
บทย่อ
เดม่อน ดาร์เลเน่ เด็กชายวัยหกขวบ เพียงแค่ครูสได้เห็นเพียงครั้งแรกครั้งเดียว สัญชาตญาณในตัวเขาบอกเขาโดยทันทีว่า นั่นคือลูกชายของเขา ญาติสายเลือดเดียวกันที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวบนโลกใบนี้ของเขา และเมื่อเด็กคนนั้นเดินจูงมือมากับเอวา ดาร์เลเน่ ผู้หญิงที่เขามีสัมพันธ์ด้วยเมื่อเจ็ดปีก่อน เรื่องราวน่าจะจบลงด้วยดี เพียงถ้าเขาไม่ได้ต้องการแค่ลูกแล้วอะไรจะเกิดขึ้นเมื่อ เขาจึงทำทุกอย่างทั้งที่ถูกต้องและการกระทำที่ก่อให้เกิดข้อหามากมายกับเขาไม่ว่าจะเป็นการพรากผู้เยาว์ , ลักพาตัว , กักขังหน่วงเนี่ยว , ข่มขืน , แบล็กเมล์ , ทำร้ายร่างกาย เอวาต้องประสบพบเจอกับทุกอย่างที่เกิดขึ้น แล้วผู้หญิงตัวเล็กๆที่ไม่มีทั้งอำนาจและเงินทองเธอจะทำอย่างไรต่อไป ‘อดทน’ สิ่งนี้มันจะอยู่กับเธอได้นานมั้ย เพราะเธอเป็นแค่คนธรรมดาที่มีเลือดเนื้อไม่ใช่ ‘ซาตาน’ อย่างเขา
[1] ลักพาตัว [1/6]
ผลั๊วะ!... เสียงผลักประตูดังขึ้น เอวารีบหันและวิ่งไปยังทิศทางนั้นทันที
“อ๊ะ!!!...” ดวงตาเปิดกว้างขึ้นพร้อมกับช่วงเท้าหยุดการเคลื่อนไหวไปข้างหน้าเปลี่ยนเป็นถอยหลัง เมื่อครูส กัส แอชเชอร์ ก้าวเข้ามาในพื้นที่ของห้องที่ เอวา ถูกกักกันตั้งแต่เมื่อวานนี้
“เจ้าสาว!...ขอโทษนะที่ปล่อยให้อยู่คนเดียวนานข้ามวัน” น้ำเสียงของครูสที่มีความเย้ยหยั้นตามลักษณะนิสัย
“แกก็ปล่อยฉันไปสิ!” เอวาตอบโต้กลับน้ำเสียงแฝงไปด้วยความเกลียดและขยะแขยงชายตรงหน้าอย่างไม่มีการปิดบังไว้สักนิด แม้แต่สายตาที่มองกลับไปยังครูส ยังฉายแววความรู้สึกนั้นอย่างชัดเจน
“…ปล่อย!...ถ้าต้องทำแบบนั้น ฉันจะเสียเวลาจับเธอมาทำไมกัน เอวา”
“ไอ้เลว!...แกไม่มีสิทธิทำกับฉันแบบนี้...” เอวาตอบกลับทั้งน้ำตา เธอคับแค้นใจทำไมคืนนั้น เมื่อเจ็ดปีก่อนทำไมนะเธอถึงคิดว่าเขาเป็นเทพบุตร แค่หน้าตาที่เป็นหน้ากากของเขาแค่นั้นอย่างงั้นเหรอ
“ก็ถูกของเธอ...ฉันไม่มีสิทธิแบบนั้น...แล้วเธอจะทำยังไง? ต่อไปละ” ครูส เดินขยับเข้าไปใกล้เอวา ที่ถอยหลังเช่นกันเพื่อรักษาระยะห่าง เอวาอารมณ์เดือดดาลมากขึ้น เมื่อยิ่งเห็นความไม่เดือดร้อนหรือความสำนึกในดวงตาและใบหน้าของครูสสักนิด
เอวาหันมองซ้ายขวา เธอต้องออกไปจากที่นี่ให้ได้ ถ้าเธอต้อง ‘ฆ่า’ ผู้ชายตรงหน้าเธอก็จะทำ ครูสที่มองตามสายตาเธอ ห้องนี้ว่างเปล่ามีเพียงเตียงนอนเท่านั้นที่มีครบในสิ่งที่ควรมี และห้องน้ำที่อำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่ต้องอยู่ที่นี่
“…เธอไม่ยอมแตะอาหารและน้ำที่นำเข้าไปให้เลยครับ...” เสียงคนเฝ้าประตูบอกกับเขาก่อนที่เขาจะเข้ามา
เอวา เธอรู้ดีว่าถ้าต้องเผชิญหน้ากับเขาตัวต่อตัว เธอไม่มีทางชนะเขาได้แน่นอน สาเหตุที่เธอต้องถูกจับมานั้น เธอเลี่ยงที่จะเอ่ยถึงกับเขา ‘เดม่อน’ เอวาไม่แน่ใจว่าครูสจะรู้เรื่องของเดม่อนมั้ย
ครูส คิดถึงวันที่เห็นเธออีกครั้งในห้างสรรพสินค้าเมื่อสี่วันก่อน แน่นอนเขาจำเธอได้ นักข่าวสาวที่เข้ามาสัมภาษณ์เขา เธอเตะตาเขาตั้งแต่วันที่เธอบอกว่า เธอคือนักข่าวที่ทางเอเจนซี่เขานัดให้มาทำการสัมภาษณ์ เอวา ดาร์เลเน่
‘ก่อนหน้านั้นอีกสามวัน’
“เราเคยรู้จักกันมั้ย?” ครูส เอ่ยถามเอวา ดาร์เลเน่
“ไม่” เอวาตอบกลับทันที และเธอขออนุญาตในการทำหน้าที่ที่ได้รับมอบมาจากเจ้านาย ซึ่งเธออยากปฎิเสธงานนี้เหลือเกิน แต่พระเจ้าคงมองไม่เห็นว่าเธอมีตัวตน ท่านจึงไม่ได้ยินคำวิงวอนของเธอ กว่าสี่สิบนาทีที่เธอต้องอยู่ภายในห้องพักของครูส ถึงจะไม่ใช่เพียงลำพัง แต่สายตาของเขาทำให้เธอรู้สึกว่า สภาพแวดล้อมรอบข้างกายเธอนั้นมืดมน มีแสงสว่างที่เดียวคือชายตรงหน้าเธอกับตัวเธอเอง
“คุณดาร์เลเน่ ได้คำตอบที่ต้องการครบแล้วเหรอครับ” ครูสเอ่ยถาม เมื่อเอวากล่าวขอบคุณเขา ที่สละเวลาให้กับสำนักข่าวที่เธอสังกัดอยู่
“ค่ะ...ฉันไม่รบกวนคุณแล้ว...ลาก่อน” เอวาพูดพร้อมเก็บของอย่างรวดเร็ว
“เดี๋ยวก่อน!!!....” เอวาสะดุ้งเล็กน้อย เมื่อเธอลุกจากเก้าอี้และกำลังจะก้าวออกจากห้องนี้ เพื่อไปให้ไกลจากเขาให้เร็วที่สุด
“คะ?...” เอวากลืนน้ำลายและพยายามข่มเสียงและอาการของตัวเองไว้ ก่อนที่จะหันกลับไปเผชิญหน้ากับเขาอีกครั้งและเธอก็หวังว่าจะเป็นครั้งสุดท้าย
“คุณดาร์เลเน่...ไม่พอใจอะไรผมเหรอเปล่า?” ดวงตาของเอวาเบิกกว้างขึ้นกับคำถามนี้
“ไม่มีค่ะ...” เอวากล่าวปฎิเสธอย่างรวดเร็วและกล่าวลาเขาอีกครั้ง แต่แล้ว....
“แต่!!!!...” ครูสเอ่ยอีกครั้ง เมื่อเอวา กล่าวลาเขาอย่างรวดเร็ว และหันหลังกลับไปอีกครั้ง
“ไม่มีอะไรค่ะ...ฉันมีงานต่อและคุณเองก็เช่นกัน...ขอโทษนะคะฉันต้องรักษาเวลาที่ขอผ่านเอเจนซี่ของคุณมา...ลาก่อน” เอวาพูดจบ เธอเร่งฝีเท้าไปยังประตูทางออกอย่างรวดเร็ว ครูสได้แต่หลี่ตามองตามเธอ ‘แปลกใจ’
และในครั้งที่สอง ที่เจอกับเธอ ด้วยความทรงจำบางอย่างที่เขาไม่แม้แต่จะคิดถึงมัน ความหลังระหว่างเขากับเอวากลับคืนมาบางส่วนที่เลือนลางเมื่อเขาไม่ต้องการความทรงจำส่วนนั้นกลับมา แต่วันที่เขาเจอเธอที่ห้างสรรพสินค้า เด็กผู้ชายที่จูงมือเดินมากับเธอ เหมือนเขายังกับพิมพ์เดียวกัน ‘สำเนาถูกต้อง’ ครูสจึงสั่งให้เปาโล สืบเรื่องนี้ทันที
ผ่านมาอีกสองวันภาพถ่ายของเธอตั้งแต่ช่วงปัจจุบันและย้อนกลับไปเมื่อเจ็ดปีก่อนหญิงสาวนามว่าเอวา ดาร์เลน่าวัยสิบเจ็ด ครูสจ้องมองภาพนั้นอย่างต้องการย้อนเรียกเหตุการณ์วันนั้นให้ได้ รอยยิ้มแฝงความคิดบางอย่างเผยออกมา
“หาวิธีตรวจดีเอ็นเอฉันกับเด็กผู้ชายคนนี้...” ครูสเอ่ยกับเปาโล เมื่อชื่อสถาบันที่เอวาเคยเรียนปรากฎให้เขาได้เห็น ทำให้ครูสต้องมีคำสั่งนั้น
“มีอีกเรื่องหนึ่งครับที่ต้องขออนุญาตแจ้งให้นายทราบครับ...” เปาโลเอ่ยอย่างนอบน้อม
“อะไร?”
“คุณเอวา ดาร์เลน่า กำลังจะเข้าพิธีแต่งงานในอีกสองวันครับ...”
“อะไรนะ!!!!...” ครูสเอ่ยเสียงดังออกมา เมื่อเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์เขามั่นใจว่า ‘เดม่อน’ ต้องเกี่ยวพันกับเขา
“โดโนแวน...คือผู้ชายคนนั้น” เปาโลย้ำชื่อเจ้าบ่าวของเอวา และนั้นเป็นการย้ำว่าเดม่อน ก็ต้องมีพ่อชื่อ โดโนแวน ‘ไม่มีทางให้เกิดขึ้น’
“ฉันไม่ต้องการให้พิธีเกิดขึ้น...จัดการไปเอาตัวเธอมา” คำสั่งลักพาตัวเจ้าสาวของครูสดังกังวาล มือแข็งแรงกำแน่นรูปถ่ายในมือจนไม่เหลือสภาพชิ้นดี...
ครูส ต่อหน้าสื่อมวลชนหรือแฟนคลับ ต่างกับครูสคนนี้มาก เรื่องของ เอวาเรียกตัวตนด้านลบของครูสได้ดีกว่าเรื่องที่ทริกซี่ฟ้องหย่าเขาอยู่เสียอีก ซึ่งเรื่องนี้ครูสแทบจะไม่สนใจ ไม่แยแสที่จะเอามารบกวนเวลา รบกวนสมอง ในการใช้ชีวิตของเขาเลยสักนิด
ครูสยืนมองเอวาที่ถอยรักษาระยะห่างจากเขา สิ่งที่เขาเข้าใจและจากตอนแรกที่แปลกใจ เปลี่ยนเป็นสงสัย เธอไม่ถามถึงสาเหตุที่เธอต้องมาอยู่ที่นี่ นั้นก็แสดงว่าเธอรู้จักเขาไม่ใช่ในฐานะ ซุป’ตาร์
เอวาที่ถึงแม้ตอนนี้ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยคราบน้ำตาที่ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง ‘รอ’ เธอหวังว่าโดโนแวนจะต้องช่วยเธอและปกป้องเดม่อนจากผู้ชายคนนี้
“เอวาไม่มีทางหนีไปเด็ดขาด...ต้องเกิดเรื่องร้ายกับเธอ” โดโนแวน เอ่ยกับเจ้าหน้าที่ เขาแจ้งความทันทีเมื่อเจ้าสาวของเขาหายตัว
“แต่เท่าที่เราตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ...ไม่มีล่องรอยการต่อสู้ หรือ ถูกงัดแงะอะไรทั้งนั้น”
“เอวา...ไม่มีทางทิ้ง เดม่อน ไปแบบนี้แน่นอน” โดโนแวน ยืนยันเป็นเสียงเดียว
“แล้วคุณสงสัยใคร?...หรือพอรู้ว่าใครที่หวังทำร้ายคุณเอวา...”
“ครูส กัส แอชเชอร์!!!!”
“ซุป’ตาร์ ชื่อดังคนนั้นเหรอครับ!!!!”เจ้าหน้าที่ถามกลับด้วยความเหลือเชื่อ...และเกินที่จะเชื่อ
“ใช่!ครับ...พวกคุณต้องทำอะไรสักอย่าง เพื่อขอเข้าตรวจค้นบ้านของเขา” โดโนแวนมั่นใจมากว่า เอวาต้องอยู่ที่นั้น ตั้งแต่ที่เธอบอกกับเขาว่าเธอต้องไปสัมภาษณ์ ครูส กัส แอชเชอร์ เอวาบอกเขามาตลอดว่าหลังจากนั้นเพียงสองวันเธอรู้สึกว่ามีบางอย่างเปลี่ยนไป
“ฉันรู้สึกเหมือนถูกจับตามอง หรือมีคนคอยตามตลอดหลายวันมานี้” คำพูดของเอวาที่เอ่ยกับเขาก่อนที่เธอจะหายตัวไปในวันแต่งงานระหว่างเขาและเธอ โดโนแวนรู้จักกับเอวาตั้งแต่เธอเริ่มเข้ามหาวิทยาลัย เขากับเธออายุเท่ากันแต่โดโนแวนจบก่อนเอวาสองปี และเมื่อเขารู้สาเหตุถึงการเรียนและจบช้าของเธอ โดโนแวนสงสารเธอมาก เมื่อเธอยอมเปิดใจกับเขาที่มีความรู้สึกพิเศษกับเธอ ‘เดม่อน’ ก็ช่างน่ารักจนเขาเองก็อดหลงรักสองแม่ลูกไม่ได้ และแน่นอนเอวาบอกเขาเพียงคนเดียวว่าใครคือพ่อของเดม่อน เรื่องนี้แม้แต่พ่อและแม่ของเธอก็ไม่รู้ และเธอขอให้เขาเก็บเรื่องนี้ไว้ ซึ่งตอนแรกเขาก็แค่รับฟังไม่ได้เชื่อเสียทีเดียวแต่เวลาที่ผ่านไปทำให้เขาเชื่อเธอจนสนิทใจ
โดโนแวนเท่านั้นที่รู้ว่าตอนนี้ ‘เดม่อน’ อยู่ที่ไหน เพราะเขาทำตามคำบอกของเอวา ที่ตอนนั้นเขาพูดกับเธอว่า เธอคิดมากไปเหรอเปล่า
“ฉันไม่ไว้ใจใครนอกจากคุณ...โดโนแวน คุณสัญญากับฉันนะ...ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับฉัน คุณต้องปกป้องเดม่อน”
ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูเรียกสติของผู้ที่อยู่ในห้องทั้งสองกลับคืนสู่ปัจจุบัน ประตูถูกผลักเข้ามาโดยคนเฝ้าประตู ลูกจ้างหญิงถือถาดอาหารเข้ามา วางไว้และรีบออกจากห้องไปโดยที่ไม่แม้แต่เงยหน้ามองใครทั้งนั้น ‘ตามคำสั่ง’
ครูสยิ้มเพียงแว็บเดียว และเดินไปยังปลายเตียงที่ถาดอาหารวางไว้ ‘เบอร์เกอร์’ สองชุดกับน้ำเปล่าสองขวด เมื่อสายตาของเอวามองถาดอาหารที่ถึงแม้จะเป็นเพียงเบอร์เกอร์ แต่เธอไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เมื่อวานเที่ยง นี้ก็ครบรอบเวลายี่สิบสี่ชั่วโมง เธอไม่กินไม่นอนขีดจำกัดของร่างกายเธอกำลังจะมาถึงสุดทาง
เอวา มองครูสที่กำลังกัดเบอร์เกอร์ เขากำลังกินมันอยู่ และท่าทางของเขามันทำให้เธออยากเอาขวดน้ำฟาดศีรษะเขามาก... ‘คำที่สอง’ ตามลงไปเมื่อเขากลืนคำแรกหลังจากที่เคี้ยวอยู่นานเกินความจำเป็น
“อีกชิ้นของเธอนะ...” ครูสเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ใจดี ที่เอวารู้สึกได้ว่า ‘เสแสร้ง’ แต่... เอวาขยับเคลื่อนไปยังถาดอาหาร เธอหยุด และส่งสายตาให้ครูสขยับออกไป “...ถ้าหิวก็เดินมาหยิบ...” ครูสไม่ขยับแต่กินเบอร์เกอร์ส่วนของตัวเองต่อจนคำสุดท้าย โดยที่ไม่เห็นสายตาของเอวา...เอวาขยับเข้าไปใกล้ครูสที่กำลังเปิดฝาขวดน้ำ
ควับบบบบ!!!!....เพล้ง!!!....โอ้ย!!!! เอวาร้องออกมา เมื่อครูสที่เธอคิดว่า ‘เผลอ’ ขวดน้ำอีกขวดที่เอวาหยิบและกำลังจะฟาดไปที่ศีรษะของเขา แต่เขาก็ใช้อีกมือคว้าขวดในมือของเอวาไว้ได้อย่างรวดเร็ว ครูสทิ้งขวดน้ำที่เขาดื่มไปบางส่วนล่วงลงกับพื้นเพื่อที่มือนั้นคว้าจับข้อมือเล็กอย่างรวดเร็ว เร็วกว่าที่เอวาจะผละหนีไปจากตรงนั้นได้
“หยิบ...ขึ้น...มา” ครูสย้ำทีละคำ ด้วยน้ำเสียงลดต่ำ โดยให้สายตาของเขาบอกสิ่งที่เขาสั่ง ‘เบอร์เกอร์’ ที่ล่วงลงพื้น
“โอ้ย!...ไอ้เลว!...ปล่อยฉันนะ” เอวาใบหน้าเหเกและพยายามแกะมือแข็งแรงนั้น เพราะความเจ็บที่ข้อมือที่ครูสกำแน่น เหมือนกระดูกตรงส่วนนั้นของเธอจะแหลกด้วยน้ำมือเขา ครูสจึงก้มลงหยิบเบอร์เกอร์นั้นเสียเอง เมื่อเอวาไม่สนใจคำสั่งของเขา
“อื้มมมม....มืมมมมม...” เอวาปิดปากตัวเองแน่น พร้อมกับส่ายหน้าหนี เมื่อครูสหยิบเบอร์เกอร์ชิ้นนั้น พยายามยัดเข้าปากของเธอ การดิ้นรนขัดขืนของเอวา ทำให้เธอเสียหลักล้มลงบนเตียงนอน ซึ่งครูสก็ตามติดร่างกายเธอไปเช่นกัน
“กิน!...เมื่อให้กินดีๆ...ไม่ชอบ...กิน” สงครามสร้างความเกลียดชังเกิดขึ้น เมื่อเอวาพยายามดิ้นรนให้หลุดพ้นจากการกระทำอันชั่วช้าของครูสที่เขายัดเบอร์เกอร์ใส่ปากเธอ “เคี้ยว!!!...” ใบหน้าของเอวาเต็มไปด้วยคราบน้ำตาที่ยังคงไหลออกมา มือเล็กทั้งสองของเธอไม่ทำให้ครูสรู้สึกสะทกสะท้าน เพราะเขานั่งคร่อมร่างเธอไว้และมือข้างหนึ่งก็ปิดปากเธอไว้ เมื่อเขายัดเบอร์เกอร์บางส่วนเข้าปากเธอได้ เอวาต้องทำตามคำสั่งนั้นเมื่อเธออ่อนแรง แน่ละ! เพราะเธอไม่ได้กินอะไรเลยมาหนึ่งวัน ด้วยความกังวลและเครียดทำให้เธอไม่นึกอยากกินอะไร และเธอไม่ต้องการทุกอย่างของครูสเข้าไปไหลเวียนในร่างกายเธอ
เอวาต้องเบิกตากว้างขึ้นเมื่อขวดน้ำ ขวดที่เธอจะเอามาฟาดครูสมันล่วงบนเตียงนอน ตอนนี้มันอยู่ในมือครูสที่เขากำลังเปิดฝาและเป็นที่เธอคาดไว้ “อร้ายยย!!!!....คอก!!!...อื้มมมม...” ครูสเทน้ำจากขวดราดใส่หน้าเอวาที่หลับตาลงทันทีเช่นกัน ครูสไม่พอใจเท่านั้นเขาบีบคางเธอและเอาน้ำกรอกใส่ปากเธอจนเธอสำลัก ไอ.... เอวาร้องไห้ออกมาอย่างที่เธอไม่คิดว่าความเสียใจแบบนี้มันจะกลับมาอีกครั้ง ด้วยต้นเหตุเดิม ‘ครูส กัส แอชเชอร์’ ความป่าเถื่อนของเขาทำให้เอวาที่เกลียดเขาเป็นทุนเดิมอยู่เพิ่มเป็นทวีคูณมากขึ้นในทันที
“ฮือออออ....แกมันเลว....ฮือออออ” เอวาตะโกนด่าครูสที่ยังคร่อมเธอ เขาแสยะยิ้มออกมา
“…ฉันต้องการ ‘เดม่อน’...” และแล้วสิ่งที่เอวากลัวมากที่สุด ก็ประจักษ์แจ่มแจ้ง
