16
“เดี๋ยวก็ชินน่า จำไม่ได้เหรอ วันแรกที่โดนกอด ตัวสั่นเหมือนกับลูกนกตกน้ำ ดูตอนนี้สิ ไม่สั่นแล้ว แถมยังกอดฉันก่อนอีกต่างหาก” ชายหนุ่มยิ้มล้อ....
“ก็คุณไม่ได้น่ากลัว...เหมือน.......” รมิดารีบหยุดคำพูดไว้แค่นั้นเกรงจะทำให้คนตัวโตไม่พอใจ แต่ยิ่งทำให้คนฟังอยากรู้มากขึ้น
“เหมือนอะไร”
“เหมือนที่คุณรสาเคยบอก คุณไม่ได้ชอบความรุนแรงใช่ไหมคะ” ดวงตากลมโต สื่อความอย่างเปิดเผย ทั้งรักและไว้ใจ
“ถ้าใช่ล่ะ บางทีฉันอาจจะนิยมความรุนแรงก็ได้นะ แต่ยังไม่เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงออกมาไง” ทำหน้าขึงขัง แกล้งขู่เด็กน้อย
“คุณแกล้งหลอกหนูอีกแล้ว..... แต่ถึงจะเป็นจริง ๆ หนูก็จะพยายามอดทนค่ะ....ว่าแต่......ไม่ถึงตายใช่ไหมคะ” รมิดามองเขาหน้าตาเหยเก รอลุ้นคำตอบ
“พ่อเลี้ยงหนุ่ม หัวเราะลั่นกับความคิดของเมียเด็ก นี่เจ้าหล่อนคิดยังไง ถึงกับพยายามจะทนให้ได้ ถึงแม้ว่าเขาจะนิยมความรุนแรง....แบบธรรมดาก็ให้รอดก่อนไหมแม่คุณ....
“ใช่ไหมคะ หนูจะไม่ตายเพราะ...เอ่อ....เพราะนอนกับคุณ” เด็กสาวถามเพื่อความแน่ใจ ไม่ใช่ไม่กลัว แต่ก็จะพยายามอดทนอย่างที่ปากพูดไป เพื่อตอบแทนความดีที่เขามีให้
“เลิกคิดฟุ้งซ่านได้แล้ว ฉันมีคู่นอนมาเยอะ ไม่มีใครต้องทุกข์ทรมานเพราะนอนกับฉันสักคน มีแต่ร้องครวญคราง ร้องขอซ้ำแล้วซ้ำเล่า อยากลองแบบเต็ม ๆ ไหมล่ะ” เล่าพร้อมกับทำตาหวานเชื่อมใส่ แถมมือใหญ่ยังลูบไล้เนื้อตัว จนขนอ่อนพากันลุกชูชัน
“งื้อ...หนูง่วงแล้ว ไม่คุยแล้วค่ะ” เด็กสาวหน้าแดง เมื่อเห็นสายตาแบบนั้น อดที่จะวาบหวาม ปั่นป่วนไม่ได้
“เดี๋ยวสิ เราหยุดเรียนกันหลายวันแล้วนะ” คนที่ตั้งตัวเป็นครูท้วงขึ้น อุตส่าห์รีบเพื่อมาต่อบทเรียนกับหล่อนนี่แหละ
“ขอดรอป ไว้ก่อนได้ไหมคะ เรียนจบปริญญาแล้วค่อยมาต่อกันใหม่” ตอบเขาเสียงอู้อี้ ไม่รู้เอาความกล้ามาจากไหน ถึงได้พูดออกไปแบบนั้น
“อย่ามาทำหน้ามึน เมื่อกี้ยังพูดได้จ๋อย ๆ อยู่เลย เอาน่า ไม่ถึงตายหรอกอย่างมากก็แค่สลบคาอก” คนตัวโตพูดจาน่าสยดสยอง พร้อมกับทำหน้าหื่นสุด ๆ
“คุณแกล้งหนูอีกแล้วนะคะ... ก็ได้ค่ะ หนูจะพยามทำให้ได้” พูดจบก็หลับตาปี๋ เกร็งตัวรอรับสถานการณ์ที่จะเกิดเต็มที่ แต่สิ่งที่ได้รับคือ สัมผัสเพียงแผ่วเบาที่ริมฝีปาก แตะเบา ๆ แล้วก็ปล่อย
“ไม่ต้องกลัว สาวน้อย”
รมิดาลืมตามองคนข้างบนที่โน้มหน้าลงมาห่างกันไม่ถึงคืบ หญิงสาวยกนิ้วเรียวขึ้นแตะริมฝีปากที่เมื่อสักครู่เขาใช้มันแตะลงบนกลีบปากอิ่มของหล่อน คนตัวโตขยับริมฝีปากขบกัดนิ้วเรียวเบา ๆ ก่อนจะออกแรงดูด จนร่างน้อยสะดุ้งด้วยความรู้สึกแปลก ๆ
รมิดากำลังใจสั่นไปหมดเมื่อเขาไล่ดูดกลืนจนครบทุกนิ้ว .....มันอร่อยนักหรือไง ดูสีหน้าเขาพึงพอใจนักหนา แต่สาวเจ้าก็ไม่มีโอกาสได้ถาม เมื่อเขาก้มลงอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ริมฝีปากอิ่มบดจูบคลึงเคล้าอย่างดูดดื่ม ขบเม้มริมฝีปากจิ้มลิ้มก่อนจะรุกล้ำ เรียวลิ้นเข้าซอกซอนจนสาวน้อยเผยอรับลิ้นร้อนเข้าไปในโพรงปากพร้อมกับพยายามทำสิ่งเดียวกัน แต่ก็เงอะงะเต็มที รมิดาถูกชักจูงเพลิดเพลิน จนกระทั่งหายใจแทบไม่ทัน มือบางผลักอกกว้างออก พ่อเลี้ยงอาชาจึงเปิดโอกาสให้เด็กสาวได้หายใจ โดยถอนริมฝีปากออกมา กลีบปากสีเชอรี่ฉ่ำ บวมเจ่อ ดวงตาปรือปรอย เป็นภาพที่เซ็กซี่ยวนตา จนอดไม่ได้ที่จะก้มลงไปจูบย้ำ ๆ อย่างมันเขี้ยว
“รมิดา จำที่ฉันสอนได้หรือเปล่า” พ่อเลี้ยงหนุ่มถามพลางมองหน้าตาเยิ้มฉ่ำของผู้ด้อยประสบการณ์
“เอ่อ....คือ” จะตอบยังไงดีนะ...สมองเบลอไปหมดแล้วตอนนี้
“คิดนาน ....... สงสัยต้องสาธิตอีกรอบ”
“จะ...จำได้ค่ะ”
“ถ้าจำได้ก็ลองสาธิตให้ดูหน่อย”
ตาย ๆ ตายแน่....รมิดา..ต้องเริ่มจากอะไรก่อนนะ สติที่เหลือเพียงน้อยนิดคิดทบทวนอย่างเร่งรีบ ก่อนจะบอกกับตัวเองได้ว่า...อืม...ต้องเริ่มจากดูดนิ้วก่อนสินะ.......
