[1] ลักพาตัว [6/6]
“เปาโล เพิ่มคนสืบประวัติของโดโนแวน เพื่อน ญาติทั้งสนิทและไม่สนิท ทุกคนที่โดโนแวนเกี่ยวข้องทั้งหมด”
“นายกำลังสงสัยว่า โดโนแวนเป็นคนเอาคุณเดม่อนไปซ่อนเหรอครับ”
“อย่างไม่ต้องสงสัย...เป็นมันแน่นอน” ครูสบอกอย่างมั่นใจ
“ครับ!...กลับบ้านเลยมั้ยครับ”
“ยัง...ไปหาทริกซี่” เปาโลรับคำสั้นๆและเคลื่อนรถออก จุดหมายปลายทางคือบ้านที่เขาและทริกซี่เคยอยู่ด้วยกัน ซึ่งปัจจุบันทริกซี่อาศัยเพียงลำพัง ถ้าไม่นับเขาที่ย้ายออกมานานหลายเดือนแล้ว
“สวัสดีค่ะคุณครูส” หญิงสาวทักทายครูส ทันทีที่เขาลงมาจากรถที่เข้ามาจอดหน้าประตูทางเข้าบ้านด้านในแล้ว
“ไปเรียกนายเธอมา...บอกว่าฉันมีเรื่องจะคุยด้วยสั้นๆ และบอกเธอว่าฉันไม่มีความอดทนที่จะรอเธอได้นาน ทำอะไรอยู่ให้หยุดและมาพบฉันเร็วที่สุด” หญิงสาวที่เดินตามครูสเข้ามาด้านใน พยักหน้าและรีบขึ้นชั้นสองไปทันที
“ก็อก ก็อก” เสียงเคาะประตูหน้าห้อง เรียกความสนใจของชายหญิงในห้อง ซึ่งฝ่ายหญิงดูจะอารมณ์เสียทันที เมื่อเธอไม่แม้แต่จะมาเปิดประตู เสียงเคาะก็ดังอีก ทำให้สองร่างเปลือยเปล่าที่นัวเนียกันอยู่ต้องผละออก ทริกซี่หยิบเสื้อคลุมมาสวมและเดินไปที่ประตู
“มีอะไร” ทริกซี่เสียงดังใส่คนมาเคาะประตู
“คุณครูส มาค่ะ” ทริกซี่คิ้วขมวดอย่างแปลกใจ และปรับเปลี่ยนน้ำเสียงทันที
“เขาบอกมั้ยว่ามาทำไม”
“มีเรื่องจะคุยกับคุณทริกซี่ค่ะ...คุณครูสบอกให้คุณทริกซี่รีบลงไปพบด้วยค่ะ” ทริกซี่ทำหน้าและแสดงแววตาไม่พอใจหญิงสาวตรงหน้าที่กลัวครูสมากกว่าเธอที่เป็นเจ้านายของหล่อนด้วยซ้ำ
“ทำไมฉันต้องรีบ” ทริกซี่ที่ไม่รู้สถานการณ์ของตัวเอง ยังผยอง สาวใช้นามว่าเอลเลนถอนใจ เพราะเธออยากจะบอกทริกซี่เหลือเกินว่าครูสรู้เรื่องที่ ทริกซี่เล่นชู้มาตั้งนานแล้ว จะว่าไปไม่ถึงสามเดือนที่ทั้งสองแต่งงานกันด้วยซ้ำ และเอลเลนก็รู้มาตลอดว่าครูสรู้เรื่องโดยที่เขาสั่งเธอไว้ว่า “ไม่ต้องบอกทริกซี่ว่าฉันกลับมาวันนี้...และเรื่องที่ฉันรู้ว่าเจ้านายเธอทำระยำอยู่ตอนนี้ด้วย” ครูสพูดกับเอลเลนเมื่อหลายเดือนก่อน
“ลงไปเถอะค่ะ คุณครูสบอกว่ามีเรื่องสั้นๆ จะคุยค่ะ ใช้เวลาไม่มากหรอกค่ะ” ทริกซี่มองเอลเลนอย่างไม่พอใจ แต่ก็ยอมลงไปพบครูสทันที ด้วยสภาพที่สวมเพียงเสื้อคลุม ครูสไม่ใช่แขกเธอไม่จำเป็นต้องมีพิธีรีตองมาก
“สวัสดีค่ะ คุณสามีที่กำลังจะเป็นอดีต”
“ถ้าฉันจำไม่ผิด ฉันเซ็นหนังสือขอหย่าไปนานแล้วนะ” ครูสตอบกลับทริกซี่ และมองสภาพเธอด้วยสายตารังเกียจและหยามเหยียบอย่างชัดเจน
“…สาเหตุที่ฉันยังไม่เซ็น ทนายของฉันน่าจะแจ้งคุณไปแล้ว”
“นั้นมันเรื่องของเธอ อย่ามาเสียเวลาเรื่องไร้สาระอยู่เลย ที่ฉันมาวันนี้มีงานให้เธอทำ” ทริกซี่หลี่ตามองครูสอย่างเหลือเชื่อ
“งานอะไร? และทำไมฉันต้องทำ”
“ฉันต้องการให้เธอเข้าไปตีสนิทกับผู้ชายคนนี้...ฉันส่งภาพเข้าโทรศัพท์เธอแล้ว ตอนนี้” ครูสพูดพร้อมกับกดโทรศัพท์ส่งภาพไปให้ทริกซี่ ทันทีที่พูดจบ
“เอลเลน เอลเลน” ทริกซี่เสียงดังเรียกเอลเลน และบอกให้ไปหยิบโทรศัพท์ของเธอมาให้ ทริกซี่รอไม่ถึงสองนาทีเอลเลนยื่นโทรศัพท์ของเธอให้ “ใครกัน?”
“มันชื่อ โดโนแวน”
“แล้วทำไม ฉันต้องทำแบบนั้น” ทริกซี่พูดพร้อมกับมองภาพโดโนแวน ก็ยอมรับว่าดูดีแบบจนๆ ธรรมดาในสายตา
“ถ้าเธอทำสำเร็จ บ้านหลังนี้จะเป็นของเธอ”
“อยากจะขำ ครูสลืมไปแล้วเหรอว่ายังไงบ้านหลังนี้ก็ต้องเป็นของฉันอยู่แล้ว”
“เหรอ...” ครูสยิ้มเย้ยหยัน และส่งบางอย่างเข้าโทรศัพท์หาทริกซี่ ซึ่งทำให้ทริกซี่ก้มมองโทรศัพท์ในมือเธอทันที ดวงตาที่มีนัยน์ตาสีเขียวเบิกกว้างขึ้นอย่างตกใจ
“คุณรู้!”
“ใช่!…นานมากแล้วด้วย จนเธอคาดไม่ถึงเลยล่ะ” ทริกซี่มองครูสอย่างไม่พอใจ “ตกลงว่าเธอยอมทำแล้วนะ” ครูสยิ้ม ยิ้มที่ทริกซี่เกลียดมากเพราะมันเป็นยิ้มของผู้ชนะที่เย้ยหยันคนแพ้
“แล้วไงต่อ”
“ภายในสองสามวันเท่านั้น เมื่อเธอทำสำเร็จ แจ้งฉันมา และฉันจะบอกเธอต่อจากนั้นว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไป เธอคงรู้นะว่าฉันเป็นคนใจร้อนแค่ไหน...อย่าทำให้ฉันต้องผิดหวัง และเธอคงไม่โง่พอจะแสดงให้มันรู้ว่าเธอได้รับคำสั่งจากฉันหรอกนะ”
“ได้ แต่ก็ต้องมีค่าน้ำร้อนน้ำชาบ้างสิ”
“ฉันจะเพิ่มเงินให้เธออีกยี่สิบเปอร์จากที่เธอเคยได้...ไหนๆ ก็ตอนนี้เธอก็ฉลาดมาอีกอย่าง อย่าลืมไปจบเรื่องการฟ้องหย่าซะ ไม่อย่างนั้นเธอจะไม่เหลืออะไรเลย และถ้าเธอจะสนใจคนรอบข้างเธอบ้าง ก็ไปคุยกับพ่อเธอซะบ้าง เผื่อจะมีสำนึกขึ้นมาบ้าง” ครูสพูดทิ้งท้ายไว้แค่นั้น เขาก็เดินออกจากบ้านหลังนั้นไปทันที เปาโลที่รอพร้อมในรถแล้ว เคลื่อนรถออกไปทันทีที่ครูสเข้ามานั่ง ทิ้งให้ทริกซี่ขุ่นข้องหมองใจและสงสัยกับคำพูดของครูส พ่อเธอมาเกี่ยวอะไรด้วย
“สวัสดีค่ะพ่อ ตอนนี้พ่ออยู่ไหนคะ หนูมีเรื่องจะคุยด้วย...ด่วนค่ะ...เดี๋ยวเราเจอกันที่นั้นนะคะ” ทริกซี่ต่อสายหาทอม พ่อของเธอทันที เพราะเธอต้องรู้ให้ได้ว่าครูสหมายถึงอะไร
เอวาเดินไปเดินมารอบที่ร้อยได้แล้ว เมื่อตอนนี้เธอกำลังจะบ้า วันที่สามแล้วที่เธอหายตัวมา ติดอยู่ในบ้านหลังนี้ แม้แต่เสื้อผ้าเธอก็ไม่มีติดตัวสักชิ้น เธอต้องอาศัยผ้าคลุมเตียงที่เธอเอาพันไปมาตามร่างกายไว้ในตอนนี้ซึ่งเป็นผ้าผืนเดียวกับเมื่อวาน แต่เรื่องนี้เล็กไปเลย ถ้าเทียบกับเรื่องของเดม่อน ที่เธอค่อนข้างมั่นใจว่าคงจะร้องไห้สร้างความลำบากใจให้กับลิเดีย ที่โดโนแวนพาไปฝากไว้ ซึ่งเอวาคาดไว้ไม่ผิด เมื่อตอนนี้ลิเดียกำลังจะเครียดหนัก เมื่อเดม่อนไม่ยอมทานอะไรเลย
“เดม่อน ขอร้องล่ะนะ ทานอะไรหน่อยเถอะ ได้โปรดเห็นแก่อาสักครั้ง” ลิเดียที่ถือถาดอาหารเข้ามาในห้องนอนที่เดม่อนนอนมาสามคืนแล้ว
“จะหาแม่ อาลิเดีย เดม่อนอยากหาแม่ พาไปหาแม่ บอกให้แม่มารับ คิดถึงแม่ ฮืออออ แม่ แม่” ลิเดีย กุมขมับตัวเองทันที เธอก็อยากจะพาเอวามาให้เดม่อนใจจะขาด เพราะขืนปล่อยไปแบบนี้เดม่อนต้องป่วยในอีกไม่นานนี้แน่
“เอวา เธออยู่ไหนนะรีบหาทางกลับมาหาเดม่อนเร็วๆหน่อยเถอะ พระเจ้าได้โปรดช่วยพวกเขาด้วย”
เสียงประตูหน้าห้องทำให้เอวาหยุดเดินและจ้องไปที่ประตู ดวงตาและสีหน้าเธอแสดงออกชัดเจนว่า เบื่อหน่ายคนตรงหน้าอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
“พระเจ้า ท่านหูหนวกเหรอไง ไม่ใช่ไอ้บ้านี่! ที่ลูกวิงวอนภาวนาขอจากท่าน” ใบหน้าครูสตอนนี้ ไม่บ่งบอกอารมณ์อย่างชัดเจน แต่ที่แน่ๆ เขาน่าจะให้คนมัดปากเธอไว้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงน่าจะเป็นความคิดที่ดี
“ฉันจะเตือนเธอเป็นครั้งสุดท้าย ถ้าเธอยังพูดจาไม่เข้าหูฉันอีกล่ะก็ รับรองเลยว่าฉันมีวิธีจัดการกับปากของเธอ ที่จะไม่มีโอกาสได้พูดมันไปอีกนาน” เอวา มองครูสอย่างท้าทาย
“กลัวมาก เพราะคนอย่างแกมันเก่งเหลือเกินกับสตรี คนชราและเด็ก” ครูสเม้มปากตัวเองแน่น เขาขยับก้าวย่างไม่กี่ก้าวก็ถึงตัวเอวาอย่างรวดเร็ว มือใหญ่คว้าตัวเธอพร้อมกับเลื่อนมือไปบีบคางเล็กนั้นอย่างไร้การปราณี
“ถ้าไม่อยากทรมาน ก็บอกมา ว่าเดม่อนอยู่ไหน?” ครูสย้ำถาม เพราะเขารู้ว่านอกจากโดโนแวนก็ต้องเป็นเอวานี้แหละที่รู้
“ถ้าฉันบอกว่าไม่รู้ แกจะปล่อยฉันไปมั้ย?”
“ถามจริง ว่านั้นเป็นสิ่งที่เธอคิดว่าจะเกิดขึ้นอย่างนั้นเหรอ” ครูส ผ่อนแรงบีบคางเล็กนั้น อย่างใจดี
“ถ้ายังไม่รู้ แน่อยู่แล้วแกไม่มีทางรู้ ฉันกับเดม่อนไม่เคยห่างและขาดการติดต่อนานขนาดนี้ ป่านนี้เขาคงกำลังโยเยหนักเลย เผลอๆ ไม่ยอมกินไม่ยอมนอนเลยด้วยซ้ำ เดม่อนอาจจะป่วยได้”
“แต่งเรื่องเพื่ออะไรไม่ทราบ?”
“มันเป็นเรื่องจริง และถ้าฉันแต่งเรื่องตามความคิดของแก ฉันคงต้องการเงินทองของแกละมั้ง อิสระฉันไม่ได้ต้องการจากแกหรอก...อยู่ที่นี่สบายจริงๆ กินและก็นอน ไม่ต้องทำอะไรก็มีกินไปตลอดชีวิต”
“ฉันได้แต่หวังว่า เดม่อนคงไม่มีเชื้อความกวนประสาทแบบเธอ ติดตัวเขาหรอกนะ”
“เรื่องนั้นแกสบายใจได้เลย เขาไม่มีสิ่งเหล่านั้นหรอกและรวมถึงแกด้วย เดม่อนไม่เคยต้องการพ่อ” ครูสถลึงตาใส่เอวา ที่เธอก็จ้องเขาอย่างไม่มีหลบเช่นกัน ครูสขบกรามแน่น เขากำลังควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้แล้ว
“ว้ายยยย...ปล่อยนะ” เอวาร้องเสียงหลง เมื่อครูสช้อนร่างเธอขึ้นมาและเดินออกไปที่ระเบียงห้อง เขายื่นแขนที่มีเอวาในวงแขน เขามอบรอยยิ้มให้ เอวาก่อนที่เขาจะปล่อยร่างของเธอจากระเบียงชั้นสอง เอวาหวีดร้องออกมาแต่เพียงเสี้ยวนาที
“ตูม!!!!” ร่างของเอวาก็ถึงสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ด้านล่าง ครูสยิ้มเยาะเย้ย เมื่อเอวาโผล่พ้นน้ำขึ้นมา เธอเงยมองครูสที่ยิ้มเยาะเธออย่างสะใจ เอวาขยับดึงผ้าปูเตียงที่หลุดจากร่างมาพันร่างเธอไว้ถึงแม้เธอจะอยู่ใต้น้ำและโผล่ขึ้นมาเพียงศีรษะ
ครูสเดินกลับเข้ามาด้านใน เขาขึ้นเตียงนอนและเปิดทีวีดูรายการบันเทิงอย่างรอคอย อย่างมีความสุข เวลาล่วงเลยมาหลายสิบนาที ครูสหันไปมองนาฬิกาที่บอกว่าเวลาผ่านมาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว ทำไมเอวายังไม่กลับขึ้นมา ครูสลุกจากเตียงนอนและเดินออกไปที่ระเบียง เอวายังคงแช่ตัวอยู่ในสระน้ำ เธอไม่แม้แต่ขยับหรือแสดงทีท่าว่าจะขึ้นมาจากสระด้วยซ้ำ
เอวาเหลือกตาขึ้นไปมองครูสเพียงแว็บเดียว เธอดึงสายตาของตัวเองกลับมา ตอนนี้เธอเริ่มรู้สึกว่ามือเท้าของเธอเย็นชืดเพราะน้ำในสระในช่วงฤดูนี้ค่อนข้างเย็น เธอแช่ตัวนานพอ เธอแค่คิดว่าถ้าตัวเองป่วย ครูสอาจต้องส่งเธอไปโรงพยาบาลก็เป็นได้ และนั้นจะเป็นโอกาสของเธอ อดทนไว้เอวา เธอต้องทำได้เดม่อนรอเธออยู่ ลูกแม่
“ขึ้นมา!” เอวาไม่แม้แต่จะหันไปมองเจ้าของเสียงที่มายืนอยู่ข้างสระ และเปล่งวาจาออกมาเสียงดังกังวาล ครูสขบกรามทันทีเมื่อเอวาไม่ทำตามคำสั่ง เธอกลับขยับหันหลังให้เขา พื้นสระว่ายน้ำนี้มีระดับลาดเอียงตามความลึก ถึงเอวาจะยืนอยู่ในระดับที่ให้คอเธอโผล่พ้นน้ำ แต่ความเย็นของอากาศในช่วงปลายเดือนตุลาคมค่อนข้างลดต่ำน้ำค่อนข้างเย็น ถ้าเธอว่ายน้ำก็ไม่อันตรายเท่ากับยืนแช่ตัวอย่างที่เธอทำอยู่ “เอวา!...ฉันบอกให้เธอขึ้นมาจากสระเดี๋ยวนี้”
“…….” ครูสส่งสัญญาณให้คนของเขาที่วนเวียนอยู่บริเวณนั้น ถอยออกไป เขาต้องการความเป็นส่วนตัว เมื่อเอวากล้าลองดีกับเขา เขาต้องทำให้เธอสำนึกและไม่หลงลืมว่าอำนาจอยู่ที่ใคร
เอวาคิ้วขมวดเมื่อเธอหันหลังให้กับครูส ที่จู่ๆก็เงียบไปอย่างน่าสงสัย เอวาหันกลับไปมองทางเขาแต่... ตูมมมมม เอวาช้าไป เมื่อครูสพุ่งตัวลงน้ำอย่างรวดเร็วเขาก็ถึงตัวเธอเพียงแค่การกระโดดในแบบที่ถูกต้องของการกระโดดน้ำ เอวาถูกดึงลงมาใต้น้ำอย่างไม่ทันตั้งตัวด้วยฝีมือครูสที่กระชากร่างที่ถูกพันด้วยผ้าปูเตียง
“อื้มมมมม...คอก!!!...” เมื่อศีรษะของทั้งสองโผล่พ้นน้ำ กลับเป็นเพียงเอวาคนเดียวที่สำลักน้ำจนเธอไอออกมาพร้อมกับหอบหายใจ ครูสทำเพียงใช้มือข้างที่ไม่ได้จับเธอไว้ลูบใบหน้าและผมของตัวเอง สายตาเขาจับจ้องมองเอวาที่ตอนนี้หน้าเธอแดงขึ้นมากกว่าเดิมพร้อมกับไอออกมาอย่างต่อเนื่อง
“ไอ้บ้า!!!...จะฆ่ากันเหรอไง...” เอวาที่อาการดีขึ้น เธอตะโกนใส่หน้า ครูสทันที ใบหน้าเขาอยู่เหนือน้ำโชว์แผ่นอกเปลือยในระดับเดียวกับใบหน้าของเธอ เอวากลับได้คำตอบเป็นเพียงรอยยิ้ม รอยยิ้มแบบที่เธอเคยเห็นเมื่อเจ็ดปีก่อนแต่ทุกอย่างก็หายไปทันทีเมื่อครูสรู้สึกตัว...
“ไม่ได้อยากตายอย่างงั้นเหรอ?” ครูสตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ พร้อมรอยยิ้มที่เย้ยหยัน เอวาเม้มปากข่มอารมณ์ความไม่พอใจไว้และสะบัดตัวออกห่างจากครูส
“อื้ม...ปล่อยฉันนะ!” เอวาร้องออกมาเมื่อครูสไม่ยอมให้เธอได้ตามที่ต้องการ ในทางตรงข้ามครูสกลับรั้งร่างของเธอให้แนบชิดมากขึ้น และนั้น “เอ๊ะ!!!!...” ทำให้เอวาร้อนผ่าวทันที เมื่อเธอรับรู้ว่าครูสเปลือยเปล่าในสระว่ายน้ำนี้ และเขากำลังให้เธอตกในสถานการณ์เดียวกับเขาเมื่อเขาดึงผ้าปูเตียงออกจากร่างเธอเช่นกัน เขาทำมันได้สำเร็จเมื่อเธออ่อนแรงเกินกว่าจะต่อต้านเขา
เอวายกแขนมากั้นระหว่างเขากับเธอไว้ ลมหายใจร้อนๆของครูสเป่ารดข้างแก้มเธอเมื่อเขาโน้มใบหน้าลงมาใกล้ๆ
“ยะ...อย่า!...” เอวาปล่อยเสียงออกมาไม่ต่างกับเสียงกระซิบ เมื่อริมฝีปากของครูสขยับเข้าใกล้มากขึ้น เอวาเอียงหน้าหนี
“เดม่อนอยู่ที่ไหน?” ครูสเลื่อนใบหน้าออกมาจากแก้มไปกระซิบที่ข้างหูเอวาแทน
“ฆ่าฉันเลย ฉันยอมตายเสียยังดีกว่าให้เขาได้เจอกับคนอย่างแก” เอวาตอบกลับทั้งๆที่เธอยังหายใจได้ไม่ทั่วท้อง
“เอวา เธอไม่น่าตอบคำถามฉันแบบนั้น...ถึงตอนนี้เธอไม่บอก แต่อีกไม่นานเธอจะได้เจอกับเดม่อน ตอนที่ฉันพาเขามาหาเธอที่นี่ และนั้นจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอจะได้เห็นเดม่อน ฉัน ครูส กัส แอชเชอร์ จะทำให้เธอได้รู้ว่าฉันรู้สึกอย่างไร เมื่อตอนที่เธอจะต้องอยู่โดยที่ไม่มีโอกาสแม้แต่ได้ยินเสียงและกอดเขาเท่าๆกับเวลาที่ฉันต้องสูญเสียโอกาสนั้นมา และเมื่อเวลานานเข้าเดม่อนเขาจะหลงลืมเธอและเธอก็ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของชีวิตเขา เหมือนอย่างที่เธอทำมันกับฉัน” เอวามองครูสด้วยสายตาที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่าเธออยากจะฆ่าเขา
“แก!….”
“โอ้ย!!!!” ครูสร้องออกมา เมื่อเอวาเหมือนหมาบ้า เธอขยับกายเบียดเขาและเธอก็ฝังเขี้ยวฟันของเธอลงที่ไหล่เปลือยของเขาทันทีแบบที่ครูสไม่ทันตั้งตัว สองแขนของเอวาโอบรัดรอบคอเขาและสองขาเธอก็รัดเอวเขาไว้แน่นเต็มกำลังของเธอ ซึ่งครูสไม่อาจสลัดเอวาให้หลุดออกไป เธอยังฝังและออกแรงกัดท่อนไหล่มากขึ้นจนของเหลวสีแดงในตัวครูสซึมออกมา
ครูสกัดฟันแน่น อดทนต่อความเจ็บปวดและเขาก็กดร่างของตัวเองและเธอลงสู่ใต้น้ำอีกครั้ง พร้อมกับเคลื่อนลงสู่ส่วนที่ลึกที่สุดของสระน้ำในระดับความลึกถึงสองเมตรเพื่อบังคับให้เอวาปล่อยเขี้ยวฟันของเธอจากท่อนไหล่เขา เพียงแค่ไม่ถึงนาทีเอวาก็ไม่สามารถทนได้ เธอปล่อยให้ท่อนไหล่ของเขาเป็นอิสระจากเขี้ยวฟันของเธอ ทำให้ของเหลวสีแดงเปลี่ยนสีน้ำในสระบริเวณนั้นอย่างชัดเจน แต่เอวาก็ไม่สามารถโผล่พ้นน้ำได้ เมื่อครูสรั้งร่างเธอไว้ เอวากำลังจะขาดใจเพราะตอนนี้เธอไม่ต่างอะไรกับคนที่กำลังถูกกดน้ำ แต่ครูสดึงให้เธอมาแนบชิด ใบหน้าเขาเข้าใกล้ใบหน้าเธอ ประกบปิดปากเธอต่อชีวิตให้กับเธอด้วยริมฝีปากเขา นานเป็นนาทีที่ครูสยินยอมให้ทั้งเขาและเธอได้หายใจด้วยอากาศเหนือน้ำ
เอวาที่ได้เจออากาศจริงๆ เธอหายใจเข้าไปให้ปอดได้ทำงานไม่ถึงนาที ความมืดรอบข้างก็คลืบคลานเข้าปกคลุมสติทุกด้านของเธอโดยทันที ครูสรับร่างที่ไร้สติของเอวาไว้ก่อนที่เธอจะจมลงไปใต้น้ำอีกครั้ง
“เอวา ให้ตายเถอะ! เธอเอาตัวรอดโดยการเป็นลมใส่ฉันตอนนี้เนี่ยนะ” ครูสคำรามอย่างหัวเสีย เพราะร่างกายเขาต้องการให้ร่างกายเอวารับผิดชอบต่อการกระทำของเธอ ตัวตนเขากำลังตื่นตัวและต้องการปลดปล่อย แต่เขาไม่ต้องการมีอะไรกับผู้หญิงที่ไม่มีสติไม่ต่างไปจากศพ นั้นไม่ใช่แนวเขา
ครูสขยับขึ้นจากสระน้ำ สภาพของเขากับเอวาไม่ต่างกันเลย เปลือยเปล่าทั้งคู่ ครูสวางร่างของเอวาบนเตียงริมสระน้ำ และเดินไปยังกองเสื้อผ้าของตัวเองเขาสวมเพียงกางเกงทั้งชั้นนอกชั้นใน ส่วนเสื้อยืดเขาเอามาสวมให้เอวาก่อนที่จะอุ้มเธอในวงแขนเดินเข้าไปด้านในโดยทิ้งผ้าปูเตียงไว้ในสระน้ำ
“ไปหยิบเสื้อหนาๆ แขนยาวของฉัน และตามเข้ามาในห้อง” ครูส เอ่ยบอกลูกจ้างสาวที่เดินผ่านมาพอดี และเขาก็เดินขึ้นชั้นสองไปยังห้องนอนของเอวาที่เขาใช้จำกัดพื้นที่ของเธอ ครูสค่อยๆวางเธอลงบนเตียงที่มีการทำความสะอาดและเปลี่ยนผ้าปูที่นอนผืนใหม่แล้ว “จัดการให้เรียบร้อย ฉันไม่ต้องการให้เธอป่วย” ครูสเอ่ยอีกครั้งกับลูกจ้างสาวคนเดิมที่ตามเข้ามาพร้อมเสื้อแบบที่ครูสสั่งไว้ เมื่อเธอพยักหน้าอย่างเข้าใจ ครูสก็เดินออกจากห้องไปทันที
