7
“แต่หนูยังไม่ได้ทำให้คุณเลยนะคะ” เด็กสาวแย้งเสียงอ่อย หน้าตาไม่สู้ดี เขาจะโกรธหรือเปล่านะ ถึงได้รีบไล่ไปแบบนี้
“ไปเถอะ ไม่ต้องทำแล้วเดี๋ยวฉันอาบเอง” โอย...กูอยากจะบ้า...ยังไม่รีบลุกไปอีก...ชายหนุ่มกัดกรามกรอด....
“หนูทำไม่เป็น คุณก็สอนหนูสิคะ อย่าโกรธหนูเลยนะคะ” เด็กสาวเว้าวอนเสียงสั่น น้ำตาปริ่ม เมื่อคิดว่าพ่อเลี้ยงหนุ่มโกรธแน่แล้ว ก็ดูหน้าเขาสิกรามขึ้นเป็นสันนูน หน้าดำหน้าแดง เขาต้องกำลังโกรธมากแน่ ๆ
“ไม่ได้โกรธ”
“ไม่จริงอ่ะ ไม่โกรธแล้วทำไมถึงทำหน้าแบบนั้นคะ”
“ถ้ายังไม่รีบลุกไปเดี๋ยวนี้ ฉันจะจับเธอปล้ำในนี้แหละ”
“ค่ะไปแล้วค่ะ” รมิดารีบลนลาน ลุกออกไปทันที น้ำตาไหลเอ่อออกมาไม่ขาดสาย หล่อนออกมายืนอาบน้ำใต้เรนเชาเวอร์ ที่แยกส่วนกันอย่างเร่งรีบ ก่อนจะออกไปนั่งรอ หงอย ๆ ที่ปลายเตียง
พ่อเลี้ยงอาชาจำเป็นต้องปลดปล่อยตัวเองจนตัวเบา ไม่อย่างนั้น วันนี้เขาคงได้จับแม่เมียตัวน้อยกลืนลงท้องเพราะความหิวโหยแน่ ๆ.....โธ่โว้ย....รู้ถึงไหนอายถึงนั่น ชายหนุ่มสบถอย่างหัวเสีย ส่วนรมิดาเองก็รู้สึกผิด อยากจะทำดีไถ่โทษ เมื่อเห็นพ่อเลี้ยงออกมาผมเปียกลู่ หล่อนจึงเดินไปหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กแล้วเข้าไปหาเขา
“หนูเช็ดผมให้นะคะ” เอาใจเขาไว้ก่อน หล่อนจะให้เขาโกรธไม่ได้ เพราะมันหมายถึงชีวิตที่สั่นคลอน ....เขารับปากว่าจะไม่ขายหล่อนให้ใคร ถ้าทำตัวดี ๆ แล้วนี่อะไร แค่เขาให้อาบน้ำให้ ยังทำไม่เป็น......สาวน้อยได้แต่คิดโทษตัวเอง
“เอาสิ” เรือนร่างสูงใหญ่นั่งลงบนเก้าอี้หน้ากระจก ในขณะที่รมิดาเข้ามายืนระหว่างขาของเขามันดูน่าหวาดเสียวเหมือนกัน เขาจึงต้องข่มใจมองดูเมียตัวน้อยบรรจงเช็ดผมให้ ด้วยความรู้สึกแปลก ๆ เขาไม่เคยต้องมีใครมาดูแลเรื่องเหล่านี้ เท่าที่จำได้ราง ๆ ก็มีแค่มารดาที่เคยทำให้เมื่อครั้งยังเป็นเด็กชาย ตั้งแต่โตเป็นหนุ่มไม่เคยมีอะไรแบบนี้จริง ๆ ถ้าอยู่กับสาว ๆ ก็มีแต่เรื่องโรมรันกันบนเตียง เสร็จแล้วก็แยกย้าย ไม่เคยได้อ้อยอิ่งกกกอดต่อเวลา แต่เด็กสาวคนนี้เข้ามาทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง.....ความอบอุ่นเล็ก ๆ เริ่มก่อเกิดในหัวใจกระด้างดวงนี้โดยไม่ทันรู้ตัว
“เสร็จแล้วค่ะ”
“เคยทำให้ใครเหรอ ถึงได้ดูคล่องแคล่วจัง” มือใหญ่จับมือนุ่มนิ่มมากุมเอาไว้หลวม ๆ ในขณะที่เจ้าของมือ แก้มแดงปลั่งเพราะใกล้ชิดกันจนรู้สึกถึงไอร้อนจากคนตัวโต ทั้งที่เขาเพิ่งจะอาบน้ำมาใหม่ ๆ
“เช็ดผมน่ะหรือคะ...ไม่เคยหรอกค่ะ” เด็กสาวสั่นหน้าจนผมกระจาย ด้วยความใกล้แค่นี้ กลิ่นหอมอ่อน ๆ จึงลอยมาปะทะจมูก กวนอารมณ์คนตัวโตให้ปั่นป่วนอีกรอบ
“แล้วทำไมถึงอยากทำให้ฉัน”
“หนูอยากทำหน้าที่เมียที่ดี คุณจะได้เมตตาหนู ไม่โกรธหนู” สาวน้อยตอบประสาซื่อ
“แค่นั้นจริง ๆ เหรอ”
“คะ..ค่ะ..” สาวน้อยพยายามคิดว่ามันควรจะแค่ไหน มีเหตุผลอะไรอีกอย่างนั้นเหรอ
“อืม....ขอบใจนะ” พ่อเลี้ยงอาชารั้งคนตัวเล็กลงมานั่งตัก ก่อนจะหอมเสียหลายฟอดอย่างมันเขี้ยว
“หะ...หายโกรธหนูแล้วใช่ไหมคะ” รมิดาถามตะกุกตะกัก พยายามห้ามตัวเองไม่ให้ดิ้นหนีเขา แต่กระนั้นก็นั่งตัวแข็งทื่ออยู่บนตักกว้าง ทำใจดีสู้เสือ
“ทำไมชอบคิดว่าฉันจะโกรธอยู่เรื่อย...หืม..สาวน้อย”
“ก็หนูทำอะไรไม่ค่อยเป็นนี่คะ ขนาดคุณลุงกับคุณป้ายังพูดอยู่บ่อย ๆ ว่าหนูเรียนก็ไม่เก่ง ทำงานอะไรก็ไม่ค่อยได้เรื่อง โชคดีที่สวย รอให้...เอ่อ....” รมิดาพูดมาถึงตรงนี้ก็หน้าแดงก่ำ ไม่กล้าพูดต่อ
“รอให้อะไร พูดให้จบ”
“รอให้สามีหาเลี้ยงค่ะ”
“แล้วเธอก็เชื่อ?”
“เปล่าค่ะ...หนูแค่คิดว่า ถึงแม้ว่าหนูจะเรียนไม่เก่ง แต่ถ้าขยันอ่านหนังสือ หนูเชื่อว่าหนูจะเรียนจนจบได้ แล้วก็หางานทำตำแหน่งเล็ก ๆ ก็ได้คงมีที่ว่างให้หนูบ้างล่ะ..ทีนี้หนูก็จะเลี้ยงตัวเองได้ไม่ต้องรอให้ใครมาหาเลี้ยง” รมิดา พูดถึงความตั้งใจของตัวเอง พรั่งพรูออกมาจนหมดเปลือก ด้วยแววตาใส ๆ ซื่อ ๆทำให้ชายหนุ่มเชื่อว่าหล่อนคิดอย่างนั้นจริง ๆ
“ตอนนี้เธอก็มีสามีหาเลี้ยงอย่างที่ลุงกับป้าของเธอบอกจริง ๆแล้วนี่” อาชาลองถาม เขาอยากรู้ว่าหล่อนคิดยังไง
“นั่นสิคะ...เสียดายจัง” รมิดาทำหน้าม่อย หล่อนไม่ใช่คนที่จะปิดบังความรู้สึกได้ คิดยังไงก็แสดงออกมาหมด
“ทำไม ได้ฉันเป็นสามียังไม่ดีอีกหรือไง” อดหงุดหงิดไม่ได้ ที่เห็นสีหน้าผิดหวังของคนบนตัก
“ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ หนูแค่เสียดายที่ไม่ได้เรียนต่อ อาจารย์ที่ปรึกษาเคยบอกว่าอย่างน้อยควรเรียนให้จบปริญญาตรีค่ะ” รมิดาบอกตามตรง และหล่อนก็คิดอย่างนั้นมาตลอด ตั้งใจจะเรียนมหาวิทยาลัยเปิดเพื่อที่จะทำงานไปด้วย เพราะไม่อยากรบกวนคุณลุงกับคุณป้ามากนัก
“แล้วถ้าฉันอนุญาตให้เรียน จะเรียนไหม” พ่อเลี้ยงหนุ่มรู้สึกเห็นใจ ถ้าหล่อนอยากเรียนจริง ๆ เขาก็จะให้เรียน บางทียัยเด็กนี่อาจจะเจอผู้ชายรุ่นราวคราวเดียวกัน เขาก็จะปล่อยไป ไม่อยากเอาเปรียบเด็ก........เฮ้ย......ใช่หรือวะ...ช่างเหอะ ....เอาไว้ค่อยคิดอีกที อยู่ ๆ ความรู้สึกขัดแย้ง สับสนก็แวบขึ้นมาในจิตใจ
“จริงหรือคะ คุณจะให้หนูเรียนจริง ๆ ใช่ไหมคะ” สาวน้อย ตื่นเต้น ดวงตากลมโตฉายแววเจิดจ้าอย่างมีความหวัง ริมฝีปากจิ้มลิ้มคลี่ยิ้มกว้างขวาง แก้มแทบแตก มือบางจับแขนแข็งแรงของเขาเขย่าอย่างลืมตัว
“ทำไม คนอย่างพ่อเลี้ยงอาชาไม่น่าเชื่อถือหรือไง”
“ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ หนูดีใจมากไปหน่อย ...ขอบคุณนะคะ หนูเรียนมหาวิทยาลัยเปิดก็ได้ค่ะ จะได้มีเวลาดูแลคุณด้วย” เด็กสาวไม่วายห่วงว่าจะทำหน้าที่ของตนขาดตกบกพร่อง
พ่อเลี้ยงหนุ่ม เลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ ดูเหมือนยัยเด็กเซ่อนี่จะมีอะไรมาเซอร์ไพรส์เขาได้ตลอดเวลา
“รับรองค่ะ หนูจะทำตัวดี ๆ ไม่ให้คุณต้องโมโหบ่อย ๆ นะคะ” รมิดารีบเอ่ยย้ำ เกรงว่าเขาจะไม่เชื่อ สายตาที่เด็กสาวมองพ่อเลี้ยงหนุ่มเปลี่ยนไป จากความหวาดกลัวเมื่อแรกเจอ เปลี่ยนเป็นมองอย่างเทิดทูน และ ไว้เนื้อเชื่อใจ
“ยังกลัวจะโดนฉันขายอยู่หรือไง...หืม..” อาชาถามอ่อนโยน พลางคีบจมูกเล็กโยกเบา ๆ อย่างเอ็นดู
