บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2 โอกาสแก้แค้นยังมีอีกมาก

"คุณหนูท่านโดนถอนหมั้นอีกแล้วเจ้าค่ะ"

"อืม...ถอนหมั้นมิใช่ว่าข้าถูกถอนหมั้นไปตั้งแต่หลายวันก่อนแล้วมิใช่หรือ? แล้ววันนี้ข้าโดนผู้ใดถอนหมั้นอีกแล้วล่ะ?"

ซูเหมยฮวาลืมตาหงส์จ้องมองไปยังอินเอ๋อ คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน ท่าทางของนางไม่ได้ใส่ใจเท่าไหร่นัก อินเอ๋อขมวดคิ้วขึ้นมา "คุณหนู ท่านลืมไปแล้วจริงๆ"  อินเอ๋อหมดคำจะพูด

"อินเอ๋อ สมองของข้าไม่ค่อยดีเจ้าก็รู้มิใช่หรือ? แต่ข้าก็มีเจ้าอยู่นี่อย่างไร ไหนข้าลืมอะไรไปอีกเจ้าเล่ามาซิ" ในที่สุดซูเหมยฮวาก็ลุกขึ้นเดินมานั่งตั้งหน้าตั้งตาฟัง

แต่สีหน้าของอินเอ๋อในตอนนี้กลับมีสีหน้าเหนื่อยอกเหนื่อยใจ

"คุณหนูเจ้าขา ในราชวงศ์ตงฟางของเรานั้น สตรีที่ถูกถอนหมั้นถูกมองว่าเป็นลางร้าย หากแต่งเข้าตระกูลใดตระกูลนั้นก็จะไม่เจริญรุ่งเรือง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงตระกูลใหญ่ๆเลย

แต่ดูเหมือนว่าฝ่าบาทนั้นก็คิดเรื่องนี้เช่นเดียวกัน จึงมีราชโองการลงมาอีกให้คุณหนูอภิเษกกับเหวินอ๋อง ตงฟางเหวินเหย้าพระอนุชาของฝ่าบาทเพคะ"

"แต่ผู้ใดจะไปรู้ว่า แม้แต่เหวินอ๋องเองก็ไม่รับสตรีที่ถูกถอนหมั้นแล้วเช่นข้าด้วย ดังนั้นเวลานี้ก็ส่งคนมาถอนหมั้นข้าอีกคน อย่างนั้นใช่หรือไม่?"

ซูเหมยฮวากล่าวพลางยกยิ้มออกมาด้วยใจที่เบิกบาน แต่ใบหน้าของอินเอ๋อนั้นกลับบูดบึ้งจนไม่น่ามอง จากนั้นนางก็กล่าวด้วยความโมโหว่า

"ถ้าหากเป็นคนอื่นก็ว่าไปอย่าง แต่ข้าน้อยได้ยินมาว่าเหวินอ๋องผู้นี้เป็นคนพิการ ดังนั้นเป็นคุณหนูต่างหากที่ต้องถอนหมั้นเหวินอ๋อง เพราะข้ารู้สึกว่าเหวินอ๋องนั้นไม่คู่ควรกับคุณหนูเลยสักนิดเจ้าค่ะ"

ซูเหมยฮวามองอิ่นเอ๋อที่ทำท่าทางราวกับคนแก่ขี้บ่นนั้นอย่างขำขัน ในสมองของนางก็พลันค่อยๆปรากฎภาพต่างๆที่ไม่ใช่ของนางขึ้นมา

เดิมทีนางมาจากทศวรรษที่ยี่สิบเอ็ดครอบครัวเป็นตระกูลใหญ่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในวิชาแพทย์แผนจีน และการรักษาแบบฝังเข็มทั่วทั้งเมืองเอไม่มีใครไม่รู้จักตระกูลของนาง

ตั้งแต่เด็กจนโตท่านปู่และพ่อของเธอต่างเลี้ยงนางในห้องตำราการรักษา และยาสมุนไพรจีน จนกระทั่งเธอได้รับทุนให้ไปศึกษาแพทย์แผนปัจจุบัน เธอเลือกเรียนศัลยแพทย์ และเมื่อว่างเว้นก็ไม่ลืมที่จะกลับมาช่วยงานของตระกูลที่โรงพยาบาลแพทย์แผนโบราณ

ดังนั้นเธอมีชื่อเสียงอย่างกว้างขวางทั้งทางแพทย์แผนปัจจุบันและแผนโบราณ แต่วันนั้นเธอจำได้ว่าเธอว่าน้ำอยู่ในสระน้ำที่บ้านแต่ไหนเลยจู่ๆเธอก็รู้สึกคล้ายกับว่ากำลังจมน้ำและมีคนดึงเธอขึ้นมา

แต่เมื่อลืมตาขึ้นมาแล้วนางกลับพบว่าตนเองนั้นได้หลุดเข้ามาอยู่ในร่างของเด็กสาวยุคโบราณอีกทั้งยังมีชื่อแซ่เดียวกันกับนางอีกด้วย ก็ใช้เวลาอยู้สองสามวันเช่นเดียวกันนางถึงจะยอมรับเรื่องราวเหลือเชื่อเหล่านี้ได้

ทุกๆอย่างในความทรงจำที่นางได้รับมันช่างน้ำเน่ากว่าวงการซีรี่ย์ ละคร เสียเหลือเกิน หญิงสาวเจ้าของร่างเป็นถึงบุตรสาวคนโตของเฉิงเสี้ยง แต่กลับถูกละเลยไม่เคยได้รับการเหลียวแลจากผู้เป็นบิดาเลย

เนื่องจากมารดาของนาง เสียชีวิตตั้งแต่นางยังเด็ก บิดาได้แต่งตั้งให้ฮูหยินรองขึ้นมาเป็นฮูหยินใหญ่แทน ตลอดระยะหลายปีมานี้นางถูกแม่เลี้ยงและลูกสาวของนางรังแกมาโดยตลอด จนเด็กสาวกลายเป็นคนหวาดระแวงไม่พูดจา ชอบเก็บตัวนางนั่งรอวันที่จะได้อภิเษกสมรสกับองค์ชายรัชทายาทเพื่อรอเวลาได้ออกจากจวนนี้เสียที

แต่แล้วสิ่งที่นางเฝ้าฝันกลับพังลงเมื่อมีพระราชโองการถอนหมั้นนั้นลงมา หญิงสาวสิ้นหวังความฝันพังทะลายจึงเป็นสาเหตุให้นางคิดสั้นฆ่าตัวตาย

เดิมทีซูเหมยฮวายังคงไม่ค่อยจะเข้าใจนัก แค่การถอนหมั้นเหตุใดนางถึงต้องฆ่าตัวตายแต่พอคิดทบทวนไปมาอยู่หลายครั้งนางจึงพอจะเข้าใจ สำหรับเจ้าของร่างที่เป็นถึงคุณหนูใหญ่ของตระกูลเฉิงเสี้ยง ไม่คิดว่านางจะน่าเวทนาเช่นนี้

แต่ตอนนี้นางได้เข้ามาแทนที่แล้ว ต่อจากนี้ร่างนี้ก็จะไม่มีทางปล่อยให้เป็นเช่นแต่ก่อนอีกแล้ว นับจากนี้ไปนางจะใช้วิชาแพทย์ที่นางมีสร้างโลกของตนเองขึ้นมา จะไม่มีสตรีขี้โรค อ่อนแอผู้นั้นอีกแล้ว

สำหรับการถอนหมั้นเดิมทีก็ไม่เคยคิดที่จะแต่งงาน ดังนั้นใครอยากจะถอนหมั้นก็ปล่อยให้เขาถอนไปนางไม่ได้ใส่ใจแม้แต่น้อย

"คุณหนูใหญ่เจ้าขา เหตุใดคุณหนูถึงได้เงียบไปเล่าเจ้าคะ?"

อินเอ๋อเมื่อเห็นผู้เป็นนายเงียไปนางก็เอ่ยถามด้วยความเป็นกังวล เพราะหลายวันมานี้คุณหนูของนางมักจะสุขุมเยือกเย็น ยากนักที่นางจะคาดเดาความคิดของนางได้

"ไม่มีอันใด ข้าเพียงแต่คิดว่า...." ซูเหมยฮวายกยิ้มเย้ยหยันขึ้นมา "เวลานี้คนของจวนเหวินอ๋องน่าจะยังไม่กลับใช่หรือไม่? ตามจริงแล้วเจ้าบ้านกับแขกคงจะยังกำลังพูดคุยกันอยู่

ดังนั้นเรื่องราวเป็นอย่างไรก็ยังสรุปไม่ได้ แต่เรื่องราวเหล่านี้กลับหลุดออกมาถึงหูของข้าแล้ว ข่าวคราวต่างๆในจวนเฉิงเสี้ยงหลุดลอยออกมาง่ายดายเป็นที่เล่าลือกันไวขนาดนั้นเชียวหรือ?"

