บท
ตั้งค่า

๕ งานแต่ง (๒)

เขาไม่เคยกินอาหารข้างทางมาก่อน คิดว่ามันไม่ค่อยสะอาดทั้งยังมลพิษจากฝุ่นควันที่ลอยฟุ้งในอากาศอีก ยิ่งหล่อนกำลังตั้งท้องอยู่ด้วยอยากให้กินอาหารสะอาดปลอดภัยมากกว่า แล้วดูเหมือนดรุณีจะเดาความคิดของเขาได้ จึงพยายามหว่านล้อม

“ค่ะ อร่อยนะ เน่เคยเห็นเขารีวิวกัน เราลองกินเถอะนะ” รีบอ้อนด้วยการจับแขนหนาแล้วเอ่ยเสียงหวาน หัวใจแข็งแกร่งเริ่มหวั่นไหวเมื่อเจอลูกอ้อนที่หล่อนใช้ เหมือนเขากลับไปเป็นเด็กนักเรียนอีกครั้งเพิ่งหัดมีแฟนครั้งแรก

หล่อนทำให้ทุกอย่างดูใหม่สำหรับเขาไปเสียหมด แม้ตนจะเคยมีแฟนและคบกันนานหลายปีก็ตาม

“แล้วลูก...” สายตาเหลือบมองท้องที่ยังแบนราบ เธอรีบละมือจากแขนเขาแล้วมาลูบหน้าท้องของตัวเอง เอาลูกเป็นข้ออ้างเพื่อให้ร่างสูงยอมทำตาม

“ลูกอยากกิน ลูกหิว” ไม่ได้คำตอบชัดเจนจากปีแสง แต่เขาตีไฟเลี้ยวแล้วจอดข้างทางเพื่อไปรับประทานอาหารตามที่หญิงสาวต้องการ สร้างความสุขจนหล่อนยิ้มไม่หุบ ลงจากรถก็เดินไปจับจองโต๊ะว่างแล้วสั่งเมนูที่ตนอยากกินอย่างรวดเร็ว นึกน้ำลายสอตั้งแต่เห็นป้ายร้านไกลๆ

“แจ่วฮ้อนชุดใหญ่หนึ่ง เสือร้องไห้ ต้มแซ่บ...พี่ปีน่าจะชอบ ยำเล็บมือนางแล้วก็ข้าวเหนียวสองกระติบค่ะ” สั่งเผื่อโดยไม่ให้ชายหนุ่มได้เอ่ยปาก รู้ว่าเขาคงไม่เคยมาร้านเช่นนี้อาจสั่งไม่ถนัดเหมือนอาหารอิตาเลี่ยนที่ไปกินบ่อยครั้ง

ฟังอาหารที่หล่อนสั่งก็นึกเป็นห่วง “เผ็ดนะ กินได้เหรอ” จำได้ว่าหญิงสาวเคยบอกกินเผ็ดไม่เก่ง น่าแปลกที่จำทุกเรื่องของดรุณีได้ อาจเพราะเธอชอบเล่าให้เขาฟังแล้วตนก็บ้าจี้ฟังทุกอย่าง ทั้งจำขึ้นใจอีกต่างหาก

“กินได้ค่ะ ยิ่งเผ็ดยิ่งอร่อย” พอท้องก็นึกอยากกินของเปรี้ยวของเผ็ดตลอด จนบางครั้งก็แสบท้องจนต้องสั่งตัวเองไม่ให้กินแต่ก็ทำไม่ได้เพราะความอยาก จึงต้องดื่มนมไปด้วยตลอดไม่ให้ปวดท้องหลังกินหมด

“มันไม่ดีต่อเด็กนะ” บอกตามที่กังวล

“ไม่ส่งผลถึงเด็กหรอกค่ะ แต่ก็อาจจะแสบท้องหน่อย...เดี๋ยวก่อนนอนจะกินนมแล้วก็ของบำรุงอื่นๆ พี่ปีสบายใจได้” ยิ้มดีใจที่เขาเป็นห่วงถึงจะทราบดีว่าชายหนุ่มเป็นห่วงลูกในท้อง ไม่ใช่เธอก็ตาม ก่อนจะหันไปมองอาหารที่ทยอยมาเสิร์ฟ แค่เห็นนึกน้ำลายสอต้องหยิบช้อนกับตะเกียบมาจัดการนำผักลงหม้อดิน ตามด้วยเนื้อและเครื่องใน

ร่างสูงนั่งนิ่งไม่รู้ว่าตนควรทำอะไร นอกจากหยิบน้ำเปล่าขึ้นดื่มแล้วชิมต้มแซ่บก่อนพบว่าอร่อย จากนั้นจึงตักน้ำซดไม่หยุด แล้วเริ่มลงมือกินข้าวไปพลางปาดเหงื่อที่ไหล ไม่สนใจว่ากินข้าวข้างทางเพราะอาหารอร่อยราวกับกินในภัตตาคาร

ใบหน้าหวานมองคนตรงหน้าที่กินไม่พูดก็ยิ้มกริ่ม รู้แล้วว่าอาหารถูกปากเขา และดูเหมือนปีแสงจะอารมณ์ดีเมื่อได้ของกินถูกปาก เธอจึงใช้โอกาสนี้ถามความในใจไม่สนว่ารถจะขับผ่านหรือตนจะอยู่ข้างถนนไม่ใช่ห้องอาหารที่เต็มไปด้วยบรรยากาศโรแมนติก

“ความรู้สึกของพี่ปีที่มีให้เน่ยังเป็นแค่น้องสาวเหมือนเดิมหรือเปล่า มันพัฒนาขึ้นกว่าเมื่อก่อนไหมคะ หรือว่าเท่าเดิม” คำถามของเธอไม่ได้กดดัน แต่เขากลับตอบเงียบเพราะไม่ได้นั่งทบทวนความรู้สึกของตัวเอง

หรือต่อให้ทบทวนก็ยังยึดติดกับความคิดเดิมของตัวเอง ว่าจะไม่มีทางคบคนเด็กกว่าเด็ดขาด หากหล่อนคลอดลูกค่อยมาพูดคุยเรื่องการหย่าอีกครั้ง เขาคิดว่าเราคงเข้ากันไม่ได้ ลงท้ายต้องเลิกราอยู่ดีนั่นแหละ

เหลือไว้แค่สถานะพ่อแม่ดีกว่า...

“พี่จะรับผิดชอบเน่ เรื่องอื่นไม่ต้องคิดหรอก” นั่นคือคำตอบที่หญิงสาวทราบในทันที หล่อนยิ้มออกมาเล็กน้อยแต่แววตาเต็มไปด้วยความเศร้า ปลอบใจตัวเองทั้งยังบอกเขาอย่างใจสู้ไม่ได้ยอมแพ้ถึงจะยังไม่ถูกรักก็ตาม

“ยังสินะ...แต่ไม่เป็นไร เน่รอเก่ง เน่จะทำส่วนของตัวเองให้เต็มที่ ยังไงพี่ปีก็ต้องใจอ่อนให้เน่อยู่แล้ว” เธอมั่นใจอย่างนั้น ก่อนจะรับประทานอาหารแล้วชวนเขาเปลี่ยนเรื่องไม่อยากให้เสียบรรยากาศมากไปกว่านี้

ถึงจะเจ็บกับคำตอบที่ได้รับ...ว่าเขาไม่คิดรักกันสักนิด

พิธีหมั้นช่วงเช้าที่โรงแรมหรูระดับห้าดาวมีแขกเหรื่อมาร่วมแสดงความยินดีหลายร้อยชีวิต เจ้าบ่าวผ่านด้านประตูเงินประตูทองเข้าไปหาเจ้าสาวที่สวมชุดไทยประยุกต์สีงาช้างยืนคอยท่าด้วยกริยาสง่างามจนละสายตาไม่ได้

ตกตะลึงไปชั่วขณะเมื่อได้เห็นเจ้าสาวของตัวเอง จนยืนนิ่งเหมือนวิญญาณหลุดจากร่างจนน้องชายที่เดินตัวติดกับพี่ต้องกระซิบข้างหู เขาถึงหลุดจากภวังค์แล้วหันมามองแสงเหนือที่ยกยิ้มมุมปากล้อเลียน

“ตาค้างเลยเหรอครับพี่ชาย” เหลือบตามองน้องชายอย่างไม่สบอารมณ์ ค่อยเดินไปนั่งบนเวทีซึ่งใกล้จะเริ่มพิธีตามเวลาฤกษ์ เธอยิ้มกว้างให้เขาเหมือนทุกวัน ขณะที่ชายหนุ่มก็ยกยิ้มมุมปาก แววตาเต็มไปด้วยความชื่นชมต่อเจ้าสาวคนสวย ก่อนที่ภาพของคนเก่าจะทาบทับ

เคยคิดว่าจะเข้าพิธีวิวาห์กับลันตาถึงขั้นไปลองชุดแต่งงาน ไม่น่าเชื่อว่าทุกอย่างจะพังทลายลงในพริบตา เมื่อความรู้สึกของใครบางคนไม่เหมือนเดิม

ปีแสงรีบไล่ความคิดในอดีตออกไป แล้วทำตามพิธีกรทุกอย่าง กระทั่งสวมแหวนเพชรเม็ดใหญ่ลงบนนิ้วนางข้างซ้ายของเจ้าสาว ก่อนเธอจะกราบแทบตักเขา มือหนาจึงวางบนศีรษะมนด้วยความเอ็นดู คนด้านล่างต่างส่งเสียงแซวกันเป็นแถว

พิธีช่วงเช้าเสร็จเรียบร้อย บ่าวสาวต่างแยกย้ายกันไปพักและเริ่มแต่งหน้าเปลี่ยนชุดเพื่องานเย็น ฝั่งเจ้าสาวจะพิถีพิถันหน่อยเพราะมีหลายขั้นตอน ต่างจากเจ้าบ่าวไม่นานก็เสร็จ และเมื่อถึงเวลาก็เดินมาที่ประตูโถงด้านหน้าเพื่อคอยต้อนรับแขก

“พี่ปีหล่อมาก” เธอชมเขาอย่างไม่เคอะเขิน เป็นชายหนุ่มเสียเองที่แก้มแดงยามได้รับคำชม คำพูดของเธอไม่ได้เยินยอให้เขาดีใจ แต่พูดออกมาจากใจตามความรู้สึกจริง เขาเองก็อยากบอกว่าหล่อนสวยมากเช่นเดียวกัน

ร่างโปร่งบางอยู่ในชุดเจ้าสาวสีขาวเกาะอกหางปลาที่เน้นทรวดทรงองค์เอว ดูสวยสง่าราวกับราชินี เข้าคู่กับทักซิโด้สีขาวของเจ้าบ่าว ภาพที่ได้ออกมายามถ่ายคู่กับแขกจึงสวยหล่อราวกับเทพนิยายเจ้าชายเจ้าหญิง

“ขอรูปเยอะๆ เลยนะคะ ถ่ายได้เลยค่ะ” บอกตากล้องที่มีเกือบห้าคนในงาน เก็บบรรยากาศ เก็บวิดีโอ เก็บภาพบ่าวสาวโดยเฉพาะ แต่ละคนมีหน้าที่ต่างกันจะได้ภาพที่ครบตามความต้องการเจ้าของงานซึ่งอยากเก็บความทรงจำเหล่านี้เอาไว้

ถ้าได้กลับมาดูคงจะคิดถึงวันสำคัญของตัวเองกับเขา...

“ตลอดทั้งงานพี่ห้ามปล่อยมือจากเน่นะ ลูกต้องการความอบอุ่นจากพ่อ” เมื่อถ่ายรูปด้านหน้ากับแขกเรียบร้อย ก็ถึงเวลาเข้าสู่พิธีการช่วงเริ่มของงาน มือบางควงแขนสามีเอาไว้แล้วบอกเสียงเบาพอให้ได้ยินกันสองคน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel