บ้านใหม่
“มาเถอะ!!! ได้เวลาไปรับลูกสาวกลับบ้านแล้ว!” น้ำเสียงของชายเกือบวัยสี่สิบปี ออกเสียงตื่นเต้นดังกังวานแข็งขัน เขาได้รับข่าวจากคามิล่าห์เมื่ออาทิตย์ก่อน ว่ากำลังจะเดินทางกลับมาพร้อมกับลูกสาว
โดยไร้รายละเอียดอื่นๆ อิสซา จึงอยากให้เร่งวันเร่งคืน ให้ถึงวันไปรับลูกสาวจากสนามบิน ตามเวลาที่กำหนด และเขาก็รีบพาตัวเองเข้าไปในรถยนต์ส่วนตัว ซึ่งค่อนข้างจะเปื้อนฝุ่น เปื้อนทรายพอสมควร อีกทั้งรถคันนี้ก็ค่อนข้างมีอายุมาก เพราะใช้มาตั้งแต่พ่อของอิสซายังหนุ่มๆ และตอนนี้เขากลายเป็นปู่ของเลย์ลาแล้ว
“ผมไปด้วยสิพ่อ!!!” เก๊บ ลูกชายของฮามาดิ เขาเป็นหลานชายของอิสซา และฮามาดิเป็นน้องชายคนละแม่กับอิสซา พวกเขาตื่นเต้นมาก กับการกลับมาของคามิล่าห์ และเลย์ลา ชายหนุ่มทั้งสามคนรีบเร่งเดินทางไปเพื่อสนามบิน ไปรับคามิล่าห์กับเลย์ลากลับมาบ้านเสียที
******
ตัวเครื่องบินจอดลงเทียบท่าอากาศยาน ปล่อยให้ผู้โดยสารนับร้อยเดินเท้าเข้ามาในเขตผู้โดยสารขาเข้า โดยมีเพียงเด็กสาวซึ่งสะพายกระเป๋าเป้ส่วนตัว และลากกระเป๋าเดินทางใส่เสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้ทั้งหมดมาเพียงลำพัง
แววตาเด็กสาวสีเข้ม กับผมมันเงาดำขลับ หยักศกยาวสลวยสวยงามไม่ต่างกับคามิล่าห์ กำลังมองไปรอบๆ ภายในอาคารสนามบินอเล็กซานเดรีย เธอไม่รู้เลยว่าหน้าตาของญาติและครอบครัวของแม่เป็นเช่นไร
เลย์ลาเห็นผู้โดยสารคนอื่นๆ เขาเดินเข้าไปครอบครัวพร้อมกับสวมกอด เมื่อเห็นป้ายชื่อของพวกเขาในมือ... บางทีเลย์ลาอาจจะต้องมองหาชื่อของเธอบนป้ายชื่อของใครสักคนที่กำลังมารอรับเธออยู่ที่นี่...
เก๊บกำลังจ่ายเงินจำนวนหนึ่ง เพื่อขอซื้อป้ายกระดานดำ และช็อคสีฝุ่น เขากำลังเริ่มนึกชื่อของญาติที่จากกันไปนาน แต่ก็ดันจำไม่ได้ จึงรีบถือป้ายนั้นมากับตัว พลางรีบจ้ำเท้าเดินอ้าวจนกระทั่งเดินชนกับเด็กสาวซึ่งกำลังสะพายเป้มาเพียงลำพัง โดยอีกมือกำลังลากกระเป๋าเดินทางติดมือมาด้วย
“ขอโทษนะครับ เจ็บตรงไหนรึเปล่า?” สายตาเขามองดูเธออย่างเป็นห่วง หน้าตาสละสลวยแถมมีแววตาเป็นประกาย กลับมาเดินทางในที่แห่งนี้เพียงลำพัง หรือว่าเธอกำลังพลัดหลงกับผู้ใหญ่ ภายในใจของเก๊บกำลังคิดเบาๆ
“ไม่ค่ะ ไม่เป็นอะไรค่ะ ขอโทษนะคะ” เธอกล่าวสุภาพ พลางเร่งเท้าเดินรุดหน้ามองหาญาติต่อไป... เก๊บรีบเร่งฝีเท้าไปหาพ่อซึ่งกำลังคุยกับอิสซา พวกเขากำลังมองหาคามิล่าห์อย่างใจจดใจจ่อ ว่าเธอจะพาลูกสาวมาด้วยกันสองคน
“ผมจำชื่อป้ากับลูกสาวเขาไม่ได้ ผมเลยยังไม่ได้เขียนชื่อ!” เก๊บตอบไปตามตรง ทำให้ฮามาดิ ผู้เป็นพ่อถึงกับต้องตบหัวเขาเพราะความจำสั้นของเก๊บ
“ส่งป้ายมา!!! พ่อจะเขียนเอง” ฮามาดิดึงกระดานดำออกจากมือเก๊บอย่างหัวเสีย ถ้าช้าแบบนี้ คามิล่าห์กับลูกสาวคงไม่มีทางเห็นพวกเขาแน่ๆ
“ส่งมาให้พี่เถอะ!!! พี่จะเป็นคนเขียนเอง” อิสซายื่นมือขอกระดานบอร์ดสีดำจากฮามาดิ เพื่อตัวเขาจะเป็นคนเขียนด้วยมือเขาเอง...
จากนั้นอิสซาจึงเริ่มเขียนชื่อของคามิล่าห์และเลย์ลา เท่าที่รู้ว่าจะมีใครมาถึงเมืองอเล็กซานเดรียบ้าง พวกเขาถือป้ายไว้กับตัว พลางมองหาผู้โดยสารขาเข้า กำลังเดินทางเข้ามาอย่างต่อเนื่อง...
******
เก๊บเหม่อมองดูรอบด้าน พยายามมองหาป้าคามิล่าห์ ซึ่งน่าจะยังอยู่แถวๆ นี้ พร้อมๆ กับลูกสาวของเธอ หนุ่มน้อยแอบลอบมองเด็กสาวที่เผลอเดินชน เห็นเธอกำลังนั่งอยู่ที่เก้าอี้ที่พักผู้โดยสาร และแววตาเธอกำลังมองหาอะไรบางอย่าง
เก๊บจึงแอบเดินเข้าไปหาเธอ เพราะคิดว่าเขาน่าจะช่วยอะไรเธอได้บ้าง อย่างน้อยก็ตามหาผู้ใหญ่ซึ่งอาจจะเป็นพ่อแม่ที่ผลัดหลงกัน
“นี่ ไม่มีใครมารับเธอรึ?” เก๊บเดินเข้าไปถาม เห็นเด็กสาวกำลังทำสีหน้ากลัดกลุ้ม และรอคอยการพบญาติเพียงลำพัง
“คือ... แม่ฉันบอกว่า พ่อและครอบครัวกำลังจะมารับฉันที่สนามบิน แต่... ฉันไม่มีรูปพวกเขา เลยกำลังมองหาอยู่ว่า พวกเขาจะมีชื่อฉันกับแม่รึเปล่า?” เลย์ลาตอบไปตามตรงน้ำเสียงใส เห็นว่าเด็กหนุ่มตรงหน้าคงเป็นคนมีน้ำใจ เธอเลยยอมคุยด้วย
“เธอเดินทางมาคนเดียวรึ? จากที่ไหน?” เก๊บรู้สึกสนใจเธอมาก กับการเดินทางไกลเพียงลำพังของเด็กสาวหน้าตาน่ารักสละสลวย เขาจึงนั่งลงคุยกับเธอข้างๆ
“ฉันมาจากอินโดนีเซีย ในแถบหมู่เกาะซุนดาน้อย นายรู้จักรึเปล่า?” ด้วยภาษาอียิปต์ถูกสอนด้วยคามิล่าห์ ทำให้เลย์ลากล่าวสนทนากับเขาโดยไม่มีติดขัดเรื่องภาษา อีกทั้งภาษาพื้นเมือง และภาษาสากล เลย์ลาก็ยังสามารถพูดได้สบายๆ อีกด้วย
“อ้อ... รู้จักสิ! ครอบครัวผมก็กำลังรอป้าและลูกสาวของเธอเดินทางมาจากเที่ยวบินไฟล์ทนี้น่ะ พอจะเจอคุณป้าสวยๆ ผมยาวๆ เธอเป็นคนสวยและยิ้มหวาน แถมเป็นคนจิตใจดี เห็นพ่อผมบอกแบบนั้นนะ...” เก๊บพยายามอธิบายให้เด็กสาวตรงหน้าทราบ เผื่อว่าเธออาจจะเห็นป้าและลูกสาวบ้าง
“เอ... ไม่แน่ใจนะ ว่าเคยเห็นรึเปล่า?” เลย์ลาเริ่มไม่แน่ใจว่า เขากล่าวถึงใครกันแน่ แต่จะให้ถามชื่อผู้ชายที่เพิ่งจะเจอกันไม่กี่วินาทีก็กระไรอยู่ เด็กสาวจึงไม่กล้าพูดอะไรกับเขามากนัก
“ถ้าไม่รังเกียจ...!! บอกผมหน่อยสิ ว่าเธอชื่ออะไร แล้วนี่แจ้งประชาสัมพันธ์รึยัง? ว่าจะพบใครบ้าง?” เก๊บถือโอกาสทำความรู้จักเสียหน่อย กับเพื่อนสาวที่อายุน้อย แถมหน้าตาน่ารักนิสัยดีแบบนี้ เขาก็อยากคบหาไว้บ้าง
“ฉันชื่อ เลย์ลา แล้วนายล่ะ?” เด็กสาวยิ้มแย้มแลเห็นฟันขาวเรียงตัวสวย ทำให้เก๊บรู้สึกตกใจว่า ชื่อนี้ตรงกับบนป้ายของลุง ซึ่งกำลังถือรอพบญาติที่เดินทางไกล...
“หา!!! เธอชื่อเลย์ลา และแม่ของเธอคงจะชื่อ... เอ่อ...ชื่อ คามิล่าห์ใช่มั๊ย?” เก๊บตกใจจนลืมแนะนำตัวเอง สีหน้าค่าตาของเลย์ลาพยักหน้า และยอมรับว่าเขาพูดชื่อแม่ของเธอถูก แต่ก็อดแปลกใจไม่ได้ว่า เขารู้ได้ไง...
“ผมชื่อ -เก๊บ- เราเป็นญาติกันนะ เลย์ลา ยินดีที่ได้รู้จัก ...มากับผมสิ... จะพาไปให้พ่อและลุงได้รู้จัก” เก๊บแนะนำตัวเสร็จ ก็รีบฉกมือเธอมากับเขา พลางจูงกระเป๋าล้อลากมาด้วย ทำให้เด็กสาวตั้งตัวไม่ติด
“เอ๊ะ!!! เดี๋ยวก่อนนะ... เราเป็นญาติกันรึ? แล้วนายเป็นอะไรกับพ่อฉันล่ะ?” เลย์ลารู้สึกแย่เล็กน้อยว่า หนุ่มที่กำลังสนใจ นึกว่าจะเป็นคนอื่น แต่ดันกลายเป็นญาติในครอบครัวเดียวกันเสียนี่... เลยรู้สึกเสียอารมณ์เล็กน้อยว่าจะคบหากับหนุ่มคนแรกในเมืองนี้เสียหน่อย
“มาเถอะ เราจะมีเวลาได้คุยกันอีกนานเลยล่ะ... พ่อ!!! ลุงครับ... ผมเจอเลย์ลาแล้วครับ” ระหว่างที่เก๊บกำลังบอกเลย์ลาให้ใจเย็นๆ พลางดึงเธอไปสมทบกับญาติ ไม่ทันเลย์ลาจะตอบแย้งหรือถามเรื่องราว เขาก็เรียกพ่อของเขาให้หันมาสนใจเธอ
******
“เลย์ลา!!! ลูกโตและสวยกว่าที่พ่อคิดเอาไว้นะ แล้วแม่ล่ะ? คามิล่าห์?” อิสซาสวมกอดเด็กสาวเอาไว้ในอ้อมกอดอย่างคิดถึง ไม่นึกเลยว่าเขาจะมีลูกสาวที่สวยและหน้าตาน่ารัก น้ำเสียงหวานน่าฟัง อีกทั้งรูปลักษณ์เรือนร่างก็งดงามไม่ต่างกับคามิล่าห์ ภรรยาของเขา
“คือ... แม่กำลังไม่สบายค่ะ กำลังได้รับการรักษาตัวที่โน้น เลยยังไม่สามารถเดินทางมาได้ และแม่ก็ฝากจดหมายมาให้พ่อด้วยค่ะ” เด็กสาวอมยิ้มอย่างเป็นสุข ที่ได้รู้จักกับครอบครัวตัวเอง และได้พบหน้าพ่อเป็นครั้งแรก
เลย์ลานึกว่าจะเป็นลูกกำพร้าพ่อเสียแล้ว ยังดีที่คามิล่าห์บอกว่า พ่อของเธอมีชีวิตอยู่ และอาศัยอยู่อีกซีกโลก เมื่อถึงเวลาแล้ว จะมีโอกาสได้กลับมาพบเจอกันอีก
เมื่ออิสซาได้รับจดหมายแล้ว จึงรีบแกะเปิดอ่าน ทำให้ฮามาดิได้มีโอกาสคุยกับเลย์ลาระหว่างที่อิสซากำลังอ่านจดหมาย
“หลานรักของอา, หลานหน้าตาสละสลวยเหมือนคามิล่าห์มากๆ แต่ตาคมเหมือนพี่อิสซาเลย” ฮามาดิกล่าวชมพลางยิ้มแย้มเสียหนวดของเขาเชิดสูงตามแก้มทั้งสองด้าน แววตาเขามีความสุขยิ่งนัก เมื่อได้พบหน้าหลานสาวคนนี้
“หลานได้พบกับเก๊บแล้วนะ เขาเป็นลูกของอาเอง เป็นพี่น้องกัน ดูแลซึ่งกันและกันนะ” ฮามาดิกล่าวปลอบโยนหลานสาว ซึ่งได้พบกับลูกชายของเขาครั้งแรก... และสิ่งที่เลย์ลาควรรู้อีกเรื่อง คือเธอมีพี่ชายอีกสองคน รอพบเธออยู่ที่บ้าน
“อาลืมบอกอีกเรื่องนึง... พี่อิสซามีลูกชายอีกคน และหลานก็มีลุงอีกคนนะ เขาก็มีลูกชาย เราจะคุยกันทีเดียวพร้อมหน้าพร้อมตากับปู่ซึ่งรออยู่ที่บ้านนะ หลานรัก!” ฮามาดิกำลังอยู่ในอารามดีใจที่ได้พบกับเลย์ลาครั้งแรก
ความดีใจของฮามาดิทำให้เลย์ลาไม่กล้าแย้งหรือเอ่ยแทรกใดๆ เด็กสาวฟังพวกเขาคุยกัน และกำลังรออิสซาหันมาสนใจเธออีกครั้ง หลังจากเลย์ลารออิสซาอ่านจดหมายจบ เธอยังไม่รู้เลยว่า แม่เขียนอะไรไว้ในนั้น และเลย์ลาก็อยากรู้...
******
สีหน้าของอิสซาวิตกกังวล และหันมองฮามาดิแบบไม่สบอารมณ์สู้ดีนัก เก๊บหันเหลือบมองผู้ใหญ่สองคนมองหน้า พร้อมๆ กับเลย์ลาก็รอคำสรุปจากอิสซาว่า คามิล่าห์เขียนอะไรไว้ในจดหมาย
“เอ่อ... เราอยู่ที่นี่กันมานานแล้ว รีบเดินทางกลับบ้านกันเถอะ ปู่กับลุงและหลานๆ คงกำลังรอเลย์ลาอยู่... รีบไปกันเถอะ” น้ำเสียงของอิสซาเปลี่ยนโทนเสียง นวลนุ่มและใจเย็นจนน่าแปลกใจ แทนที่จะถามหาคามิล่าห์ และควรจะตื่นเต้นกับการมาของเลย์ลา ฮามาดิรีบรุดหน้าเดินเคียงคู่กับอิสซา และคุยกันตามลำพังเพียงสองคน
เก๊บช่วยถือกระเป๋าล้อลาก และจูงมือเธอเดินมากับเขาด้วยกัน เด็กสาวจึงเดินตามหลังผู้ใหญ่ โดยมีพี่ชายคนนี้เดินตามมาด้วย จะว่าไป เขามีศักดิ์เป็นลูกน้องของพ่อเธอ ท่าทางเขาเป็นผู้ใหญ่กว่าเล็กน้อย และน่าจะอายุเยอะเสียด้วยซ้ำ
“เก๊บ... อายุเท่าไหร่แล้ว?” เลย์ลาขอโอกาสเล็กๆ ตรงนี้ถามเขาเสียหน่อย ทำให้เด็กหนุ่มตอบเธอสั้นๆ ตรงๆ
“14 จะ 15 เลย์ลาล่ะ?”
“15 แล้ว... เราอายุไม่ห่างกันเลยนะ” เลย์ลายิ้มแย้ม ดีใจที่มีน้องชายอายุไม่ห่างกันมากนัก
“เธอมีพี่ชายสองคนนะ... เอาไว้แนะนำตัวกับพวกเขาก็แล้วกัน คนนึงเป็นลูกของลุง และอีกคนนึงเป็นพี่ชายแท้ๆ ของเธอนะ เลย์ลา...” เก๊บพูดน้ำเสียงราบเรียบ ราวกับไม่อยากให้รู้จักเป็นพิเศษ นอกจากอยากอยู่กับเธอในเวลานี้ให้มากที่สุด
“ฉันมีพี่ชายอีกคนอยู่ที่นี่... ดีใจจังเลย นึกว่าฉันจะไม่มีญาติหรือครอบครัวเสียแล้ว”
“แล้วทำไมป้าคามิล่าห์ถึงไม่มาด้วยล่ะ น่าจะมารักษาตัวที่นี่นะ” เก๊บถามด้วยความสงสัย
“แม่มีเงินจำกัดมาก คงจะตั้งใจให้ฉันกลับมาก่อน ถ้าแม่เห็นว่ากลับมาได้ ก็คงจะตามมาทีหลัง แม่สัญญากับฉันไว้แล้ว...นายเคยเจอแม่ฉันรึเปล่า?” เลย์ลาบอกกับเก๊บด้วยความมั่นใจว่า เธอจะต้องรีบมาแน่ๆ
“เคยนะ แต่นั้นก็นานมากแล้ว... มันเป็นช่วงเวลาสั้นๆ น่ะ” เก๊บตอบรวบรัด และจะต้องรีบเดินเอากระเป๋ามาเก็บที่ท้ายรถ และเชิญให้เลย์ลานั่งเบาะหลัง ในขณะที่ฮามาดิกับอิสซา นั่งส่วนคนขับรถ และที่นั่งตอนหน้า...
ชายสูงอายุทั้งสองนั่งเงียบและเร่งรีบเดินทางกลับมาบ้านทันที ฮามาดิค่อนข้างกลัดกลุ้มพอสมควร เมื่อรู้ความจากอิสซา เนื้อความในจดหมายทำให้พวกเขาไม่สบายใจนักเรื่องของคามิล่าห์ แต่ตอนนี้พวกเขาได้รับตัวเลย์ลากลับมาอยู่บ้านแล้ว อิสซาตั้งใจว่าจะดูแลเธอให้ดีที่สุด เพื่อมิให้คามิล่าห์ผิดหวัง
******
