2
หญิงสาวเข้าห้องพักก็อาบน้ำอาบท่า ก่อนจะมาช่วยคุณยายทำอาหาร เธอได้รับการถ่ายทอดฝีมือการทำอาหารสูตรดั้งเดิมจากคุณยายมาตั้งแต่เด็ก จึงทำอาหารไทยได้หลากหลาย
เพียงไม่นานอาหารมื้อเย็นก็เสร็จลงอย่างสวยงาม พร้อมด้วยสองลุงหลานที่มาเป็นแขกของบ้าน
ในตอนเย็นวันนั้นมณีชนกจึงได้รู้จักกับฤทธิรงค์ลุงของพันธกานต์อีกคน หญิงสาวยกมือไหว้เพื่อนบ้านของยายอย่างอ่อนน้อม
“ไหว้พระเถอะจ้ะ หลานสาวของคุณน้าหน้าตาน่ารักเชียวครับ” ฤทธิรงค์อยากจะบอกว่าสวยหยาดฟ้ามาดินเสียด้วยซ้ำ ยิ่งเห็นสายตาของหลานชายยิ่งรับรู้ได้ถึงความพึงพอใจในตัวของมณีชนกอย่างชัดเจน
เขาเป็นข้าราชการปลดเกษียณ ได้เงินมาก้อนหนึ่งจึงนำมาซื้อที่และย้ายมาอยู่ต่างจังหวัด เพราะที่นี่อากาศดี ค่าครองชีพไม่สูงมากนัก และที่สำคัญก็คือบั้นปลายชีวิตอยากอยู่อย่างสงบสุขไม่วุ่นวายเหมือนตอนอยู่ในเมืองใหญ่
“วันนี้นอกจากจำปาก็มีลูกมือมาช่วยอีกคนจ้ะ ยายหยาดน่ะชอบทำอาหารเหมือนกัน ยายก็เลยถ่ายทอดวิชาทำอาหารให้ยายหยาดจนหมด ลองชิมดูสิจ้ะ” คุณยายเอ่ยบอกทุกคน ในขณะที่จำปาตักข้าวและรินน้ำให้ทุกคนบนโต๊ะ ก่อนจะเลี่ยงออกไป
“รสมืออร่อยเชียวครับ เป็นหลานสาวที่เป็นศิษย์เอกเลยนะครับนี่” ฤทธิรงค์เอ่ยชม ในขณะที่หนุ่มสาวทั้งสองเผลอมองสบตากันหลายครั้ง ความเขินอายเกิดขึ้นอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง
ดูเหมือนผู้ใหญ่ทั้งสองจะมองออก แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ปล่อยให้เด็ก ๆ ได้ทำความรู้จักกัน
หลังรับประทานอาหารเสร็จสิ้น คุณยายก็เดินไปส่งสองลุงหลานหน้าบ้าน มณีชนกจึงเดินตามไปด้วย
พอถึงบ้านฤทธิ์รงค์จึงเอ่ยถามหลานชายในทันที
“เราชอบหนูหยาดเหรอ”
“ผมก็ว่าเธอน่ารักดีน่ะครับ” คนพูดอมยิ้ม
“หลานชายของลุงเพียบพร้อมทุกอย่าง ไม่มีผู้หญิงคนไหนปฏิเสธหรอกนะ” แท้ที่จริงแล้วพันธกานต์เป็นหลานชายคนเดียวของคุณหญิงไหมทอง ตระกูลผู้ดีเก่าที่มีทรัพย์สินมหาศาล แต่ที่พันธกานต์ทำตัวติดดินเพราะไม่อยากอวดและไม่อยากให้ใครรู้ตัวตนของเขา
ปฐมพงศ์บิดาของพันธกานต์มีภรรยาใหม่และหย่าขาดจากอลิสาน้องสาวของเขา หลังจากเลิกราก็ทะเลาะเบาะแว้งกัน เพราะปฐมพงศ์แอบไปมีเมียน้อยและพาเมียน้อยเข้าบ้าน อลิสาจึงพาลูกชายออกมาจากตระกูล อาจเพราะตอนนั้นอลิสาเป็นแค่หญิงสาวธรรมดาไม่ได้มีชาติตระกูลหรือทรัพย์สินเงินทองเท่ากับวริศรา ฝ่ายนั้นจึงยอมให้น้องสาวของเขาพาลูกชายออกมาจากตระกูลได้โดยง่าย เพราะหมายใจว่าวริศราคงให้กำเนิดลูกชายที่มีชาติตระกูลที่ดีกว่าพันธกานต์
แต่เวลาผ่านไปวริศราก็ไม่มีลูกชาย มีเพียงลูกสาวอย่างนิลวรรณ คุณหญิงไหมทองเองแม้จะไม่ได้อยากรับวริศราตั้งแต่แรก แต่ก็ขัดไม่ได้ ภายหลังก็เริ่มกลัวจะไม่มีทายาทสืบสกุลจึงยื่นเงื่อนไขที่จะรับตัวพันธกานต์กลับไปอยู่ในฐานะหลานชายคนเดียวของตระกูลแลกกับเงินก้อนใหญ่ น้องสาวของเขาจึงยกหน้าที่การตัดสินใจให้ลูกชาย
พันธกานต์แค้นใจมากที่พ่อนอกใจแม่ไปมีเมียน้อยและยกย่องเมียน้อยจนออกนอกหน้า เขายอมรับที่จะกลับไปเป็นหลานชายของตระกูล แต่ไม่ยอมแยกจากมารดา และมีสิทธิ์ที่จะอยู่กับใครก็ได้ คุณหญิงไหมทองยอมทุกอย่างเพราะรักหลานชายอยู่มาก และส่งเงินมาเลี้ยงดูพันธกานต์ตลอดหลายปี แต่พันธกานต์ก็ปล่อยให้เงินในบัญชีนอนนิ่งอยู่แบบนั้น เขาไม่แตะต้องมันเหมือนที่มารดาเองก็ไม่เคยแตะต้องแม้แต่สตางค์แดงเดียว เขาทำงานหาเงินเรียนเอง และไม่รบกวนทางบ้านแม้แต่ผู้เป็นลุงแท้ ๆ
“แต่ผมไม่อยากให้ผู้หญิงพวกนั้นรักผมเพราะผมเป็นทายาทของอารยะเกรียงไกรนะครับ ผมอยากให้ผู้หญิงรักผมเพราะผมเป็นแค่นายพันธกานต์ผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น”
“แล้วถ้าหนูหยาดเขาชอบนายพันธกานต์ อารยะเกรียงไกรมากกว่าหลานชายธรรมดา ๆ คนนึงของลุงจะทำยังไง”
“ก็แสดงว่าเธอสวยอย่างเดียวครับ อย่างอื่นไม่เหมาะที่จะมาเป็นแม่ของลูกผม” คำตอบของหลานชายทำให้ฤทธิรงค์ต้องตบบ่าหลานชายเบา ๆ
หนทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน ทุกอย่างต้องรอดูไปก่อน
รุ่งเช้าของวันใหม่ มณีชนกปั่นจักรยานออกไปเที่ยวเล่นเพราะคุ้นชินกับที่นี่เป็นอย่างดี เธอปั่นไปได้ไม่ทันไรก็เกือบจะไปชนเข้ากับพันธกานต์ที่กำลังแบกฟื้นหอบใหญ่เดินอยู่ข้างถนน
“วะ วะ ว้าย!” เธอหักหัวรถไปชนกับก้อนหิน นั่นทำให้เสียหลักล้มลงไม่เป็นท่า
“เป็นยังไงบ้างครับ” พันธกานต์รีบเข้ามาดูอาการของหญิงสาว
“ไม่เป็นอะไรคะ โอ๊ย!” เธอพยายามลุกก่อนจะร้องออกมาด้วยความเจ็บ เขาจึงเห็นของเหลวสีแดงที่ซึมออกมาจากเข่าของเธอ
“น้องหยาดมีแผลนี่ครับ” เขาเอ่ยขึ้น
“นิดหน่อยค่ะ ตอนหัดปั่นจักรยานสมัยเด็กก็เคยล้มมีแผลที่เข่าแบบนี้เหมือนกันค่ะ”
“เหมือนพี่เลยครับ” เขายิ้ม รู้สึกชอบใจในนิสัยของเธอ ดูเธอเป็นคนยืดหยุ่น ยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นมากกว่าจะโวยวาย”
“ถ้าไม่มีแผลก็ปั่นจักรยานไม่เป็นสิคะ” เธอพูดแล้วยิ้มให้เขาคลายใจว่าเธอไม่ได้เป็นอะไรมาก ทั้งสองมองหน้ากันก่อนจะหัวเราะประสานเสียงกัน
