บท
ตั้งค่า

บทที่ 5 อาโปรดคนเดิม

คราวนี้เธอหยุดไปอีกและคิดว่าเขาคงเข้าใจ เพราะสภาพที่พบเธอนั้นก็น่าอนาถอยู่ไม่น้อย เธอนิ่งรอฟังเสียงหัวเราะหรือถ้อยคำดูแคลนว่าโง่เง่า แต่กลับมีเพียงความเงียบจนเธอเงยหน้าสบตากับเขา

“อาโปรดจะไม่พูดอะไรหน่อยหรือคะ” เธอเอียงคอ ทำให้ปอยผมตกลงมาเคลียใบหน้า “อาโปรดเชื่อที่เพลินพูดไหมคะ”

“เชื่อ” คำตอบรับหนักแน่น เขาเผยยิ้มบาง ๆ แต่ดูร้ายกาจ แต่นั่นกลับขับเน้นให้ใบหน้าคมเข้มดูน่ามองยิ่งขึ้น “แต่ตอนนี้อาเป็นห่วงเพลินมากกว่า เพลินจะทำยังไงต่อ”

“ตอนนี้เพลินยังคิดอะไรไม่ออกค่ะ” เธอสารภาพไปตามตรง “แต่ให้กลับไปเหมือนเดิมคงทำไม่ได้แล้ว”

เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาความเจ็บปวดก็จุกขึ้นมาในอก บาดแผลเธอยังสดใหม่เกินไป คงจะต้องใช้เวลาสักพักในการทำใจให้ยอมรับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และถึงแม้จะยังคิดอะไรไม่ออก หรือยังไม่อยากจะคิด แต่สิ่งหนึ่งที่เธอรู้คือตอนนี้เธอตาสว่างแล้ว

“ก็นับว่าไม่โง่เกินไปนัก” ชายหนุ่มพยักหน้าพึมพำในลำคอเบา ๆ เหมือนพูดกับตัวเองมากกว่า

“อาโปรด! อย่าซ้ำเติมเพลินสิคะ” เธอต่อว่าเขาแต่กลับหัวเราะออกมา ความทุกข์ใจกังวลใจที่คิดว่าใหญ่หลวงกลับหดเล็กลงทันทีเมื่ออยู่ต่อหน้าคนคนนี้ เธอรู้สึกได้รับความอบอุ่นใจไปเติมพลังชีวิต

“ถ้ากลับไปหาคนแบบนั้นอีกก็โง่เต็มทีแล้ว”

เห็นหญิงสาวหัวเราะออกมาได้ เขาก็เบาใจ คราวนี้เขารินน้ำดื่มให้ตัวเอง “เห็นธาตุแท้กันตอนนี้ดีกว่าไปรู้ตอนแต่งงานกันไปแล้ว”

ไพลินพยักหน้ารับ “แต่เมธเขาขอโอกาสแก้ตัวอีกครั้ง”

พรวด!

“อาโปรด! อาโปรดเป็นอะไรไปคะ” ไพลินหยิบกระดาษทิชชู่บนโต๊ะส่งให้มาโปรดที่พ่นน้ำดื่มออกมาแถมยังสำลักไอค่อกแค่กไม่หยุด

“นี่ยังคิดจะกลับไปหามันอีกเรอะ!” เขาถามเสียงเข้มหลังจากที่หยุดไอ ใบหน้าผ่อนคลายเมื่อครู่เปลี่ยนมาเป็นถมึงทึงราวกับโกรธใครมาเป็นสิบชาติจนไพลินนึกกลัว

“ก็...” ไพลินไม่กล้าพูดไปอย่างที่คิด “ก็เขาขอมาแบบนี้ แต่เพลินยังไม่ได้ให้คำตอบนี่คะ” เธอรีบหลุบสายตามองตักตัวเอง

“นี่รักมากขนาดยอมให้คนแบบนั้นทำร้ายจิตใจเลยเรอะ” มาโปรดยื่นหน้าไปขึงตาใส่ทำเอาหญิงสาวเอนหลังถอยหนี “รักมันมากขนาดนั้นเลยหรือไง”

“ก็...ก็หมั้นแล้ว งานแต่งก็กำลังจะจัด...แล้วผู้หลักผู้ใหญ่ก็...” เสียงไพลินสั่น ตัวหดลีบเหลือแค่คืบ เธอหวาดกลัวเขาแล้วจริง ๆ เธอไม่เคยเห็นอาโปรดที่อบอุ่นใจดีกลายร่างเป็นยักษ์ตัวโตแบบนี้มาก่อน

“อย่าบอกนะว่านี่คือเหตุผลที่เพลินอยากแต่งงาน!” มาโปรดพยายามควบคุมน้ำเสียงเมื่อเห็นว่าหญิงสาวกำลังหวาดกลัวตัวเองแต่ก็ทำได้ยากเต็มทีเพราะความร้อนรุ่มในใจ ซึ่งต้นเหตุยังทำหน้าตาใสซื่อไม่รู้เรื่องรู้ราว เห็นแล้วอยากจะจับมาสั่งสอนด้วยจูบเสียเดี๋ยวนี้

“ก็...”

ไพลินทำหูลีบคอตก ยิ่งทำให้คนมองของขึ้น

“เคยไปใช้ชีวิตอยู่เมืองนอกมา น่าจะได้เปิดหูเปิดตาบ้าง ทำไมถึงดูโง่แบบนี้นะ”

“อาโปรด!” ไพลินเบ้ปากไม่พอใจบ้างเมื่อถูกคนตัวโตว่าปาว ๆ “เมธเขาก็เป็นคนดี ดูแลใส่ใจเพลินทุกอย่าง ที่ผ่านมาไม่เคยมีเรื่องทำให้เจ็บช้ำน้ำใจเลยสักนิด”

“ก็เพราะเราจับไม่ได้หรือเปล่า คนเราอยู่ดี ๆ มันไม่กลายเป็นตัวเงินตัวทองขึ้นมาหรอก มันต้องมีความเลวในสันดานซ่อนอยู่แล้ว”

ไพลินอ้าปากกว้าง “อาโปรดปากร้ายแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่คะ”

“อาก็เป็นแบบนี้ของอามาตั้งนานแล้ว แต่อาแค่อยากเป็นคนดีในสายตาเพลินไง” เขาแยกเขี้ยวใส่ “ผู้ชายดี ๆ มีอีกเยอะ ไม่มีมันก็ไม่ตายหรอก!”

คราวนี้ไพลินหัวเราะออกมาอีกครั้ง อันที่จริงเธออยากหยอกมาโปรดเล่นมากกว่า อยากรู้ว่าเขายังเป็น ‘อาโปรด’ ของเธอเหมือนเมื่อตอนที่เธอเป็นเด็กอยู่ไหม?

เอ๊ะ! เธอว่าอะไรนะ อาโปรดของเธองั้นหรือ

เธอส่ายหน้าขับไล่ความรู้สึกแปลก ๆ ที่ไม่สามารถบอกได้ว่ามันคืออะไรออกไปแล้วคุยกับเขาต่อ

“ขอโทษค่ะ เพลินแค่อยากหยอกอาเล่น ๆ แต่ไม่นึกว่าอาจะโกรธถึงเพียงนี้ แล้วเพลินต้องทำยังต่อไปดีคะ”

“เรื่องนี้ไม่ยาก เดี๋ยวอาจัดการให้เอง”

มาโปรดยิ้มอย่างผ่อนคลายเมื่อรู้ว่าหญิงสาวไม่ได้คิดจะกลับไปคืนดีกับคู่หมั้นสารเลวนั่นอีก ทว่ายังไม่ทันพูดอะไรก็ได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้น เขาจึงลุกจากเก้าอี้เดินไปเปิดประตูรับถุงเสื้อผ้ามาจากแม่บ้านแล้วเดินกลับมาพร้อมยื่นถุงส่งให้ไพลิน

“ตอนนี้” เขาพูดเสียงเรียบ “ถึงเวลาที่ต้องถอดเสื้อออกแล้ว”

“อะไรนะคะ!”

ท่ามกลางแสงอาทิตย์และสายลมโชยผ่าน ชายหนุ่มระบายยิ้มเจ้าเล่ห์สบนัยน์ตาตื่นตระหนกของหญิงสาว ใบหน้าที่เคยซีดเซียวกลับแดงระเรื่อขึ้นมาพร้อมกับยกมือขึ้นกอดอกตนเองไว้แน่น

“ไม่ค่ะ” ไพลินส่ายหน้า หันรีหันขวางสอดส่ายสายตาเตรียมหาช่องหนีหากเกิดอะไรขึ้น

มาโปรดเม้มริมฝีปากแน่น ท่าทางตื่นตกใจราวลูกกวางน้อยที่กำลังตกเป็นเหยื่อของราชสีห์ของเธอทำให้เลือดในกายของเขาร้อนขึ้นมาอย่างไร้เหตุผล

“อาหมายถึงเพลินต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ แล้วถอดชุดของอาออกได้แล้ว คิดไปถึงไหนฮึเรา” เขาส่ายหน้าหัวเราะเบา ๆ

“แต่ไม่ใช่ตอนที่มีอาโปรดจ้องอยู่แบบนี้หรอกนะคะ” เธอทำดุแก้เขิน พวงแก้มขาวนวลขึ้นสีแดงระเรื่อบนใบหน้าชัดเจน เธอรีบก้มหน้าเพื่อหลบตาเขา กัดริมฝีปากล่างเพราะความรู้สึกประดักประเดิด

มาโปรดเห็นแล้วนึกมันเขี้ยว อยากดึงเธอมาหอมแก้มสักทีสองที

ครั้งสุดท้ายที่เขาได้ใกล้ชิดผู้หญิง เมื่อไหร่กันนะ...

“ถ้าอากออกไป แล้วเพลินเป็นลมจะทำยังไง” เขาแกล้งถาม แต่น้ำเสียงแหบพร่าลงอย่างไม่รู้ตัว พอนึกถึงเมื่อคืนที่ได้อุ้มร่างนุ่มนิ่ม ความรู้สึกท่อนล่างก็เคร่งเครียดขึ้นมา

“เพลินดูแลตัวเองได้ค่ะ ไม่ต้องให้อาโปรดช่วยหรอก” เธอพึมพำ รู้สึกประหลาดใจตัวเอง ความรู้สึกบางอย่างก่อตัวขึ้นในช่องท้อง ร้อนรุ่ม ปั่นป่วน วูบไหว หรือเธอจะไม่สบายเข้าแล้วจริงๆ

กว่าจะรู้สึกตัวมาโปรดก็สาวเท้าเข้ามาใกล้ เธอจึงฉวยถุงใส่เสื้อผ้าจากมือชายหนุ่มแล้วรีบหมุนตัวเดินไปที่ห้องน้ำโดยเร็ว

เมื่อได้ยินเสียงกริ๊ก! เสียงล็อกประตูห้องน้ำ มาโปรดก็กระตุกยิ้มร้ายกาจ เธอไม่ต้องล็อกประตูห้องน้ำหรอก ไม่มีความจำเป็นใดเลยที่จะต้องทำแบบนั้นเพราะเขาไม่ใช่คนฉวยโอกาส...มั้ง...

เขาเป็นแบบนั้นมาตลอด สามารถควบคุมตัวเองได้อย่างดี ไม่เคยฉวยโอกาสกับผู้หญิงแม้ว่าจะเคยโดนอ่อยหรือยั่วยวนสารพัดรูปแบบ แต่เมื่อได้อยู่ใกล้กับสาวน้อยไร่ข้าง ๆ คนนี้ เธอไม่ต้องทำอะไรเลย แค่ความเป็นธรรมชาติของเธอกลับทำเขาเสียความควบคุมอยู่บ่อย ๆ จำต้องบังคับตัวเองไม่ให้มือไม้ไปแตะเนื้อต้องตัวมากเกินควร หรือแม้กระทั่งลอบสูดกลิ่นกายหอม ๆ แต่ก็ทำได้ยากเต็มที

อาการแบบนี้มันน่าหงุดหงิดมากแต่ก็เข้าใจได้ เขากับเธอเลยผ่านวัยเยาว์มาแล้ว บัดนี้เบื้องหน้าเขาคือหญิงสาววัยยี่สิบสี่ที่เสียน้ำตาให้กับความรัก ซึ่งไม่ใช่ความรักที่มีต่อเขา ชายหนุ่มกัดฟันกรอด ๆ หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา แววตาแข็งกร้าวราวกับกำลังจะเฉือนเนื้อใครออกมาเป็นชิ้น ๆ

“คุณประวิตร ผมมีเรื่องให้ช่วยสืบให้หน่อย อืม ประเดี๋ยวผมส่งรายละเอียดไป คุณจัดการให้ด้วย”

เจ้าของไร่รุ่งอรุณฟังปลายสายรับคำสั่งเป็นที่แน่ชัดแล้วจึงเก็บโทรศัพท์ เขายืนกอดอกครุ่นคิดถึงหญิงสาวที่อยู่ในห้องน้ำ แม้จะไม่ได้พบกันนานหลายปี แต่เขาก็คอยติดตามข่าวของเธออยู่เสมอ แต่ก่อนนั้นไพลินเป็นแค่เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ในความรู้สึกของเขา เจอกันอีกครั้งแม้ตอนแรกจะอยู่ในสภาพสะบักสะบอมราวลูกนกบาดเจ็บ แต่ไม่อาจปิดบังความจริงที่ว่าเธอกลายเป็นสาวสะพรั่งแล้ว

เสียงเปิดประตูดังขึ้นแผ่วเบา ใบหน้าอ่อนหวานโผล่มาจากหลังบานประตู มาโปรดสบตากับดวงตาวาววับคู่นั้นเพียงครู่หนึ่งเหมือนหญิงสาวกำลังชั่งใจอะไรสักอย่าง เธอจึงค่อยก้าวออกมายืนเบื้องหน้าเขา ทำเอามาโปรดต้องสูดลมหายใจลึกสะกดความรู้สึกที่มีทั้งหมดไว้ภายใน

ภาพตรงหน้าเป็นเครื่องย้ำชัดว่าเวลานี้เธอไม่ใช่เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่คอยวิ่งตามเขาคนเดิมอีกแล้ว ทุกอย่างในตัวเธอปลุกเร้าความเป็นบุรุษของเขาจนแทบคลั่ง!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel