บท
ตั้งค่า

อั๊ยหยา! 2

ทันทีที่เหยียบย่างเข้าเรือน ซือหยาก็ไม่ปล่อยเวลาให้เสียเปล่า นางวางตะกร้าไม้ไผ่ลง กวาดตามองรอบห้องโถงที่เต็มไปด้วยเสื้อผ้าใช้แล้วพาดอยู่ตามเก้าอี้ไม้ ตัวผ้าม่านแขวนอยู่ริมหน้าต่างมีคราบฝุ่นจับจนเปลี่ยนเป็นสีหม่น ราวกับไม่เคยถูกซักเลยมานาน

"ถึงคราวต้องสะสางให้หมดเสียที" นางพึมพำกับตนเอง

ซือหยาลงแรงปลดผ้าม่านออกทีละผืน ม้วนเสื้อผ้าเก่าของทุกคนใส่ตะกร้าไม้ไผ่ เสียงผ้าถูกรวบดัง ฟึบ ฟึบ นางเดินลากตะกร้าหนักพะรุงพะรังเข้าไปยังห้องด้านใน แล้วหน้ามองซ้ายขวาเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครอยู่ใกล้

เพียงชั่วอึดใจ ร่างของซือหยาก็หายวับเข้าไปในมิติ แสงสว่างเรื่อ ๆ ส่องสะท้อนผนังขาวสะอาด เครื่องซักผ้าและเครื่องอบขนาดใหญ่ตั้งเรียงรายอยู่ราวกับร้านซักรีดสมัยใหม่ กลิ่นน้ำยาหอมอ่อน ๆ ลอยอบอวลอยู่ในอากาศ

"ข้ามีเครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้าพร้อมทั้งน้ำยาหอม งานบ้านเพียงเท่านี้จะนับเป็นอะไรได้"

ซือหยาพูดกับตนเองพร้อมรอยยิ้มบาง มือเรียวยกเสื้อผ้าแต่ละชิ้นขึ้นสะบัด ฟึ่บ ฟึ่บ ฝุ่นดินปลิวกระจาย ผ้าทุกชิ้นถูกล้างออกจนดินหมดไป ก่อนจะโยนเข้าไปในเครื่องซักผ้า ขวดน้ำยากลิ่นหอมอ่อนถูกเปิดฝา เทรินเข้าไปในช่องตามปริมาณที่พอเหมาะ

"เดี๋ยวค่อยเข้ามาอบผ้า"

นางพึมพำ พลางปรับปุ่มเครื่องให้เดินเครื่องอัตโนมัติ เสียงน้ำไหล ฉ่า ตามด้วยเสียงเครื่องหมุนเบา ๆ ดัง ครืด ครืด

เมื่อออกจากมิติแล้ว ซือหยาตรงดิ่งไปยังห้องครัว นางยกเข่งปลาตะเพียนขึ้นมาจากอ่างน้ำ ปลามีทั้งหมดหกตัวกำลังดิ้นกระเสือกกระสนแวววาวสะท้อนแสงแดดยามบ่าย

ซือหยาจับปลาทีละตัว ใช้ท่อนไม้ทุบหัว ปั๊ก! ให้สงบลง จากนั้นควักไส้ ล้างทำความสะอาด มือของนางเปื้อนเลือดคาวปลาจนต้องล้างในกะละมังไม้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

เตาดินเผาหัวแรกถูกจุดไฟจนเปลวลุกโชน น้ำมันหมูในกระทะเหล็กเริ่มเดือด ฉ่า เมื่อซือหยาวางปลาลง เสียงทอดดังลั่นพร้อมกลิ่นหอมกรุ่นโชยไปทั่วครัว

ในเวลาเดียวกัน เตาหัวที่สองก็ถูกวางกระทะเหล็กอีกใบ นางนำหมูสามชั้นรมควันหั่นเป็นชิ้นพอดีคำลงไปผัด ฉ่า เสียงแตกซู่ดังประสานกันกับกลิ่นหอมมัน ๆ ลอยตีกันไปมา

"ดี… ทำพร้อมกันทั้งสองอย่างจะได้เสร็จทันมื้อเย็น"

ซือหยาพึมพำ พลางใช้ตะหลิวไม้กลับชิ้นหมูให้เหลืองหอม แล้วรีบหันกลับไปควบคุมปลาทอดในอีกกระทะ เสียง แซ่ก แซ่ก ดังแข่งกับเปลวไฟ

เมื่อตัวปลาทอดทั้งหมดเหลืองกรอบได้ที่ นางก็ตักขึ้นพักไว้ จากนั้นใส่ซีอิ๊วขาว น้ำตาล ขิงหั่นแว่น ซีอิ๊วดำลงไปในหม้อใบใหม่ วางปลาลงไปเรียงทีละตัว โรยพริกแห้งและต้นหอมซอย แล้วเติมน้ำเปล่าลงในหม้อดินขนาดใหญ่ เสร็จแล้วปิดฝาให้ตุ๋นไปเรื่อย ๆ กลิ่นเค็มหวานปนหอมขิงค่อย ๆ ซึมออกมา

ด้านอีกเตาหนึ่ง ซือหยาหั่นผักกาดขาว กะหล่ำปลี หัวไชเท้า เห็ดหอมแห้ง ลงไปผัดรวมกับหมูสามชั้นรมควัน ปรุงด้วย ซีอิ๊ว เกลือเล็กน้อย จากนั้นก็เติมน้ำ ปิดฝาทิ้งไว้ให้ เคี่ยวจนเป็น "ต้มจับฉ่าย" ที่หอมกรุ่น

"อาหารเรียบร้อยแล้ว แค่เทียวมาเติมไฟบ่อย ๆ ก็พอ"

ทำงานครัวเสร็จซือหยาก็ไม่ยอมพัก นางกลับเข้าเรือนกวาดผ้าห่มเก่า ๆ ออกมา รวบใส่ตะกร้าแล้วหายวับเข้าไปในมิติอีกครั้ง คราวนี้ใช้เครื่องซักผ้าอีกเครื่องจัดการซักจนสะอาด ผ้าชุดเก่าที่ซักไว้โยนเข้าเครื่องอบออกมาเป็นผ้าหอมกรุ่น นางพับผ้าแต่ละผืนเรียงซ้อนกันเป็นตั้ง เตรียมจะเอาออกไปวางไว้ที่ห้องโถง เพื่อให้แต่ละคนมาเก็บไปเอง แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้

เสร็จงานพับผ้า นางก็ออกจากมิติพร้อมกับหยิบไม้กวาดหยากไย่ ไม้กวาดก้านมะพร้าว ไม้ถูพื้น และผ้าเช็ดโต๊ะออกมา เริ่มลงแรงกวาดหยากไย่ตามเพดาน กวาดฝุ่นบนพื้นดินอัดแน่นออกทางประตู กวาดจนแขนเมื่อยล้าแต่ดวงตากลับเปล่งประกายมุ่งมั่น

เสียง กร๊อบ ๆ ของไม้กวาดก้านมะพร้าวลากบนพื้นดินดังสม่ำเสมอ

สุดท้าย นางเดินไปที่โอ่งดินใบใหญ่ ใช้สายยางยาว ๆ ที่ซ่อนอยู่ในมิติ เชื่อมต่อกับก๊อกน้ำสมัยใหม่ เติมน้ำใส่โอ่งจนเต็มทีละใบ เสร็จแล้วก็ไปรดน้ำในสวนผักที่อยู่ข้างเรือนต่อ

จนกระทั่งแสงอาทิตย์ยามเย็นคล้อยต่ำ ร่างของซือหยาก็เหนื่อยหอบ เสื้อผ้าเปียกชื้นด้วยเหงื่อ นางจึงเก็บอุปกรณ์ทั้งหมดกลับเข้ามิติ แล้วเดินเข้าห้องอาบน้ำในมิติ ใช้น้ำอุ่นชำระร่างกายจนหอมสะอาด ผิวพรรณเปล่งปลั่งเหมือนสตรีผู้สูงศักดิ์ในเมือง

แล้วออกมาพร้อมเสื้อผ้าสะอาดตา จากนั้นก็รีบเข้าครัวไปหุงข้าวเอาไว้ พร้อมกับเติมฟืนใส่เตาที่เคี่ยวอาหารอยู่

เมื่อท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีส้มแดง สมาชิกเรือนสกุลเสิ่นก็ทยอยกลับมาจากแปลงนา แต่ละคนเต็มไปด้วยเหงื่อและคราบดินเหนียว พวกเขาก้าวเข้ามาในลานบ้าน ก่อนจะต้องชะงักค้างไปในทันที

บ้านที่เคยเต็มไปด้วยฝุ่นและความหม่นหมอง กลับสะอาดสะอ้านอย่างน่าอัศจรรย์ ผ้าม่านสีซีดถูกซักจนสะอาดพลิ้วไหวไปตามลม กลิ่นหอมอ่อน ๆ ลอยคลุ้งไปทั่วเรือน

บนชั้นไม้กำแพงห้องโถง มีเสื้อผ้าของทุกคนถูกพับเป็นตั้งวางเรียงอย่างเป็นระเบียบ ไม่มีเศษฝุ่นสักนิด พ่อเฒ่าเสิ่นยกมือเกาลูกเครา ดวงตาเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ

"อั๊ยหยา… เรือนเราสะอาดขนาดนี้เชียวรึ!"

แม่เฒ่าเสิ่นเดินวนไปมา มือคลำผ้าม่านที่สะอาดจนหอมฟุ้งแล้วพึมพำออกมาเสียงสั่น

"สะใภ้เล็ก… เจ้านี่ช่างทำให้แม่กับพ่อเบาใจยิ่งนัก ขอบใจเจ้ามากที่อุตส่าห์เหนื่อยหอบกับงานในเรือน"

ทุกคนยืนตะลึงงัน ไม่อยากเชื่อว่านี่คือฝีมือของสตรีที่แต่ก่อนเอาแต่เรียกร้องไม่เคยแตะงานบ้านเลยแม้แต่น้อย…

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel