ซาตานทวงสิทธิ์วิวาห์

118.0K · จบแล้ว
มณีน้ำเพชร
63
บท
166.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

‘นาดา’ บัณฑิตสาวที่เพิ่งผ่านรั้วมหาวิทยาลัยสดๆ ร้อนๆ แทบช็อก เมื่อรู้ว่าจะต้องเข้าพิธีวิวาห์กับมหาเศรษฐีนักธุรกิจหนุ่มชื่อดังเพื่อล้างหนี้สินจำนวนมหาศาล ‘การผูกมัด’ ที่เธอไม่อยากเชื่อและในเมื่อมันเป็นคำขอร้องของบิดา เธอจึงต้องหาตัวช่วยเพื่อปฏิบัติภารกิจ ‘เจ้าสาวไร้เงา’ หนีการเข้าหอกับเจ้าบ่าวที่ไม่เคยเห็นหน้า และเขาชายหนุ่มรูปงามที่ชวนเธอเข้าโรงแรมก็คือ ‘ตัวเลือกเบอร์หนึ่ง’ ที่ไม่อาจมองข้ามได้ ‘Celebrity’ หนุ่มหล่อชื่อดังอย่าง ‘วินเซนโซ่’ ที่ตกเป็นข่าวฉาวในหน้าหนังสือพิมพ์แทบทุกวัน ‘Playboy’ ตัวร้ายที่เขมือบสาวไม่ซ้ำหน้าแทนข้าว เขาหนีแผนคลุมถุงชนไปตั้งหลักที่ประเทศไทย แต่กลายเป็นว่าได้เจอ ‘ว่าที่เจ้าสาว’ โดยบังเอิญแถมยังถูกขอร้องให้ร่วมในภารกิจ ‘ชิงตัวเจ้าสาว’ เซเลบหนุ่มชื่อดังจึงซ้อนแผนผูกมัดเจ้าสาวตั้งแต่เธอยังไม่รู้ตัว ช่วยไม่ได้ ในเมื่อเธอสวยสะเด็ดและน่ารักเกินกว่าที่คิดไว้ จาก ‘หนี’ จึงกลายเป็น ‘ไล่ล่า’ เพื่อให้เธอระทดระทวยอยู่บนเตียงนอนของเขาไปทุกค่ำคืน และสิ่งที่นาดาไม่เคยได้รับ เขาก็เนรมิตมันให้เธอทุกอย่าง เพียงแต่ข้อแลกเปลี่ยนที่เขาต้องการก็คือ ‘สิทธิ์ของสามี’ ที่จะ ‘เปลื้องผ้าเธอ’หรือจะให้เธอ ‘เปลื้องผ้าให้’ ในทุกเวลาที่เขาต้องการ

นิยายรักนิยายปัจจุบันนิยายรักโรแมนติกประธานจอมมารพลิกชีวิตพระเอกเก่งมาเฟียเศรษฐี

ตอนที่ 1 หนีร้อนไปพึ่งเย็น

ตอนที่ 1 หนีร้อนไปพึ่งเย็น

เจ้าของร่างสูงสง่าที่ทิ้งตัวลงบนโซฟานุ่มด้วยท่าทีอ่อนล้าต่อหน้าบิดามารดา เปลือกตาหนาที่ประดับแพขนตายาวตรงหลุบลงต่ำ ทิ้งลายความเป็นเพลย์บอยจนสิ้นเมื่ออยู่ต่อหน้าบุพการี เหลือแต่ความหล่อเหลาคมเข้มอย่างคนที่มีสายเลือดครึ่งหนึ่งเป็นไทยส่วนอีกครึ่งเป็นอิตาลี ทุกๆ อย่างที่ประดับอยู่บนร่างสูงใหญ่จึงหล่อเหลาจนผู้ชายด้วยกันยังคิดอิจฉา ทว่าตอนนี้ท่าทีเหมือนคนอ่อนล้าจากการทำงานหนักทำให้บิดาต้องถอนใจเบื่อระอา

“แกไม่ต้องมาแสดงละครต่อหน้าฉันเลยวินเซนโซ่ ที่ฉันพูดปากเปียกปากแฉะก็เป็นแค่ลมปากเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาของแกเท่านั้นสินะ”

ร็อบ อัลริโอร็อคซี่ เบื่อหน่ายกับข่าวฉาวที่มีไม่เว้นแต่ละวันของบุตรชายเพียงคนเดียว วินเซนโซ่มีชื่อเรื่องความเจ้าชู้ แม้จะไม่เคยมีผู้หญิงอุ้มท้องมาเรียกร้องของการเลี้ยงดูในฐานะภรรยา แต่ข่าวที่มักจะพาดหัว ‘นักธุรกิจหนุ่มรูปงามทายาทตระกูลดังใช้ผู้หญิงเปลือง เปลี่ยนสาวไม่ซ้ำหน้าในแต่ละวัน’ ก็ทำให้ร็อบถึงกับระอาอยากจับบุตรชายใส่พานยกให้ผู้หญิงดีๆ คนหนึ่งไปดูแลสักที

“นอกจากเรื่องผู้หญิง ผมก็ทำแต่เรื่องที่คุณพ่อคุณแม่พอใจมาตลอดนี่ครับ คุณพ่อคุณแม่เคยพูดว่าไม่เคยผิดหวังในตัวผม”

“ยกเว้นเรื่องนี้วินเซนโซ่ แกอายุ 32 แล้วนะ ไม่ใช่เด็กๆ เลือกเอาสักคนไอ้ที่ควงๆ นั่นมีดีๆ บ้างมั้ย”

“คุณพ่อครับ จะให้เอาอีหนูรายวันมาเป็นเมีย ผมไม่เอาหรอกครับ แค่คู่ซ้อมก็พอแล้วสำหรับพวกเธอ”

เขาเป็นผู้ชายปากร้าย ต่อหน้าผู้หญิงก็พูดจาหวานหูจนผู้หญิงต่างหลงคารม แต่ลับหลังผู้หญิงพวกนั้นไม่เคยมีค่าในสายตาเขาเลยสักนิด ถ้อยคำยกยอปอปั้นแม้กระทั่งใครบางคนก็ไม่เคยเกิดขึ้น สำหรับวินเซนโซ่แล้วผู้หญิงใจง่ายขยิบตาเดี๋ยวเดียวก็ผ้าหลุด พวกเธอจะไม่มีวันได้รับเกียรติจากเขา และไม่คิดด้วยพวกเธอจะมีแค่เขาคนเดียว บางคนกลวงโบ๋ไม่คับเลยก็มีทว่าวินาทีนั้นเขาต้องพาตัวเองไปให้สุดเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาและเสียเงินที่ต้องจ่ายให้หลังเสร็จกิจ

มีบางคนถึงขนาดต้องอ้อนวอนขออยู่ต่อโดยไม่รับเงินปึกใหญ่ แต่วินเซนโซ่ไม่เคยใช้งานห้องเครื่องใครซ้ำสองถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่มีค่าพอ และยังไม่เคยมีใครทำให้เขารู้สึกคุ้มค่าได้

“แกไม่กลัวโรคบ้างเลยหรือไง ถ้าติดโรคขึ้นมาล่ะก็...”

“ไม่มีทางหรอกครับคุณพ่อ ผมรักสนุกไม่คิดผูกพันและป้องกันตัวเองเสมอไม่เคยพลาด”

“ถ้าพลาดมาล่ะน่าดู ตระกูลฉันคงพินาศ”

“วินเซนโซ่” ชัญญา อัลริโอร็อคซี่ ผู้เป็นมารดาส่ายหน้าให้สามีใช้น้ำเย็นเข้าลูบ “แม่ว่าจะขอลูกมานานแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาสดีๆ”

“อย่าบอกนะครับคุณแม่จะขอเรื่องนี้ ผมยังไม่อยากแต่งงาน ผมยังไม่พร้อมจะดูแลรับผิดชอบชีวิตใครนะครับคุณแม่”

กลางวันทำงาน กลางคืนเที่ยวเตร่หิ้วผู้หญิงขึ้นแมนชั่นมานอนกกกอดไม่เว้นแต่ละวันช่างเป็นเรื่องน่าห่วงในสายตาของพ่อกับแม่ แต่ทั้งนี้บุตรชายก็ยังตื่นเช้าไปทำงานได้ทำวัน งานที่ทำก็ออกมาดีได้รับการนิยมชมชอบจากทุกคน เป็นผู้บริหารหนุ่มวัย 32 ปีที่มากความสามารถ แต่... หัวอกคนเป็นพ่อแม่ก็ย่อมอยากอุ้มหลาน อยากเป็นปู่เป็นย่า อยากเห็นครอบครัวของลูกก่อนจะไม่มีโอกาสได้เห็น

“อะไรที่แกไม่พร้อม ไหนลองว่ามาซิ” บิดาถามเสียงเข้ม

“ก็... ทุกอย่าง ผมอยากทำงาน ไม่ได้อยากแต่งงานนี่ครับ”

“อยากทำงานหรือยังอยากสนุกแบบนี้ไปเรื่อยๆ ถ้าแกยังหาลูกสะใภ้ให้ฉันไม่ได้ล่ะก็...”

“พอเถอะค่ะคุณ พูดดีๆ กับลูกสิคะ วิน” เมื่อใดที่มารดาเรียกชื่อเล่นของเขาเหมือนตอนเด็กๆ เมื่อนั้นเขาก็ต้องขยับตัวและพร้อมรับฟังคำขอร้องของท่าน เพราะถ้าลองเอาน้ำเย็นเข้าลูบแบบนี้แล้วไม่มีทางที่เขาจะปฏิเสธท่านได้

“ครับคุณแม่” ถึงทีที่คนเป็นลูกอาจจะต้องยอมอ่อนข้อให้กับคนที่รักมากยิ่งกว่าชีวิต ใช่ว่าเขาจะรักบิดาน้อยกว่า แต่ในความรู้สึกของเขาผู้ชายด้วยกันน่าจะเข้าใจกันง่ายกว่านี้

“แม่อยากจะขอ คือเพื่อนแม่มีลูกสาวหน้าตาน่ารักมาก ลูกน่าจะชอบน้องได้ไม่ยาก”

“คุณแม่ครับ คือผม...”

“ฟังแม่ก่อนสิวิน แม่รู้ผู้หญิงในสเปคของลูกจะต้องตัวเล็ก”

“ผมชอบอวบๆ ครับคุณแม่” เขาแย้ง

“คนนี้ก็มีทุกอย่างที่ลูกชอบ แม่อยากให้วินได้เจอเธอสักครั้ง ให้วินตัดสินใจตอนที่เห็นเธอ พ่อกับแม่สัญญาว่าจะไม่บังคับถ้าลูกไม่ชอบ”

“แต่แกต้องหาคนอื่นมาเป็นลูกสะใภ้ให้ฉัน” เสียงกร้าวกังวานของบิดาดังแทรกขึ้นมา วินเซนโซ่ถอนใจเฮือกมองบิดาที่ทำหน้าขึงขังชนิดไม่ยอมให้เขาปฏิเสธได้ ก่อนจะมองมารดาด้วยแววตาอ่อนแสงลงนิดหนึ่ง

“แม่รู้ว่าตลอดเวลาถ้าตัดเรื่องผู้หญิงออกไป วินก็เป็นลูกที่ดีมาก ไม่เคยทำให้พ่อกับแม่ผิดหวัง หัวอกคนเป็นแม่ไม่มีใครอยากบังคับข่มเหงน้ำใจลูกหรอกนะ แต่พ่อกับแม่อายุเลยเลข 5 เข้าไปแล้ว ถ้าจะต้องอุ้มหลานตอน 60 วินคิดว่าแม่จะอุ้มหลานไหวไหม จะวิ่งเล่นกับหลานได้ไหมทั้งที่อยากทำใจแทบขาด”

สารพัดเหตุผลที่มารดาจะยกขึ้นมาอ้าง ทว่ามันกลับทำให้วินเซนโซ่ต้องประจักษ์ในความสูงวัยของพวกท่าน และนึกเห็นใจหากคุณย่าจะวิ่งไล่จับหลานไม่ทัน

“ก็ได้ครับ ถ้าคืนนี้ผมไม่ได้ลูกสะใภ้ให้คุณพ่อคุณแม่ ผมจะไปดูหน้าเด็กคนนั้น”

ผู้หญิงคนนั้นคงจะอายุไม่มากและไวไฟแก่แดดขนาดอยากได้ผัวจนตัวสั่น เพราะถ้าอายุมากก็คงหาผัวได้เองโดยไม่ต้องรอให้ใครประเคน หรือว่าเธอคนนั้นจะอายุ 30 ให้ตายสิ! ถ้าเป็นแบบนั้นเขาไม่อยากคิด ผู้หญิงในสเปคควรจะมีอายุอยู่ที่ 23-26 ไม่เกินนี้ ถ้าเกินกว่านี้ไม่ชอบ ไม่ได้รังเกียจอะไรหรอกนะ แต่ถ้าอายุมากกว่านี้ก็คงมากไปด้วยประสบการณ์ ไอ้ที่ตั้งใจหมายปองไว้ว่าจะเป็นครูสอนคงไม่มีโอกาส มิหนำซ้ำเขาอาจจะถูกเธอสอนเสียเองก็เป็นได้

“น้องไม่เด็กแล้วนะ อายุ 22 เรียนจบแล้วด้วย” มารดาของเขายังคงชื่นชมเด็กคนนั้นต่อเนื่อง วัย 22 ยังไม่เข้าเกณฑ์ของเขาเลย

“ครับคุณแม่”

“เดี๋ยวพรุ่งนี้แม่จะเอารูปให้ดู แม่จะขอไปทางอีเมลคืนนี้ แต่แม่รับรองว่าวินต้องชอบน้อง”

“โอเคครับ ผมขอตัวก่อนนะครับ พอดีมีนัดกับเพื่อนๆ คืนนี้” นัดกับสาวๆ ไว้ครั้งนี้จะพลาดไม่ได้ จากไม่คิดคาดหวังอะไรกับนัดคืนนี้ เขาคงต้องหวังเสียหน่อยแล้ว ไม่ใช่อยากแต่งงานขึ้นมาหรอกนะ แค่จะเอามาเป็นปราการด่านหน้าคุณพ่อกับคุณแม่จะได้เลิกวุ่นวายกับชีวิตของเขาเสียที

“คุณว่าหนูน้ำค้างจะเข้าตาวินมั่งหรือเปล่าคะ” ภรรยาหันไปถามสามีหลังจากบุตรชายหัวแก้วหัวแหวนขึ้นห้องไปแล้ว ใจอยากได้มนต์วธูเป็นลูกสะใภ้เต็มแก่ ลูกสาวของเพื่อนรักที่กำลังเติบโตขึ้นอย่างงดงามเหมือนดอกไม้แรกแย้ม ถ้าปล่อยไว้นานๆ ดูท่าจะไม่ทันคนอื่น

“เท่าที่ผมดูหนูน้ำค้างน่ารักมาก ถ้าไอ้วินมันไม่ตาถั่วจนมองไม่เห็นความน่ารัก หนูน้ำค้างก็คงทำให้มันหลงรักได้ไม่ยาก”

“ฉันก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้นค่ะ ไม่งั้นล่ะก็ฉันเสียดายหนูน้ำค้างแย่เลย”

“คุณก็รีบไปเอารูปถ่ายหนูน้ำค้างมาให้ไอ้วินมันดู มันจะได้เลิกเที่ยวเสียที”

“ค่ะ รอดึกๆ แล้วค่อยส่งอีเมลไปขอ ฉันน่าจะขอมานานแล้ว ลืมคิดไปได้ยังไงก็ไม่รู้”

“ไม่เป็นไรหรอกคุณ ยังไงไอ้วินมันไม่มีทางหนีรอดแน่ เพราะผมจะไม่ยอมให้มันทำอย่างนั้น”

แก้วเหล้าที่ถูกคลึงเล่นไปมาอยู่ในมือทำให้เพื่อนที่มาด้วยต้องสงสัย เพราะดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่ใส่ใจอะไรมากไปกว่าแก้วเครื่องดื่มในมือ

“นายเป็นอะไรไปวะวิน ทำท่าเหมือนเบื่อโลกยังไงยังงั้น”ในที่สุดแซคก็ไม่ยอมปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านพ้นไป

“ก็ใช่น่ะสิ เบื่อ เบื่อมากด้วย” วินเซนโซ่ตอบเสียงแห้ง “คุณพ่อคุณแม่จะให้ฉันแต่งงานกับเด็กที่ไหนไม่รู้ ฉันยังไม่อยากแต่ง ยังหวงชีวิตโสดสนิทแบบนี้มากนายเข้าใจไหมวะแซค”

“แล้วเห็นหน้าตาเด็กนั่นหรือยัง ถ้าสวยก็เอาเลย”

“เรื่องสวยไม่สวยไม่ใช่ประเด็น ประเด็นมันอยู่ที่ฉันยังไม่อยากแต่ง ฉันอยากอยู่แบบนี้ไปนานๆ ไม่อยากจะต้องมารับผิดชอบชีวิตใคร ไม่อยากมีตัวถ่วงนายเข้าใจมั้ยแซค” เสียงที่ระบายออกมาจากความอัดอั้นตันใจดังขึ้นเรื่อยๆ แม้ในผับกึ่งเรสเตอรองแห่งนี้จะเปิดเพลงคลอค่อนข้างดัง แต่เสียงของวินเซนโซ่ก็สะดุดหูสาวสวยที่นั่งโต๊ะใกล้ๆ จนต้องลุกขึ้นมาแนะนำตัวเอง

“ไฮ ดูเหมือนคุณจะอารมณ์ไม่ดี ให้ฉันช่วยคลายอารมณ์ให้เอามั้ยคะ”

สาวผมบลอนด์ทรวดทรงกระแทกเบ้าตาชายทุกคนจงใจเบียดบดทรวงอกอวบใหญ่ที่อัดแน่นไปด้วยซิลิโคนกับท่อนแขนกำยำ แซคพยักเพยิดมองหน้าอกสาวทรงสะบึมแล้วน้ำลายหก ทำไมสาวๆ พวกนี้ไม่มาหาเขาก่อนไอ้หมอนี่บ้าง ผู้หญิงหลายคนของแซคล้วนแล้วแต่ผ่านมือเพื่อนมาทั้งนั้น แซคเป็นเพื่อนที่กินน้ำใต้ศอกเพื่อนตลอด แต่เขาก็ยอมเพราะไม่ใช่คนเรื่องมากกับของแบบนี้ ถ้าเป็นแม่ของลูกก็ว่ากันอีกที

“แก้เบื่อไงวะวิน เอาเลย นายจะได้หายเซ็งไงเพื่อน”

วินเซนโซ่เสียเวลาคิดครู่เดียวลำแขนของเขาก็รวบเอวเล็กของสาวเจ้าอย่างถือสิทธิ์

“คุณชื่ออะไรคนสวย”

“เฮเลน่าค่ะ ถ้าคุณยังไม่มีใครขึ้นเตียงล่ะก็ ฉันยินดีขึ้นแทน”

มุมปากของวินเซนโซ่กดลึกด้วยรอยยิ้มกรุ้มกริ่มนิดๆ แม่สาวคนนี้ก็สวยไม่ใช่เล่น เธออาจจะไม่เหมาะเป็นปราการให้เขาแต่เหมาะที่จะขึ้นเตียงเป็นบ้า

“ที่จริงผมมีนัดแล้ว แต่คู่นัดของผมยังไม่โผล่หัวมาสักที ถ้าคุณยินดีเป็นตัวแทนของเธอล่ะก็... โอเค”

ร่างสูงลุกขึ้นพลางยักคิ้วหลิ่วตาให้แซคเป็นการส่งท้าย ก่อนจะกดจมูกกับเรือนผมยาวๆ สีบลอนด์นุ่มของสาวข้างกายแผ่วๆ แล้วพาเธอเดินออกไปจากสถานบันเทิงแห่งนั้นปล่อยให้เพื่อนอย่างแซคนั่งดื่มแก้เซ็งตามลำพัง

“อะไรนะ ไอ้วินมันหนีไปแล้ว หนีไปไหน”

บ้านใหญ่หลังงามลั่นไปด้วยเสียงห้วนห้าวที่สะท้อนจนกู่ก้อง ชัญญาถึงกับสะดุ้งยกมือทาบอก เธอมองสามีที่กำลังโมโหโทโสกับลูกชายคนเดียวจนอกแทบแตก เธอเองก็ไม่อยากให้เรื่องมันเป็นแบบนี้แต่ทว่าชีวิตใครก็ชีวิตมัน วินเซนโซ่ไม่ใช่คนที่จะยอมใครง่ายๆ ถอดแบบพ่อของเขาไม่มีผิด ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอก็เป็นประเภทเอาแต่ใจตัวเองเหมือนกัน เธอถอนใจเฮือกการที่ลูกชายหายตัวไปแบบนี้ต้องเกิดเรื่องแย่ๆ ในครอบครัวตามมาแน่นอน

“ใจเย็นๆ ก่อนนะคะคุณ”

“จะให้ผมเย็นได้ยังไง ไอ้วินมันไม่เคยเชื่อฟังผม นี่มันหนีไปแล้ว มันทิ้งงาน มันทิ้งพ่อแม่หนีไปไหนแล้วไม่รู้”

“วินไม่ได้ตั้งใจจะทิ้งใครหรอกค่ะ แต่ลูกคงต้องการเวลา”

“ผมให้เวลามันตั้ง 32 ปีแล้วนะคุณ ถามจริงเถอะ คุณไม่กลัวจะได้ลูกสะใภ้แย่ๆ บ้างเลยหรือ”

“แต่ก็ไม่มีนี่คะ”

“แล้วถ้าพลาดพลั้งไปล่ะ ต่อให้เก่งแค่ไหนของแบบนี้มันพลาดกันได้ทุกเมื่อ”

“ฉันว่าคุณใจเย็นๆ ก่อนนะคะ ตอนนี้ฉันได้รูปของหนูน้ำค้างมาแล้ว ถ้าวินกลับมาเมื่อไหร่จะได้เห็นรูปหนูน้ำค้างทันทีค่ะ”

ฝ่ายสามีไม่รู้จะพูดอะไรดีไปกว่าถอนใจ ถ้าวินเซนโซ่ไม่มีข่าวฉาวถี่ยิบขนาดนี่กลัวว่าจะถูกผู้หญิงหิวเงินจับได้ล่ะก็ คนเป็นพ่ออย่างเขาก็คงไม่ต้องหวาดระแวงจนแทบจะทนไม่ได้อย่างนี้ ถ้าลูกชายตัวดีจะทำตัวเงียบๆ มีแต่งานกับงาน กลับบ้านเป็นเวลาไม่ลอยชายไปวันๆ แบบนี้ก็คงไม่ต้องพูดปากเปียกปากแฉะ ไม่อยากบังคับใจลูก แต่เพราะลูกเองที่มันทำตัวให้น่าบังคับ

เกาะเสม็ด เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศต่างนิยมมาเที่ยว เกาะแห่งนี้ปรากฏอยู่ในตำนานของไทยมีอีกชื่อที่เรียกกันมาแต่โบราณกาลคือเกาะแก้วพิสดาร แม้ธรรมชาติจะถูกกลืนกินไปกับรีสอร์ตที่มาจับจองพื้นที่สร้างรายได้เข้ากระเป๋าไปมาก แต่ทว่าหาดทรายและน้ำทะเลก็ยังสวยสดงดงามไม่เปลี่ยน

ทรายละเอียดสีขาวกดลึกเป็นรอยเท้าเล็กๆ ไซส์ 36 เหยียบย่ำเดินไปตามแนวหาดล้อเล่นกับเกลียวคลื่นลูกเล็กที่ซัดสาดเข้ามาอย่างสนุกสนาน หาดทรายแก้วเป็นชายหาดที่ติดอันดับต้นๆ ของบรรดาหาดทรายทุกหาดบนเกาะนี้ ที่นี่อยู่ใกล้ท่าเรือมากที่สุดและเป็นหาดที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ หาดทรายแก้วจึงคลาคล่ำไปด้วยชายหญิงชาวต่างชาติทั้งอ่อนวัยและสูงวัย

“กรี๊ด”

นาดา พจนะนนทกิจ กรีดร้องเสียงหลงเมื่อถูกเพื่อนในกลุ่มแกล้งผลัก ร่างเล็กๆ เซถลาลงไปนั่งจ้ำเบ้ากระแทกเข้ากับเกลียวคลื่นที่ซัดเข้ามาจนแตกกระจาย

“ยัยติ๊ก!” เธอทรงตัวขึ้นอย่างทุลักทุเลยกมือลูบหน้าหัวหูเปียกไปหมด ชุดที่เพิ่งเปลี่ยนมาไม่ต้องพูดถึงเวลานี้สาวน้อยวัย 22 อยากจะเปลี่ยนชุดใหม่อีกแล้ว

“ฮ่าๆ น้ำค้างเปียกอีกแล้ว แบร้ๆ” ติ๊ก หรืออินทุอร วิโนทัย แล่บลิ้นปลิ้นตาให้เพื่อนรัก นาดาฉวยโอกาสนั้นฉุดแขนเพื่อนแล้วใช้แรงทั้งหมดเหวี่ยงเพื่อนที่ตัวใหญ่กว่าลงทะเลเหมือนกัน

“แบร้ๆ สมน้ำหน้าอยากแกล้งเค้าดีนัก”

อินทุอรมีทรายเต็มหัวเพราะเธอเสียหลักจนหัวทิ่มพื้นทราย แล้วเสียงหัวเราะของเพื่อนรักที่แกล้งกันก็ดังขึ้น ท้องฟ้ายามเย็นกำลังจะหมดความสนใจ สาวๆ ที่ชักชวนกันขออนุญาตบิดามารดามาเที่ยวเปิดโลกกว้างให้กับตัวเองกำลังสนุกกับการกลั่นแกล้งกันไปมาจนเหนื่อยหอบ นาดาคลานเข่ามานั่งหอบจนตัวโยน ตามมาด้วยอินทุอรที่แทบจะล้มตัวลงนอนราบอย่างเหน็ดเหนื่อย

“ถึงกับหมดแรงเลยหรือน้ำค้าง ติ๊ก” โย หรือโยธกา มธุรสศักดิ์ดา ก็หัวเราะเพื่อนที่เล่นกันเป็นเด็กๆ จนเหนื่อยไปด้วย ยังมี กุ๊ก หรือณหทัย ชัยโกสิทธิ์ เพื่อนสนิทอีกคนที่ทิ้งตัวลงนั่งข้างนาดา

“โยก็พูดอย่างกับเราแก่แล้ว พวกเราเพิ่งจะเรียนจบ ต้องบอกว่ากำลังจะผ่านช่วงชีวิตวัยรุ่นเข้าสู่วัยทำงานต่างหากเล่า”ณหทัยแย้งเพื่อนยิ้มๆ

“นั่นสิ ใครอยากแก่ก็เชิญ แต่ฉันคนหนึ่งล่ะไม่อยากแก่ ถึงจะต้องกลับไปช่วยงานธุรกิจของคุณพ่อ ฉันก็ยังจะเป็นสาวๆ แบบนี้ตลอดไป” พูดจบแล้วเจ้าตัวก็หัวเราะคิก นาดาเป็นคนตัวเล็กที่สุดในกลุ่ม ด้วยความสูงเพียง 160 ซ.ม. เธอจึงดูเหมือนเด็กกว่าใครเพื่อน

“นี่เธอจะกลับไปทำงานกับทางบ้างจริงๆ ใช่มั้ยน้ำค้าง ฉันก็เล็งๆ ว่าจะไปสมัครงานที่บริษัทรถ ได้ยินว่าเข้ายากไม่รู้จะผ่านหรือเปล่า” โยธกาเป็นเพื่อนที่ตัวสูงสุดในกลุ่ม รูปร่างดี หน้าตาดีก็คงมีชัยไปกว่าครึ่ง แต่บริษัทส่งออกรถยนต์ที่เพิ่งเพิ่มฐานการผลิตในไทยก็ดูจะเป็นโจทย์ยากสำหรับเธอไม่น้อย แม้รูปร่างหน้าตาจะดี ทว่าผลการเรียนก็แค่ปานกลาง เกรดเฉลี่ย 2.85 จะไปสู้รบปรบมือกับการแข่งขันครั้งนี้ได้หรือเปล่ายังไม่รู้

“พวกเราเอาใจช่วย ฉันเองก็ยังไม่มีที่ไปหรอกนะ เล็งโรงแรมแถวบ้านเอาไว้ เอาที่เราได้เปรียบเรื่องการเดินทางไว้ก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากัน” อินทุอรบอกเป้าหมายในอนาคตที่ยังไม่รู้ว่าจะสำเร็จหรือไม่ ทว่าเธอมาจากครอบครัวมีฐานะพอสมควรก็ยังไม่เดือดร้อนจะรีบหางานทำให้ได้ในเร็ววันอย่างโยธกาและณหทัย

“เฮ้อ มาเที่ยวทั้งทีเอาเรื่องเครียดๆ มาพูดทำไมกันเนี่ยพวกเธอ เราหาข้าวกินกันดีกว่า” ว่าแล้วณหทัยก็มองหาร้านเหมาะๆ พอเห็นร้านอาหารหน้าที่พักแห่งหนึ่งมีป้ายติดไว้ว่า “Fire Man Show”จึงไม่รอช้ารีบชี้ให้เพื่อนดู “เราไปกินร้านนั้นกันเถอะ จะได้ดูโชว์ไฟแมนไปด้วยดีมั้ย”

“ดีๆ ไม่เคยเห็น คงจะตื่นเต้นน่าดู” คนพูดเล็งไปที่กระเป๋าเป้ใบเล็กของเพื่อน ในนั้นเต็มไปด้วยสัมภาระ กล้อง กระเป๋าเงิน และโทรศัพท์มือถือของทุกคน “เรามีอุปกรณ์เตรียมพร้อมมาแล้วนี่นา”

“ใช่ งั้นไปๆ เราเลือกกินร้านนั้นกันนะ” เพื่อนทุกคนพยักหน้าแล้วพากันเดินไปหาโต๊ะนั่งวิวดีที่คาดว่าจะเห็นคนเล่นไฟได้ชัดๆ

พอตกค่ำชายหาดแห่งนี้ก็เต็มไปด้วยโต๊ะและโคมไฟ มีทั้งแบบนั่งบนเสื่อและแบบนั่งเก้าอี้ห้อยขา สาวๆ เลือกนั่งเก้าอี้เพื่อความสบาย ลมทะเลพัดมาเย็นๆ นาดาขอผ้าขนหนูผืนเล็กที่ฝากไว้ในกระเป๋าเป้ของโยธกามาห่มคลุมบ่าเอาไว้กันหนาว หลังจากนั้นก็สั่งอาหารเมนูโปรดของแต่ละคน

Fire Man Show ใช่ว่าวินเซนโซ่จะไม่เคยเห็น ทว่าการไปนั่งจิบเบียร์เย็นๆ ตากลมทะเลกรุ่นกลิ่นความเค็มนั้นก็เป็นอะไรที่ไม่ควรพลาด เขาเลือกนั่งโต๊ะริมสุดห่างออกไปโดยไม่จำเป็นต้องร้องถามตัวเองว่าจะมองเห็นการแสดงชัดหรือไม่ การแสดงเป็นแค่ส่วนประกอบแต่สาวๆ ต่างหากที่เขาอยากได้มาขึ้นเตียงสักคนในค่ำคืนนี้ และสาวไทยก็เป็นตัวเลือกที่ดีเสียด้วย

เขามองหาผู้หญิงที่นั่งตามลำพัง หากแต่สายตาสะดุดเข้ากับสาวๆ ที่นั่งกันเป็นกลุ่ม พวกเธอส่งเสียงหัวเราะร่าเริงราวกับโลกใบนี้น่าอยู่เสียเต็มประดา เขาเห็นเจ้าของรอยยิ้มหวานแก้มบุ๋มน่ารัก เธอมีดวงตากลมโตขนาดยิ้มกว้างตาก็ยังไม่หยีจนปิด ริมฝีปากที่กำลังฉีกยิ้มเผยให้เห็นไรฟันซี่ขาวๆ แน่นอนสาวน้อยคนนั้นสะดุดตาเขาได้ในระยะไกล แต่เธอคงยังไม่ใช่เป้าหมายสำหรับค่ำคืนนี้

หญิงสาวคนหนึ่งไม่ใช่คนไทยแต่เป็นคนญี่ปุ่นที่ฉายเดี่ยวมาเที่ยวต่างประเทศ เธอพาร่างอวบอัดนั่งลงที่โต๊ะข้างๆ แล้วสนใจกับกล้องถ่ายรูปเงียบๆ คนนี้น่าจะพอไหว รูปร่างหน้าตาพอได้แม้จะไม่ใช่สเปคแต่ก็ยังดีกว่าต้องกลับห้องพักเพียงคนเดียว สาวเจ้าเหมือนจะรู้ตัวว่ากำลังถูกจับจ้อง เธอละสายตาจากกล้องถ่ายรูปคู่ใจพอสบตาคมกริบสีน้ำทะเลของเขา เธอนิ่งงันจนวินเซนโซ่ต้องกระตุกมุมปากขึ้นเล็กน้อย เขาเดินไปนั่งกับเธอและทักทายด้วยเสน่ห์อันล้นหลามที่สะกดใจสาวน้อยสาวใหญ่ได้ในทันที ไม่ผิดแผน สาวยุ่นคนนี้ตอบรับไมตรีแถมยังมีสายตาเชิญชวนกลับมาด้วย ภายในใจของวินเซนโซ่ครางกระหึ่ม คืนนี้เขาจะสนุกกับเธอให้สุดเหวี่ยงแค่ครั้งเดียว สำหรับดอกไม้ริมทางครั้งเดียวก็เพียงพอแล้ว

เมื่อถึงเวลาการแสดงเริ่มขึ้นก็เป็นที่ตื่นตาตื่นใจให้กับทุกคน หลายคนที่มาเป็นกรุ๊ปทัวร์ไม่ได้ทานข้าวที่นี่ก็ล้อมวงอยู่ภายนอก ยิ่งดึกยิ่งตื่นตา การควงกระบองไฟ การพ่นไฟ และล้อเล่นกับนักท่องเที่ยวทำให้นาดาถึงกับนั่งไม่ติด

“ฉันจะไปดูใกล้ๆ นะ มีใครจะไปด้วยมั้ย”

“ไปๆ ฉันไปด้วย” โยธกาบอกแล้วลุกขึ้นเดินตามหลังเพื่อนไป ทั้งคู่มาหยุดเป็นส่วนหนึ่งของวงล้อมใกล้ชิดการแสดง แม้จะเหม็นน้ำมันก๊าดจนต้องเอานิ้วถูปลายจมูกก็ไม่หวั่น

การแสดงที่ยังมีต่อเนื่องเริ่มจะน่าเบื่อมากขึ้น หากแต่สาวยุ่นร่วมโต๊ะ... ไม่สิเขาต่างหากที่มาร่วมนั่งโต๊ะเดียวกับเธอ กำลังสนุกสนานกับเปลวไฟสีแดงส้ม

“เราไปดูใกล้ๆ กันมั้ยคะ” เธอเอ่ยชวน วินเซนโซ่ไม่ชอบแต่ไม่ปฏิเสธ เขาลุกขึ้นโดยไม่ตอบแล้วให้เธอควงแขนไปล้อมวงดูไฟด้วยกัน

นักเล่นไฟเปลือยอกโชว์กล้ามเป็นมัดเหวี่ยงเชือกที่มีดวงไฟปลายสายทั้งสองข้างเข้าหานักท่องเที่ยวโดยไม่หวั่นว่าไฟจะโดนเนื้อตัวใครหรือเปล่า วินเซนโซ่กับสาวยุ่นมาหยุดอยู่ข้างหลังสองสาวชาวไทยซึ่งคนหนึ่งเขาจดจำเธอได้ขึ้นใจทีเดียว ความสูงของชายหนุ่มทำให้มองข้ามศีรษะเจ้าของร่างเล็กได้สบายๆ กลิ่นผมหอมๆ ของสาวน้อยที่ยืนอยู่ข้างหน้าทำให้เขาแอบกดใบหน้าลงต่ำเพื่อสูดกลิ่นหอมนั้นเข้าปอดเบาๆ

เมื่อนักเล่นไฟแกล้งเหวี่ยงเชือกมาใส่นาดา สาวน้อยก็ถอยหลังวูบอย่างหวาดกลัวพร้อมทั้งหวีดร้องอย่างตื่นเต้น เธอเหยียบเท้าใครบางคนเข้าอย่างจัง อารามตกใจรีบร้อนหันไปเอ่ยคำขอโทษ เส้นผมยาวสลวยที่เพิ่งแห้งหมาดและเหนียวไม่น้อยจากน้ำทะเลเกี่ยวเข้ากับสร้อยคอของคนข้างหลัง

“อุ๊ย! ว้าย!”

“หยุดนิ่งๆ อย่าขยับ” คนที่ยืนประกบอยู่ข้างหลังวางมือบนบ่าเล็ก “ต้องแกะ” เขาพยายามแกะเส้นผมสลวยออกจากสร้อยคอเส้นเล็กที่ใส่ติดคอตลอดเวลา แต่ด้วยความเหนียวหนึบทำให้แกะยาก

“กระชากผมเลยค่ะ ไม่ต้องกลัวเจ็บ”

โยธกามัวแต่ตกตะลึงกับเทพบุตรเบื้องหลังเพื่อนรักจึงไม่ได้ช่วยอะไรเลย โอ้แม่เจ้า! คนอะไรจะหล่อขนาดนี้ เป็นดาราหรือนายแบบจากประเทศอะไรกันนะ

มุมปากของวินเซนโซ่กระตุกนิดๆ ก่อนจะถอดสร้อยคอทองคำเส้นเล็กออกจากคอ

“เอากลับไปแกะ แล้วส่งคืนไปตามที่อยู่ในนามบัตรนี้” เขายัดทั้งสร้อยคอทองคำและนามบัตรใบเล็กใส่มือเธอ

นาดาต้องก้มหน้าเอียงคอเพราะต้องจับสร้อยคอเอาไว้ด้วย เงยหน้ามองเขาไม่ถนัดและเห็นเพียงแผ่นหลังร่างสูงๆ ในเสื้อเชิ้ตลายดอกสีขาว เจ้าของสร้อยเส้นนี้มากับสาวสวยคนหนึ่งคงจะเป็นแฟนกัน

“โอ๊ย แล้วทำไมเขาไม่กระชากผมฉันเนี่ย จะได้เอาคืนไปเลย” สาวน้อยพูดด้วยความหงุดหงิด ของมีค่าแบบนี้จู่ๆ ก็มาอยู่ในมือเธอง่ายๆ แถมเจ้าของดูจะไม่ค่อยสนใจมันเท่าไหร่ด้วยสิ “นี่ฉันต้องเดือดร้อนเอาไปส่งคืนเขาจริงๆ หรือนี่โย”

เพื่อนสาวร่างสูงมองตามเทพบุตรจนตาลอยไม่สนใจเพื่อนสนิทเลยสักนิด

“ยัยโย่ง ได้ยินที่ฉันพูดหรือเปล่า นี่เธอมองอะไรอยู่น่ะ”

“เทพบุตรแท้ๆ เลยน้ำค้างเอ๊ย คนอะไร๊หล่อลากดิน หล่อกระชากใจ หล่อไม่ปรึกษาใครเลยให้ตายสิ”

“น้อยๆ หน่อยยัยโย่ง เลิกสนใจเขาก่อนเถอะ แกะสร้อยให้ฉันก่อน”

‘ยัยโย่ง’ รู้สึกตัว กระทืบเท้าเร่าๆ

“ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนจะกระทบก็ตรงนี้ล่ะย่ะ ถ้าเธอเรียกฉันว่ายัยโย่งอีกนะคอยดู ฉันจะเรียกเธอว่ายัยเตี้ยม่อต้อ”

“เชิญเลย จะเรียกอะไรก็เชิญ ฉันยอมรับย่ะ ตอนนี้เธอแกะสร้อยให้ฉันก่อนนะ ฉันเหลียวคอไม่ถนัดเลย”

ว่าแล้วโยธกาก็กระชากปอยผมกลุ่มนั้นทีเดียวจนขาด สร้อยทองหลุดจากเส้นผมตามต้องการ นาดามองสร้อยคอเส้นเล็กๆ อย่างหวั่นใจ ถ้าไม่คืนจะเป็นอะไรไหม ไม่ใช่อยากได้ แต่ทำไมต้องให้ไปคืนถึงที่ ทว่าคนดีๆ อย่างเธอคงเก็บสิ่งของล้ำค่าที่ไม่ใช่ของตนเอาไว้ไม่ได้ ยังไงก็ต้องส่งคืน

“วินพวิน อัลริโอร็อคซี่”

โยธกาเหลือบมองชื่อในนามบัตรเพื่อจะเก็บเอาไปฝัน และหลังจากนั้นสองสาวก็เดินกลับไปรวมกับแก๊งเพื่อน นาดาไม่รู้เลยว่าโยธกาจะแอบตามหาผู้ชายเจ้าของนามบัตรเงียบๆ ซึ่งคงเป็นความโชคดีของเธอที่เจอหนุ่มหล่อคนนั้นเข้าอีกครั้ง หญิงสาววัย 22 ปี ดีใจมากจนเก็บอาการไว้ไม่อยู่ ภายในร้านสะดวกซื้อเล็กๆ ที่เธอลงจากห้องพักมาซื้อของใช้ส่วนตัวตามลำพัง เจอเขาก็มาคนเดียวไม่เห็นผู้หญิงในวันก่อน เธอไม่รอช้ารีบทักทายเขาเนื้อตัวสั่น

“สวัสดีค่ะ คุณจำฉันได้มั้ยคะ เราเจอกันเมื่อคืนก่อน” พอชายหนุ่มรูปงามร่างสูงทำหน้าแปลกใจ เธอก็อธิบายต่อ “ผมของเพื่อนฉันพันกับสร้อยของคุณไงคะ”

“อ๋อ จำได้แล้ว มาคนเดียวหรือ” เขาถามพลางมองหาคนตัวเล็กๆ เจ้าของเส้นผมแสนหอมคนนั้น

“ค่ะ ขอโทษด้วยนะคะไม่คิดว่าจะเจอคุณ ไม่งั้นจะหยิบสร้อยมาคืนให้”

“ไม่เป็นไร ไม่รีบขนาดนั้น” ตอบส่งๆ แล้วหันไปรับซองบุหรี่พร้อมจ่ายเงิน โยธกาเห็นว่าเขากำลังจะกลับห้องพัก ถ้าเธอปล่อยให้เขาจากไป อาจจะไม่มีวันได้เจอเขาอีก นี่เธอเป็นอะไรไปแม้แต่ตัวเองก็ยังไม่เข้าใจ เธอไม่เคยกระดี๊กระด๊าเหมือนปลาได้น้ำแบบนี้ ผู้ชายหล่อๆ ก็เจอะเจอมามากแต่ไม่มีคนไหนทำให้เธอรู้สึกอยากเกาะติดขนาดนี้

“เดี๋ยวค่ะ ฉันขอไปด้วยคนได้มั้ยคะ” เมื่อหลุดปากพูดในสิ่งที่ใจต้องการออกไป โยธกาก็ลอบเป่าปากหวือ

“เธอต้องการอะไรสาวน้อย” ชายหนุ่มถามเธอตรงๆ

“เอ่อ... คือฉัน...” สาวน้อยวัย 22 ปีอ้ำอึ้ง

“ต้องการเงิน?” แม้ว่าคำถามนี้จะทำให้เธอหน้าเห่อร้อนเหมือนถูกใครสักคนตบหน้าอย่างจัง โยธกาก็ยังพยักหน้า

“ถ้าฉันบอกว่าต้องการคุณล่ะคะ” เสียงของเธอสั่นจนคนฟังจับได้

“คิดดีแล้วหรือ เธอยังเด็ก ส่วนฉันก็ไม่คิดจะรับผิดชอบใครด้วย”

“ไม่จำเป็นนี่คะ ฉันชอบคุณค่ะ ให้โอกาสฉันเถอะนะคะ” ผู้หญิงอย่างเธอไม่เคยสร้างความอับอายให้กับตัวเองได้ขนาดนี้ แต่กับผู้ชายคนนี้เต็มไปด้วยแรงดึงดูดที่ยากจะต้านทาน เธอไม่เคยอ่อนไหวง่ายแต่ก็อ่อนไหวและยังใจง่ายเป็นฝ่ายชวนเขาขึ้นเตียงก่อนด้วย แม้การตัดสินใจด่วนเร็วครั้งนี้จะนำพาความทุกข์ระทมมาให้ โยธกาก็พร้อมจะรับมัน

เธอบ้าเอง... บ้าที่ดันมาเจอรักแรกพบเวลานี้

“แล้วฉันจะได้อะไร เธอคิดว่าจะให้ความสุขฉันได้แค่ไหน”

“ฉันจะทำทุกอย่างที่คุณชอบ ขอให้บอกเถอะค่ะ”

“ถ้าฉันจะนอนกับผู้หญิงสักคน ฉันจะดูให้แน่ใจว่าเธอคนนั้นจะไม่นำพาความเดือดร้อนมาให้ และฉันก็ยืนยันว่าเซ็กซ์ที่เกิดขึ้นจะไม่มีการรับผิดชอบใดๆ จากฉันแน่ เธอคิดใหม่เถอะ คนอย่างฉันจะหาคนขึ้นเตียงด้วยทั้งทีฉันก็เลือกนะ”

ราวกับถูกตบหน้าเป็นครั้งที่สอง โยธกาหน้าม้านอับอายขายหน้าจนน้ำตาปริ่ม จะจีบผู้ชายสักคนเพราะเป็นรักแรกก็ถูกเขากระทืบศักดิ์ศรีให้ได้อาย ที่ผ่านมาก็มีผู้ชายมากหน้าหลายตามาจีบ มีความสัมพันธ์กันบ้างไม่มีบ้าง แต่ไม่มีใครทำให้เธออยากขึ้นเตียงด้วยเท่านี้มาก่อน โยธกาไม่ใช่สาวบริสุทธิ์อย่างเพื่อนคนอื่นๆ ในกลุ่ม เพราะฐานะทำให้เธอปากกัดตีนถีบทำทุกอย่างเพื่อแลกมาด้วยเงินเลี้ยงชีพ สู้อุตส่าห์ร่ำเรียนจนจบก็เพราะเงินกู้ยืมจากกยศ. พอจบแล้วก็ต้องหางานทำใช้หนี้

เมื่อเจอคนที่ถูกใจ โยธกาก็พร้อมจะมอบตัวมอบใจให้ กลายเป็นว่าถูกเขาปฏิเสธชนิดหน้าแตกหมอไม่รับเย็บ คนที่ได้ชื่อว่าสวย หุ่นดีที่สุดในกลุ่มกลับถูกผู้ชายปฏิเสธไม่เหลือเยื่อไย แล้วเธอจะปล่อยให้เป็นแบบนี้ได้ยังไง

“คุณคะ ฉันต้องการเงินค่ะ ฉันเพิ่งเรียนจบยังไม่มีงานทำ ให้ฉันดูแลคุณในคืนนี้แลกกับเงินได้มั้ยคะ”

วินเซนโซ่หันมาขมวดคิ้วก่อนจะกวาดตามองไปทั่วร่างโปร่งระหง รูปร่างเธอดีไม่ใช่เล่น หน้าตาก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่ตรงไหน หากเขาจะประเมินเธอด้วยสายตาแล้วกะราคาคร่าวๆ ก็คงไม่ผิด ในเมื่อเธอเป็นฝ่ายเสนอตัวให้เขาเอง

“ถ้าตัดสินใจอย่างนั้นก็ได้ ตามมาสิ”

“รอเดี๋ยวได้มั้ยคะ” เธอบอกแล้วหายเข้าไปในร้านสะดวกซื้อ ก่อนจะออกมาพร้อมกับถุงใส่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในมือ ชายหนุ่มกดตามองเหล้าไทยขวดแบนพร้อมโซดาที่เธอหิ้วออกมาจากร้าน พร้อมกับนึกในใจว่าผู้หญิงคนนี้ไม่น่าจะเพื่อนกับสาวน้อยคนนั้นได้เลย เธอทั้งคู่ต่างกันลิบลับ