บทที่ 2
“อย่าเสียมารยาทกับพี่ริสาเขาแบบนั้นสิพรีม! ขอโทษพี่เขาเดี๋ยวนี้!” ภูมินทร์รีบว่าปามน้องสาว สิ่งที่คิดไว้เป็นไปตามนั้นจริงๆ
“ไม่ค่ะ! พรีมไม่ได้พูดอะไรผิดสักหน่อย ถ้าพี่ภูมิอยากขอโทษเขาก็เชิญพี่ภูมิขอโทษไปคนเดียวเถอะค่ะ ส่วนเรื่องนี้ยังไงพรีมก็ไม่ยอมรับ! ยังไงก็ไม่ยอม!!” ราชาวาดีตวาดกลับอย่างไม่คิดเกรงกลัว เธอจ้องมองพี่ชายตาแข็งก่อนจะเป็นฝ่ายเดินหนีออกมาจากบ้านท่ามกลางเสียงร้องตะโกนของภูมินทร์ที่ดังตามหลังมา แต่เธอก็ไม่คิดจะสนใจหันกลับไปมอง เพราะรู้สึกโกรธเขาที่ปิดบังเรื่องนี้กับตัวเอง
“อย่าไปว่าน้องเลยคะภูมิ น้องพรีมแกคงโกรธอยู่ ริสาเข้าใจค่ะ ให้ริสาไปคุยกับแกเองนะคะ ผู้หญิงกับผู้หญิงคุยกันน่าจะเข้าใจกันมากกว่า ภูมิไม่ต้องห่วงนะคะ” ภูมินทร์เงียบไปนานเพราะกลัวว่าเรื่องมันจะยิ่งไปใหญ่หากเขาปล่อยให้ริสาออกไปคุยกับน้องสาวตัวแสบตามลำพัง ด้วยรู้ฤทธิ์ฝ่ายนั้นดีกว่าบทจะดื้อก็ดื้อสุดๆ ไม่มีใครเอาอยู่นอกจากเขาที่เป็นคนตามใจจนทำให้เธอนั้นมีนิสัยเอาแต่ใจตัว
“แต่ผมว่าให้ผม…”
“นะคะภูมิ ให้ริสาลองไปคุยกับแกดูก่อน ถ้าไม่สำเร็จเราค่อยหาวิธีใหม่กัน” เมื่ออีกฝ่ายยืนยันที่จะทำแบบนั้นภูมินทร์จึงยอมพยักหน้าตกลงอย่างเลี่ยงไม่ได้ แม้ว่าในใจเขาจะไม่คิดว่าการทำอย่างที่ริสาว่ามันจะได้ผลแต่หากลองดูสักหน่อยมันก็ไม่น่าจะเลวร้ายอะไร
“น้องพรีมคะ” เสียงเรียกจากคนที่เดินตามกันมาทำให้ราชาวดีทำท่าจะเดินหนีแต่ติดตรงมือของอีกฝ่ายกระชากต้นแขนของเธอไว้ซะก่อน แรงบีบที่รุนแรงทำให้หญิงสาวกัดฟันแน่ก่อนจะสะบัดมือออกเพื่อที่จะได้หันกลับไปเผชิญหน้ากับคนสองหน้าได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น เมื่อสองสายตาสบกันคนที่เป็นฝ่ายเรียกเลยชิงพูดก่อน
“พี่จะมาอธิบายเรื่องที่พี่กับภูมิคบกัน เราไม่ได้อยากปิดบังน้องพรีมหรอกนะคะ แต่ภูมิเขากลัวว่าถ้าน้องพรีมรู้จะกีดกันเราเหมือนที่เคยทำกับผู้หญิงคนอื่นก็เลยต้องปิด อย่าโกรธภูมิเลยนะคะ” หญิงสาวแสยะยิ้มออกมาให้กับการจีบปากจีบคอพูดของอีกฝ่ายที่ดูยังไงมันก็คือการแสดงละครมากกว่าที่จะเป็นนิสัยที่แท้จริงของเธอได้
“พี่ริสาคิดจริงๆ เหรอคะว่าพรีมจะยอมรับเรื่องนี้ ถ้าลองพรีมบอกให้พี่ภูมิเลือก พี่ริสาแน่ใจเหรอคะว่าเขาจะเลือกพี่” ริสายิ้มรับคำถามก่อนจะเอ่ยตอบกลับไปอย่างไม่ต้องขบคิดอะไรให้มากความ
“มันก็ไม่แน่หรอกค่ะ ถึงอีกฝ่ายจะเป็นน้อง แต่ก็ไม่ใช่น้องแท้ๆ ก็แค่เด็กกำพร้าที่พ่อแม่เขารับมาเลี้ยง ลองเทียบกับคนรักพี่ว่ามันก็น่าจะพอเปลี่ยนใจเขาได้บ้าง น้องพรีมเองคิดแบบนั้นใช่ไหมคะ”
“ถ้าอย่างนั้นก็ช่วยเกาะตำแหน่งคนรักเอาไว้แน่นๆ หน่อยนะคะ เพราะไม่แน่บางทีน้องสาวไม่แท้คนนี้…อาจจะแย่งมันมาก็ได้ ลองน้ำตาลได้อยู่ใกล้มด มีหรือจะไม่คิดลองชิม พี่ริสาก็คิดแบบนั้นใช่ไหมคะ” ราชาวดีตอบกลับไปพร้อมแสยะยิ้มเมื่อสามารถคืนคำพูดที่อีกฝ่ายพูดใส่กันกลับไปให้ ไม่นานร่างระหงก็เดินเชิดจากไปอีกทาง
“อีเด็กนรก! คิดเหรอว่าฉันจะยอมแพ้คนอย่างแก ไม่มีวัน!” ริสาตะโกนลั่นตามหลัง สายตาเกลียดชังจ้องมองไปยังแผ่นหลังของคนที่เพิ่งหนีกันไปอย่างไม่คิดปกปิด เธอไม่มีวันยอมให้ความพยายามของตัวเองต้องสูญเปล่า ไม่ว่าจะยังไงเธอจะต้องเป็นนายใหญ่ของไร่ปานสิงค์นี้ให้ได้ และหากวันนั้นมาถึงเมื่อไหร่ คนแรกที่เธอจะเฉดหัวออกไปจะเป็นอีเด็กนรกนั่นอย่างไม่ต้องสงสัยอะไรเลย
ตลอดหลายวันที่ผ่านมาราชาวดีแทบไม่ยอมพูดคุยกับพี่ชายเลยแม้แต่คำเดียว ซึ่งภูมินทร์ก็เข้าใจว่าเขาผิดเต็มๆ เรื่องที่ไม่ได้บอกเธอตั้งแต่ตอนแรกเกี่ยวกับคนรักที่แสนจะน่ารักอ่อนหวานอย่างริสา เขามีโอกาสช่วยเหลือเธอจากการวิ่งราวที่ตลาดในเมืองเมื่อเดือนก่อน ถึงได้รู้จักหญิงสาวที่ทำงานเป็นบรรณารักษ์ในห้องสมุดแถวนั้น พอได้เห็นความน่ารักของอีกฝ่ายเขาก็ยิ่งถูกใจสุดท้ายก็ได้เธอมาเป็นแฟน และดูเหมือนริสาจะมีหลายสิ่งที่เข้ากับเขาได้ดี เธออ่อนโยนและเข้าใจหลายๆ สิ่งในชีวิตของเขาได้อย่างดี
เขาคิดว่าริสาจะเปลี่ยนความคิดอคติเกี่ยวกับคนรักของตัวเองไปจากน้องสาวได้ แต่เขาคงคิดน้อยไป เพราะดูเหมือนว่าราชาวดีจะไม่เคยรู้สึกยินดียินร้ายด้วยเลยสักครั้งที่เขาจะมีใครสักคน
