2. ข้อเสนอ
ณ บริษัทโฆษณาชื่อดังกำลังวุ่นวายเพราะข้อมูลการนำเสนองานหายไป จึงทำให้ไม่มีงานนำเสนอลูกค้าจนเจ้านายใหญ่โมโหแล้วพาลใส่ทุกคน ไม่เว้นแม้แต่ลูกน้องสาวแสนสวยอย่างน้ำผึ้ง ลลิสา วรวัตรสกุล ที่ได้รับหน้าที่ดูแลเรื่องนี้
“หมดกัน พังหมดแล้ว ผมอุตส่าห์ไว้ใจคุณนะน้ำผึ้ง งานนี้มันสำคัญกับทางบริษัทเรามาก แต่มันก็ไม่เหลืออะไรแล้ว เพราะคุณ” ทรงกริชพูดต่อว่าลูกน้องสาวไปพร้อมกับมองด้วยสายตาไม่พอใจ ที่เธอทำงานของเขาพังลงในพริบตา
“น้ำผึ้งขอโทษค่ะคุณกริช น้ำผึ่งมั่นใจว่าเอางานมาใส่คอมนี้แล้วจริงๆค่ะ แต่งานนี้น้ำผึ้งจะไม่ยอมให้มันพลาดเด็ดขาด คุณกริชให้โอกาสน้ำผึ้งไปคุยกับลูกค้าอีกครั้งนะคะ น้ำผึ้งมีไฟล์สำรองเก็บไว้ค่ะ แต่มันอยู่ที่บ้าน” ลลิสาพูดบอกไปแบบมีสิต ไม่ได้หวาดกลัวเจ้านายของเธอเลยสักนิด จนทุกคนที่อยู่ในโซนออกแบบโฆษณามองเธออย่างมีความหวัง
“คุณมีไฟล์เก็บไว้จริงเหรอ งั้นรีบไปเอามาเลย ผมจะโทรไปคุยกับลูกค้าอีกครั้งเพื่อถ่วงเวลารอคุยกลับมา ด่วนเลยนะน้ำผึ้ง อย่าทำให้ผมต้องผิดหวังในตัวคุณอีก” ทรงกริชพูดย้ำบอกไปแล้วจ้องหน้าลลิสาไปด้วย
“ค่ะคุณกริช ตอนนี้น้ำผึ้งให้น้องชายเอามาให้แล้ว ไม่เกินสิบห้านาทีถึงที่นี่แน่นอนค่ะ ขอตัวเลยนะคะ บะหมี่กับภู พวกแกไปช่วยคุณกริชเขาถ่วงเวลาลูกค้านะ ” ลลิสาพูดบอกไปเพื่อนทั้งสองไป ก่อนจะรีบวิ่งออกไปรอลูกพี่ลูกน้องชายของเธอที่เธอรักเหมือนกับน้องชายแท้ๆทันที
พอลลิสามายืนรอน้องชายของเธอที่ด้านล่างของบริษัทเกือบสิบนาที น้องของเธอก็นั่งวินมอเตอร์ไซต์เข้ามาแบบรวดเร็ว
“พี่น้ำผึ้ง ได้แล้วพี่ ผมไม่รู้อันไหนเลยเอามาทุกอันเลย อ่ะ” จิรายุพูดออกไปแบบเหนื่อยๆแล้วส่งทามไดร์ฟให้กับลูกพี่ลูกน้องสาวของตัวเองไป
“ขอบใจมากนะยุ ถ้าไม่ได้นานพี่แย่แน่ พี่ไปก่อนนะเดี๋ยวไม่ทัน” ลลิสาพูดบอกน้องชายจบก็รีบวิ่งเข้าไปในบริษัทแล้วกดลิฟต์ขึ้นไปแบบรวดเร็ว ส่วนจิรายุก็มองตามแล้วยิ้มแบบขำกับนาทีฉุกเฉินของพี่สาวคนนี้จริงๆ
“หวังว่าพี่จะทันนะ พี่น้ำผึ้ง” จิรายุพูดออกมา ก่อนจะหันกลับไปซ้อนรถวินมอเตอร์ไซต์แล้วให้พากลับไปบ้านเขาอีกครั้ง หลังจากที่ซิ่งมากันอย่างเมามันส์จนหัวเข่าของเขาชนกับรถเมล์ไม่รู้กี่คันต่อกี่คัน
พอลลิสามาถึงชั้นที่เธอทำงานอยู่ก็วิ่งไปที่ห้องประชุมทันที ก่อนจะหยุดอยู่ที่หน้าประตูแล้วก็ยืนหายใจลึกๆให้ตัวเองผ่อนคลาย แล้วเธอก็ยิ้มออกมาแล้วก็หันไปมองตัวเองในกระจกด้านข้างแบบเช็คความสวยของตัวเอง
“สวยแล้วน้ำผึ้ง ลุย” ลลิสาพูดจบแบบฮึดสู้แล้วก็ยิ้ม ก่อนจะเปิดประตูเข้าไป แล้วเธอก็ช่วยทุกคนที่กำลังถ่วงเวลาได้ทัน ก่อนจะเริ่มจัดการเอางานที่เธอคิดกับพวกเพื่อนๆมานำเสนอให้กับลูกค้ารายใหญ่ จนลูกค้าพอใจและตกลงเซ็นต์สัญญากับทางบริษัท และมันก็กลายเป็นผลงานชิ้นใหญ่ของเธอตั้งแต่ที่เธอทำงานมา
“ผมขอโทษที่ต่อว่าคุณไปเยอะเลยนะคุณน้ำผึ้ง วันนี้คุณทำได้ดีมาก ขอบคุณที่ทำให้บริษัทเราได้งานใหญ่ๆแบบนี้” ทรงกริชพูดบอกไปก็ยิ้มออกมาอย่างยินดี
“ค่ะคุณกริช น้ำผึ้งก็ขอโทษด้วยค่ะที่ทำงานพลาดไปนิดหน่อย ต่อไปจะไม่มีแบบนี้อีกแล้วค่ะ” ลลิสาบอกก็ยิ้มเกร็งๆใส่เจ้านายของเธอ
“งั้นวันนี้ผมจะเลี้ยงฉลองให้กับความสำเร็จของพวกเราทุกคนในวันนี้ ไปดื่มกันให้เต็มที่เลย พรุ่งนี้วันอาทิตย์ กินกันให้เต็มที่ได้เลย” ทรงกริชพูดบอกทุกคนไปก็ร้องออกมาอย่างฮึกเหิมที่จะได้ออกไปสังสรรค์ตามประสาเจ้านายลูกน้องกับทุกคน
“เย้ จัดไปเลยครับคุณกริช” ภูวนาท เพื่อนสนิทของลลิสาพูดเสริมไป
“งั้นไปคลับเลยค่ะ ครบวงจรดี อ่าๆ” มัทนาพูดเสริมออกไปอีก จนทุกคนพูดเห็นเป็นเสียงเดียวกันแบบต้องการไปคลับ
“ได้เลย เลิกงานแล้วเจอกันทุกคน” ทรงกริชพูดแล้วก็ยิ้มแล้วเดินกลับไปที่ห้องทำงานของตัวเอง ส่วนลลิสาก็โล่งอกที่วันนี้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดีได้
ต่างจากสองสาวที่ยืนมองอยู่เงียบๆ นั่นก็คือวิเวียนและกิ่งแก้วที่แอบเอาข้อมูลงานของลลิสาไปทิ้ง เพื่อหวังจะให้ทรงกริชโกรธแล้วไล่ลลิสาออกจากงานไป เธอจะได้ขึ้นมาเป็นใหญ่โดยไม่มีลิลสาคอยเป็นหนามตำใจยื้อแย่งตำแหน่งหัวหน้ากับเธอ
“แกไม่โชคดีแบบนี้ตลอดไปหรอกยัยน้ำผึ้ง” วิเวียนพูดออกมาแบบเจ็บใจแล้วกำหมัดแน่น เพราะตั้งแต่ลลิสามาทำงานที่นี่ยัยนี่ก็ทำงานเด่นเกินหน้าเกินตา จนเธอเกียดขี้หน้าเข้าไส้อยู่แล้ว
“ไปเถอะแก ไว้เราค่อยหาวิธีจัดการนังนี่ใหม่” กิ่งแก้วบอกเพื่อนสาวไป ก่อนจะจับมืองจูงเพื่อนสาวกลับไปนั่งทำงานที่โต๊ะต่อ เพราะเธอไม่มาดีใจแบบคนพวกนั้นหรอก
ด้านอภิรดีที่ถูกเจ้าหนี้รายใหญ่ของเธอมาหาถึงที่บ้านก็ทำอะไรไม่ถูก เพราะตอนที่สามีของเธอก็ตายไป เขาก็ทิ้งหนี้ไว้ให้เธอจำนวนมาก แล้วแบบนี้เธอจะทำยังไงล่ะ ทั้งเจ้าหนี้เก่าเจ้าหนี้ใหม่ วุ่นวายไปหมดแล้ว ตอนนี้เธอกลายเป้นคุณนายถังแตกไปแล้ว เธอจะเอาเงินที่ไหนมาใช้เขาล่ะ
“เงินที่ผมให้คุณไปน่ะ เมื่อไหร่คุณจะคืนผมล่ะคุณอร ผมใจดีกับคุณมานานแล้วนะ” อนุวัตรพูดออกไปแล้วยิ้มกรุ้มกริ่ม เพราะที่เขามาวันนี้ไม่ใช่แค่จะมาทวงหนี้อย่างเดียวหรอก เขามีจุดประสงค์อื่นๆด้วย