“ปัง!” เสียงประตูห้องที่ครูสไม่สนใจว่ามันจะดังไปถึงไหน เขาเดินเลยไปยังห้องน้ำ และจับจ้องมองท่อนไหล่ของตัวเองที่แดงและเปียกชุ่มไปด้วยเลือดที่ไหลออกมาเป็นทางไปตามท่อนแขน ครูสเอื้อมหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กและเอามาปิดบาดแผลและกดมันไว้ ใบหน้าเขาเหเกเล็กน้อย เพราะเขาเจ็บไม่น้อยเลยกับบาดแผลที่เอวามอบให้ และตอนนี้ครูสกำลังตัดสินใจว่าจะไปปลดปล่อยอารมณ์ทุกอย่างของตัวเอง โกรธ ต้องการกระแทกดับความต้องการของร่างกายที่เป็นอยู่ตอนนี้กับผู้หญิงสักคนที่เขาคิดออกตอนนี้ หรือเก็บและอดทนแล้วค่อยไปเอาคืนกับเอวาทบต้นทบดอกให้เธอรู้ว่าเขาไม่ใช่คนที่เธอคิดอยากจะทำอะไรก็ทำได้ง่ายๆ
“ก็อก ก็อก”
“นาย” เสียงเคาะนำพร้อมกับเสียงเรียกของเปาโล ทำให้ครูสทิ้งผ้าขนหนูและเดินไปเปิดประตูห้องน้ำ เปาโลยืนอยู่พร้อมกล่องปฐมพยาบาลในมือ ครูสเดินออกจากห้องน้ำและไปนั่งลงบนโซฟาหนังสีดำตัวยาวในห้องนอนเขา เปาโลเดินตามและนั่งลงข้างเดียวกับท่อนไหล่ของครูสที่ได้รับบาดเจ็บ “คุณเอวา เธอก็เอาเรื่องไม่เบานะครับ” เปาโลพูดพร้อมกับทำแผลไปด้วย รอยที่ปรากฎบ่งบอกอย่างไม่ต้องสงสัยว่าเอวาเธอคงตั้งใจอย่างไม่ลังเล และเธอคงใช้เรี่ยวแรงอย่างมาก เพราะครูสไม่ใช่ชายหนุ่มที่ผิวบอบบาง ตรงกันข้ามร่างกายเขาเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแข็งแรงสวยงามแบบที่ได้รับการดูแลอย่างดี
“ยังกับหมาบ้า ไม่ต่างอะไรกับหมาแม่ลูกอ่อน แค่แกล้งแหย่เรื่องเดม่อน วิญญาณหมาบ้าก็เข้าสิงเธอทันที”
“บอกตรงๆเลยนะครับว่าอยากเจอคุณเดม่อนเร็วๆซะแล้ว” ครูสยิ้มออกมา
“เชื่อเถอะว่าฉันก็ไม่ต่างไปจากนาย อยากเจอและรู้จักลูกชายเพียงคนเดียวของฉัน เขาจะเหมือนแม่หรือเหมือนฉัน”
“แต่ที่แน่ๆ หน้าตาคุณเดม่อนเหมือนนายอย่างถอดแบบกันมาทุกอย่าง” ครูสยิ้มให้กับเปาโล
“เอวา เปลี่ยนไปมากจากเมื่อเจ็ดปีก่อน นิสัยใจคอของเธอฉันก็แทบจะไม่รู้จักเลยเมื่อก่อนนี้ แต่ตอนนี้บอกได้เลยว่าเธอร้าย กาจกว่าที่ฉันคาดไว้ เธอฉลาดและคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าแล้ว และฉันมั่นใจเอวาต้องรู้แน่นอนว่าเดม่อนอยู่ที่ไหน” เปาโลพยักหน้าเห็นด้วย
