ซ่อนเสน่หาภรรยาเด็ก

69.0K · จบแล้ว
จินต์พิชา
36
บท
1.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เมื่อ 'เนสิตา' หญิงสาวผู้มั่นใจและกล้าหาญกลับมายังเมืองไทยหลังบิดาเสียชีวิต โชคชะตาก็นำพาเธอให้พบกับ 'ฐากูร' เจ้าของไร่องุ่นผู้เย็นชา เธอตั้งใจจะใช้เสน่ห์ทุกอย่างที่มีเพื่อพิชิตหัวใจเขาให้ได้ก่อนกลับไปเรียนที่กรุงเทพฯ แต่สิ่งที่เริ่มต้นจากการยั่วยวนและการแบล็กเมล์เล็กๆ กลับนำพาไปสู่ความสัมพันธ์อันลึกซึ้งและร้อนแรงที่เต็มไปด้วยความลับ ความหึงหวง และความปรารถนาที่ซ่อนเร้น ความรักที่แท้จริงจะก่อกำเนิดขึ้นได้หรือไม่

นิยายรักวัยรุ่นนักศึกษาฟินๆสัญญาทางรักรักหวานๆเจ้าเล่ห์21+18+

1 ปิดเทอมที่ไม่ได้พัก

“เฮ้อ....เสร็จซะที” เนสิตาหญิงสาวลูกครึ่งไทย-อิตาลีวัยสิบเก้าปีถอนหายใจเฮือกใหญ่หลังจากล้างจากกองโตเสร็จในเวลาเกือบจะสี่ทุ่ม

“วันนี้ลูกค้าเยอะมาก ขอบใจนะเนสที่ช่วยพี่ล้างจาน ถ้างั้นพี่คงล้างคนเดียวถึงห้าทุ่มแน่” มาลีหญิงสาววัยยี่สิบห้าพูดขณะคว่ำจานใบสุดท้ายลงบนชั้น

“ไม่เป็นไรค่ะพี่มาลี แล้วนี่พี่ลูกปลาจะมาทำงานเมื่อไหร่คะ” เนสิตาหมายถึงลูกปลาพนักงานอีกคนของทางร้านที่ไม่สบายและลางานไปหลายวันแล้ว

“ที่ถามถึงพี่ลูกปลานี่เพราะคิดถึงหรือเพราะเหนื่อยที่ต้องมาช่วยงานกันล่ะหนูเนส” น้ามาลีแม่ครัวถามเนสิตาลูกสาวเจ้าของร้าน

“ก็ทั้งสองอย่างค่ะน้ามาลี”

“เมื่อตอนบ่ายลูกปลาเขาโทรมาบอกว่าจะขอหยุดอีกสองวัน ช่วงนี้ทุกคนก็เหนื่อยกันหน่อยนะ” คุณนีรนุชบอกกับพนักงานของร้านทั้งสามคนและลูกสาวที่มาช่วยงานร้านอาหารในช่วงปิดเทอม

“แบบนี้แม่ต้องให้ค่าจ้างพวกเราเพิ่มนะคะ”

“แน่นอนแม่จะให้ค่าเหนื่อยทุกคนเพิ่ม แต่คืนนี้ไปพักกันก่อนเถอะพรุ่งนี้เรายังต้องทำงานกันอีก”

“พี่นุชคะ พรุ่งนี้เป็นเวรของลูกปลาไปซื้อของพี่นุชจะให้มาลีไปซื้อแทนไหมคะ”

“ไม่เป็นไรพรุ่งนี้พี่จะไปเองจ้ะ จะพาเจสไปดูด้วยว่าอะไรต้องซื้อตรงไหน”

“ได้ค่ะ มาลีไปก่อนนะคะ”

“ขี่รถดีๆ นะพี่มาลี”

“ขอบใจนะเนส”

“เหมียวก็ขอกลับก่อนนะคะพี่นุช”

“ขอบใจมากนะเหมียวที่อยู่ช่วยจนเก็บร้าน” ที่นีรนุชพูดแบบนี้เพราะปกติแล้วเหมียวจะมีหน้าที่ช่วยเธอทำอาหารในครัวและไม่จำเป็นต้องช่วยเก็บกวาดร้านแต่งวันนี้เธออยู่ช่วยจนร้านปิด

“ไม่เป็นไรค่ะพี่นุช เราไม่ได้ยุ่งแบบนี้ทุกวันสักหน่อย วันไหนยุ่งก็ต้องช่วยกันไปล่ะ พรุ่งนี้เจอกันค่ะ”

“พรุ่งนี้เนสจะซื้อขนมในตลาดมาฝากนะคะน้าเหมียว”

“ขอบใจจ้ะหนูเนส น้าไปก่อนนะ”

เมื่อพนักงานทุกคนกลับไปแล้วนีรนุชและเนสิตาก็ปิดประตูกระจกหน้าร้านก่อนจะดึงประตูเหล็กแบบม้วนลงมาจากนั้นก็ล็อกอีกทีก่อนจะพากันเดินไปยังรถกระบะที่จอดอยู่ด้านหน้าร้าน

“แม่คะแวะเซเว่นหน่อยได้ไหม” เนสิตาบอกมารดาเมื่อรถใกล้จะถึงร้านสะดวกซื้อหน้าปากซอยเข้าบ้าน

“หิวเหรอลูก”

“เปล่าค่ะแม่ เนสจะซื้อครีมทาผิวค่ะ ขวดที่เอามาจากหอมันหมดแล้วค่ะ”

“ได้สิ ไหนๆ ก็แวะแม่ฝากซื้อเบียร์ให้หน่อยนะ”

“นึกยังไงถึงจะกินเบียร์ล่ะแม่”

“วันนี้มันเหนื่อยน่ะลูกแม่อยากหาอะไรเย็นๆ กินหน่อยจะได้หลับสบาย”

“เอากี่กระป๋องคะแม่”

“แค่กระป๋องเดียวก็พอแล้วหนูล่ะเอาด้วยไหม”

“ก็ได้ค่ะ นานแล้วที่เราไม่ได้กินเบียร์ด้วยกันแม่รอแป๊บนะคะเดี๋ยวหนูมาค่ะ” เนสิตาหยิบธนบัตรใช้เก็บของหน้ารถก่อนจะลงไปยังร้านสะดวกซื้อ

หญิงสาวได้ครีมทาผิวแล้วจากนั้นก็เดินไปหยิบเบียร์มาอีกสองกระป๋องก่อนจะเดินมาชำระเงินที่หน้าเคาน์เตอร์ พนักงานมองหน้าเธอแล้วยิ้มก่อนพูดขึ้น

“ขอดูบัตรประชาชนด้วยค่ะ”

“ต้องใช้ด้วยเหรอคะ” หญิงสาวเพิ่งเคยมาซื้อเบียร์เป็นครั้งแรกมองหน้าพนักงานอย่างสงสัย

“ค่ะ เราต้องดูก่อนว่าน้องอายุถึงสิบแปดปีหรือยัง”

“เอาแค่รูปบัตรได้ไหมคะบัตรตัวจริงของหนูอยู่ในรถค่ะ” เนสิตาเอารูปบัตรประชาชนที่ตนเองเก็บไว้ในโทรศัพท์ให้กับพนักงานดู

“ได้ค่ะ”

“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวจ่ายเงินแล้วเดินกลับมาที่รถ

“นานเลยนะเนส มีอะไรหรือเปล่า”

“เขาขอดูบัตรประชาชนค่ะแม่ หนูก็เลยเอารูปบัตรในโทรศัพท์ให้เขาดูค่ะ หนูเพิ่งรู้ว่าที่นี่เขาขอดูบัตรด้วย”

“ก็หน้าลูกสาวแม่ยังดูเหมือนอายุไม่ถึงสิบแปดเขาก็เลยขอดูไงล่ะ” นีรนุชพูดกับลูกสาวก่อนจะขับรถกลับ

บ้านของพวกเธออยู่ห่างจากร้านอาหารไม่ไกลเท่าไหร่ใช้เวลาขับรถไม่ถึงสิบนาทีด้วยซ้ำ

ตั้งแต่สามีเสียชีวิตเมื่อปีก่อนนีรนุชก็ตัดสินใจพาลูกสาวกลับมายังบ้านเกิดของตัวเองที่จังหวัดนครราชสีมาเธอใช้เงินหนึ่งในสามที่ได้จากประกันชีวิตของสามีมาลงทุนเปิดร้านอาหารโดยเช่าด้านล่างของตึกสองคูหาแห่งหนึ่ง

ร้านอาหารของเปิดตั้งแต่ 10.00 น.-14.00 น. ซึ่งในช่วงกลางวันจะมีอาหารตามสั่งพวกข้าวผัดและผัดกะเพราเสริมจากอาหารพวกสเต๊กและพาสต้าอีกด้วย ส่วนช่วงเย็นเปิดตั้งแต่ 16.30 น.-21.00 น. ซึ่งช่วงนี้จะเน้นไปทางอาหารอิตาลี

“เหนื่อยหน่อยนะเนส ช่วงนี้คนเราไม่พอ หนูกลับมาพักผ่อนช่วงปิดเทอมแท้ๆ แต่ยังต้องมาช่วยแม่ทำงาน”

“ไม่เป็นไรค่ะแม่ ก็นี่เป็นร้านของเรานี่คะ เราก็ต้องช่วยกันค่ะ” หญิงสาวนั่งลงข้างมารดาในห้องรับแขกก่อนจะเปิดกระป๋องเบียร์ส่งให้

“หนูเป็นเด็กดีมากเลยรู้ไหมเนส แม่ดีใจนะที่หนูเกิดมาเป็นลูกแม่” นีรนุชหันมามองลูกสาวด้วยแววตาอ่อนโยน

“แต่วันนี้หนูรับออเดอร์ผิดทำให้ลูกค้าบ่น”

“ไม่เป็นไรนะลูก ของแบบนี้มันต้องค่อยๆ เรียนรู้ไป หนูไม่เคยทำงานแบบนี้มาก่อนมันก็ต้องพลาดกันบ้าง”

“แม่คะหนูคิดถึงพ่อค่ะ ถ้าพ่อยังอยู่แม่คงไม่ต้องเหนื่อยแบบนี้”

“แม่เองก็คิดถึงพ่อเหมือนกัน” เธอพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือความเสียใจจากการจากไปอย่างกะทันหันของสามียังคงเกาะกุมจิตใจของเธอ

“แม่คะ หนูไม่เรียนต่อก็ได้หนูอยากจะช่วยแม่ที่ร้าน”

“นั้นไม่ใช่สิ่งแม่ต้องการ อันที่จริงพ่อเขาก็ทิ้งเงินประกันไว้เรามากพอที่จะอยู่กันได้อย่างสบาย แต่ที่มาเปิดร้านเพราะอยากให้เงินที่ได้มันงอกเลยและแม่ก็ไม่อยากจะอยู่เฉยๆ”

“หนูรักแม่นะคะ และก็ขอบคุณที่ทำเพื่อหนู หนูสัญญาค่ะว่าจะตั้งใจเรียนค่ะ” เนสิตาขยับเข้ามานั่งข้างมารดาแล้วกอดไว้แน่น เธอวางคางเกยไหล่แม่

“แม่ก็รักหนูจ้ะ เด็กดีของแม่ตอนนี้เราเหลือกันแค่สองคนแล้วนะลูก เราต้องรักกันให้มากๆ นะ” นีรนุชลูบบนศีรษะลูกสาวเบาๆ ตอนนี้เนสิตาคือสิ่งเดียวที่ทำให้เธอมีความสุขและเธอจะทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกสาวมีความสุขแม้จะต้องทำหน้าที่ทั้งพ่อและแม่ก็ตาม