บท
ตั้งค่า

Ep.3 วิวาห์

วันแต่งงานเป็นวันที่หนุ่มสาวใฝ่ฝัน แต่งานแต่งงานใหญ่โตที่ถูกจัดขึ้น ณ โรงแรมหรูใจกลางเมืองกรุงในตอนนี้เจ้าบ่าวกับเจ้าสาวไม่ได้มีความยินดีปรีดากับงานวิวาห์ครั้งนี้เลย ฝ่ายเจ้าบ่าวที่กำลังยืนรอรับแขกหน้างานระหว่างรอเจ้าสาวแต่งตัวเสร็จก็ได้แต่หน้าบึ้งกลืนไม่เข้าคายไม่ออก จนบรรดาเพื่อนเจ้าบ่าวต้องเดินมายืนเป็นเพื่อน

“ยิ้มหน่อยไอ้เพื่อน” รักษ์เดินมาทำมือดึงแก้มทั้งสองของเพื่อนให้ยิ้ม

“ไม่เว้ย! มึงก็ดูแม่กูสิ หน้าบานอย่างกับดอกทานตะวัน แม่ไม่เคยคิดถึงจิตใจกูเลยว่ะ” มโนปัดมือของเพื่อนรักออกจากหน้าของตน พลางส่งสายตาไปทางผู้เป็นแม่ที่กำลังพูดคุยสนุกสนานกับแขกที่มาร่วมงาน

“เจ้าสาวมึงจะมาตอนไหนวะ รูปพรีเวดดิ้งก็ไม่ถ่าย กูละอยากเห็นหน้าจะแย่แล้วเว้ย แล้วคนอะไรกล้าตั้งชื่อลูกว่าตะลิงปลิง” ฝันดีพูดบ้าง เมื่อตอนนี้ก็ใกล้ได้เวลาแล้ว แต่เจ้าสาวก็ยังไม่เข้ามาในงานเลย

“พอแม่เขาพอใจจะตั้งไหมไอ้ฝัน อีกอย่าง เรื่องรูปกูไม่ถ่ายเองแหละ ถ่ายทำไม แต่งงานก็ใช่ว่าจะสำคัญที่รูปถ่าย อีกอย่าง กูไม่อยากเจอหน้ายัยเด็กนั้นด้วย” มโนกัดฟันแน่นเมื่อพูดถึงเจ้าสาวของตน แล้วภาพในอดีตก็ย้อนเข้ามาในหัว

"เฮ้ย! เจ้าสาวมึงมาแล้วไอ้โน แม่งสวยชิบหายเลยไอ้เชี่ย”

ลวงร้อยร้องบอกเพื่อน ๆ ของตนให้มองไปยังข้างหน้างานด้วยความตื่นเต้น สายตาของห้าหนุ่มจดจ้องไปยังเจ้าสาวชุดสีขาวยาวลากพื้น ชุดที่เปิดเผยไหล่เล็กนวลเนียนกำลังเดินหน้าตึงไม่ต่างจากเจ้าบ่าวมาทางพวกเขายืน

“อะแฮ่ม! นั่นเมียกูเว้ย!" มโนบอกเพื่อนรักเพื่อเรียกสติ

“มึงหวงเหรอไอ้โน” เพ้อภพเอ่ยพร้อมกับมองตามสายตาของเจ้าบ่าวที่กำลังจดจ้องไปทางเจ้าสาวไม่วางตา

“เปล่า...กูอายแขกในงาน อีกอย่าง ไม่เห็นจะสวยตรงไหนเลย” มโนบอกปัดพลางแสร้งมองไปทางอื่น แต่หางตาก็แอบชำเลืองมองคนตัวเล็กในชุดสีขาวเดินมาทางตนอยู่เป็นระยะ

“หนูแสบสวยมาก ๆ เลยจ้าวันนี้ ขอบคุณนะจ๊ะที่ยอมแต่งงานกับพี่เขา”

เพ็ญศรีเดินไปรับลูกสะใภ้จากธนพลพาเดินมาส่งให้ลูกชายของตน ตะลิงปลิงก็ได้แต่ยิ้มแหย ๆ ให้กับอีกฝ่าย

“หลบหน่อยหนุ่ม ๆ เจ้าสาวเขาจะยืนข้างเจ้าบ่าวแล้วจ้ะ”

เพ็ญศรีผลักเพ้อภพออกจากข้างลูกชายของตนแล้วดันตะลิงปลิงไปยืนแทนที่ พร้อมจับท่าทางให้เจ้าสาวยกมือมาควงแขนเจ้าบ่าว ส่วนเจ้าบ่าวกับเจ้าสาวจ้องสบตากันเมื่อถูกบังคับ ก่อนจะเบือนหน้าหนีไปคนละทาง

“สวัสดีครับคุณอา” มโนยกมือของตนขึ้นไหว้สวัสดีพ่อของเจ้าสาวของตน หลังจากที่ไม่ได้พบกันนานมาหลายปี แต่ก็ยกขึ้นได้ไม่ถนัดเพราะมีมือเล็กเกาะแขนไว้

“อาฝากน้องด้วยนะโน” ธนพลเอ่ยยิ้ม ๆ ก่อนจะหันไปมองหน้าลูกสาวที่เอาแต่บึ้งตึง “หนูแสบยิ้มหน่อยสิลูก วันนี้ลูกพ่อเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุดในโลกเลยนะ”

“ก็แสบ...”

“ไม่เอา ๆ ไม่พูดกันแล้ว เรามาถ่ายรูปครอบครัวกันดีกว่าพล” เพ็ญศรีเห็นว่าหากปล่อยให้ตะลิงปลิงพูดคงได้ปะทะฝีปากกับลูกชายตัวดีของตนเป็นแน่ “ภพ ฝัน รัก และเพ้อจ๊ะ ออกจากเฟรมได้ไหมลูก แม่จะถ่ายเฉพาะครอบครัวจ้ะ” นางบอกบรรดาเพื่อน ๆ ขอวงลูกชายให้ออกจากตรงนี้ เพราะอยากถ่ายรูปครอบครัวกัน

สี่หนุ่มมองตากัน ก่อนจะส่งยิ้มเยาะเย้ยไปให้เจ้าบ่าวหน้าตึง แล้วเดินออกไปยืนมองอยู่ข้าง ๆ เจ้าบ่าวเจ้าสาวถ่ายรูปกับครอบครัว เมื่อรูปครอบครัวเสร็จก็ต้องเป็นรูปกับเพื่อนเจ้าบ่าว

“หนูแสบยิ้มมีความสุขหน่อยสิจ๊ะลูก ไม่เอาไม่ทำหน้าตึงสิคะ โนก็ด้วย เจ้าสาวสวยก็สวย ทำไมถึงได้ทำหน้าแบบนี้ลูก”

เพ็ญศรีเอ่ยเมื่อเห็นเจ้าบ่าวเจ้าสาวไม่ยอมยิ้มเลย ทำหน้าอย่างกับถูกบังคับแต่งงานอย่างนั้นแหละ แต่ก็ถูกบังคับจริง ๆ เสียด้วยสิ ตะลิงปลิงเป็นลูกสาวของเพื่อนรุ่นน้องที่มหาวิทยาลัยของนาง พอแต่งงานมีครอบครัวเลยสัญญากันว่าจะให้ลูก ๆ ของตนแต่งงานกัน และวันนี้ก็มาถึงสักที

“พี่เพ็ญครับผมว่าให้เด็ก ๆ มีรูปคู่ดีไหมครับ” ธนพลออกความเห็น เมื่อเห็นว่าถ่ายรูปครอบครัวหลายรูปแล้ว

“ดี ๆ เหมือนกันพล” แล้วทั้งสองก็พากันแยกออกจากเฟรมกล้อง ทิ้งเหลือแต่เจ้าบ่าวเจ้าสาวเงอะงะด้วยไม่รู้ว่าจะทำหน้ายังไง

“ยิ้มหน่อยสิ ไม่ดีใจเหรอที่ได้แต่งงานกับฉัน”

“ตกนรกน่ะสิไม่ว่า ว้าย!"

ตะลิงปลิงร้องเสียงหลงเมื่อถูกเจ้าบ่าวตวัดเกี่ยวร่างเข้าไปกอดแบบไม่ทันได้ตั้งตัว

“ยิ้มสิ” มโนกระซิบคนในอ้อมกอด พลางสูดกลิ่นกายหอม ๆ ของเจ้าสาวเข้าปอดแรง ๆ กลิ่นช่างหอมละมุน มันไม่ใช่กลิ่นน้ำหอม แต่มันเป็นกลิ่นแป้งเด็ก เป็นกลิ่นที่ไม่คิดว่าผู้หญิงวัยสาวจะใช้กัน

“ปล่อยฉันนะ” หล่อนพยายามขืนตัวเองไม่ให้ร่างบดเบียดไปกับเจ้าบ่าว

“ยิ้มสิ ทุกคนรอเราอยู่นะ ถ่าย ๆ ไปเถอะ สร้างภาพน่ะเป็นไหม” มโนเอ่ย ก่อนจะหันไปยิ้มให้กล้อง และมันเป็นยิ้มที่เขายิ้มเต็มปาก เป็นยิ้มที่ไม่เสแสร้งและยิ้มของมโนก็ทำให้เพื่อนรักทั้งสี่ของเขาต้องหันมาสบตากันด้วยคำถาม

“ดีมากจ้า...น่ารักมาก ๆ เลยลูก ๆ เพื่อนเจ้าบ่าวมาถ่ายกับเจ้าบ่าวเจ้าสาวได้แล้วจ้ะ”

เพ็ญศรีบอกเพื่อนเจ้าบ่าวตัวป่วนเข้าไปถ่ายรูปกับเจ้าบ่าวเจ้าสาว แล้วเพื่อนเจ้าสาวก็มาร่วมเฟรมถ่ายรูปได้ เพื่อนเจ้าสาวของตะลิงปลิงมีแต่เด็ก ๆ อายุ 7 ขวบ 8 ขวบ เลยทำให้เพื่อนเจ้าบ่าวใจแป้ว เพราะคิดว่าเพื่อนเจ้าสาวจะสวยเหมือนเจ้าสาว แต่ก็ผิดคาด

เวลาผ่านไปไม่นาน พิธีช่วงเช้าก็จบลงเมื่อเจ้าบ่าวเจ้าสาวจดทะเบียนต่อเจ้าหน้าที่ทะเบียนที่เพ็ญศรีเชิญมา เมื่อตอนนี้ทั้งสองเป็นสามีภรรยากันถูกต้องตามกฎหมาย ก็ให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวแยกตัวไปพัก รอเวลาสองทุ้มสิบสามนาทีก็ถึงฤกษ์ดีส่งตัวคู่บ่าวสาวเข้าห้องหอบนห้องที่ทางโรงแรมจัดไว้ให้ ทั้งสองต้องพักอาศัยอยู่ที่โรงแรมนี้เป็นเวลาสามวันสามคืน

ตะลิงปลิงเดินวนเวียนไปมาหลายรอบแล้วตั้งแต่พิธีแต่งงานเสร็จ จะเหลือก็แต่ฤกษ์ส่งตัวเข้าห้องหอ หญิงสาวกระวนกระวายใจ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายหาชนิดาเพื่อนรัก แต่ก็เงียบ สงสัยงานศพของพ่อคงไม่เสร็จจึงรับสายเธอไม่ได้ แต่แล้วก็ต้องกำโทรศัพท์ไว้ในมือเมื่อผู้เป็นพ่อเปิดประตูเข้ามาหาในห้องพัก

“หนูแสบเป็นยังไงบ้างลูก เหนื่อยไหม อดทนหน่อยนะลูกอีกเดี๋ยวก็ได้เข้าหอแล้ว” ธนพลเดินมาลูบหัวแก้วตาดวงใจตนด้วยความอ่อนโยน พร้อมดึงตามตนไปนั่งที่โซฟา

“ลูกไม่เหนื่อยเท่าต้องฝืนใจแต่งงานกับผู้ชายคนนั้นหรอกค่ะพ่อพล” หล่อนตัดพ้อ

“ไม่เอาสิลูก ตอนนี้ลูกเป็นคนของบ้านเหลืองอร่ามทองคำส่องแสงระยิบระยับรุ่งเรืองพราวฟ้าแล้วนะลูก”

“ให้ตายเถอะพ่อ นามสกุลบ้าอะไรยาวยิ่งกว่ากำแพงเมืองจีน ใครจะไปจำได้ พ่อพูดใหม่อีกทีสิคะ” หล่อนตกใจตั้งแต่เห็นนามสกุลที่ตนต้องเปลี่ยนตั้งแต่ตอนจรดปลายกาเซ็นชื่อในใบทะเบียนสมรสแล้ว

“หนูแสบล้อพ่อเล่นรึเปล่าลูก” ธนพลยิ้มขำ กว่าเขาจะท่องจำได้ก็ใช้เวลานาน และเหมือนจะพูดได้ครั้งเดียวด้วย

“ช่างเถอะ ไม่เห็นต้องจดจำอะไรเลย เดี๋ยวไม่นานก็ต้องหย่าอยู่ดีใช่ไหมคะพ่อพล เพราะพ่อพลบอกว่าถ้าอยู่ไม่รอด พ่อพลอนุญาตให้แสบหย่าได้” หญิงสาวทวงคำพูดก่อนที่ตนจะตกลงแต่งงานกับมโน

“แน่นอนอยู่แล้ว แต่ลูกแน่ใจเหรอว่าลูกจะไม่หลงรักพี่เขา พี่เขาหล่อออกปานนั้น ขนาดพ่อเป็นผู้ชายด้วยกันยังอดชื่นชมไม่ได้เลยนะ”

หากว่าในอนาคตข้างหน้าชีวิตคู่ของลูกสาวไปไม่รอด เขาก็ให้สิทธิ์เธอตัดสินใจเอง เพราะแค่เรื่องแต่งงานก็ถือว่าบังคับจิตใจของตะลิงปลิงมากพอแล้ว ต่อไปนี้หากเธออยากทำอะไรเขาก็จะตามใจลูกสาวทุกอย่าง และเคารพทุกการตัดสินใจของเธอด้วย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel