บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 9 อดีตคู่หมั้น

อินเอ๋อตกใจจนอ้าปากค้าง จากนั้นสีหน้าของนางก็เปลี่ยนไปทันทีพร้อมกับเอ่ยขึ้นอย่างโมโหว่า

"องค์รัชทายาทเพิ่งจะถอนหมั้นกับคุณหนูใหญ่ไม่กี่วัน วันนี้ก็มากระชากลากจูงบนถนนกับคุณหนูรอง ทำแบบนี้หมายความว่าอย่างไร หรือว่าพวกเขามีอะไรกันก่อนหน้านี้แล้วเจ้าคะ?"

"ท่านพี่?"

เพราะเสียงของอินเอ๋อซูชิงเหยียนที่อยู่ในอ้อมกอดขององค์รัชทายาทก็รีบลุกขึ้น และก้าวลงรถม้าเดินมายังซูเหมยฮวาและอินเอ๋อที่กำลังยืนอยู่ ทันทีที่เห็นซูเหมยฮวา สายตาไม่พอใจ และรอยยิ้มเยาะเย้ยก็ปรากฎขึ้นบนใบหน้าของซูชิงเหยียนทันที

แต่พอเดินมาถึงที่ซูเหมยฮวายืนอยู่ สีหน้าของนางก็เปลี่ยนเป็นไร้เดียงสาราวกับกระต่ายน้อยใสซื่อก็เริ่มปรากฎเข้ามาแทน

"ท่านพี่...ท่านพี่ฟังข้าอธิบาย...."

"ซูเหมยฮวา?"  องค์รัชทายาทที่เดินเข้ามาตามหลังเอ่ยขึ้นเบาๆ

"คารวะองค์รัชทายาทเพคะ" ซูเหมยฮวาไม่ลืมมารยาท

องค์รัชทายาทตงฟางเจ๋อห้าวมองสำรวจสตรีตรงหน้าอย่างพิเคราะห์ แต่ไหนแต่ไรมาพระองค์ไม่เคยได้พบหน้าหญิงสาวตัวเป็นๆเลยสักครั้ง ได้ฟังเพียงชื่อเสียงที่คนทั่วไปกล่าวถึง นั่นคือสตรีไร้มารยาท ขาดคุณธรรม จรรยา ไร้การศึกษา เอาแต่ใจ อ่อนแอ และที่สำคัญนางเป็นสตรีที่นิสัยเสีย ชอบรังแกเหยียนเอ๋อของเขา

พอนึกถึงคำเล่าลือตรงนี้ ใบหน้าหล่อเหลาของตงฟางเจ๋อห้าวก็เย็นชาขึ้นมา สายตารังเกียจส่งออกมาอย่างไม่ปิดบัง จากนั้นน้ำเสียงไม่พอใจก็ดังออกมา

"อืม" คำเดียวสั้นๆ

ซูเหมยฮวายิ้มเยาะเย้ยขึ้นมา เมื่อนางยืดตัวตรงแล้วมองชายตรงหน้าที่สวมชุดผ้าไหมเนื้อทองเข็มขัดหยก ใบหน้าของเขานั้นหล่อเหลางดงามมาก แต่ซูเหมยฮวาก็แปลกใจเหตุใดถึงได้หน้าตาบูดบึ้งเช่นนี้

เห็นได้ชัดว่าเขานั้นไม่พอใจนาง ไม่พอใจเรื่องอะไรนั้นนางไม่อาจจะคาดเดาได้ ช่างเถอะ ดวงตาหงส์ของซูเหมยฮวาก็ละออกมาจ้องมองที่ซูชิงเหยียน

ซูเหมยฮวาไม่อยากจะสนใจคนทั้งสองแล้วนางจึงกำลังจะหมุนกายเดินเข้าไปในฝวูหรง สำหรับตงฟางเจ๋อห้าวแล้ว ซูเหมยฮวานางก็เป็นเพียงขยะไร้ค่าเท่านั้นไม่มีอะไรดีสักอย่าง ที่สำคัญคือ นางคือคู่หมั้นของเขาได้อย่างไรมาตั้งหลายปี

"ท่านพี่....."

ซูเหมยฮวาหันมามองซูชิงเหยียน "น้องรองไม่จำเป็นต้องเสแสร้งเช่นนี้ก็ได้ ข้ากับองค์รัชทายาทไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรต่อกันแล้วยิ่งไม่มีความรู้สึกต่อกัน ดังนั้นเจ้าไม่ต้องแสดงท่าทีตกใจเหมือนกับว่าแย่งว่าที่สามีของพี่สาวแบบนั้นก็ได้ เพราะเวลานี้พวกเรานั้นได้ถอนหมั้นกันไปแล้ว"

"ท่านพี่ข้า...."

ซูชิงเหยียนสีหน้าพลันเปลี่ยนไปนางคิดไม่ถึงว่าซูเหมยฮวาจะมีท่าทีที่สงบเยือกเย็นได้ขนาดนี้ ไม่มีความรู้สึกเสียหน้า เจ็บปวด และโวยวายร้องไห้เฉกเช่นแต่เก่าก่อน ไม่เป็นอย่างที่นางคิดเอาไว้เลย

ท่าทีของซูเหมยฮวาเช่นนั้นยิ่งทำให้ซูชิงเหยียนรู้สึกไม่พอใจ แต่ยังไม่ทันที่นางจะเอ่ยอะไรอีกเสียงทุ้มต่ำก็ดังขึ้น

"ซูเหมยฮวา เจ้าว่าผู้ใดเป็นว่าที่สามีของเจ้า.....เจ้าอย่าได้พูดจาเรื่อยเปื่อย" องค์รัชทายาทกล่าวขึ้นมาด้วยความไม่พอใจ ถึงแม้นว่าคำพูดของนางนั้นจะไม่ผิด แต่พระองค์ก็มิได้อนุญาตให้สตรีไร้ยางอายผู้นี้กล่าววาจาเช่นนี้ออกมาได้ เพราะคำพูดเช่นนี้ผู้คนที่ได้ยินต่างก็เข้าใจว่ามันเป็นคำพูดที่ดูถูกเหยียนเอ๋อ ของเขาอย่างชัดเจน

"ถูกเพคะ ก่อนนี้เคยใช่ แต่เวลานี้ไม่ใช่ เพราะพวกเราได้ถอนหมั้นกันแล้วด้วยเหตุผลบางอย่าง" ซูเหมยฮวามองซูชิงเหยียนด้วยสายตาเยาะเย้ยสิ่งที่พูดว่าเหตุผลบางอย่างที่นางเอ่ยขึ้นนั้นไม่ต้องให้นางพูดออกมา คาดว่าผู้คนที่ได้ยินต่างก็รู้ในความหมาย

ผู้หญิงคนนี้เปลี่ยนไปแล้วจริงๆ ซูชิงเหยียนแอบกัดฟันและสงบสติอารมณ์ของตนเองลงในใจ

"ช่างเถอะ คาดว่าทั้งคู่คงจะยุ่งเช่นนั้นก็ไม่รบกวนเวลาของทั้งสองแล้ว อีกเดี๋ยวข้าต้องไปโรงรับจำนำ ไปจำนำของสักหน่อย ต้องขอตัวก่อน"

ทันใดนั้นเมื่อซูชิงเหยียนได้ยินคำพูดของเหมยฮวานางก็มีท่าทีตกใจ "ท่านพี่ ท่านพี่ขาดเงินหรือเจ้าคะ?"

ในครอบครัวขนาดใหญ่จำนำของเพื่อแลกเงินนั้นถือเป็นเรื่องที่ขายหน้ามาก แต่คิดไม่ถึงว่าเหมยฮวาจะกล้าพูดมันขึ้นมาออกหน้าออกตาต่อสาธารณชน นั่นทำให้นางราคาตกไปด้วย

ตั้งแต่องค์รัชทายาทถอนหมั้นกับคุณหนูใหญ่ของนางอินเอ๋อก็รู้สึกไม่ค่อยพอใจอยู่แล้วเพราะเขาทำให้คุณหนูของนางเกือบตาย และยิ่งวันนี้ได้มาเห็นว่าองค์รัชทายาทนั้นมาพัวพันกับคุณหนูรองต่อสาธารณชนเช่นนี้ อินเอ๋อยิ่งรู้สึกคล้ายกับว่ามีก้างปลาติดอยู่ที่คอของนาง

ดังนั้นนางจึงเดินไปที่รถม้ายกกล่องสี่เหลี่ยมออกมาในทันที ปากก็พูดออกไปอย่างรวดเร็วว่า "คุณหนูใหญ่เจ้าขา อินเอ๋อเห็นโรงรับจำนำอยู่ไม่ไกล เราไปโรงรับจำนำตรงนั้นกันก็พอเถอะเจ้าค่ะ ค่อยมาชิมน้ำชาขึ้นชื่อของฝูวหรง"

ซูเหมยฮวาแอบชื่นชมเด็กสาวในใจ จากนั้นนางพยักหน้าแล้วเอ่ย "อืม ก็ดี"

"ช้าก่อน" ซูชิงเหยียนจ้องมองกล่องไม้จันทร์ในมืออินเอ๋อเขม็งนางจำได้ว่านี่เป็นของขวัญหลังการถอนหมั้นขององค์รัชทายาทที่ก่อนหน้านี้ท่านแม่ของนางเคยบอกจะเก็บไว้ให้เป็นสินสมรสของนาง จากนั้นนางก็พูดขึ้นว่า

"นี่มันกล่องของขวัญหลังการถอนหมั้นขององค์รัชทายาทมิใช่หรือ เหตุใดท่านพี่ถึงจะเอาไปจำนำได้?"

องค์รัชทายาทตงฟางเจ๋อห้าวที่ยืนอยู่ตรงนั้นขมวดคิ้วขึ้นมาทันที ความจริงแล้วตัวเขานั้นไม่รู้หรอกว่า พ่อบ้านในจวนจัดการของสิ่งใดไปมอบให้กับเหมยฮวา เขาเพียงสั่งการให้พ่อบ้านจัดการตามสมควรก็เท่านั้น แต่เวลานี้หญิงผู้นีกลับทำลายน้ำใจของเขาเอาของขวัญเหล่านั้นมาจำนำอย่างนั้นหรือ

"ซูเหมยฮวา เจ้าช่างกล้านัก" องค์รัชทายาททนไม่ไหวกล่าวตะคอกออกมาเสียงดัง ผู้คนที่ดูอยู่ไม่ไกลต่างก็ตกใจพลันก้มหน้าชำเลืองมองด้วยความอยากรู้

เหมยฮวาเม้มริมฝีปากของนางเอาไว้ ดวงตาหงส์คู่งามกวาดมองไปที่องค์รัชทายาททันที

"องค์รัชทายาท ท่านหมายความเช่นรัยเพคะ ในเมื่อสิ่งของเหล่านี้พระองค์เป็นคนมอบให้หม่อมฉันแล้ว ดังนั้นของเหล่านี้ก็เป็นของหม่อมฉันจริงหรือไม่เพคะ?" คิ้วโก่ง เลิกขึ้นเพื่อเป็นคำถาม จากนั้นตงฟางเจ๋อห้าวก็ขมวดคิ้วขึ้นมาอีกครั้ง

นี่สตรีโง่เขลาเช่นนั้นหรือ ตงฟางเจ๋อห้าวสะบัดแขนแทนคำตอบซูเหมยฮวาก็เอ่ยขึ้นต่อว่า

"ดังนั้นของเหล่านี้หม่อมฉันสามารถจัดการได้ตามใจต้องการ หม่อมฉันมีสิทธิ์ที่จะทำอะไรกับของเหล่านี้ก็ได้เพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัว องค์รัชทายาทจะมาตรัสว่า หม่อมฉันกล้า หรือ ไม่กล้า ได้อย่างไรกันเพคะ"

"เจ้า!.....จิ้งจอกเจ้าเล่ห์" ตงฟางเจ๋อห้าวกล่าวออกมาด้วยความไม่พอใจ

ซูเหมยฮว่ายกยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย ดวงตาหงส์ของนางตวัดไปมองที่ซูชิงเหยียนจากนั้นนางกล่าวต่อว่า "ใช่เพคะ หม่อมฉันเป็นจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ ดังนั้นหม่อมฉันก็ไม่รู้ว่า น้องสาวของจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ เรียกว่าอะไรกัน?"

"เจ้า....ผู้หญิงแบบเจ้าจะมาเปรียบเทียบกับชิงเหยียนได้อย่างไรกัน?" ตงฟางเจ๋อห้าวกล่าวขึ้นด้วยความไม่พอใจ

"หึหึ.... ช่างเถอะๆ หม่อมฉันไม่เถียงกับองค์รัชทายาทแล้ว เพียงแต่องค์รัชทายาทช่วยบอกเหตุผลที่หม่อมฉันไม่สมควรนำของเหล่านี้ไปจำนำได้หรือไม่เล่าเพคะ?"

ตงฟางเจ๋อห้าวยังคงสีหน้าไม่พอใจ "ของที่ข้ามอบให้ผู้อื่นไปแล้วถึงแม้จะไม่มีมูลค่ามากมาย แต่ก็เป็นของล้ำค่า เจ้าบอกเหตุผลที่เจ้าจะจำนำให้ข้าฟังหน่อย"

"อินเอ๋อเปิดกล่องออก!"

.....

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel