20
“ค่ะ” รมิดา กระวีกระวาดทาครีมกระปุกเล็ก ๆ ที่ป้าของหล่อนสอนให้ใช้มาหลายปีแล้วด้วยว่าเป็นผู้หญิงต้องรู้จักถนอมผิวพรรณ เสร็จแล้วจึงรีบใส่ชุดนอนลายการ์ตูนขาสั้นมีระบายน่ารักคงจะเป็นตัวโปรด เพราะเห็นหล่อนหยิบมาสวมใส่บ่อย ๆ จนพ่อเลี้ยงอาชาอดอมยิ้มไม่ได้ ...
“มานี่สิ” คนตัวโตที่นั่งเอนพิงหัวเตียงอยู่ในท่าสบาย ๆ อ้าแขนออกกว้าง ทำให้สาวน้อย คลานเข้าไปสู่อ้อมกอดอย่างว่าง่าย ทั้งที่ยังเกร็ง ๆ อยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้กลัวมากเหมือนวันแรก ๆ อีกแล้ว
“ยังกลัวฉันอีกเหรอ ตัวแข็งเชียว” ถามเสียงนุ่ม ลมหายใจอุ่น ๆ รินรดคลอเคลียอยู่ข้างขมับ
“ไม่ได้กลัวแล้วค่ะ แต่มัน....เป็นแบบนี้เอง” สาวน้อยไม่รู้จะบอกเขายังไง ว่าเข้าใกล้เขาทีไรใจมันหวิว แถมเป็นมากขึ้น จนหลัง ๆ เหมือนมันจะทะลุออกมาเต้นอยู่นอกอก ไหนยังจะความรู้สึกวูบวาบที่ความเป็นหญิงนั่นอีก จะพูดจะบอกเขายังไง...มันน่าอายจะตาย
ชายหนุ่ม ได้แต่หัวเราะหึ...หึ...ก้มลงจูบหน้าผากเกลี้ยงเกลา แล้วเลยมาฝังจมูกสูดดมความหอมจากพวงแก้มนุ่มจนชุ่มปอด ก่อนจะยกตัวสาวน้อยขึ้นนั่งบนตักกว้าง เท่ากับทำให้หล่อนต้องนั่งคร่อมเขาอยู่โดยปริยาย ถึงแม้จะยังขัดเขินอยู่ แต่ก็ไม่กล้าขัดใจ ได้แต่โอนอ่อน ตามแต่คนตัวโตต้องการ หลัง ๆ มานี้ เขามักจะชอบคุยกับหล่อนแบบใกล้ชิด ถึงเนื้อถึงตัว แต่ก็ยอมรับว่าหล่อนชอบมาก โดยเฉพาะวงแขนแกร่ง ยามที่โอบรัดมารอบเรือนร่างน้อยนั้นให้ความรู้สึกอบอุ่นในหัวใจ เชื่อใจว่าเขาจะปกป้องคุ้มครองหล่อนให้ปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง
พ่อเลี้ยงอาชาจับแขนเรียวให้โอบรอบลำคอเขาไว้ เพื่อหล่อนจะนั่งได้อย่าง ถนัดถนี่ ทำให้ ตอนนี้ใบหน้าอยู่ห่างกันแค่คืบ สาวน้อยเขินอายเกินจะมองสบสายตากับ พ่อเลี้ยงหนุ่มตรง ๆ จึงได้ซบหน้าลงกับซอกคอหนา ซ่อนหน้าจากสายตาคู่คมเหมือนลูกแมวขี้อ้อน
“อีกสองวัน ฉันจะพาไปสมัครเรียน พาเธอไปอยู่กับคุณแม่ของฉันที่กรุงเทพฯ จนกว่าจะเรียนจบปริญญาตรี ดีใจไหม
“ดีใจค่ะ....... แต่ว่า...ถ้าหนูไปอยู่ที่โน่น แล้วคุณจะอยู่กับใครล่ะคะ ใครจะทำหน้าที่เมีย คอยดูแลเสื้อผ้า อาหาร เตรียมน้ำอาบน้ำถูหลังให้คุณ ล่ะคะ” ความกังวลของสาวน้อย แสดงออกมาทางสีหน้า คิ้วสวยขมวดมุ่นยุ่งยากใจยามที่มองหน้าเขา เมื่อนึกขึ้นได้ว่าหล่อนจะต้องไปอยู่ที่โน่นถึงสี่ปี แล้วใครจะดูแลปรนนิบัติเขาได้อย่างที่หล่อนตั้งใจทำให้
“ไม่ต้องห่วงเรื่องพวกนั้นหรอก”
“ถ้าหนูไม่อยู่แล้วคุณจะกอดใครล่ะคะ หรือว่าคุณจะพาคนอื่นมากอดแทน”
“ฉันอยู่คนเดียวมาได้ตั้งนาน เพิ่งจะมีเธอมาเป็นตัวยุ่งแค่ไม่กี่วันนี่เอง” พ่อเลี้ยงอาชาขำที่แม่เมียตัวน้อย ดูจะเป็นห่วงเขาจนเกินเหตุ
“จริงด้วยสิคะ หนูลืมไป” รมิดาหน้าจ๋อยเพิ่งรู้ตัวว่าสำคัญตัวเองผิดไปหน่อย หล่อนจึงซบหน้ากับบ่ากว้างอีกครั้งอย่างห่อเหี่ยว ไม่เข้าใจว่าทำไมหัวใจถึงได้แฟบลงกะทันหัน เมื่อนึกว่า จะต้องอยู่ไกลกัน ทั้งที่ก็เพิ่งจะคุ้นเคยกันแค่ไม่นาน แต่ความผูกพันก้าวหน้าไป ไกล หรืออาจจะเพราะเขา ให้ความรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย อย่างที่เด็กกำพร้าอย่างหล่อน ไม่เคยได้รับจากใครมาก่อนก็เป็นได้
“รมิดา ไม่อยากไปเหรอเป็นอะไร” ชายหนุ่มถามเมื่อรู้สึกว่าคนบนตักนิ่งจนผิดสังเกต
“อยากไปค่ะ แต่หนูเป็นห่วงคุณนี่คะ หนูเป็นเมียนะคะ ไม่ใช่คนอื่น” เด็กสาวพูดไปตามที่ใจคิด หล่อนซื่อตรงเสมอ เมื่อเขาให้หล่อนเป็นเมีย หล่อนก็ยึดมั่นกับสถานะนั้น ทั้งที่ไม่ได้เข้าใจมันลึกซึ้งนักหรอก หล่อนถูกคุณป้าพูดกรอกหูมาตั้งแต่เด็ก ว่าให้ดูแลตัวเองดี ๆ ทั้งรูปร่าง หน้าตา ผิวพรรณเพื่อที่โตขึ้นจะได้มีผู้ชายดี ๆ รับเอาไปเป็นเมีย แล้วหล่อนจะสบายไปทั้งชีวิต…..หล่อนถูกปลูกฝังมาแบบนี้....ไอ้ที่จะคิดยืนด้วยลำแข้งตัวเองนั้น ไม่เคยเฉียดใกล้สมองน้อย ๆ ของหล่อนเลยด้วยซ้ำ โลกของหล่อนคงแคบกว่าของคนอื่นกระมัง
“ดีแล้ว จำให้แม่น ๆ ว่าเธอเป็นเมียฉัน ดูแลตัวเองให้ดีล่ะ อย่าให้มีเรื่องเสื่อมเสียเข้าใจไหม แล้วก็ห้ามคบเพื่อนผู้ชายด้วย ฉันหวง” อาชาได้ทีกำชับคนหัวอ่อน ที่ตั้งโปรแกรมได้ราวกับหุ่นยนต์
“แล้วคุณล่ะคะ ถ้าหนูไม่อยู่คุณจะมีผู้หญิงคนอื่นอีกหรือเปล่า” ถ้าเป็นคนอื่นพูด เขาต้องคิดว่าหล่อนกำลังยอกย้อนแน่ ๆ แต่ดวงตากลมโตใสแจ๋วที่มองมาดูไร้เดียงสาเกินกว่าจะคิดเป็นอื่นได้ ทำให้เขาเชื่อว่าหล่อนไม่ได้คิดแบบนั้น แต่ถามเพราะอยากรู้จริง ๆ
“ทำไมล่ะ ฉันเป็นผู้ชายจะมีผู้หญิงคนอื่นบ้างไม่ได้เหรอ” อาชาแกล้งแหย่คนตัวเล็ก ที่ตอนนี้หน้าจ๋อย ๆ นั่นจืดสนิท
“หนูไม่มีสิทธิห้ามคุณหรอกค่ะ” เด็กสาวตอบเสียงเบาหวิว น้ำตาเอ่อคลอเต็มดวงตาคู่สวย แค่นึกว่าอ้อมแขนนี้จะมีคนอื่นแทนหล่อน ความรู้สึกหวงแหนก็แล่นเข้ามาเกาะกุมหัวใจ บางทีสี่ปีที่ไม่อยู่ หล่อนอาจไม่มีโอกาสได้กลับมาอยู่กับเขาอีกเลยก็ได้
“รมิดา รู้จักหึงหวงด้วยเหรอ” พ่อเลี้ยงหนุ่มถามเสียงนุ่ม เชยคางเด็กสาวขึ้นมองลึกเข้าไปในดวงตาที่มีแววหวั่นไหว น้ำใส ๆ เอ่อออกมาคลอหน่วย ปริ่ม ๆ ว่าจะหยดลงมาเสียให้ได้
“หนูไม่รู้ค่ะ” ตอบพลางหลบสายตาคมกล้าคู่นั้น ถึงแม้เขาไม่ได้ทำเสียงดุ แต่รมิดาก็กลัวจนหัวใจจะหยุดเต้นอยู่แล้ว
“แล้วที่ทำหน้าแบบนี้เรียกว่าอะไร” นิ้วแกร่งเชยคางมนให้เงยขึ้น มองชัด ๆ
“หนูกำลังเศร้าค่ะ”
“ทำไมถึงเศร้า”
“หนูไม่รู้ค่ะ หนูแค่ไม่อยากให้คุณกอดใครแบบที่กอดหนู” เสียงเริ่มสั่น น้ำตากำลังจะหยาดหยดเต็มที
“เด็กน้อย ฟังนะ...ฉันจะไม่มีใครอีก ถ้าเธอทำตัวน่ารักกับฉัน ตกลงไหม” พ่อเลี้ยงอาชา งอข้อนิ้วปาดน้ำตาให้อย่างเบามือ เพราะทันทีที่เขาพูดจบหยาดน้ำใส ๆ ก็พากันหลั่งไหลพรั่งพรูลงมาไม่ขาดสาย กว่าจะหยุดลงได้ต้องใช้เวลาอีกพักใหญ่
“สัญญานะคะ” เด็กสาว ยิ้มทั้งน้ำตา สดชื่นขึ้นมาทันที พร้อมกับชูนิ้วก้อยไหว ๆ...ขอสัญญากับคนตัวโต