“คือฉันก็อยากจะคืนให้คุณเร็วๆนะคะ แต่มันไม่มีจริงๆค่ะ สามีของฉันเขาติดหนี้คนไปทั่ว ฉันก็ใช้คืนไม่หมดสักที เห็นใจฉันหน่อยนะคะ เงินตั้งหลานล้านฉันจะไปหาที่ไหนได้ล่ะคะคุณอนุวัตร ลำพังลูกสาวกับลูกชายฉันทำงานก็จะไม่พอที่บ้านอยู่แล้ว” อภิรดีพูดบอกไปก็แกล้งบีบน้ำตาร้องห่มร้องไห้ออกาชุดใหญ่
“เอาล่ะๆ ถ้าคุณไม่มีเงินคืนผม ผมก็มีข้อเสนอมาให้คุณนะคุณอร ผมได้ยินว่าคุณมีลูกสาวสวยด้วยนิ เป็นถึงแอร์ฮอสเตสเลยนิ ถ้าคุณไม่มีเงินคืนก็ยอมยกลูกสาวคุณให้ผมสิ” อนุวัตรพูดบอกไปแล้วก็ยิ้มมุมปากแบบเจ้าเล่ห์ออกมา
“หมายความว่ายังไงคะคุณอนุวัตร” อภิรดีถามออกไปแบบงงๆ เขาจะให้เธอยกลูกสาวของเธอให้เขาทำไม อย่าบอกนะว่าเขาจะเอาลูกสาวของเธอไปเป็นเมียน้อยน่ะ
“ผมก็ไม่คิดจะทำอะไร คุณก็รู้นิว่าภรรยาของผมเขาเสียไปนานแล้ว มันก็คงจะดีไม่น้อยถ้าลูกสาวของคุณจะมาดูแลผมในฐานะภรรยา ผมยินดียกเลิกหนี้สินห้าล้านที่คุณติดผมอยู่ทันทีที่ลูกสาวคุณยอมแต่งงานกับผม พร้อมกับให้เงินค่าสินสอดอีกห้าล้านบาท คิดดีๆนะ ผมไม่ได้ใจดีกับใครแบบนี้นะและผมก็ไม่บังคับคุณด้วย ผมจะให้เวลาคุณกับลูกสาวคิดสักอาทิตย์หนึ่ง” อนุวัตรเอ่ยบอกไป เพราะเขาเคยเจอลูกสาวของอภิรดีสองครั้ง เขาก็ถูกใจเด็กสาวคนนั้นอย่างบอกไม่ถูก เขาก็เลยอยากจะได้มาเป็นเมียช่วยดูแลเขาก็เท่านั้นเอง แต่ถ้าลูกสาวของเธอไม่เต็มใจเขาก็ไม่บังคับ
“แต่งงานออกหน้าออกตาใช่ไหมคะ ไม่ใช่เป็นเมียน้อยของคุณนะคะ” อภิรดีถามออกไป เพราะเธอเองก็แอบสนใจข้อเสนอของอนุวัตรไม่น้อย หนี้ที่ติดก็หมดไปแถมยังได้ค่าสินสอดไปจ่ายหนี้คืนคนอื่นอีก แล้วแบบนี้เธอจะไม่สนใจได้ยังไง แต่ลูกสาวเธอนี่สิหัวแข็งอย่างกับอะไร จะยอมแต่งกับคนแก่คราวพ่อแบบนี้ไหมล่ะ
“ผมจะจดทะเบียนสมรสกับลูกสาวของคุณด้วย พร้อมกับจัดงานแต่งงานให้แบบยิ่งใหญ่เลยล่ะคุณอร” อนุวัตรพูดบอกไปแล้วก็ยิ้มกรุ้มกริ่ม เพราะเห็นทีท่าของอภิรดีแล้ว
“ก็ได้ค่ะ ฉันขอคิดดูก่อนนะคะคุณอนุวัตร แล้วฉันจะให้คำตอบอีกที” อภิรดีพูดบอกไป เพราะเธอก็ต้องถามลุกสาวของเธอก่อน เธอก็ได้แต่หวังว่าลูกสาวของเธอจะยอม เพื่อให้ทุกคนสบายขึ้น
“ดี งั้นผมกลับก่อนก็แล้วกัน หวังว่าเจอกันครั้งหน้าคำตอบของคุณ จะทำให้ผมยิ้มได้นะคุณอร ไปล่ะ” อนุวัตรพูดบอกไปก็ลุกขึ้น แล้วเดินออกจากบ้านหลังใหญ่ของอภิรดีไป ก่อนจะยิ้มแล้วขึ้นรถไปอย่างเจ้าเล่ห์ เพราะวันนี้เขาต้องไปเตรียมตัวต้อนรับลูกชายตัวดีของเขาซะหน่อย
