บทที่ 5 ทำไม?
เวลาเกือบสี่โมงเย็น ร่างเล็กเดินเข้ามาในห้องเพื่อจะอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่เข้ามาเจอดามพ์กับลูกนอนอยู่ข้างกัน ดามพ์นอนพรม ส่วนลูกนอนบนฟูกนอน ภาพพ่อและลูกน้อยนอนด้วยกันและแขนใหญ่ก็โอบกอดลูกน้อยไว้หลวมๆ ภาพตรงหน้าสะท้อนความรู้สึกข้างในใจจนน้ำตาแตก
“อึก! อือ...” เธอรีบยกมือปิดปากไม่ให้เสียงสะอื้นดังลอดออกมาจากริมฝีปากตัวเองและก็รีบเดินผ่านสองพ่อลูกไปอาบน้ำแต่งตัวให้เรียบร้อยเพื่อจะออกมาถามว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมลูกถึงมานอนอยู่บนฟูกไม่นอนในเปล และทำไมเขาถึงมาอยู่ในห้องของเธอ
เวลาผ่านไปไม่ถึงสิบนาที ผกาก็ออกมาจากห้องน้ำพร้อมชุดใหม่เป็นเสื้อยืดและข้างในก็เป็นยกทรงที่ใส่สำหรับป้อนนมลูกและกางเกงผ้าร่มขายาวสีดำ เมื่อเดินเข้ามาลูกน้อยก็ตื่นพอดีและร้องหิวนม
อุแว้! แอ้!
เธอรีบเดินไปอุ้มลูกจากฟูกนอนพาเดินไปนั่งบนเตียงแล้วเปิดเสื้อป้อนนมลูกน้อย
“อะ...อื้อ” พอได้ดูดเต้าก็หยุดร้องไห้
คนเป็นพ่อก็ตื่นนอนดีดตัวลุกขึ้นเมื่อได้ยินเสียงลูกร้อง แต่เห็นแม่ของลูกอุ้มไปป้อนนมแล้วก็โล่งใจหายห่วง
“มานานรึยังผกา” รอให้ผกาพูดกับตนก่อนไม่มีทางแน่ ดามพ์จึงเปิดปากเอ่ยชวนคุยก่อน
“ไม่นานค่ะ” เธอตอบสั้น โดยไม่เงยหน้าสบตาคนที่ลุกเดินมาหยุดยืนตรงหน้าตนเอง
ดามพ์สูดลมหายใจลึกๆ ให้กำลังใจตัวเองแล้วพูดต่อ
“ลูกเรานอนหลับง่ายมาก แถมเลี้ยงง่ายด้วย”
‘ลูกเรา?’ งั้นเหรอ เขากล้าพูดคำว่า ‘เรา’ ได้ยังไงกัน
เงียบ!
ไม่มีเสียงตอบกลับมาจึงเอ่ยอีกครั้ง
“ลูกเราหน้าเหมือนเธอมากนะผกา ถอดแบบมาทุกอย่าง ไม่ว่าจะปาก ตา และ...”
“หยุดพูดได้ไหมคะ ผการำคาญค่ะ” ผกาพูดแทรกขึ้นไม่รอให้เขาพูดจบ และไม่อยากได้ยินเสียงเขา ไม่อยากเห็นเขาในห้องด้วย ทำไมเขาไม่ไป ปกติถ้าเธออยู่ไหน เขาจะหลบไปที่อื่น แต่ทำไมถึงยังไม่ไสหัวไปอีก
“ต่อไปนี้ฉันจะพูดทุกอย่างตามที่ฉันอยากพูด” ดามพ์ตอบสวนกลับหนักแน่นแล้วก็เดินไปนั่งบนเตียงเบียดคนตัวเล็กที่กำลังอุ้มลูกให้นมอยู่
“ถอยไปนะ!” เธอไม่ได้พูดเฉยๆ แต่อุ้มลูกน้อยขยับถอยหนีคนที่นั่งลงเบียดตนเองและก็ยิ่งทำให้หงุดหงิดเมื่อดามพ์ขยับตาม
“ต่อไปนี้ฉันจะทำทุกอย่างตามใจตัวเองเหมือนที่เธอทำบ้างผกา”
“ทำไมคะ ทำชีวิตผกาพังยังไม่พออีกเหรอคะ”
“ก็ให้ฉันแก้ไขสิ ทุกอย่างมันแก้ไขได้ผกา ถ้าเธอให้โอกาสฉันได้แก้ไขมัน”
“ยังไงคะ? แก้ไขยังไง ในเมื่อคุณดามพ์ข่มขืนผกาตอนเมา”
“เธอก็รู้ตอนนั้นฉันไม่ได้แค่เมาอย่างเดียว ฉันโดนผู้หญิงข้างนอกวางยาปลุกเซ็กซ์ และอีกอย่างจะโทษฉันฝ่ายเดียวก็ไม่ได้ ฉันมาคิดดูแล้วถ้าวันนั้นผกาไม่เข้าไปในห้องฉัน เรื่องทุกอย่างมันคงไม่เกิดขึ้น และพอเกิดขึ้นแล้วก็ต้องรับผิดชอบด้วยกันสิว่าไหม” ดามพ์เอ่ยร่ายยาวออกมา และยิ่งได้เห็นแววตาเจ็บปวดของผกา เขาก็ยิ่งปวดใจ แต่ก็กัดฟันข่มความเจ็บปวด ตีหน้านิ่งซ่อนความปวดร้าวของตนเองไว้ในใจ
“คนเลว!” แล้วเธอก็สะอื้นไห้ทั้งๆ ที่ยังอุ้มลูกให้นมอยู่
ฮือๆ
อึก!
“อย่าร้องไห้สิผกา อย่าร้องไห้ หยุดได้แล้ว เดี๋ยวลูกก็ร้องไห้ตามหรอก” พอพูดจบลูกน้อยก็ผละหน้าออกจากเต้าร้องไห้ตามแม่เหมือนรับรู้ถึงความเจ็บปวดของแม่ตนเองที่อุ้มอยู่
แง้! แง้! แง้!
พอลูกน้อยร้อง แม่ก็รีบข่มเสียงร้องไห้ตัวเองและคุมอารมณ์ตัวเองให้ปกติพร้อมอุ้มลูกลุกจากเตียงเดินตบก้นปลอบไปมาในห้องโดยมีคนเป็นพ่อเดินตามพูดไม่หยุด
“ชูว์...ไม่ร้องนะหนูดาของพ่อดามพ์ ไม่ร้องนะคะคนดีของพ่อกับแม่ผกา ชูว์...ไม่ร้องนะ” เขาเดินตามเอามือลูบหัวลูกไปด้วยจนทำให้คนเป็นแม่หยุดเดินแล้วหันมาส่งตาขวางให้เขา แต่ดามพ์ก็ยิ้มแสร้งไม่สนใจพร้อมกับที่ดอกไม้ถือกระเป๋าของเขาเข้ามาในห้อง
“คุณดามพ์ให้ดอกไม้เอาเสื้อผ้าเก็บไว้ในตู้เสื้อผ้ากับของน้องผกาเลยไหมคะ” ดอกไม้เดินเข้ามาพร้อมกระเป๋าเดินทาง จริงๆ จะมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ติดไปจ่ายตลาด และพอกลับมาก็รีบมาเก็บกระเป๋าให้เจ้านายหนุ่มทันที
“จัดใส่ตู้เสื้อผ้าของผกานั่นแหละ ของใช้ส่วนตัวที่อยู่ในห้องน้ำก็เอาไปเก็บไว้ในห้องน้ำ”
เสียงของดอกไม้ทำให้ผกาขมวดคิ้วงุนงงแล้วหันมาเอ่ยถามเขา และเจ้าตัวเล็กก็หยุดร้องไห้แล้วตอนนี้ พอแม่หยุดร้อง ดาวิษาก็หยุดร้องไห้ตาม
“อะไรคะคุณดามพ์?”
“เก่งมากหนูดาของพ่อ ไม่ร้องแล้วนะคะ” ดามพ์ไม่ตอบ แต่ยื่นมือหนาสากกร้านของตนไปเช็ดน้ำตาที่หางตาออกให้ลูกสาว
“คุณดามพ์ไม่ได้ยินที่ผกาถามเหรอคะ?”