น้ำเสียงของซูเหมยฮวาราบเรียบ แววตาของนางฉายวับขึ้นมา อิงเอ๋อนิ่งอึ้งไปครูหนึง ดูเหมือนว่าเวลานี้นางนั้นจะนึกอะไรขึ้นมาได้

ในตอนนั้นคนของจวนเหวินอ๋องกำลังพูดคุยกันในห้องโถงใหญ่ที่ลานเหอหลานมีเหล่าองครักษ์และบรรดาแม่นมต่างๆอยู่กันเต็มไปหมด ดังนั้นข่าวคราวต่างๆก็ไม่น่าจะหลุดออกมาได้ง่ายๆ หรือว่า....

"คือเสี่ยวจู คนรับใช้ข้างกายของฮูหยินใหญ่เจ้าค่ะ" จู่ๆอิงเอ๋อก็นึกขึ้นมาได้ว่า จะว่าไปแล้วเสี่ยวจูก็ไม่ได้ตั้งใจจะบอกนาง เพียงแค่พวกนางพูดคุยกันเสียงดังในระหว่างที่นางเดินผ่านไปเท่านั้นเอง

ผู้หญิงคนนั้นกำลังก่อเรื่องอย่างที่คิดเอาไว้จริงๆ เดิมทีดวงตาหงส์ของซูเหมยฮวาก็เย็นชามากอยู่แล้วเวลานี้มันช่างหนาวเหน็บมากยิ่งนัก

ซูเหมยฮวานางเอ่ยถามอินเอ๋อว่า "อินเอ๋อ เสี่ยวจูนางใช้ปากของเจ้าบอกกับข้า เจ้าคิดดูสิ หากว่าข้าเชื่อเจ้า ข้านั้นจะกระโดดลงบึงบัวเช่นเมื่อหลายวันก่อนหรือจะผูกคอตายให้มันง่ายๆไปเลยดี?"

ไม่มีเวลาพูดจนจบอินเอ๋อก็พลันสีหน้าซีดขาวขึ้นมา นางคุกเข่าลงกับพื้นทันที "คุณหนู ข้าน้อย...."

"ข้ารู้ว่าเจ้านั้นเป็นห่วงข้าจนขาดสติไป แต่ถึงจะไม่มีสติอย่างไรก็ไม่สามารถปล่อยให้ตนเองกลายเป็นอาวุธของคนอื่นง่ายๆ

ครั้งนี้ก็ช่างเถอะ แต่ถ้าหากมีครั้งหน้าอีกข้าจะลงโทษเจ้าเป็นแน่"

หลายวันมานี้ข้างกายของนางมีเพียงอินเอ๋อและแม่นมลู่เพียงสองคนเท่านั้นที่คอยอยู่เคียงข้างนอง นางเชื่อว่าคนทั้งสองนั้นไม่มีวันที่จะคิดร้ายกับตนเป็นแน่ ซูเหมยฮวาเดินไปดึงอินเอ๋อให้ลุกขึ้นมาช้าๆ

"คุณหนู...."

อินเอ๋อกอบกุมมือเล็กๆอันอบอุ่นของซูเหมยฮวาเอาไว้ นางทั้งเสียใจและทั้งพูดไม่ออก ถ้าหากไม่ใช่ว่านิสัยของคุณหนูเปลี่ยนไปแล้ว เมื่อได้ยินข่าวจากนางเช่นนี้ คุณหนูคง...

เมื่อคิดได้ดั่งนั้นนางก็เงยหน้ามองซูเหมยฮวาด้วยดวงตาที่รู้สึกผิดทันที นางเกือบที่จะกลายเป็นคนสมรู้ร่วมคิดในการทำร้ายคุณหนูของนางไปเสียแล้ว

อินเอ๋อเป็นเพียงเด็กสาวที่ใสซื่อเท่านั้น นางยังขาดความระมัดระวังตนเองจากผู้อื่น ดังนั้นสิ่งที่นางจะต้องสั่งสอนกันต่อไปคือ ทำให้เด็กคนนี้ระมัดระวังตัวเองให้มากขึ้นจะได้ไม่ต้องถูกเขาหลอกอีก

สำหรับแม่เลี้ยงของนาง...หลี่ซื่อ 

สายตาเย็นชาของซูเหมยฮวาก็เย็นยะเยือกขึ้นมา หลี่ซื่อ เรายังมีเวลาทบทวนบัญชีแค้นกันอีกมาก ตอนนี้นางเป็นเพียงสตรที่อ่อนแอผู้หนึ่งเท่านั้น รอวันที่นางมีความสามารถมากพอ วันนั้นคือจุดจบของนางอย่างแน่นอน

......

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel