13
“ก็ดี....... อยากได้ลูกสาวเขาก็เอาใจพ่อตาแม่ยายไว้ก็ไม่เสียหายถึงแม้คุณหญิงยายจะไม่ค่อยชอบหน้าก็เถอะ...” พ่อเลี้ยงตบไหล่ลูกชายให้กำลังใจ
นั่นไงกูว่าแล้วผิดจากที่คิดเสียที่ไหน ผู้ใหญ่หูตาเริ่มฝ้าฟางอ้างว่ามองจากประสบการณ์ตลอด.......
“ใครอยากได้.......ไม่ใช่ผมแน่นอน....ยัยตัวแสบน่ะไม่ได้เรียบร้อยเหมือนที่พ่อเห็นหรอกนะ โคตรจกตาเลยจะบอกให้” ชายหนุ่มเน้นเสียงเป็นพิเศษอยากให้พ่อเลี้ยงอาชาเห็นท่าทางของว่าที่สะใภ้ตอนที่กระโดดลงมาจากกำแพงเสียจริง...ดูสิ...ว่ายังจะอยากจะได้อีกไหม
“เหรอ...แล้วแกไปรู้ไปเห็นอะไรเข้าล่ะ”
“อย่าให้ผมพูดดีกว่า เอาไว้พ่อคอยดูเองก็แล้วกัน” แม้ไม่ใช่คนดีนักแต่เรื่องที่จะแฉผู้หญิงลับหลังคนอย่างคชินทร์ไม่ทำ มีเรื่องอะไรมาเคลียร์กันตัวต่อตัวดีกว่า เสื้อผ้าไม่เกี่ยวยิ่งดี......อืมมมม...คงเป็นสันดานไปแล้วแหละหื่นยันความคิดเลยกู........
“พ่อไม่ได้เจอหนูเล็กบ่อย ๆ จะรู้ได้ยังไงวะ แกมีความสามารถรับน้องมากินข้าวบ้านเราไหมล่ะจะได้ช่วยกันพิจารณา”
“แค่พามากินข้าวเรื่องเล็กความสามารถของผมมีมากกว่านั้นเยอะ...... อีกไม่กี่วันคุณอาเลโอ คุณอาแก้มใสแล้วก็ยัยตัวแสบพวกเขาจะไปเที่ยวที่ไร่ของเราตามคำเชิญของผมครับพ่อเลี้ยง..........” คชินทร์โอ้อวดหวังให้บิดาได้รู้ฝีมือกันซะบ้างว่าคนอย่างไอ้ช้างถ้าตั้งใจจะทำอะไรแล้วต้องทำให้ได้ไม่ว่าจะยากแค่ไหนไม่ใช่สำมะเลเทเมาไปวัน ๆ
“มันต้องอย่างนี้สิวะ ไอ้ลูกชาย” พ่อเลี้ยงอาชาดีใจจนเก็บอาการไม่อยู่ แผนการจับคู่ดูเหมือนมันจะง่ายดายไปเสียหมดเมื่อคนที่เอาแต่หัวหดกลับเป็นฝ่ายยืดคอไปง้อสาวถึงแม้จะยังปากแข็งก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญอีกต่อไป
“ความจริงผมตั้งใจจะชวนแค่คุณอาทั้งสองเองนะพ่อ แต่ยัยตัวแสบดันร้องตามไปเองน่ารำคาญชะมัด......” ช้างบอกอย่างไว้ฟอร์ม เมื่อเห็นสายตารู้ทันของผู้เป็นพ่อ…..
“สาบาน !”
“อะไรล่ะพ่อ....เรื่องแค่นี้จะต้องสาบานให้ยุ่งยากทำไมไปกอดแม่ดีกว่า”
“ไอ้.....ไอ้กะล่อน !” พ่อเลี้ยงอาชาส่ายหน้าให้กับความลื่นเป็นปลาไหลไม่รู้ว่ามันไปติดใครมาสิน่า......ผ่าเหล่าผ่ากอจริง ๆ
หลังการรับประทานอาหารร่วมกันของครอบครัวนับว่าเป็นสัญญาณที่ดีวันนี้จีจี้มีท่าทีที่ดีขึ้นมาก มากเสียจนคนเป็นสามีเกิดความโลภทำนองว่าได้คืบจะเอาศอก ดวินอ้อนเมียให้อยู่ค้างคืนด้วยกันแต่ไม่สำเร็จจึงจำใจต้องขับรถไปส่งเธอที่บ้านเขาไม่กล้าหักหาญเอาแต่ใจเข็ดขยาดแล้วจริง ๆ
ใครจะนินทาว่าท่านประธานหนุ่มกลัวเมียก็ช่างแต่การถูกทรมานด้วยการแยกกันอยู่นั้นมันมากเกินไปสำหรับคนคลั่งรักอย่างดวิน แต่ถึงอย่างไรก็จำต้องอดทนเพราะเคยพลาดมาหนหนึ่งแล้วและจะไม่ยอมพลาดอีกเด็ดขาด........เขาแอบเสียดายที่คราวนั้นเมียไม่ท้อง ไม่อย่างนั้นสถานการณ์อาจจะดีกว่านี้ก็ได้
“พี่ถือของไปส่งนะครับจีจี้” ชายหนุ่มจอดรถแล้วจัดการรวบข้าวของของเมียสาวเอามาถือไว้ ตั้งใจจะไปส่งให้ถึงห้องนอนไม่อยากให้เจ้าหล่อนเหนื่อยเกินไป สาบานได้ว่าไม่มีเจตนาแอบแฝงแม้แต่น้อย
“ก็ได้ค่ะตามมาเร็ว ๆ นะคะ จีจี้ง่วงนอนจะแย่อยู่แล้ว” หญิงสาวยิ้มก่อนจะเยื้องย่างทิ้งสะโพกเดินนำไปก่อนอย่างรู้จังหวะแค่หวังว่าคนข้างหลังจะไม่ถึงขนาดเลือดกำเดาพุ่ง
ดวินมองตามลำคอแห้งผากหลังจากวันที่มีเรื่องกันเขาไม่เคยได้รับอนุญาตให้ขึ้นไปที่ห้องนอนของเมียสาวอีกเลย.....แต่วันนี้ยอม...เอิ่ม....ปล้ำซะเลยดีไหมวะ......ชายหนุ่มพยายามข่มใจไปตลอดทางเพื่อไม่ทำความผิดซ้ำรอยเดิมอีก......จีจี้อาจจะกำลังลองใจเขาอยู่ก็ได้หรือไม่เธอก็กำลังจะยอมยกโทษให้เอาเป็นว่าขอให้ได้ยืดเวลาตรงนี้อีกหน่อยก็ยังดี
“พี่เอาของวางไว้ตรงนี้นะครับ......แต่ว่าคุณพ่อคุณแม่ยังไม่กลับถ้าอย่างนั้นพี่อยู่เป็นเพื่อนจีจี้ก่อนดีกว่า......” ดวินอาสาอย่างมีเลศนัย......สมองยังใช้ได้นี่หว่า ชายหนุ่มภาคภูมิใจที่คิดหาวิธีอันชาญฉลาดได้
“พี่วินไม่เหนื่อยหรือคะ” หญิงสาวหันกลับมาถามหน้าซื่อพร้อมกับอมยิ้มน้อย ๆ
“ไม่ครับ พี่ไม่ง่วง ไม่เหนื่อยเลยสักนิดขอแค่ได้อยู่ใกล้ ๆ น้องจีจี้”
“หัดพูดหวาน ๆ ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”
“ตั้งแต่โดนเมียทิ้งนั่นแหละ” เขาได้แต่มองเมียสาวตาปรอย เหมือนหมาเห็นเครื่องบินดีใจแต่เข้าใกล้ไม่ได้
จีจี้ไม่ตอบก็เท่ากับอนุญาตแล้วจึงรีบเข้าไปอาบน้ำขัดสีฉวีวรรณไม่สนใจว่าคนข้างนอกจะกระวนกระวายใจแค่ไหนแต่เธอก็ใช้เวลาไม่นานนักก่อนจะออกมาโดยมีเสื้อคลุมสีขาวนุ่มฟูคาดทับเหมือนจะเรียบร้อยแค่เผยตรงนั้นนิดตรงนี้หน่อยแล้วจึงตรงเข้าไปหาสามีพร้อมกับหยิบแฟ้มภาพชุดคอลเลคชั่นใหม่ติดมือมาด้วย
“พี่วินลองดูนี่สิคะ ในมุมมองของผู้ชายพี่ชอบแบบไหนไม่ชอบแบบไหนคะ”
จีจี้เดินมาหย่อนสะโพกลงข้างกายสามีหนุ่มที่นั่งตัวเกร็งหน้าแดงก่ำทำอะไรไม่ถูก กลิ่นหอมสดชื่นหลังอาบน้ำไหนยังจะชุดที่ชวนจินตนาการไปถึงไหนต่อไหน.....โอยอยากจะบ้าตาย.....กูกำลังถูกเมียยั่วใช่ไหมวะ.....
“จีจี้ พี่.....” จะบอกให้เมียขยับออกไปก็ใช่ที่จะกลายเป็นทำให้เธอไม่พอใจไปเปล่า ๆ ครั้นจะคว้ามากอดมาหอมสักฟอดก็ไม่กล้าได้แต่ละล้าละลังเลือดในกายเดือดพล่านอาการวูบวาบอยากจะหมดสติให้สิ้นเรื่องสิ้นราว
