โต๊ะของคิมหันต์เงียบกริบ เมื่อเห็นว่าเธอคนนั้นลุกขึ้นตะโกนลั่นใส่หน้าผู้ชายที่กำลังนั่งเบียดตัวลงบนโซฟาตัวเดียวกัน ใบหน้าสวยดูโกรธจัด คิมหันต์เห็นว่าเธอกำมือแน่น ไหล่สั่นนิดหน่อย ไม่รู้ว่าจริงๆแล้วโกรธหรือกลัวผู้ชายที่กำลังคุกคามเธออยู่
“เป็นดาราแล้วหยิ่งเหรอวะ” ผู้ชายคนที่ถือวิสาสะนั่งลงบนโซฟาตัวเดียวกัน พูดพลางเบะปาก ก็แค่ทักทายเพราะเห็นว่าเป็นดาราเท่านั้นแหละ แต่นิสัยแบบนี้ไม่ไหวเลย
“ฉันจะเป็นยังไงก็เรื่องของฉัน แต่สิ่งที่คุณทำมันคือการคุกคาม ถอยไปตอนที่ยังพูดดีๆ!” ยี่หวากำมือแน่น เธอนับหนึ่งถึงสิบในใจรอบที่สาม แต่มันไม่ดีขึ้นเลย กำปั้นพร้อมทำงานเต็มที่ ถ้าผู้ชายคนนั้นไม่ยอมถอยออกไป
“จะทำอะไร? คนในนี้เยอะแยะ อยากรู้เหมือนกันว่าเธอจะทำอะไรฉัน” ร่างสูงดึงเธอให้นั่งลงข้างๆ เบียดกายเข้าไปใกล้จนไหล่ชิด เขามันคนธรรมดา มีข่าวกับเธอสิยิ่งดัง ส่วนเธอเป็นดารามีข่าวแบบนี้ขึ้นมา มีแต่เสียกับเสีย
พรึ่บ!
คิมหันต์เดินมาทิ้งตัวนั่งกั้นกลางระหว่างยี่หวากับไอ้หน้าด้าน ผู้หญิงเขาไม่เล่นด้วยยังทำตัวหน้ารำคาญ คิมหันต์ผลักผู้ชายคนนั้นออกห่าง มือหนาคว้าคอเสื้อมากำไว้แน่น ก้มหน้ากระซิบเสียงเบา ก่อนจะปล่อยให้ไอ้นั่นลนลานเดินจากไป
ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากจนยี่หวาไม่ทันตั้งตัว ตกใจกับการมาของเขาไม่เท่าไหร่ แต่ตกใจกับการจากไปของผู้ชายคนนั้นมากกว่า เขาสองคนคุยอะไรกัน ทำไมผู้ชายคนนั้นดูกลัวจนลนลานขนาดนั้น แต่ดีแล้วที่เขามา เพราะเธอไม่รู้ว่าจะสามารถแก้ปัญหาตรงหน้าได้ดีแค่ไหน
คิมหันต์หันหน้าไปยิ้มให้คนที่นั่งมองเขาด้วยตากลมโต รู้สึกดีขึ้นมาทันทีที่เห็นแบบนั้น ไฟโทสะจากความหึงหวงเพราะผู้ชายคนเมื่อกี้ ถูกดับลงเพียงแค่เห็นหน้าของเธอใกล้ๆ ถ้าได้จับได้คลำด้วย คงดีมากกว่านี้
เพี๊ยะ!
ยี่หวาฟาดมือลงไปบนฝ่ามือที่ยื่นมาใกล้ ส่งสายตาดุๆจ้องกลับไป เมื่อผู้ชายที่มาช่วย เริ่มออกลายเสือไม่ต่างจากผู้ชายคนเมื่อกี้
“อุ้ย! โทษทีมือมันไปเอง แฮะๆ!” คิมหันต์ยิ้มเก้อ เมื่อเจอสายตาดุๆ มือไวใจเร็วจนเสียเรื่อง อุตส่าห์ได้มานั่งใกล้ชิดคนที่ฝันถึงมาหลายเดือน ร่างกายเขากลับเตลิดจนทำทุกอย่างพัง
“ขอโทษเช่นกันค่ะ มือมันไปเอง” ยี่หวาตอบกลับด้วยคำพูดไม่ต่างกันนัก คิดว่าจะหลอกเธอด้วยท่าทางใสซื่อเหรอ เธอได้ยินหมดแล้วเถอะ ว่าก่อนหน้านั้นเขาพูดอะไรกับเพื่อนบ้าง
“วันนี้ไม่มีถ่ายละครเหรอ” คิมหันต์ชวนคุย เขาไม่รู้ว่าควรพูดไหม แต่อยากรู้ อยากถามอะ อยากรู้ทุกความเป็นไปในชีวิตเธอ
“ถ้ามีจะนั่งเสนอหน้าอยู่ตรงนี้ไหมค่ะ” ยี่หวายกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม ป่วยการที่จะปฎิเสธว่า เธอไม่ใช่เธอ ใช่! เธอคือยี่หวาที่เขากับเพื่อนพูดถึงอย่างสนุกสนาน ยี่หวาที่เป็นดารา ดาราที่กำลังยกเหล้าขึ้นดื่มเหมือนดื่มน้ำอยู่ตอนนี้
“ไม่มีงานเหรอ” คิมหันต์ถามอีกครั้งอย่างเป็นห่วง ปกติดาราแบบเธอต้องมีงานแน่นจนไม่มีเวลาพัก แต่เขาเห็นเธอหายไปจากหน้าจอสักพักแล้ว ไม่มีทั้งงานแสดง และงานถ่ายแบบ ก็มีบ้างแต่ไม่เยอะเหมือนช่วงแรกๆ
“คุณนี่ขี้เสือกจัง” ยี่หวามองคนที่ขยับตัวออกไปนั่งห่างเธอนิดหน่อย สำรวจใบหน้าหล่อเหลาไปด้วย ก่อนจะพ่นลมหายใจ ปากเธอไปไวกว่าสมองอีกแล้ว น่าจะใช้คำพูดกับเขาดีกว่านี้ แต่เพราะเธอต้องการใช้คำพูดพวกนี้ไล่เขาออกไป ยิ่งเธอทำตัวร้ายเท่าไหร่ ยิ่งไล่เขาไปง่ายเท่านั้น
“ก็อยากรู้จัก”
“อยากรู้ด้วยใช่ไหม ว่าลีลาเด็ดไหม” ดวงตากลมโตวูบไหวเพียงคู่ ก็กลับมาเป็นปกติ มองใบหน้าตกใจนิ่งๆ เพื่อรอคำตอบ
“เพื่อนมันแซวเล่น”
“แต่ฉันอยากรู้นะ ว่าคุณลีลาเด็ดไหม” ยี่หวาพูดเสียงเบาลง ไม่รู้เพราะเธอเมาหรือเพราะเขามานั่งอยู่ตรงนี้ เวลาที่เธอกำลังต้องการพอดี แต่เธอคิดว่ามันน่าจะทั้งสองอย่าง ถ้าไม่ใช่เขาเธอคงไม่กล้พูดแบบนี้แน่
“ถ้าไม่เปลี่ยนใจ ก็มาที่นี่”
แม้จะตกใจนิดหน่อยกับคำพูดของเธอที่เขาไม่คิดว่าจะได้ยิน แต่คิมหันต์ก็ปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว วางนามบัตรที่มีที่อยู่คอนโดของตัวเองลง เสร็จแล้วก็เดินไปนั่งรวมกลุ่มกับเพื่อน รอดูเงียบๆว่าเธอจะเอายังไงต่อ
