EP.1
โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ ตั้งเด่นอยู่ริมถนนรังสิต - นครนายก โดยที่หอระบายความร้อนทั้งสี่หอมีไอน้ำลอยออกมาจาง ๆ
รถตู้สีขาวสภาพกลางเก่ากลางใหม่ซึ่งติดฟิล์มกรองแสงสีดำคันหนึ่ง แล่นมาหยุดที่หน้าประตูรั้วทางเข้าโรงไฟฟ้า พนักงานรักษาความปลอดภัยคนหนึ่งจึงเอะวัดส่ายอาด ๆ ออกมาจากป้อมตรงมายังประตูรถด้านคนขับ และทำมือเป็นสัญญาณให้ผู้ที่อยู่หลังพวงมาลัยลดกระจกลง
“มาทำอะไร” พนักงานรักษาความปลอดภัยพูดห้วน
“มากำจัดแมลงครับ นี่ครับใบผ่านประตูที่ผมได้รับมาจากผู้ว่าจ้างในนี้” นายคนขับซึ่งสวมชุดเครื่องแบบของบริษัทกำจัดแมลงแห่งหนึ่งพูดขึ้นด้วยท่าทางนอบน้อม และสายตาแสนซื่อ
“เดี๋ยวขอโทรไปเช็กก่อนนะ” พนักงานรักษาความปลอดภัยพูด แล้วเอะวัดกลับไปที่ป้อม
คนขับรถเหลือบไปมองที่ห้องโดยสารด้านหลังแล้วก็พบว่า ชายอีกคนหนึ่งกำลังระรัวนิ้วลงไปบนแป้นกดของเครื่องคอมพิวเตอร์ ส่วนอีกคนหนึ่งที่นั่งอยู่ใกล้กันก็ยกหูฟังซึ่งมีไมโครโฟนอยู่ด้วยขึ้นสวมบนศีรษะ และชูนิ้วโป้งให้กับเขา
นายคนขับรถยิ้มที่มุมปากเมื่อรู้ดีว่า พรรคพวกที่ด้านหลังสามารถเชื่อมสัญญาณเข้ากับสัญญาณโทรศัพท์ของพนักงานรักษาความปลอดภัยจอมกร่างได้สำเร็จแล้ว
ในที่สุดพนักงานรักษาความปลอดภัยคนเดิมก็เอะวัดกลับมาที่รถ
“นายเข้าไปได้ เจ้าหน้าที่ที่จ้างพวกนายยืนยันมาแล้ว ไปที่อาคารเจ็ด ขับไปตามป้ายเลยนะ ห้ามขับออกไปนอกทาง!”
“ขอบคุณครับ”
คนขับรถรับคำและก้มศีรษะเล็กน้อย โดยที่มือข้างหนึ่งซึ่งมีรอยสักรูปแมงป่องกำแน่น...หากไม่ใช่เป็นการทำเพื่อ ‘งาน’ แล้ว เขาก็คงจะเป่าสมองของอีกฝ่ายกระจายไปในตอนนี้เลย
ในที่สุดรถตู้สีขาวก็แล่นเข้าไปในพื้นที่ของโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ได้สำเร็จ
“แผนการขั้นแรกสำเร็จแล้ว ต่อไปก็ขั้นตอนสำคัญล่ะ” นายคนขับรถหันไปพูดกับผู้ร่วมกระทำการอีกสามคน ซึ่งบุคคลเหล่านั้นก็กล่าวตอบเพียงสั้น ๆ แล้วจัดการเตรียมสิ่งสำคัญที่จำเป็นต้องใช้ในภารกิจครั้งนี้ต่อไป
ภายในห้องควบคุมเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ เจ้าหน้าที่หลายคนกำลังง่วนอยู่กับปุ่มควบคุมหลากสีสันตรงหน้า แต่ในตอนนั้นเอง ก็มีผู้เปิดประตูห้องเข้ามาแรง ๆ ก่อนที่ชายสองคนซึ่งสวมหมวกไหมพรมปิดบังใบหน้า จะถือปืนกลวิ่งกรูเข้ามา
“เฮ้ย! เข้ามาได้ยัง...”
ยังไม่ทันที่วิศวกรคนนั้นจะพูดจบ ชายซึ่งบุกรุกเข้ามาคนแรก ก็สาดกระสุนปืนเข้าใส่หนึ่งชุด ทำให้ร่างของวิศวกรคนนั้นกระเด็นไปกระแทกกับแผงควบคุมแผงหนึ่ง ก่อนที่จะล้มลงเสียชีวิตทันที
เสียงร้องด้วยความตกใจของบุคคลหลายคน ดังขึ้นในห้องควบคุม
“เฮ้ย! ถ้าไม่อยากตาย อย่าแหกปาก!!!” ผู้บุกรุกคนแรกพูด และเล็งปากกระบอกปืนตรงไปที่บุคคลตรงหน้า ซึ่งอานุภาพของอาวุธสังหารชิ้นนี้ ก็ทำให้บรรดาวิศวกรทั้งหลายชะงักค้างไปทันที
เมื่อสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้เช่นนี้แล้ว ชายที่สวมหมวกไหมพรมอีกคนหนึ่ง ก็กวักมือเรียกให้เพื่อนที่อยู่นอกห้องอีกสองคนตามเข้ามา และวางเครื่องคอมพิวเตอร์แบบพกพาลงไปบนโต๊ะกลางห้อง
“ไป! ไปรวมกันที่มุมห้อง แล้วแหกตาดูให้ดี พวกแกทุกคนมีหน้าที่นำสิ่งที่เห็นไปบอกตำรวจ”
ด้วยเสียงอันแข็งกร้าวและปากกระบอกปืนที่กวัดแกว่งไปมา บรรดาวิศวกรประจำห้องควบคุมเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์จึงทำตามอย่างว่าง่าย
เมื่อผู้บุกรุกทั้งสี่คน ผลัดเปลี่ยนกันกรอกรหัสลับลงไปในเครื่องคอมพิวเตอร์จนครบทุกคนแล้ว ชายคนแรกที่บุกเข้ามาในห้องก็หันขวับมาที่บรรดาวิศวกร
“พวกแกช่วยกันจำให้ดีนะ ตอนนี้พวกฉันติดตั้งระเบิดแรงสูงไว้ที่อาคารเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์แล้ว รัฐบาลของพวกแกมีเวลาเจ็ดสิบสองชั่วโมงที่จะกรอกรหัสลับสิบหกตัวเข้าไปในเครื่องคอมพิวเตอร์นี้”
“ถ้ารัฐบาลขอพวกแกตุกติก พวกแกก็คงรู้นะว่า...อะไรจะเกิดขึ้น ตูม!!!”
ผู้บุกรุกทั้งสี่หัวเราะขึ้นพร้อมกัน เมื่อเห็นบรรดาวิศวกรสะดุ้งสุดตัวกับคำว่า ‘ตูม’
