บท
ตั้งค่า

2

“จ้ะย่า มากินข้าวกันนะจ๊ะ”

“วันนี้ทำอะไรกินกันล่ะ” หญิงชราเอ่ยถาม

“ผัดผักน่ะจ้ะ ย่ากินข้าวนะจ๊ะ เดี๋ยวหนูป้อนให้” ใยไหมป้อนข้าวสวยก้นหม้อกับน้ำผัดผักให้ย่าจนถึงปาก เธอผัดแตงกวากับไข่ ผักจึงค่อนข้างนิ่มยายเคี้ยวกับเหงือกก็กลืนได้ ไม่ต้องใช้ฟันมาก

“อร่อยจ้ะ แล้วไหมกินอะไรหรือยังลูก” หญิงชราแค่ได้กินฝีมือหลานสาวก็มีความรู้สึก อะไรก็อร่อยไปหมด ให้กินข้าวเปล่ากับน้ำปลาหรือไข่ต้มฟองเดียวก็ไม่เคยบ่น เพราะไม่อยากเป็นภาระลูกหลานมาก รู้ว่าลูกหลานต้องทำงานหาเลี้ยงตัวเอง

ใยไหมสงสารย่า ทรัพย์สมบัติบ้านช่องก็เคยเป็นของย่า พอยกให้พ่อจนหมดก็ถูกเนรเทศมาอยู่กระท่อมหลังเล็กเก่าๆ ด้านหลังบ้าน ห้องน้ำห้องท่าก็ลำบากต้องออกไปใช้นอกบ้าน ตอนหลังเธอเลยให้ท่านขับถ่ายใส่กระโถนและนำไปทิ้งให้เอง แถมยังตักน้ำมาใส่ตุ่มให้ท่านอาบตรงนอกชานแทนการไปห้องน้ำนอกบ้านเพราะเดินเหินไม่สะดวก

“ไหมกินแล้วจ้ะย่า ย่ากินต่อนะจ๊ะ” ใยไหมป้อนหญิงชราไปอีกหลายคำก่อนที่อีกฝ่ายจะโบกไม้โบกมือไปมา

“ย่าอิ่มแล้วจ้ะ” หญิงชราแม้จะสายตาฝ้าฟางแต่ก็เห็นกับข้าวในถ้วยรางๆ และพอจะรู้ดีว่าหลานสาวคงทำงานงกๆ ยังไม่ได้กินข้าวกินปลา ท่านจึงกินเพียงนิดและเหลือเอาไว้ให้หลานสาวประทังชีวิต

“ย่าอิ่มแล้วเหรอจ๊ะ ทำไมกินน้อยจัง”

“ย่าแก่แล้ว คนแก่ก็กินน้อยเป็นธรรมดาล่ะ พ่อของเราล่ะ กลับมาหรือยัง”

“ช่วงนี้พ่อทำงานกลับค่ำทุกวันจ้ะ บางวันก็ไม่ได้กลับบ้านเพราะต้องรับงานมากขึ้น พอดีกานดาสอบติดมหาวิทยาลัยชื่อดังน่ะจ้ะ ต้องใช้เงินเยอะในการเรียนต่อ”

ใยไหมเอ่ยบอกผู้เป็นย่า เพราะย่าอยากให้บิดาพาไปหาหมอ ตามประสาคนแก่ที่อยากให้ลูกชายมาดูแลบ้าง ย่าหูตาไม่ดี ก็อยากไปตรวจร่างกายเหมือนในอดีต แต่พอเธอไปบอกบิดามารดาก็โดนด่าเช็ด เลยต้องมาโกหกย่าว่าบิดาไม่ว่าง งานยุ่ง ทั้ง ๆ ที่กลับบ้านมาทุกวัน เพราะไม่อยากให้ย่าเสียใจ อาจจะดูเหมือนหลอกผู้เป็นย่าไปวันๆ แต่บางทีการไม่รู้ก็ดีว่ารู้แล้วต้องเจ็บปวดใจ

“พ่อเราคง ยุ่งไม่เป็นไรหรอกจ้ะ ย่ารอได้ อยากไปหาหมอเอายามากินบ้าง ปวดไปหมดทั้งตัว” ทุกวันนี้ย่าไม่ได้ไปหาหมอตรวจร่างกายเลย รับแต่ยาลดไขมันและความดันโลหิตสูงฟรี ซึ่งเธอเป็นคนไปเอามาให้ จะพาย่าไปก็ไม่สะดวกเพราะไม่มีรถ ก็ต้องขอให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขมาตรวจให้ ซึ่งก็ค่อนข้างลำบากและรอคิวค่อนข้างยาวเพราะว่ามีจำนวนคนเยอะ และงานของเจ้าหน้าที่ก็ล้นมือ

สองวันต่อมา...

อากาศในบ้านอบอ้าวกว่าทุกวัน ไม่ใช่เพราะอุณหภูมิภายนอก แต่เพราะ “แรงกดดัน” ที่แผ่ซ่านทั่วบ้านไม้หลังนี้

ใยไหมยังคงทำงานบ้านเหมือนเดิม แต่รู้สึกถึงสายตาแปลกประหลาดของรำเพยและพีระ ที่มองมาทางเธอด้วยแววตาเหมือนมีอะไรสักอย่าง

“ไหม...” รำเพยเรียกเสียงเย็น

“จ้ะแม่” ใยไหมสะดุ้ง

“พรุ่งนี้ลุกแต่เช้า แต่งตัวให้เรียบร้อยนะ แม่จะพาไปเสริมสวย”

“หะ... เสริมสวย” เธอเบิกตากว้าง แทบไม่อยากเชื่อหูตัวเอง

“ใช่ โตแล้วก็ถึงเวลาต้องทำหน้าที่ของลูกที่ดีเสียที!”

“ทำหน้าที่อะไรเหรอจ๊ะ”

“ไม่ต้องถามมาก ทำตามที่ฉันบอกก็พอ”

ใยไหมพยักหน้าเบา ๆ ในใจเต็มไปด้วยความกังวล ไม่รู้ว่ามารดาจะให้ทำอะไรอีก ร้อยวันพันปีเขาไปเสริมสวยกันแต่เขาสองแม่ลูก เธอเป็นลูกสาวที่ถูกลืม ไม่เคยได้เข้าร้านเสริมสวยเลยสักครั้ง

วันรุ่งขึ้น...

รำเพยพาใยไหมไปที่ร้านเสริมสวยในตัวเมืองร้านหนึ่ง ใยไหมเก้ ๆ กัง ๆ ทำตัวไม่ถูก เพราะในชีวิตนี้ไม่เคยเฉียดใกล้ร้านเสริมสวยเลยสักครั้ง

ภายในเต็มไปด้วยพนักงานมากฝีมือ ชุดแต่งงานสีขาวลูกไม้แขวนไว้ในร้านเต็มไปหมด

“เดี๋ยวฉันกลับมารับแก ไปซื้อของแป๊บนึง แกห้ามเรื่องมาก เพราะต่อจากนี้ไปแกต้องเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุด” มารดาพูดเสียงสะบัดก่อนจะเดินออกไปจากร้านแบบไม่เหลียวหลัง

“น้องต้องไปร้านเสริมสวยอีกร้านนะคะ พอดีร้านนี้คิวเต็มเป็นอีกสาขาน่ะค่ะ”

“แล้วแม่ของหนูล่ะคะ”

“เดี๋ยวถ้าคุณแม่ของน้องกลับมา เราจะแจ้งให้ทราบและพาไปอีกร้านค่ะ” ได้ยินแบบนั้นใยไหมจึงขึ้นรถไปอย่างว่าง่าย

ใยไหมรู้สึกเก้กังเป็นที่สุด แต่ช่างเสริมสวยก็พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

“น้องไหม วันนี้ต้องสวยที่สุดนะคะ เดี๋ยวทางเราจะดูแลทุกอย่างให้ค่ะ”

“แต่... ไหมยังไม่ได้รู้เลยว่าต้องทำอะไรบ้าง...”

“เดี๋ยวพวกพี่จัดการเอง เชื่อพี่เถอะค่ะ แล้วจะไม่ผิดหวัง”

เธอถูกจับขัดสีฉวีวรรณ แปลงโฉมทั้งผิวหน้า ผิวตัว เส้นผม และชุด

ใยไหมแทบจำเงาตัวเองในกระจกไม่ได้

คนตรงหน้าคือหญิงสาวผู้เลอค่าราวกับเจ้าสาวในนิทาน แต่ในขณะที่เธอกำลังสับสนและไม่รู้ว่าตนเองกำลังจะแต่งงานกับใคร...

อีกฟากหนึ่งของเมือง…

ร้านเสริมสวยร้านเดิมที่ใยไหมมาในคราแรก รมิดา นั่งไขว่ห้างอย่างสง่างามดุจนางพญาหงส์

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel