บทย่อ
เขาและเธอถูกสั่งให้แต่งงานกัน มันคือธุรกิจ ปราศจากซึ่งความรัก เขาตกลงกับเธอว่าจะไม่รักกัน ทว่า...เธอจะต้องทำหน้าที่เมียให้ได้อย่างดี โดยเฉพาะเรื่องบนเตียง! "ฉันยอมแต่งงานกับคุณเพราะขัดคำสั่งป๊าไม่ได้" "ผมก็เหมือนกัน" "เราจะไม่รักกัน" "ดี...เพราะผมก็จะไม่รักคุณ" "ฉันไม่หวังให้คุณเป็นสามีที่ดี ขอแค่อย่าสร้างปัญหาให้ฉันก็พอ คิดว่าคงทำได้นะ" "แต่ผมคาดหวังให้คุณทำหน้าที่เมียอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง โดยเฉพาะเรื่องบนเตียง" "?!!!" "คิดว่าคงทำได้นะ เพราะคุณเคยบอกว่าคุณเก่งเรื่องนั้นมาก...หรือว่าก็แค่โม้ไปงั้นๆ?"
บทนำ
บทนำ
บ้านภิรมย์รักษ์ : 00.09 AM
“ต่อจากนี้ไป...ดูแลกันให้ดีนะลูก คนเราอยู่ด้วยกันก็ต้องมีกระทบกระทั่งกันบ้าง แต่ก็ต้องอดทนและให้อภัยกัน...ถึงจะอยู่ด้วยกันได้อย่างตลอดรอดฝั่ง แม่ให้ได้เพียงคำสอนและคำอวยพร มันเป็นแค่ทฤษฎี...สุดท้ายแล้วลูกทั้งสองก็ต้องลงมือปฏิบัติกันเอง”
ชมจันทร์ ผู้เป็นมารดาของฝ่ายชาย ได้เอ่ยกับเจ้าบ่าวและเจ้าสาว ขณะที่พิธีการแต่งงานได้มาถึงขั้นตอนสุดท้าย นั่นคือการส่งตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวเข้าห้องหอ นาฬิกาบอกเวลาเที่ยงคืนเก้านาที อินทร์ ผู้ซึ่งเป็นบิดาของเจ้าบ่าว ก็เดินเข้ามาโอบไหล่ของภรรยาให้ยืนขึ้น
“ไปกันเถอะคุณ ให้เจ้าบ่าวกับเจ้าสาวได้พักบ้าง เราอวยพรกันมากมายจนไม่รู้จะอวยพรยังไงแล้ว”
“ค่ะ” ชมจันทร์รับคำ ก่อนที่จะพากันเดินออกไปจากห้องหอ หลังจากนั้น ศิระ ก็เดินเข้ามา
“ฉันพูดในสิ่งที่อยากพูดไปหมดแล้ว หลังจากนี้...ก็ได้แต่รอดูว่าแกจะรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับฉันได้ไหม”
“ตาวจะไม่ทำให้ป๊าผิดหวัง” ตระการตาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
“ฉันจะรอดู” แล้วผู้เป็นพ่อก็เดินออกไป ไร้ซึ่งคำสอน ไร้ซึ่งคำอวยพรใดๆ และเมื่อประตูห้องหอได้ปิดลง เหลือเพียงเจ้าบ่าวและเจ้าสาว มือที่เคยกอบกุมก็ปล่อยออกจากกันทันที
“ผมว่าเรามีเรื่องต้องคุยกันยาวเลยนะ” คุณหมออคิราห์เอ่ยขึ้น ขณะที่กำลังถอดสูทตัวนอก
“ฉันเหนื่อย ทั้งเหนื่อย ทั้งหิว ตอนนี้ไม่มีอารมณ์จะทะเลาะกับคุณ” ตระการตามองหน้าร่างสูงตรงหน้า ก่อนที่จะเดินไปที่ประตูห้อง แต่ยังไม่ทันได้เปิดประตู ชายหนุ่มก็เข้ามาคว้าเอวของเธอเอาไว้เสียก่อน
“ออกไปไม่ได้ครับ”
“อะไรของคุณ? ปล่อยฉันนะ!”
“ผมบอกตอนไหนว่าจะทะเลาะด้วย? ผมแค่บอกว่าเรามีเรื่องต้องคุยกันยาว ทั้งเรื่องไอ้ฟาโรห์! แล้วก็เรื่องกอหญ้า...”
“เหอะ! กอหญ้าเมียเก่าคุณน่ะเหรอ? ทำไมไม่บอกฉันว่ายัยนั่นจะมางานแต่งเรา?!”
“ทีคุณยังไม่บอกผมเลยว่าเชิญฟาโรห์มาด้วย!”
“จะสนใจทำไม? นี่มันเป็นงานแต่งจริงๆหรือไง? มีใครบ้างที่ไม่รู้ว่างานแต่งงานนี้มันจอมปลอม! มันเป็นแค่เรื่องธุรกิจ!”
“ทุกคนครับ! นอกจากเราสองคน...พวกเขาทั้งหมดเชื่อว่างานนี้มันเป็นเรื่องจริง! พวกเราคิดว่าเรารักกันจริงๆ แต่คุณกลับไปกอดกับผู้ชายคนอื่นต่อหน้าเจ้าบ่าว! ถามจริง...ทำไปได้ยังไง?!” อคิราห์ยังเดือดดาลไม่หายที่เห็นตระการตากอดกับฟาโรห์
“คนที่เอาเมียเก่ามางานแต่งงานอย่างคุณ...ไม่น่ามาพูดอะไรแบบนี้นะ! คนที่ไม่รักษาสัญญาอย่างคุณ! ไม่น่าทำเหมือนว่าโกรธฉันจะเป็นจะตายแบบนี้!” ตระการตาเองก็ไม่พอใจเขา ไม่พอใจอยู่หลายเรื่อง ทั้งเรื่องที่เธอได้เจอกอหญ้าในงานนี้ และเรื่อง...ที่เธอต้องมาเข้าหอในบ้านของเขา
“ผมไม่รักษาสัญญาอะไรครับ?”
“ถามมาได้! ไหนคุณบอกว่าเราจะได้ไปอยู่ที่เพนท์เฮาส์กันไง? นี่อะไร? ฉันต้องมาอยู่ร่วมบ้านกับพ่อแม่คุณเหรอ?” ตระการตาถลึงตามองเจ้าบ่าวของเธอไม่วางตา
“เพนท์เฮาส์ยังตกแต่งไม่เสร็จ...ช่วงนี้เราต้องอยู่ที่นี่กันไปก่อน ถามจริง...นี่เราจะทะเลาะกันเรื่องอะไรกันแน่? เรื่องห้องหอ? เรื่องผู้ชายในสต๊อกของคุณ? หรือเรื่องกอหญ้า?” ที่จริงแล้ว ที่ทั้งสองเอาแต่กวนประสาทและชวนทะเลาะกัน มันเป็นเพราะชายหนุ่มไม่พอใจเรื่องที่วันนี้เขาได้เผชิญหน้ากับบุคคลที่กวนใจเขาถึงสามคนด้วยกัน นั่นคือ...แมทธิว ฟาโรห์และน่านฟ้า
“ปล่อยฉัน...” ส่วนบุคคลที่กวนใจตระการตา มีเพียงหนึ่งเดียว นั่นคือกอหญ้า และยิ่งเธอพยายามดิ้น เขาก็ยิ่งโอบกอดเธอแน่นกว่าเดิม
“หรือเพราะคุณโมโหหิว?”
“ฉันจะกลับไปนอนที่คอนโด! ปล่อยฉัน! ฉันบอกให้ปล่อยไง!”
“ก็บอกแล้วไงว่าคืนนี้เราสองคนออกไปจากห้องหอไม่ได้...คุณอย่าดื้อได้ไหม? เลิกทำตัวงี่เง่าเป็นเด็กๆสักทีเถอะตาว”
“จะถือเคล็ดถือธรรมเนียมไปเพื่ออะไร? ในเมื่องานแต่งงานนี้มันไม่ใช่เรื่องจริง! ปล่อยฉัน...คุณหมอ”
“ใช่ครับ เราแต่งงานกันปลอมๆ แต่ถ้าคุณออกไปจากห้องนี้ แม่ผมก็ต้องรู้ คุณรอหน่อยไม่ได้หรือไง? เดี๋ยวผมให้เด็กเอาของกินมาให้ อย่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่เลย แม่ผมเข้าใจว่าเรารักกัน ถึงมันจะเริ่มต้นด้วยเรื่องของธุรกิจ แต่เราสองคนก็ร่วมมือกันสร้างเรื่องโกหกขึ้นมา ผมว่าเราคุยเรื่องนี้กันไปแล้วนะ” อคิราห์พยายามใช้เหตุผล
“คนที่ไม่ยอมทำตามสัญญาอย่างคุณไม่น่าพูดเรื่องนี้นะ! ฉันทำตามสัญญาทุกอย่าง! คุณอยากให้ฉันยิ้ม อยากให้ฉันแสดงละครว่าเรารักกัน ฉันก็ทำ! มีแต่คุณนั่นแหละที่ไม่ทำอะไรเลย! คุณบอกว่าทันทีที่แต่งงานเราจะย้ายไปอยู่เพนท์เฮาส์! แต่คุณกลับให้ฉันมาอยู่ที่นี่! ฉันต้องการความเป็นส่วนตัว! ถ้าต้องมาอยู่ร่วมบ้านกับพ่อแม่คุณแล้วมันจะเป็นส่วนตัวได้ยังไง?! แล้วอะไรอีก?! ทำไมคุณปล่อยให้เมียเก่าคุณมางานแต่งเรา?! พรุ่งนี้นักข่าวได้เล่นข่าวนี้แน่” ตระการตาตะโกนเสียงดังด้วยความโมโห
“ตาว! พูดให้มันเบาๆหน่อย ผมไม่อยากให้คนข้างนอกได้ยิน”
“ก็ฉันโมโห! ทั้งโมโหหิวแล้วก็โมโหคุณ! เวลาโมโหก็ชอบพูดเสียงดังแบบนี้แหละ! ถ้าคุณกลัวว่าพ่อแม่คุณจะมาได้ยิน...ก็ย้ายไปอยู่ข้างนอกสิ! ถ้าเพนท์เฮาส์ยังตกแต่งแต่งไม่เสร็จ ก็ไปอยู่คอนโดฉันก่อนก็ได้!”
“ไม่! คุณจะต้องอยู่ที่นี่กับผมจนกว่าเพนท์เฮาส์จะตกแต่งเสร็จ แล้วคุณก็ไม่มีสิทธิ์โกรธที่กอหญ้ามางานแต่งเรา เพราะทีไอ้ฟาโรห์กับน่านฟ้ายังมาได้เลย ไอ้แมทธิวนั่นอีก! แฟนเก่าที่ไปแต่งงานกับลูกสาวแม่เลี้ยงคุณไง! ของผมมีแค่กอหญ้าคนเดียว...แล้วต้องให้บอกกี่ครั้งว่าผมกับกอหญ้าเราจบกันแล้ว! คุณต่างหากที่ต้องอธิบาย...ว่าไอ้ที่บอกว่า ‘คนรู้ใจ’ มันคืออะไร?!”
“ทำไมฉันต้องอธิบาย?! คนรู้ใจก็คือคนรู้ใจ มันตรงตัวทุกอย่าง...”
“ตาว!!!”
“อย่ามาตะคอกใส่ฉันแบบนี้นะ! ถามจริงคุณมาหาเรื่องทะเลาะกับฉันทำไม?! ทำตามที่สัญญามาเดี๋ยวนี้เลย! พาฉันไปที่เพนท์เฮาส์เดี๋ยวนี้! ต่อให้มันจะไม่ยังตกแต่งไม่เสร็จ...ต่อให้ฉันจะเป็นแค่ห้องเปล่า ฉันก็จะไปอยู่ที่นี่! เพราะคุณสัญญาไว้ละ...อื้อ!!!” เสียงโวยวายหายไปในลำคอ เมื่ออคิราห์ประกบปากอวบอิ่มนั้นไว้ด้วยจูบอันหนักหน่วง
ฮึก!
“โวยวายอีกสิ...ตะโกนให้ดังๆเลย ผมจะได้จูบคุณอีก”
เพี้ยะ!!!
แล้วมือเล็กฟาดลงใบหน้าหล่อเหลาอย่างแรง นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอตบหน้าเขา
“จูบอีกสิ! ถ้าจูบอีก...ฉันก็จะตบ...อื้อ!!!” พูดไม่ทันขาดคำ เขาก็จูบเธออีกครั้ง และครั้งนี้เขาใช้ลิ้นกับเธอ...ดูดดึงและกอบโกยจนร่างบางสั่นสะท้าน ก่อนจะถอนออกมาพร้อมรอยยิ้ม แล้วก็ถูกเธอตบจนหน้าหัน
เพี้ยะ!!!
“จะตบจูบกันแบบนี้ทั้งคืนเลยก็ได้นะ...ผมไหว” สิ้นคำนั้นเขาก็จูบเธออีกครั้ง

