ตอนที่หนึ่ง :: บอส&เบลค
ภายในห้องกว้างทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาดใหญ่ กอปรด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม่น้อยไม่มากชิ้นแต่ดูล้ำลึกซ้ำยังตระการตามากจนดูสมกับเป็นบริษัทชื่อดังก้องโลกอย่าง ซอฟต์แอนด์แกรม อิเล็คโทรนิค (S&G)
ใบหน้าชายหนุ่มที่ถูกแบ่งออกมามากกว่าสองสัญชาติ หยิบส่วนดีจากต้นสายมาอย่างละนิดละหน่อยผสมลงในตัวเขา ออกมาดูดีสมดุลได้สัดส่วนจนคนมองต้องเผลอหยุดหายใจในความหล่อเหลานั้น ตัดกลับสายตาที่ดูคมเฉียบลึกล้ำ จนวัตถุภายในห้องดูอ่อนนุ่มลงไปทันทีเมื่อเทียบกัน
นิ้วยาวเรียวดูแข็งแกร่งของชายหนุ่มลูกเสี้ยวไทย ไต้หวัน อเมริกัน ผู้ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานบริษัทผลิตชิ้นส่วนอิเล็คโทรนิครายใหญ่ติดหนึ่งในสามของโลก วางโทรศัพท์สมารท์โฟนรุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นลงบนโต๊ะเบื้องหน้าก่อนจะแค่นยิ้มออกมาพร้อมเสียงฮึ เมื่อนึกถึงข้อความที่ส่งไปในแอปพลิเคชั่นสนทนายอดนิยมกับนางแบบสาวชื่อดังที่เขาคั่วมาเพื่อฆ่าเวลาเมื่อคืนก่อน
‘มาหาผมภายในสามสิบนาที’
แค่ประโยคสั้นๆ คล้ายเด็กเอาแต่ใจ แต่รับรองได้ว่าใครได้รับข้อความแบบนี้จากเบลค ก็แทบวิ่งแจ้นมาหาเขาทุกรายไป จะมีก็คงแค่คนเดียวเท่านั้นที่ขัดใจเขาได้ทุกเรื่อง เดี๋ยวก่อนเถอะ เดี๋ยวได้รู้กัน
ผมสีน้ำตาลเข้มถูกมือของเจ้าตัวเสยขึ้นก่อนจะพาดแขนลงบนพนักพิง เอนลำตัวที่เผยผิวขาวจัดในชุดเสื้อเชิร์ตสีฟ้าครามลงกับพนักเก้าอี้ สายตานิ่งเรียบคล้ายกำลังใช้ความคิดอยู่ และเมื่อเวลาผ่านไปได้เพียงอึดใจ เขาก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงกว่าหกฟุต ผละไปที่บาร์เครื่องดื่มแล้วลงมือรินบรั่นดีมาถือเอาไว้ กวัดแกว่งของเหลวในแก้ววนไปมา พร้อมกับความคิดวนเวียนในหัวนึกครึ้มอยากทำอะไรเล่นๆแก้เครียดสักหน่อยเมื่อผ่านงานใหญ่มาได้ เบลคอยากเล่นงานใครบางคน คนที่หลบหน้าไม่ยอมสบตาเขาตั้งแต่เห็นว่าเขาพานางแบบสาวสวยเข้ามาในห้อง ตาคมวาวเหลือบมองเวลาอีกครั้งเมื่อกะเอาไว้แล้วว่าเหมาะเจาะกับเวลาที่คาดไว้ แล้วลุกไปหาคอรีนที่นั่งยิ้มหวานมองเขาอยู่
“เดี๋ยวก่อนค่ะ เข้าไปไม่ได้นะคะ”
นั่นล่ะเสียงของเธอ หวานละมุนลื่นหูนัก ถ้าเบลคเดาไม่พลาดคงกำลังห้ามเมลานีที่พยายามจะเข้ามาในห้องนี้อยู่เป็นแน่ ห้องที่เปรียบเสมือนสถานที่บัญชาการของ S&G บริษัทชื่อดังมูลค่าหลายพันล้านยูเอสดอลล่าในขณะนี้
“ทำไมฉันจะเข้าไปไม่ได้”
สิ้นเสียงโต้เถียงเพียงเสี้ยววินาที ประตูห้องสีเงินด้านถูกเปิดผลัวะออกมาตามด้วยร่างระหงสมอาชีพนางแบบ เมลานีเดินกระแทกเท้าเข้ามาทันที เมื่อตาสีฟ้าของเจ้าหล่อนมองเห็นเจ้าของสถานที่ เธอส่งยิ้มหวานหยอดให้ทันที แต่กลับต้องหยุดลงเมื่อสบสายตากับหญิงสาวอีกคนที่เอียงตัวออกมาจากทางด้านหลังของเบลค
“บอสคะ คือ ฉันพยายามห้ามเธอแล้วค่ะ แต่...”อาลียารีบตามเข้ามาทันทีร้องบอกเสียงรนราน หน้าตาที่ซีดเซียวอยู่แล้วบดนี้ ยิ่งจางสีลงเมื่อสถานการณ์ในห้องดูท่าจะย่ำแย่จนตึงมือของตนเองแบบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
“นี่มันอะไรกันเบลค ทำไมยัยหมวยมันมาอยู่ในห้องคุณคะ” เมลานีตวาดเสียงถามถึงนางแบบลูกครึ่งไต้หวันที่นั่งไขว่ห้างกระดิกเท้าริกๆ สบตายท้าทายอีกฝ่ายในห้องทำงานของชายที่ชื่อ ‘เบลค’
“ก็แล้วทำไมฉันจะอยู่ที่นี่ไม่ได้ ในเมื่อเบลคชวนฉันมา” นางแบบหน้าหมวยอินเตอร์ลุกขึ้นยืนพูดคล้ายดังว่าตนเองมีภาษีดีกว่า แต่ดูเหมือนว่าเบลคจะไม่ได้สนใจสองนางแบบสาวที่ตั้งท่าจะกระโจนใส่กันเลยสักนิด เขาตวัดตามองอีกคนที่ยืนตัวลีบอยู่หน้าประตู เธอดูตัวเล็กบอบบางกว่าสองสาวในห้องนี้พอควร แต่เล็กๆแบบนี้ก็แสบนัก ทำให้เขาคลั่งจนแทบจะแย่อยู่แล้ว ออกปากถามสีหน้าเครียดจนเห็นได้ชัด
“เอมิลี่ไม่ได้บอกเธอเหรอลียา ว่าเธอมีหน้าที่อะไรบ้าง”
อาลียากลืนน้ำลายลงคอ เม้มปากแน่น “บอกแล้วค่ะ”
“นี่เธอจะทำงานชุ่ยๆแบบนี้อีกนานไหม กว่าเอมีลี่จะกลับมา ห๊ะ” เบลคเค้นเสียงถาม ท้ายประโยคตวาดจนทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบทันที
“เอ่อ คือฉันขอโทษค่ะบอส” อาลียาเม้มปากจนเป็นเส้นตรง เธอมีหน้าที่ทุกอย่างตามที่เลขานุการพึงกระทำ รวมไปถึงจัดคิวสาวๆของเจ้านายหนุ่มขี้วีนไม่ให้ชนกันด้วย
“ผิดพลาดครั้งนี้เธอจะไม่ถูกไล่ออกหรอกนะลียา แต่เอมิลี่จะต้องออกแทนเธอ”
เบลคบอกด้วยเสียงทรงอำนาจโทนเสียงราบเรียบกดดันจนจบประโยค ก่อนส่งสายตาให้ลูกน้องทั้งสองคนให้เข้ามาจัดการกับสองสาวที่เขาใช้เป็นตัวประกอบฉาก เพื่อใช้หาเรื่องคนตัวเล็กที่ยืนให้เขาสาดคำพูดร้ายๆใส่ แต่แล้วเจ้าตัวกลับเหมือนจะไม่สะทกสะท้านเสียอย่างนั้น คนที่คอยหาเรื่องพาลหงุดหงิดขึ้นมาในทันที
“ไม่นะเบลค บอกไอ้มืดพวกนี้ให้ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ”
นางแบบคนมาก่อนอาละวาดขึ้น เมื่อชายผิวสีร่างสูงใหญ่เข้ามาคว้าต้นแขน แล้วพาออกไปจากห้อง ตามด้วยเสียงด่าทอเป็นภาษาอังกฤษของสองสาวสวยชื่อดังบนแคตวอร์ค เมื่อ ร็อบและโทนี่พาออกไปจนเหลือหญิงสาวเพียงคนเดียว อาลียาที่ยืนนิ่งอยู่ก็ทำท่าหันหลังคล้ายจะออกจากห้องไปบ้าง แต่เสียงเรียกทรงอำนาจแบบเดิมก็ดักเอาไว้ทันที
“รอก่อน ลียา”
