บท
ตั้งค่า

เมื่อแรกเริ่มก่อนซ่อน (ดวง) ใจ ปฐมบทของซ่อนดวงใจ ใต้รอยรัก

“อุ่นเห็นพี่คนนั้นไหมอุ่น”

สุธิตา เพื่อนคนที่ถูกจับคู่ให้มาฝึกงานด้วยกันกับมัชฌิมา นั่งเท้าคางมองเหม่อไปข้างหน้า แล้วถามทั้งน้ำเสียงเพ้อๆ

มัชฌิมาไม่ได้สนใจ เพราะเธอกำลังก้มหน้าเขียนรายงานส่งอาจารย์ที่คุมฝึกงานของเธอ แต่ยังพยายามมีส่วนร่วมด้วยการถามกลับคล้ายว่าสนใจคู่สนทนา “คนไหน”

“คนนั้นไง หน้าเข้มๆดุๆหน่อย คนนั้นน่ะที่นั่งคุยกับอาจารย์หงุ่นอ่ะ” เพื่อนยังคงมีน้ำเสียงเพ้อๆแบบเดิมจนในที่สุด ต้องเงยหน้าขึ้นมามอง พอเห็นเป้าหมายของสุธิตา ก็ถามยิ้มๆ

“คนที่หน้าบึ้งๆ คนนั้นน่ะเหรอ”

“บ้า อุ่นนี่ ตาไม่ถึงเลยนะแก พี่เขาดูหล่อจะตาย หน้าไม่บึ้งหรอก สเปคเราเลย”

มัชฌิมาเลิกสนใจแล้ว เธอก้มหน้าลงที่รายงานของตนเองดังเดิม แล้วบอกด้วยน้ำเสียงหวังดี “เพื่อนอาจารย์หงุ่นนะ กล้าเหรอ”

“ลองดูไหมล่ะ”

คนพูดออกแนวท้ายทายหน่อยๆเพราะชายคนนั้นนั่งอยู่กับผู้ชายอีกคนแต่ไม่มีอาจารย์คุมฝึกงานที่ชื่ออาจารย์องุ่นนั่งอยู่ด้วย ถึงใจกล้าบ้าบิ่นได้แบบนี้ ว่าจบลุกขึ้นยืนทันที สูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วเดินตรงไปที่เป้าหมายไม่รอช้า

มัชฌิมาวางปากกาลงแล้วนั่งอมยิ้มมองเพื่อนสาวใจกล้าที่ออกปากว่าชอบชายคนนั้นเอามากๆถึงขนาดใจกล้าเข้าไปคุยด้วย หญิงสาวยิ้มแล้วทำเป็นมองเมินๆไปทางอื่นเมื่อเห็นชายคนนั้นมองมาที่เธอ ครู่เดียวเพื่อนสาวใจกล้าก็เดินหน้างอกลับมาที่โต๊ะ

“ไงล่ะ” อดถามยิ้มๆไม่ได้

“แกนะแก”

“อะไร”

“พี่เขาบอกว่าเรียนให้จบก่อนค่อยหาผัว”

ฟังเพื่อนบอกแล้ว มัชฌิมาแกล้งตาโต แล้วตอกเพื่อนอีกที “ไงล่ะ เจ็บปวดไหมทีนี้”

“แต่ฉันบอกพี่เขาไปนะ ว่าแกเป็นคนชอบพี่เขา...ไม่ใช่ฉัน”

คราวนี้คนที่ยิ้มแต้แต่แรกหุบฉับลงทันที หันไปแว้ดใส่เพื่อน ใบหน้าออกร้อนเสียจนแทบไหม้ “เอ้ย! ทำไมพูดแบบนั้น”

สุธิตาหัวเราะจนตัวงอ มัชฌิมานั้นหน้าแดงซ่าน อยากบิดเนื้อเพื่อนให้เขียวจนดำจนหลุดติดมือออกมานัก ทำไมมาแกล้งเธอแบบนี้ พอบังเอิญหันไปมองทางนั้นก็เห็นเขามองตอบกลับมาพอดี สายตาคมๆสีดำและดูดุนั่นทำเอาเธอทำหน้าไม่ถูกเลยทีเดียว เลยได้แต่บ่นงึมงำ

“เพื่อนบ้า”

เพื่อนสาวยังคงหัวเราะไม่หยุดที่แกล้งเธอได้ มัชฌิมานั้นทั้งโกรธทั้งอายจนบอกไม่ถูก แล้วต่อว่าเพื่อนอีกครั้ง

“ทำไมทำแบบนี้ โอย...ตาย ตาย ฉันต้องโดนหักคะแนนแน่ๆเลย”

“จะหักทำไม แกทำอะไรผิด เออ แต่โดนก็ดี ฉันจะได้คะแนนมากกว่าแกไงอุ่น”

“ทำกันได้ จำไว้เลย”

มัชฌิมาบ่นแล้วฝืนทำตัวเฉยไปก้มหน้าเขียนรายงานต่อจนเสร็จ หญิงสาวออกมาพักที่หอในมหาวิทยาลัยเนื่องจากป้าที่เลี้ยงดูเธอไม่สะดวกขับรถรับส่ง ภาระงานที่เป็นพยาบาลในโรงพยาบาลชุมชนนั้นหนักเอาการอยู่ และเธอก็โตพอที่จะดูแลตัวเองได้ ท่านจึงไว้วางใจให้มาอยู่ยังหอพัก

หลังจากเลิกฝึกงาน จึงแยกกับเพื่อนที่มาคู่กัน เธอติดขัดกับเนื้อหาบางส่วนในรายงานเลยตั้งใจว่าจะแวะไปที่หอสมุดในวันหยุดที่จะถึงนี้

เมื่อถึงวันหยุดหญิงสาวตรงไปยังหอสมุด ขึ้นไปยังชั้นที่ต้องการ เนื่องจากว่าใกล้สอบเต็มที นักศึกษาหลายๆคนจึงเลือกใช้หอสมุดในการนั่งติว นั่งอ่านหนังสือกัน ด้วยว่าที่นี่สงบเงียบทั้งยังมีหนังสือหลากหลายให้ค้นหาอ่าน และเย็นสบายด้วยเครื่องปรับอากาศรอบตัวอาคาร จึงแทบไม่เหลือโต๊ะว่าง หญิงสาวเดินหาโต๊ะจนพบแล้วเข้าไปวางกระเป๋าที่เก้าอี้ตัวหนึ่งที่มีเพื่อนนักศึกษานั่งอยู่ก่อนหน้า เธอถามอีกฝ่ายว่ามีใครนั่งหรือไม่ ได้รับคำตอบว่าว่าง จึงเลือกนั่งตรงนั้น

แล้วเดินไล่หาไปตามรหัสบนชั้นวางจนพบหนังสือที่ต้องการ หยิบกลับมาที่โต๊ะก็บังเอิญเห็นมีคนมานั่งยังโต๊ะของเธอแทนเพื่อนหญิงนักศึกษาคนนั้นแล้ว

มัชฌิมาเดินไปที่เก้าอี้ตรงส่วนของเธอในฝั่งตรงข้าม คนที่นั่งอยู่จึงเงยขึ้นมามองหน้าเธอ นาทีนั้นต่างคนต่างอึ้งไปเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นใคร

“มีอะไร” เสียงทุ้มถาม เมื่อเห็นว่าเธอยังคงยืนอยู่แถมยังมองหน้าเขานิ่งไป

“เอ่อ…” มัชฌิมามองไปรอบๆห้อง เพื่อหาโต๊ะตัวใหม่นั่งก็พบว่าโต๊ะอื่นมีคนนั่งเต็มหมดแล้ว และเขาคงอ่านสายตาของเธอออก ถึงได้ยินเขาบอกในลำดับถัดมา

“นั่งสิ มันว่างอยู่พอดี”

เธอมาก่อนเขาเสียอีก มัชฌิมาอดมุ่ยหน้าไม่ได้ แต่เธอไม่อยากพูดอะไรมาก แล้วเลยนั่งลงที่เก้าอี้อีกฝั่งเยื้องกับเขา หญิงสาวนั่งจดรายงานที่ตนเองต้องการ จนได้ครบแล้วเธอปิดหนังสือลง เงยหน้าขึ้นก็พบว่าเขานั่งเอนหลังมองเธออยู่

“อ่านหนังสือสอบหรือ” เขาถาม

“ค่ะ” ตอบส่งๆไป ไม่อยากคุยกับเขานัก ยิ่งนึกถึงวันที่ถูกเพื่อนแกล้งยิ่งไม่อยากคุยกับเขา อายด้วยล่ะ

ชายคนนั้นไม่พูดอะไรต่อ เธอเลยลุกออกจากเก้าอี้ เพื่อเอาหนังสือไปเก็บที่เดิม พร้อมกับคว้ากระเป๋าติดมือมาด้วย ตั้งใจกลับหอพักหลังจากนั้น เห็นเขาตามออกมาเช่นกัน เธอเปิดประตูออกมายืนรอลิฟต์ยังเห็นว่าเขาเข้ามายืนรออยู่ไม่ห่าง จึงจำใจโดยสารตู้เหล็กสี่เหลี่ยมที่มีเธอกับเขาเพียงสองคนลงมาที่ด้านล่างด้วยกัน

ด้วยตัวอาคารที่สูงและทึบจึงไม่รู้ว่าด้านนอกในตอนนี้ฝนกำลังตกหนัก เขายืนเยื้องไปทางด้านหลังของมัชฌิมาตอนที่ลงมายืนมองสายฝนผ่านกระจกใสของหอสมุดที่ชั้นล่างสุด โดยที่เธอเองยืนกอดกระเป๋าแนบอกแน่น มองเหม่อๆผ่านสายฝนจนเริ่มซา คนอื่นๆที่มีร่มพากันเดินกางฝนกันออกไปบ้างแล้ว

“จะกลับยังไง มีร่มมาไหม”

เสียงทุ้มๆถามขึ้นมาลอย มัชฌิมาหันไปมองทางคนถาม เพราะไม่แน่ใจว่าเขาคุยด้วยหรือไม่ แต่พอเห็นสายตาดำคมเข้มที่มองสบมา เลยรู้ว่าเขาเสวนาอยู่กับเธอ เลยต้องตอบเขาไป

“ไม่มีค่ะ”

“พักที่หอไหน”

“อยู่หอในค่ะ”

“พี่จะไปส่ง”

“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวเดินกลับเอง”

“พี่จะไปหาอาจารย์ที่หอพอดี”

มันจะน่าเกลียดหรือไม่ หากเธอจะมายืนปฏิเสธโต้เถียงกับเขา

สุดท้ายมัชฌิมาก็เดินตามเขาไปอย่างว่าง่าย ตรงไปยังรถบิ๊กไบท์ของเขาที่จอดหลบฝนข้างๆหอสมุดนั่น เขาถึงรถก่อน แล้วมองขึ้นไปบนฟ้าก่อนจะเปิดเอาเสื้อกันฝนหยิบออกมาแล้วยื่นส่งให้

“ใส่เสื้อก่อน ฝนยังลงเม็ดอยู่ เดี๋ยวไม่สบาย”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel