ตอนที่ 1 จบตั้งแต่ยังไม่เริ่ม
เวลา 11.20 น.
การตัดสินใจทำตามคำขอของพ่อนั้นกำลังตีวนในหัวณินทิราตลอดเวลา แม้จะตั้งหน้าตั้งตาทำงานที่รักแต่ก็ไม่ได้ช่วยให้มีสมาธิขึ้นเลย
ภาพฉากหนึ่งในการ์ตูนอนิเมะถูกสรรสร้างด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย ทำเอาคนที่นั่งทำงานข้าง ๆ ถึงกับขมวดคิ้วที่เห็นภาพในฉาก
“มึงทำงานอะไรของมึงวะ” องศาเพื่อนร่วมคณะและเพื่อนร่วมงานคนเดียวที่ณินทิราสนิทด้วยถึงกับต้องเอ่ยถาม
แล้วโน้มตัวคร่อมโต๊ะผ่านหัวผู้หญิงคนเดียวในห้องนี้
“ขยับไปไกล ๆ ดิ คนยิ่งไม่มีอารมณ์ทำงานอยู่”
“มาแปลกเว้ย เรื่องไร?”
“ไปดื่มกาแฟข้างล่างกัน”
“กาแฟห้องแพนทรีช่วยไม่ได้ ถึงกับพึ่งร้านกาแฟ ท่าจะเรื่องใหญ่จริง”
“เออ!” ณินทิรารับคำแล้วคว้าโทรศัพท์ติดมือเดินออกไปก่อน
ตอนที่พูดออกไปก็ไม่ได้คิดอะไรมากนี่ แล้วทำไมตอนนี้ถึงคิดไม่ตก
แต่เรื่องแต่งงานมันเป็นเรื่องใหญ่ไม่ใช่เหรอ อุตส่าห์โยนความรับผิดชอบไปด้านนู่นแล้ว แต่กลับไม่เป็นคำตอบที่คิดไว้ซะงั้น
‘เตี่ยไปถามพี่น่านก่อนเถอะค่ะว่าจะแต่งกับณินไหม’
‘แล้วถ้าตาน่านแต่งล่ะ อาณินจะว่ายังไง’
‘...ก็ตามนั้น’
ใครจะคิดว่าหนุ่มฮอตหวงความโสดอย่างกับจงอางหวงไข่จะตอบตกลงอย่างง่ายดาย
แปะ!!
“ปากหน่อปาก ทำไมไม่รู้จักปฏิเสธวะ” มือบางยกขึ้นมาตีปากตัวเองไปพลางบ่นไปพลาง กระทั่งเดินผ่านเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์หน้าออฟฟิศ
“น้องณิน”
เสียงเรียกไม่คุ้นหูเอ่ยทักเจ้าของชื่อที่กำลังจะกดปุ่มล็อกเปิดประตู ณินทิราจึงหมุนตัวกลับมามอง
“เขามาขอพบน้องณินน่ะ พี่กำลังจะต่อสายหาน้องณินพอดีเลย” พี่แต้วพี่ฝ่ายประชาสัมพันธ์บอกนักวาดสาว ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เสมองหนุ่มหล่อเป็นอาหารตาไปพลาง
“อ๋อค่ะ” ณินทิรารับคำแบบงง ๆ
“สวัสดีค่ะพี่น่าน” แต่แล้วเธอก็ปรับท่าทีเข้าไปยกมือทักทายทันที “มีอะไรหรือเปล่าคะ มาหาณินถึงที่นี่เลย”
“ไอ้ณิน! อ้าว...มีแขกเหรอ งั้นไปรอด้านล่างนะ” องศาที่เพิ่งจะเดินตามมาถึง เมื่อเห็นณินทิรามีแขกจึงเปิดประตูออกไปก่อน
“จะไปไหนกันเหรอครับ”
“ไปหาอะไรกินเฉย ๆ ค่ะ ตกลงพี่น่านจะคุยอะไรกับณินคะ”
“...เรื่องของเรา”
แค่นั้นณินทิราก็รู้ทันทีว่าน่านนทีคิดอะไรอยู่ ดีเหมือนกันที่จะได้คุยเรื่องนี้จริง ๆ จัง ๆ เธอเป็นประเภทชอบพูดคุยให้เข้าใจอยู่แล้ว ไม่ใช่ประเภทเก็บปากเงียบ คิดไปเองแล้วหนีปัญหา
“งั้นเราลงไปคุยร้านกาแฟด้านล่างไหมคะ”
“ขอแบบส่วนตัวนะครับ”
ณินทิราเงยหน้าขึ้นไปมองคนส่วนสูงอย่างกับนายแบบแล้วส่งยิ้มให้ จะกี่ปีเขาก็ยังเป็นพี่น่านคนเดิม
“ได้ค่ะ ตามณินมาเลยค่ะ”
ระหว่างที่นั่งรอกาแฟมุมหนึ่งของร้านที่เป็นพื้นที่ส่วนตัวที่สุดแล้ว น่านนทีก็เหลือบมองว่าที่เจ้าสาวในอีกไม่กี่วันข้างหน้าไปพลาง
ณินทิราดูโตกว่าเด็กน้อยในวันวาน เด็กขี้ฟ้องคนนั้นที่ชอบมาขอให้เขาช่วยนั้นช่วยนี่อยู่ตลอด ทั้งบุคลิกภายนอกและท่าทางการวางตัว เปลี่ยนไปค่อนข้างเยอะ
เมื่อก่อนเธอมาเที่ยวที่บ้านเขาบ่อย แทบจะทุกเดือน แต่พอเธอเข้าเรียนมหาวิทยาลัย คราวนี้ก็นาน ๆ ครั้งเจอกัน และครั้งล่าสุดก็เมื่อปีที่แล้วในงานวันเกิดแม่เขา
แถมยังไม่ได้พูดคุยกันมากนอกจากยกมือไหว้สวัสดีกันเท่านั้น
เขายอมรับว่าหากวันหนึ่งต้องควงณินทิราออกงาน เขาไม่มีทางน้อยหน้าใคร ถึงจะไม่สวยเซ็กซี่เย้ายวนจนใจเหลว แต่ก็น่ารักน่าทะนุถนอมเหมือนดอกไม้ดอกหนึ่งที่สดใสที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา
“เริ่มเลยค่ะ ณินพร้อมแล้ว” ณินทิราสูดดมกลิ่นลาเต้ร้อนแสดงสีหน้าผ่อนคลายตาเยิ้มแล้วจิบดื่มพอที่จะปรับอารมณ์ได้แล้วจึงเป็นฝ่ายเปิดประเด็นก่อน
“หึ ต้องขนาดนั้นเลยเหรอครับ” คนที่มองทุกกิริยาบทถึงกับแค่นหัวเราะกับสิ่งที่เห็น
“ได้กลิ่นลาเต้แล้วสดชื่นอะค่ะ ว่าแต่เรื่องที่จะพูดนี่คือเรื่องงานแต่งของเราใช่ไหมคะ” ณินทิราพูดอย่างสบาย ๆ แต่คนฟังถึงกับหน้าเสีย จนเธอพลอยใจเสียไปด้วย
ไม่อยากแต่งขนาดนี้แล้วจะตอบตกลงทำไมนะ!!
จากที่กำลังจะเปิดใจคุย ณินทิราก็ต้องหาวิธีจัดการใบหน้าหล่อให้เลิกสลดซะก่อน
“พี่น่านดื่มกาแฟก่อนก็ได้ค่ะ นี่ก็ใกล้จะเที่ยงแล้ว ณินมีเวลา” แล้วก็ส่งยิ้มหวานๆ ให้ไปหนึ่งที
“ไม่เป็นไรครับ คุยเลย”
“งั้นพี่น่านเริ่มก่อนเลยค่ะ”
“น้องณินโอเคเรื่องงานแต่งจริง ๆ เหรอครับ” น่านนทียิงคำถามคาใจ สบตาว่าที่เจ้าสาวเพื่ออยากรู้คำตอบจริง ๆ เพราะเท่าที่รู้จัก ณินทิราไม่ใช่ผู้หญิงยอมทำตามคำสั่งของใครถ้าไม่อยากทำจริง ๆ
ขนาดเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยยังดื้อไม่ยอมเรียนคณะบริหาร แต่เลือกเรียนคณะในฝัน จนปัจจุบันก็ยึดอาชีพนักวาดการ์ตูนได้สำเร็จ แต่กว่าที่เตี่ยของเธอจะยอมต้องวิ่งเต้นมาให้เขาเข้าไปช่วยพูดให้และไม่ว่าเขาจะออกหน้าเรื่องอะไรของณินทิรา คุณอาพร้อมก็ยอมตามใจทุกอย่าง ไม่คิดว่าสิ่งที่ทำในอดีตคือผลพวงจากการวางเขาในฐานะว่าที่ลูกเขยเลยสักนิด
“เอาจริง ๆ ตอนแรกก็ไม่ยอมหรอกค่ะ หาทางบ่ายเบี่ยงทุกวิธีแล้ว แต่ไม่สำเร็จค่ะ ก็เลยโยนหน้าที่ปฏิเสธไปให้พี่น่าน แต่พี่น่านกลับตอบตกลงซะงั้น นี่ณินยังงงอยู่เลยที่รู้ว่าพี่ยอมแต่ง”
ณินทิราเปิดใจจนหมดเปลือก บอกแล้วว่าเธอไม่ใช่คนซับซ้อน คิดอะไรก็ว่าไปตามนั้น
และพอได้คำตอบ น่านนทีถึงกับยิ้มออก บางอย่างที่คิดไว้จะได้เคลียร์กันเข้าใจ
“สรุปเรายกเลิกงานนี้ไม่ได้แล้ว?”
“คงต้องเป็นอย่างนั้น”
“ถ้าแต่งกันไปแล้วหย่ากัน…”
ณินทิราถึงกับหยุดยิ้ม ยังไม่ทันเข้าพิธีวิวาห์ ว่าที่เจ้าบ่าวของเธอพูดถึงการหย่ากันแล้ว อย่างว่าคนหวงความโสดแบบพี่น่านจะแต่งได้นานแค่ไหนกันเชียว
“พูดต่อเลยค่ะ” เมื่อเห็นว่าน่านนทีเงียบไปจึงรีบบอกออกมา
“ครับ คือถ้าเราหย่ากัน น้องณินจะเสียหาย พี่เลยมาถามน้องณินว่าน้องณินโอเคหรือเปล่า”
“เสียหาย? หมายถึงเป็นแม่หม้ายอะเหรอ”
“พี่เป็นผู้ชาย ไม่ซีเรียสสถานะตรงนี้อยู่แล้ว กลัวก็แต่น้องณินนี่แหละ” เขาในวัยเลขสาม มีหน้าที่การงานมั่นคง หากไม่ประสบผลสำเร็จด้านชีวิตคู่ก็ไม่ได้กระทบอะไรกับเขา แต่ด้านณินทิรานี่สิ ต้องมีสถานะหย่าร้างตั้งแต่ยังสาว วัยของเธอควรจะเจออะไรที่ดีกว่านี้
“หึ ณินก็ไม่ซีเรียสค่ะ ว่าแต่เราจะหย่ากันหลังจากแต่งกี่วันดีคะ” เธอบอกอย่างแฟร์ ๆ เช่นกัน
คราวนี้ใบหน้าหล่อคมยิ้มกว้างขึ้น เห็นถึงแววตาเป็นมิตรเหมือนพี่ชายคนเดิมในอดีต
พอพูดเรื่องหย่าถึงกับยิ้มออกเลย ทีพูดเรื่องแต่งหน้างอเชียว ณินทิราได้แต่นึกแซวในใจ
“ทำไมถึงไม่ซีเรียส ตอบพี่มาก่อน”
“ก็เพราะณินโสด แล้วคิดว่าคงโสดไปอีกนาน ถ้าไม่แต่งกับพี่น่าน สักวันเตี่ยก็ต้องหาใครมาให้ณินแต่งอยู่ดีแล้วกับพี่น่านเนี่ย ท่าทางเราจะมีความคิดตรงกัน เลยไม่ซีเรียสไงคะ”
“น้องณินไม่มีแฟนเหรอครับ”
“แปลกเหรอคะ?” ณินทิราย้อนถาม
“ไม่แปลก แต่น้องณินก็น่ารักดีทำไมถึงไม่มีแฟน”
“เคยมีค่ะ แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว” เพราะเธอเพิ่งเลิกกับแฟนเก่าไม่ถึง 2 เดือนเลยมั้ง แต่กำลังจะข้ามขั้นไปมีสามีอีกไม่กี่วันนี้
“ไม่ใช่ตกลงแต่งกับพี่ประชดแฟนเก่านะ” น่านนทีแหย่กลับทันทีเพราะเริ่มจะสบายใจในการพูดคุยแล้ว เธอและเขาไม่ได้คิดอะไรกัน มันง่ายมากที่จะพูดสนิทกันเหมือนอดีต
“ไม่แน่นอนค่ะ ณินไม่ใช่คนที่เอาใครมาแทนที่คนเก่าค่ะ พี่น่านสบายใจได้เลย”
เหมือนคำพูดของเธอไปกระตุกหนวดเสืออีกครั้ง เห็นได้จากแววตาที่ฉายความรู้สึกบางอย่าง แต่เพียงแป๊บเดียวเท่านั้น
“พี่น่านจะกำหนดสัญญาของเรากี่เดือนหรือกี่ปีดีคะ” ณินทิราเลยวกกลับเข้าข้อตกลงที่แฟร์ทั้งสองฝ่าย
“ไม่กำหนดครับ”
“หืม? แบบนั้นมันไม่ดีต่อเราทั้งคู่นะคะ” ดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้น มองว่าที่เจ้าบ่าวเพราะไม่คิดว่าเขาจะตอบแบบนี้กลับมา คิดว่าไม่เกินสามวันด้วยซ้ำที่ต้องหย่ากัน
“แบบนี้น่ะดีแล้ว ถ้าเราทั้งคู่ยังไม่มีใครก็จดทะเบียนกันไปก่อน”
“หย่ากันลับ ๆ ก็ได้นะคะ เวลาแยกย้ายกันจะได้ง่าย”
“พี่เองก็ไม่มีแพลนจะมีใครตอนนี้เหมือนกันครับ”
“อ้อ กลัวโดนคุณป้าเร่ขายอีกใช่ไหมคะ” เธอเริ่มเข้าใจสิ่งที่อีกฝ่ายกำลังสื่อแล้ว
“ครับ ถ้าน้องณินอยากหย่าเมื่อไหร่ มาบอกพี่ได้ตลอดเลยครับ พี่พร้อมจะไปเซ็นหย่าให้น้องณินทันที”
…
“ยังไงวะ อธิบายกูมาเร็ว!”
หลังจากน่านนทีออกจากร้านไปแล้ว องศาที่นั่งสังเกตการณ์ในร้านเดียวกันรีบวิ่งมานั่งแทนที่และยิงคำถามด้วยความอยากรู้
“ว่าที่เจ้าบ่าวเราเอง” ณินทิราบอกพร้อมรอยยิ้มอวด ๆ แล้วยักคิ้วให้เพื่อนหนึ่งที
“หา!! เอ่อ...ขอโทษครับ” เพราะเสียงดังจนคนในร้านหันมามองเป็นตาเดียว ทำให้องศาผงกหัวขอโทษขอโพยแทบไม่ทัน
“ว่าที่เจ้าบ่าวไรของมึง ไอ้ณิน! มึงเป็นบ้าเหรอหรืออกหักจนเพี้ยนไปแล้ว”
“ไอ้เพื่อนเลว ตอกย้ำกูจัง” ตั้งแต่เลิกกับแฟนเก่า ไอ้องศาเพื่อนชั่วก็มักจะล้อเรื่องนี้เป็นประจำ เวลาอีกฝ่ายอัปรูปคู่ในไอจี มันก็มักจะเอารูปพวกนั้นมาโชว์ความสวีตเพื่อตอกย้ำไม่ให้โง่กลับไปคืนดีใหม่ คนที่สร้างภาพเป็นสุภาพบุรุษแต่กลับมีคู่หมั้นอยู่แล้วแต่มีหน้ามาตามจีบเธอเป็นปี ๆ
“เอาดี ๆ” องศาเริ่มพูดจริงจัง
“ก็เนี่ย...พูดจริงก็ไม่เชื่อ”
“มันน่าเชื่อตรงไหน กว่ามึงจะคบไอ้พี่แม็กได้ มันตามจีบมึงกี่ปี แล้วนี่เพิ่งโสด จะเอาตรงไหนมาเชื่อวะ” เพื่อนซี้รู้ใจโพล่งออกมาอย่างไม่ต้องคิด
“เตี่ยให้แต่งวะ ขี้เกียจปฏิเสธ...” แล้วจากนั้นณินทิราก็เริ่มเล่าทุกเรื่องให้องศาฟังแบบที่ไม่มีอะไรปิดบังกัน
“เฮ้ย! แต่งงานนะเว้ย ไม่ใช่เล่นรถไฟฟ้าเหาะ มึงอย่าหาเรื่อง” องศารีบเตือนเพื่อน ไม่ให้ตัดสินใจอะไรพลาดอีก
“แต่งแล้วหย่า ไม่มีไรเลยมึง พี่เขาก็ไม่ได้คิดอะไร นี่ก็มาทำสัญญาใจกันว่าจะแอบไปหย่ากันทีหลัง”
“แม่ง! จบตั้งแต่ยังไม่เริ่ม หาเรื่องไหมล่ะมึง!!” องศาไม่เห็นด้วยอย่างแรง ต่อให้สมัยนี้เด็กยุคใหม่โนสนโนแคร์เรื่องซิงไม่ซิง แต่การผ่านการแต่งงานมาแล้วก็อาจทำให้พ่อแม่สามีตัวจริงในอนาคตอาจจะรับไม่ได้ก็ได้
“ความลับนะมึง” ณินทิราย้ำเพื่อนอีกที ทั้งที่รู้ว่าองศาไว้ใจได้ แต่ก็ถือว่าได้ย้ำเพื่อความสบายใจ
“ถ้าเตี่ยรู้ทีหลังล่ะ”
“ไม่รู้หรอก” เธอคิดง่าย ๆ
“แล้วถ้ามึงพลาดท่า เสร็จสามีตัวปลอม เกินเรื่องเลยนะมึง” นอนเตียงเดียวกัน นอนสูดดมกลิ่นกันและกัน อาจจะอดใจไม่ไหวก็ได้ใครจะไปรู้ ณินทิราเพื่อนเขาก็น่ารักพอตัว ถึงจะไม่ยั่วยวนอารมณ์เท่าไหร่นัก แต่ยิ้มทีก็ทำผู้ชายใจละลายได้เหมือนกัน
“ไม่มีทาง งานเสร็จก็แยกย้าย”
“มึงอะ คิดตื้น ๆ คืนแรกมึงไม่มีทางได้ออกจากห้องหอได้ กูเอาหัวเป็นประกัน”
“มึงคิดงั้น?”
“รอดู” องศายักคิ้วย้ำความคิดที่รู้ทันเตี่ยณินทิราเป็นอย่างดี ระดับเตี่ยมัน ทำไมจะไม่รู้ทันลูกสาวหัวรั้น!!