ตอนที่สอง ทางออกของปัญหาหรือว่าทางตัน 3
ลิปดานิ่วหน้ามองผู้ชายร่างสูงโปร่งที่แต่งกายไม่เรียบร้อยเดินออกมาจากตัวห้องแล้วหยอกล้อสนิทสนมกับหญิงสาว เพราะว่าร้านของปานรพีนั้นใช้บริเวณหน้าบ้านเป็นร้านอาหารและตัวบ้านชั้นล่างเปิดโล่งไปจนถึงหลังบ้านทำให้มองไปเห็นอะไรได้หมด เขาถึงได้เห็นว่าแม่ตัวกระเปี๊ยกหุ่นเซ็กซี่ไม่ได้เด็กอย่างที่คิดเพราะเจ้าหล่อนมีสามีเป็นตัวเป็นตนแล้ว ดีที่เขาไม่เผลอแสดงความสนใจหล่อนออกไปไม่อย่างนั้นคงได้หน้าแหกกลับมาแน่
ลิปดายักไหล่ หมดความสนใจแม่สาวหุ่นนาฬิกาทรายไปทันทีแม้จะติดใจและเสียดายอยู่บ้างก็ตาม เพราะนานมากแล้วที่เขาไม่ค่อยถูกใจใครอย่างนี้
ปานรพีเดินออกมาเขียนเบอร์ร้านให้เขา ตัวหนังสือและตัวเลขเรียงน่ารักบนกระดาษขาวแผ่นเล็กให้เขา
“พอดีนามบัตรของร้านไม่พร้อมค่ะ ฉันเขียนเบอร์ร้านให้คุณก่อนเพราะกลัวคุณรีบ”
“ขอบคุณมาก ไว้นึกถึงเรื่องอาหารเมื่อไหร่ผมจะโทรมา ลาก่อนครับ” ลิปดาโบกมือให้หล่อน มองดวงหน้าหวานตรึงตาอย่างแสนเสียดายก่อนจะเดินออกไปจากร้านหล่อน ตั้งใจว่าจะติดต่อผ่านเบอร์นี้เผื่อว่าหล่อนสนใจจะมาลองเป็นเชฟที่โรงแรมของเขา หากว่าสามีของหล่อนอนุญาต
ตลาดที่ปานรพีมักไปซื้อของมาทำวัตถุดิบในร้านคือตลาดพระใหญ่ ตลาดนี้ติดทะเลจึงมีของสดขึ้นจากเรือใหม่ๆ มาให้เลือกมากมาย เชฟของหลายๆ โรงแรมก็มักมาเลือกซื้อของที่นี่ไปทำอาหารที่ร้านเช่นกัน วันนี้หญิงสาวไม่ได้มาคนเดียวแต่พ่วงเอาเพื่อนข้างบ้านที่ขอติดรถกระบะคันเล็กของหล่อนมาซื้อของสดไปทำอาหารฉลองที่ที่ทำงานใหม่ของเขาด้วย
“ยัยตัวจิ๋ว ลงมาได้แล้ว” คนขอติดรถแต่โดนให้ให้ขับรถอัญเชิญคนที่ควรจะชื่อน้ำฝนแต่เขาเปลี่ยนให้เป็นตัวจิ๋วเพราะหล่อนตัวจิ๋วนักลงจากรถ
หญิงสาวค้อนใส่เมื่อโดนคนสูงกว่าล้อ เอกภพ เรืองศรีสกุล เพื่อนสนิทที่ว่ายน้ำทะเลแถวบ้านด้วยกันมาตั้งแต่เด็กๆ พร้อมกับน้องชายฝาแฝดหล่อนแต่บัดนี้สูงใหญ่กว่าหล่อนกันไปหมดแล้ว ทั้งที่ตอนเด็กๆ ตัวก็เท่ากันแท้ๆ ตอนแรกคลอดหล่อนตัวหนักกว่าเพื่อนด้วยซ้ำ ทำไมโตขึ้นถึงได้ตัวหดเล็กลงให้คนตัวโตกว่าได้ล้อเลียนนักก็ไม่รู้
“ฉันชื่อน้ำฝนย่ะ นายเก้งกวางชะนีอีแอบ”
“เฮ้ย ไม่ต้องแถม เก้งอย่างเดียวก็พอ” เอกภพโวยวาย แล้วก็ต้องรีบคว้าตัวคนตัวเล็กแถมซุ่มซ่ามมาไว้ในอ้อมแขน เพราะเจ้าหล่อนจะเดินข้ามถนนแต่ไม่ดูรถที่วิ่งมา เกือบโดนรถทับให้ตัวเล็กลงกว่าเดิม
“ตายแล้ว”
“ยังไม่ตายย่ะ แม่ชะนีน้อย ฉันช่วยหล่อนไว้ทัน” นายเก้งที่เป็นเก้งสมชื่อเอ่ยประชด “นี่ๆ รีบถอยออกไปไกลๆ อกที่เต็มไปด้วยซิกแพ็คของฉันได้แล้วแม่ชะนี อกนี้มีให้ให้หนุ่มหล่อซบเท่านั้น ชะนี อย่ามาหากำไรแถวนี้” มือหนาๆ ของเอกภพไสหัวหล่อนออก
“แหม แล้วอย่างนี้ไม่ยอมให้เรียกว่าเก้งกวาง ทั้งที่นายมันเก้งกวางแท้ๆ”
“เธอก็เหมือนกันแม่ตัวจิ๋ว ตัวจิ๋วแถมยังเซ่ออีก ฉันเรียกตัวจิ๋วน่ะถูกแล้ว”
“ตามใจจะเรียกอะไรก็ตามใจนายเลยนายนายเก้งกวาง ไม่ว่านายจะเรียกอะไร มันก็เปลี่ยนแปลงความสวยของฉันไม่ได้หรอก” ปานรพีพูดติดตลกแบบที่พูดเสมอกับเขา
“สวยแต่ไหนพี่ก็ไม่หวั่นไหวหรอกครับ พอดีพี่ไม่ชอบพวกมีมดลูกครับ” เอกภพแกล้งทำเสียงเข้มกลบ แล้วก็หัวเราะออกมาพร้อมกันกับปานรพีไม่ว่าจะหันหน้าเข้าหากันเมื่อไหร่เปิดวลีใดขึ้นมา เพื่อนผิดเพศแต่แสนน่ารักอย่างเอกภพก็ทำให้มีเรื่องหัวเราะได้เสมอ จนลืมความเครียดต่างๆ ที่ติดสมองได้ชั่วขณะใหญ่ๆ เลยทีเดียว “ไปซื้อของกันเถอะ เดี๋ยวได้ของไม่ครบ พวกตุ๊ดที่คาบาเร่โชว์ได้แหกอกฉันพอดี อุตส่าห์โม้ว่าจะเอาของไปทำอาหารแซบสะเด็ดกินกันหลังร้าน”
ภาพการหยอกเอินของคนสองคนและทั้งคู่เดินจูงมือกันเข้าตลาดอยู่ในสายตาของลิปดาตลอด เขาหรี่ตามองหญิงสาวแสดงท่าทางสนิทสนมกับผู้ชายอีกคนแล้วก็ส่ายหัว เห็นหน้าเด็กดูไร้เดียงสาอย่างนั้นสำส่อนใช่ย่อย หล่อนหมดคุณสมบัติที่จะเข้าทำงานที่โรงแรมของเขาทันที คนทำกับข้าวย่อมเน้นสุขภาพอนามัยไว้ก่อน พวกอยู่ในกลุ่มเสี่ยงติดโรคอย่างนี้ไม่มีใครไว้ใจให้มาทำอาหารให้แขกของเขาทานหรอก
เขาดึงเบอร์โทรที่หล่อนเคยให้เอาไว้ออกจากช่องเสียบบัตร ขยำกระดาษใบเล็กโยนไปลงในถังขยะสาธารณะอย่างไม่แคร์อะไรอีกเพราะคิดว่าคงไม่ได้ใช้มันอีกต่อไป เห็นทีต้องเลิกล้มโครงการเฟ้นหาแม่ครัวพื้นบ้านแล้วใช้คนที่นายคิมิยะหามาทดสอบแทนดีที่สุดแล้ว
