ดูตัว
“นายจะบ้าหรือไงฉันคุ้นกับเธอจริงๆ”
กวินรีบปฏิเสธเสียงดังว่าเขาไม่ได้ตั้งใจจีบเลขาของเพื่อนที่เขาพูดเขารู้สึกเช่นนั้นจริงๆ
“ฉันกอบัวยินดีที่ได้รู้จักนะคะ”
“กอบัว..คุณเป็นน้องสาวของกอแก้วหรือเปล่า”
ยิ่งได้ยินชื่อของหญิงสาวที่พึ่งแนะนำตัวกวินก็ยิ่งแน่ใจไปกว่าครึ่งว่าคนตรงหน้าท่าจะรู้จักกับคนที่เขาคุ้นเคยเพราะเขาเคยได้ยินชื่อนี้มาบ้างเมื่อตอนที่รู้จักกับกอแก้ว
“รู้จักพี่สาวของฉันด้วยหรอคะ”
“ฉันขอคุยกับเลขานายสักเดี๋ยว”
เมื่อได้คำตอบจากกอบัวกวินรีบขอตัวกอบัวออกไปคุยกันข้างนอกด้วยท่าทีดีอกดีใจ
ช่วงหัวค่ำสองสาวกอแก้วและกอบัวช่วยกันนั่งแพ็คคุ้กกี้ที่กอแก้วอบเอาไว้จนเริ่มเย็นใส่ห่อเพื่อเอาไว้ไปส่งที่ร้านกาแฟในช่วงเช้าโดยมียัยหนูพารักง่วนอยู่กับการแทะคุ้กกี้ที่พื้นไม่ไกลนัก
“กี้..กี้..หร่อยย..”
เจ้าก้อนกลมนั่งแทะคุ้กกี้เคี้ยวหมุบหมับส่งเสียงชอบอกชอบใจเสียงดังจนทั้งป้าและแม่ต่างก็อมยิ้มไปตามๆกัน
“ยัยหนูการันตีขนาดนี้งานนี้คุ้กกี้ป้าคงขายดีแน่เลย”
“ดี..ดี”
ยัยหนูพารักพยักหน้าหงึกหงักพูดตามคนเป็นป้าก่อนจะก้มกัดขนมในมือเคี้ยวตุ้ยดูท่าก่อนนอนคงจะทานนมได้น้อยเพราะได้ขนมเข้าท้องไปจนอิ่มแล้ว
"บัวเจอคนรู้จักพี่แก้วด้วยนะคะ"
กอบัวไม่ลืมที่จะเล่าเรื่องที่เธอพึ่งรับรู้มาจากกวินเมื่อกลางวัน
"ใครหรอ"
"พี่หมอวินค่ะเค้าบอกว่ารู้จักกับพี่แก้วก่อนที่จะไปเรียนเมืองนอก"
จากมือที่แพ็คคุกกี้ด้วยความรวดเร็วกลับหยุดชะงักลงเมื่อกอแก้วได้ยินชื่อของกวินชื่อที่เธอไม่อยากจะได้ยินมันสักเท่าไร
"ร..หรอ..เค้าสบายดีใช่หรือเปล่า"
"ค่ะ...เค้าเป็นเพื่อนเจ้านายบัวเองโลกกลมนะคะ"
"อืม.."
"ตอนแรกบัวก็ว่าคุ้นหน้าพี่หมอที่ไหนที่แท้ก็ผู้ชายที่ถ่ายรูปคู่กับพี่แก้วตอนเรียนมหาลัย..จริงสิพี่แก้วกับพี่หมอเรียนคนละรุ่นแถมยังคนละคณะรู้จักกันได้ยังไงคะ"
กอบัวรู้มาจากกวินว่าชายหนุ่มนั้นรู้จักกับพี่สาวของเธอในช่วงที่เรียนมหาลัยและก็รู้มาอีกว่าเขานั้นอยู่คนละรุ่นแถมคนละคณะแต่ไม่รู้ว่ารู้จักกันตอนไหนครั้นจะถามเรื่องราวให้มากขึ้นในตอนนั้นเจ้านายของเธอก็เรียกให้เข้าไปทำงานเสียก่อนจึงเก็บความคาใจนี้มาถามกับพี่สาวของเธอ
"ก็..ผ่านเพื่อนอีกทีน่ะ...บัวไปซื้อถุงใส่คุ้กกี้ที่ร้านป้าแจ่มให้พี่ทีสิมันจะหมดแล้ว"
"ได้ค่ะ"
กอบัววิ่งออกจากห้องครัวไปได้กอแก้วก็นั่งหน้าเจื่อนพยายามปั้นอารมณ์ให้เป็นปกติเธอไม่อยากพูดถึงเรื่องเธอกับกวินอีกแม้แต่กับน้องสาวตัวเอง
สามวันต่อมา
ณ ร้านอาหารหรูไม่ไกลจากบริษัทของข้ามภพมากนักชายหนุ่มเข้ามาที่นี่ในช่วงกลางวันหลังจากคนเป็นพ่อโทรหาบอกว่าอยากจะทานอาหารกลางวันด้วยกันสักมื้อ
"ทำไมอยากทานข้าวกับผม"
ข้ามภพเข้ามานั่งตรงข้ามกับเปรมเขาเอ่ยทักทายคนเป็นพ่อด้วยสีหน้าเรียบเฉย
"พ่อแวะมาแถวนี้พอดีอยากทานข้าวกลางวันด้วยเราไม่เจอกันนานเลยสบายดีหรือเปล่า"
เปรมเปรยยิ้มอ่อนนานๆครั้งจะเจอลูกชายสักทีแต่ดูท่าแล้วลูกของเขาจะไม่ได้มีอาการคิดถึงเขาเท่าไรเลย
"ครับ..ก็ดี"
ทั้งสองคุยถามไถ่เรื่องความเป็นอยู่ครู่ใหญ่จนทานข้าวจนอิ่มเปรมจึงเริ่มหาเรื่องคุยต่อเพราะเขาไม่อยากให้ลูกชายกลับไปตอนนี้
"งานของเราล่ะเป็นยังไงบ้าง"
"ก็กำลังไปได้สวยครับ...แล้วคุณพ่อล่ะครับเห็นวินบอกว่าคุณพ่อเข้าออกโรงพยาบาลบ่อยๆ"
สายตาของข้ามภพตอนนี้ดูจะอ่อนลงเล็กน้อยเมื่อพูดถึงสุขภาพของพ่อตนเขามองออกตั้งแต่เดินเข้ามาในร้านว่าพ่อของเขาซูบผอมโทรมลงมาก
"ก็โรคคนแก่นั่นแหละ..ไม่ได้เป็นอะไรมากนักหรอก"
"อย่างนั้นก็ดีครับ...ผมอิ่มแล้วขอตัวกลับก่อนนะครับมีงานต้องทำอีกเยอะ"
เปรมเอ่ยยื้อข้ามภพขณะที่เขากำลังจะลุกออกจากโต๊ะไป
"เดี๋ยว..พอดีพ่อนัดหนูนิดาลูกอาบรรจงเอาไว้เราอยู่รอน้องก่อนสิ"
"อืม..ถ้าผมเข้าใจไม่ผิดคงเป็นการดูตัว...และผมก็ไม่ชอบวิธีนี้"
ข้ามภพหย่อนก้นลงนั่งที่เดิมก่อนจะเริ่มมีอาการขุ่นเคืองคนเป็นพ่อเล็กน้อยคราแรกคิดว่าพ่อตนจะอยากเจอตนเท่านั้นแต่เมื่อมีเรื่องอื่นแอบแฝงมาด้วยเขาจึงรู้สึกไม่พอใจเอามาก
ยังไม่ทันที่ข้ามภพจะขอตัวลุกออกจากโต๊ะอาหารอีกรอบนิดาสาวสวยไฮโซลูกสาวนักธุรกิจพันล้านลูกของบรรจงเพื่อนรักของเปรมก็เดินเข้ามาทักทายทั้งสองด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
"คุณลุง..พี่ภพสวัสดีค่ะ"
นิดาจ้องมองข้ามภพตาเป็นประกายเธอเคยเจอเขาตามงานสัมนาบ้างบางครั้งแต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้ทักทายเมื่อถูกเชิญจากเปรมให้มาทำความรู้จักข้ามภพจริงจังเธอจึงไม่คิดที่จะปรฏิเสธด้วยพอใจในตัวชายหนุ่มอยู่ไม่น้อย
"สวัสดีครับ...ผมขอตัวก่อนนะครับมีงานอีกเยอะ"
ข้ามภพฝืนยิ้มอ่อนทักทายหญิงสาวเพื่อไม่เป็นการหักหน้าคนเป็นพ่อมากเกินไปหลังจากนั้นเขาจึงหันหลังเดินออกนอกร้านอาการไปโดยที่ไม่สนคำเรียกของใครอีก
"ภพ...เอ่อ..วันนี้พี่เค้ายุ่งหน่อยนะหนูนิดาอย่าถือสาพี่เค้าเลย"
“อ่อ..นิดาเข้าใจค่ะ”
เปรมมองตามหลังลูกชายด้วยแววตาอ่อนใจเขาอยากจะเห็นข้ามภพเป็นฝั่งเป็นฝาจึงคิดวิธีจับคู่คนที่เหมาะสมให้รู้ว่าข้ามภพคงไม่พอใจแต่จะทำอย่างไรได้เพราะเขารู้ตัวว่าตัวเองอยู่ได้อีกไม่กี่ปีจึงอยากที่จะหมดห่วง
ในบริษัทช่วงเกือบบ่ายวันนี้ทุกคนวิ่งวุ่นอยู่กับการเตรียมตัวเพื่อที่จะขนของไปถ่ายโฆษณาที่กระบี่
“พี่นนนี่...นายแบบกับนางแบบที่เรานัดเอาไว้ถึงกระบี่แล้วนะคะ”
“โอเค..จะได้หมดห่วงไปหนึ่งเรื่อง”
นนนี่ยืนเท้าเอวปาดเหงื่อพอจะโล่งใจได้เมื่อนัตตี้คอนเฟริมแล้วว่านางแบบนายแบบที่นัดเอาไว้ถึงที่หมายแล้ว
“พี่นนนี่ให้บัวช่วยอะไรหรือเปล่าคะ”
กอบัวเสร็จจากงานเอกสารที่เตรียมไว้ให้ข้ามภพเซ็นเรียบร้อยแล้วจึงเข้ามาช่วยงานนนนี่เพราะไม่อยากทำตัวให้ว่าง
“ช่วยพี่เอาเสื้อผ้าใส่กล่อง..ห้ามทำอะไรเสียหายเด็ดขาดไม่อย่างนั้นจะหาว่าพี่ใจร้ายไม่ได้”
นนนี่ชี้ไปที่ราวผ้าที่แขวนชุดจัดเซ็ทเอาไว้เรียบร้อยให้กอบัวรวบใส่กล่องก่อนจะกำชับกับเลขาสาวไม่ให้ทำอะไรเสียหายเพราะกลัวว่าตนจะต้องมานั่งแก้งานเช่นครั้งที่เจอหน้ากันอีก
“ค่ะ..บัวไม่ทำของเสียหายแน่นอนค่ะ”
“บัวละมือก่อน..”
กอบัววางเสื้อผ้าลงกล่องได้ก็ต้องรับหันมาหาพิมลดาที่เดินหน้าตาตื่นมาเรียกเธอ
“ทำไมคะ”
“รีบไปดูบอสเถอะอาละวาดเสียงดังไปทั่วห้องแล้ว”
นี่คือสาเหตุที่พิมลดารีบมาตามกอบัวกลับไปดูข้ามภพเพราะตั้งแต่กลับมาจากข้างนอกประธานหนุ่มก็เอาแต่อาละวาดเสียงดังในห้องไม่หยุด
