ตอนที่ 1 ลากขึ้นคอนโดฯ
“ปล่อยหนูนะ พี่ลมจะพาหนูไปไหน?” เสียงโวยวายของหญิงสาวดังขึ้นเพราะความเจ็บปวดที่ข้อมือ ร่างสูงกระชากลากถูเธอเข้าลิฟต์ส่วนตัวของคอนโดมีเนียม สีหน้าเย็นชาราวกับจะกินคน กลิ่นแอลกอฮอล์จากคนร่างเล็กที่พยายามดิ้นรนจนกระโปรงตัวจิ๋วเกือบจะหลุดลุ่ย ยิ่งมองดวงตาของเขาก็ยิ่งแผดเผา อยากบีบคอเด็กคนนี้ให้ตายคามือ
“ใครสั่งใครสอนให้ไปปาร์ตี้คนเดียวในผับแบบนั้น แล้วยังปล่อยตัวให้เมาขนาดนี้อีก!” เขาบ่นอย่างหัวเสีย หากเขาไม่บังเอิญขับรถออกจากผับข้างๆ และเห็นเธอกำลังจะถูกผู้ชายอุ้มขึ้นรถ เกรงว่าตอนนี้เธอคงถูกพาขึ้นสวรรค์ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง
แค่คิดว่าผู้หญิงคนนี้กำลังจะถูกใครเชยชม เขาก็ยิ่งโกรธจนแทบจะฆ่าคนได้
“เพื่อนหนูแค่จะไปส่ง พี่ลมต่อยเขาทำไม แล้วหนูจะมองหน้าคนอื่นได้ยังไง”
“มองไม่ได้ก็ไม่ต้องมองสิ”
“คนบ้า เผด็จการ!” ระรินบุ้ยปากอย่างไม่พอใจ
“หึ...”
‘ติ๊ง’
ลิฟต์เปิดออก ร่างสูงจับคนตัวเล็กกว่าขึ้นพาดบ่าและย่างสามขุมไปที่ห้องของตัวเอง คนบนบ่าตัวเบาราวกับปุยนุ่น แต่กลิ่นหอมเหมือนเบอร์รีผสมกับกลิ่นเหล้าทำให้ลำคอแห้งผากโดยไม่รู้ตัว โชคดีที่ชั้น 20 มีห้องทั้งหมดแค่สองห้อง แต่ละห้องเพียงแค่แชร์ลิฟต์กันเท่านั้น เดินไปไม่ถึงยี่สิบก้าวเพียงแค่สแกนนิ้วประตูก็เปิดออกอย่างรวดเร็ว
“พี่ลมปล่อยหนู!” ระรินโวยวายเสียงอ้อแอ้ มือเล็กทุบแผ่นหลังเขาอย่างแรง แต่เขาดูเหมือนจะไม่สะทกสะท้าน การถูกเขาอุ้มพาดบ่าแบบนี้ทำให้เธอเวียนหัวจนอยากจะอ้วก
ไฟสว่างจ้าเมื่อคนทั้งคู่เข้ามาในห้อง ลมอดทนกับการโวยวายของเธอและพาหญิงสาวไปในห้องน้ำ เมื่อระรินถูกจับวางลงบนเคาน์เตอร์ ความเย็นก็ทำให้เธอผวาเยือกและเกาะบ่าเขาอย่างรวดเร็ว
“มันเย็น! เอาหนูลงเดี๋ยวนี้” เธอบ่นอย่างไม่พอใจและออกคำสั่ง
ใบหน้าบึ้งตึงของลมในสายตาของเธอพร่าเลือนมาก แต่กระนั้นก็ยังสัมผัสได้ถึงความโกรธจากอีกฝ่าย เธอจึงพูดอีกประโยค “พาหนูกลับบ้านหน่อย พ่อจะเป็นห่วง”
“ตอนไปเที่ยวทำไมไม่กลัวพี่รันจะเป็นห่วง ตอนนี้ยังจะมีข้ออ้าง” เขาว่าเสียงเย็น ความจริงเขาส่งข้อความบอกศิรันเรียบร้อยแล้วว่าเจอระรินเมาอยู่ที่ร้านเหล้า ตอนนี้เธออยู่กับเขาที่คอนโด
ใบหน้าน่ารักของระรินจืดเจื่อน เธอเม้มริมฝีปากแน่นก่อนจะยื่นปากและพูดว่า “งั้นพี่ลมก็ออกไปได้แล้วหนูจะเข้าห้องน้ำ”
“ก็อยู่ในห้องน้ำกันนี่” เขาว่า ยังคงมองคนเมาตรงหน้าด้วยสายตาที่ร้อนแรง วันนี้เธอสวมเสื้อครอปสีขาวตามสไตล์วัยรุ่น แต่ที่น่าตีก็คือเสื้อคร็อปสีขาวนั้นบางมาก ข้างในมีเพียงบราเซียร์สีดำลายลูกไม้แสนเซ็กซี่ โชว์เอวเรียวสวยและผิวขาวเนียนราวกับผิวเด็ก แม้ว่าจะมีมินิสเกิร์ตสีดำเอวสูง แต่มันไม่ได้ช่วยอะไรเลยเพราะมันสั้นจนเกือบเห็นกางเกงในอยู่แล้ว
เขารู้ว่าระรินชอบแต่งตัว แต่ไม่คิดว่าวันนี้เธอจะแต่งตัวยั่วคนได้ขนาดนี้
โดยเฉพาะใบหน้าสวยเฉี่ยวของเธอที่แต่งสโมคกี้อายนิดๆ เข้ากับผมยาวดัดลอนสีน้ำตาลอ่อนเซ็กซี่เป็นบ้า กลิ่นเบอร์รีที่เป็นกลิ่นประจำตัวของเธอยิ่งทำให้เลือดลมในกายเขาเดือดพล่าน
สมองของระรินพยายามประมวลผลโดยไม่รับรู้ถึงสายตาอันตรายของลม เธอมองไปรอบๆ และก็พบว่าตัวเองอยู่ในห้องน้ำจริงๆ “พี่ลมออกไปสิหนูจะทำธุระ”
ลมกัดฟันพยายามข่มโทสะในอก ในหัวยังคงวนเวียนอยู่กับภาพที่เธอกำลังโดนผู้ชายลวนลาม แถมยังพอใจอีกต่างหาก “ผู้ชายที่ฉันต่อยมันเป็นใคร”
“เพื่อนหนู” ระรินตอบเสียงเบา เพราะกลัวท่าทางของลมเล็กน้อย หากเป็นเวลาปกติเธอคงไม่กลัว แต่เพราะตอนนี้สมองมึนงง แถมยังเห็นเขาต่อยคนจนเลือดกบปาก จะบอกว่าไม่กลัวก็คงจะโกหก ความปากดีตอนที่ถูกกระชากก่อนหน้านี้ถูกความเย็นของเคาน์เตอร์หินอ่อนทำให้ใต้สติขึ้นมา
“เพื่อนเหรอ? เพื่อนกันเกือบจะจูบปากกันได้เหรอ”
ระรินเม้มริมฝีปากแน่น ตอนนั้นมันเมามาก รู้แค่ว่ามีคนมาจับตัวแล้วก็ทำอะไรไม่ถูก เธอคิดว่าต้าร์เพียงแค่กระซิบพูดคุยเหมือนปกติเพราะเสียงเพลงในผับดังมาก แต่คิดไม่ถึงว่าเขาจะทำแบบนั้น...
“ก็แค่คุยกันเพราะเสียงเพลงมันดังเกินไป หนูจะล้มเขาก็เลยมาช่วยประคองไว้”
“เธอยังจะเข้าข้างมันอีก มือมันเกือบจะซุกเข้าไปใต้กระโปรงเธอแล้วแท้ๆ ยังไม่รู้ตัวอีกเหรอ”
ระรินสะดุ้งจนตัวโยน หลุบตามองกระโปรงของตัวเองและพยายามใช้ความคิด แต่ดูเหมือนสมองของเธอจะไม่ทำงาน ทำไมเมาแล้วกลายเป็นคนโง่แบบนี้นะ
“แต่พี่ลมก็ไม่ควรจะไปต่อยเขา”
“เป็นห่วงมันหรือไง?” เขาถามเสียงเย็น รัศมีอันตรายโอบล้อมไปทั่วห้องน้ำขนาดใหญ่
“ห่วงพี่ลมต่างหากล่ะ!” ระรินตวาดกลับเสียงดัง จู่ๆ ก็นึกโกรธขึ้นมาเมื่อเห็นเขาเอาแต่กดดันเธอแบบนี้ น้ำตาค่อยๆ ไหลพร้อมกับพูดว่า “พ่อกับหนูพยายามช่วยกันรักษาชื่อเสียงให้พี่ลมเพราะกลัวว่าเรื่องฉาวมันจะกระทบกับหน้าที่การงานของพี่ แต่พี่ลมเคยคิดบ้างไหมว่าหนูกับพ่อพยายามขนาดไหน พี่ลมทั้งเอาแต่ใจ ทั้งกินไม่เลือก ผู้ชายเฮงซวย!”
ประโยคแรกลมไม่ได้ใส่ใจมากนักเพราะพี่ศิรันมักจะบ่นเขาอยู่เสมอ แต่ประโยคหลังที่เธอพูดถึงแถมยังทำหน้าตาเหมือนลูกหมาถูกทิ้ง ค่อนข้างสะกิดใจเขา
“กินไม่เลือกอะไร พูดให้ชัดเจนสิ”
ราวกับเปิดก๊อก ระรินถลึงตาใส่เขาด้วยความโมโห “ยังไม่รู้ตัวอีก พ่อบอกกี่ครั้งว่าอย่าหิ้วผู้หญิงมากินที่คอนโด นอกจากพี่ลมจะไม่ฟังแล้วยังพามากินทุกอาทิตย์ ไหนจะถุงยางที่ใช้แล้วอีก อี๋...เดือดร้อนคนอื่นต้องมาเก็บให้ แม่บ้านก็ไม่ใช่”
เพราะกลัวว่าเรื่องผู้หญิงของลมจะถูกสื่อเล่นข่าว คนที่ทำการเก็บกวาดทุกครั้งหลังเสร็จศึกก็คือเธอนั่นเอง แม้ว่าจะได้เงินค่าขนมเยอะ แต่มันก็เทียบไม่ได้กับการที่ได้เห็นพฤติกรรมสำส่อนของดาราดังอย่างเขา
ไม่รู้ว่าข้างนอกมีผู้หญิงกี่แสนกี่ล้านคนที่มองเขาเป็นเทพบุตรในหัวใจ ใครจะไปรู้ว่าความจริงเบื้องหลังเขาไม่ใช่เทพบุตรเลย
เพียงแค่คิดว่าทุกครั้งที่ได้ยินคำพูดอวยยศของบรรดาแฟนคลับที่มีต่อเขา เธอก็ขนลุกไปทั้งตัว
จู่ๆ ความโกรธของลมก็เบาบางลงเล็กน้อย เขาหรี่ตามองคนที่กำลังมองเขาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ รู้สึกตลกเล็กน้อย เวลาปกติเธอไม่เคยบ่นให้เขาเห็น ทั้งยังรักษาระยะห่างเป็นอย่างดี นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินตำพูดคำจาเผ็ดร้อนจากเธอ
“รังเกียจเหรอ”
“สุดๆ” เธอทำหน้าเหม็น เหล่มองเขาราวกับขยะสกปรก “ไม่รู้ติดโรคมาหรือเปล่า”
“ฮ่าๆ” จู่ๆ เขาก็หัวเราะขึ้นมา มองระรินด้วยรอยยิ้มอันตราย “อยากรู้ทำไมเธอไม่ใช่เมียฉันสักหน่อย”
