ตอนที่ 12 (ep4.)
ปวริศขับรถสปอร์ตสีดำเลี้ยวเข้าไปยังร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดังแห่งหนึ่ง เขาตรงไปยังห้องที่จองเอาไว้ พร้อมปฏิบัติตามกติกาของร้านอาหารอย่างดี เมื่อเขาเปิดประตูเข้าไปก็ต้องยิ้มกว้าง หัวใจปลอดโปร่งเมื่อมองเห็นอรุณรัตนานั่งอยู่ที่นั่นกับพนักงานสวมชุดกิโมโนกำลังบริการชงชาให้ดื่ม
ปวริศก้มตัวลงเมื่อก้าวผ่านประตูที่มีขนาดไม่สูงนักเข้าไปพร้อมกับคุกเข่านั่งลงบนเบาะลวดลายดอกซากุระสีหวาน พร้อมกับโน้มตัวรับถ้วยชาจากพนักงานสาวที่ดูสวยงามตามแบบของหญิงชาวญี่ปุ่น
เขาเงยหน้ามองอรุณรัตนาที่วันนี้หล่อนสวมเสื้อที่คล้ายกิโมโนกับกระโปรงทรงเอยาวกรอมเท้าสีฟ้าอ่อนเป็นผ้าไหมแก้วที่ดูสง่า ประกอบกับทรงผมแสกกลางรวบมัดไว้ที่บริเวณบ่าทิ้งชายยาวละแผ่นหลัง ดวงหน้าเรียวรูปไข่ไม่แต่งแต้มสีสันมีเพียงเรียวปากอิ่มที่ฉาบสีแดงจัดอย่างโดดเด่น เข้ากับบรรยากาศร้านอาหารญี่ปุ่นอย่างมาก
จนดูเหมือนหล่อนเป็นสาวญี่ปุ่นที่สวยงามและสง่าอย่างโดดเด่น จนสามารถสะกดทุกสายตาที่ได้มองเห็นให้เผลอมองค้างด้วยหัวใจที่หวิวหวั่น
“คุณสวยจริง ๆ ครับ สวยมาก”
ปวริศเผลออุทานออกมาเบา ๆ
“เพียงแค่ผมได้เห็นคุณ ผมอยากจะทานคุณมากกว่าทานอาหารเสียอีก ความหิวของผมอันตรธานหายไปจนหมดสิ้น”
เขาพูดต่อทำให้อรุณรัตนายิ้มหวานออกมา ก่อนจะมองหน้าพนักงานแล้วหยิบเมนูมาเปิดก่อนจะสั่งอาหารในขณะที่ปวริศยังคงนั่งมองหน้าหล่อนอย่างคลั่งไคล้ โดยปกติ เขาไม่ใช่ว่าไม่ชอบสรีระของผู้หญิง แต่เขาปรารถนาจะสัมผัสแตะต้องครอบครองและเชยชมมากว่าถูกเชยชมจากชาย เขาอยากจะเป็นฝ่ายที่ได้กระทำ เขาอยากจะชื่นเชยไม่ว่าส่วนไหน ๆ
ทุกครั้งที่มองสรีระของตนเองในขณะที่ยังไม่ได้แปลงเพศ ไม่ได้ตัดออก เขาหลงใหลแล้วลูบคลำ เขาอยากจะทำมากกว่าการลูบคลำแล้วมองเห็น ทำให้เขาตัดสินใจเปลี่ยนทุกอย่าง จนมีวันนี้ วันที่มีโอกาสได้มองเห็นหญิงสาวตรงหน้า เขาจึงมองหล่อนด้วยสายตาที่แสดงออกถึงความปรารถนาอย่างไม่ปิดบัง
นอกจากนี้เขามักจะดูสรีระของผู้ชาย แม้มันจะมีส่วนสำคัญแค่ส่วนเดียว แต่ก็ทำให้เขาคลั่งไคล้อยากจะมีส่วนนั้น ทุกครั้งที่เขามองเห็นปรมัตถ์ หัวใจของเขามันร้อนฉ่า เขาอยากจะมีรูปร่างเหมือนปรมัตถ์ อยากมีทุกอย่างเหมือนปรมัตถ์ ดังนั้นเขาจึงใช้เงินที่มีอย่างไม่จำกัด ทำในสิ่งที่เขาชอบที่เขาต้องการ แล้วมีดหมอก็ทำให้เขาสมหวังดังใจ
ไม่ต่างจากอรุณรัตนามากนัก ซึ่งก่อนหน้านี้หล่อนก็ได้แต่เฝ้ามองดูสรีระของตนเองที่มีความสำคัญภายนอกเพียงส่วนเดียว แล้วมักจะดูสรีระของผู้หญิงมันทำให้หล่อนอยากมีแบบนั้นบนร่างของตนเอง อยากมีทรวงอก อยากมีเจ้ากลีบกุหลาบ อยากจะได้สัมผัสกับสรีระของชาย อยากรู้ว่ารสสัมผัสของชายที่ระรานบนสรีระที่มีดหมอสรรค์สร้าง ว่าจะรู้สึกสุขล้ำเช่นไร
เมื่อรู้อยู่แก่ใจว่า ปวริศยังมองหล่อนอยู่อย่างไม่คาดสายตา หล่อนก็พยายามที่จะทำให้เขาหลงใหลคลั่งไคล้มากขึ้น ยิ่งถ้าหล่อนง่ายเขาก็จะไม่เห็นความสำคัญ ยิ่งถ้าหล่อนยาก ความพยายามของเขาจะมากขึ้น หล่อนอยากเห็นว่า เขาจะมีความพยายามที่จะไขว่คว้าหล่อนได้อย่างไร
“ทานอะไรดีคะ”
อรุณรัตนาเอ่ยถามด้วยท่าทียั่วยวนให้หลงใหล สายตาชำเลืองแลแล้วใช้รอยยิ้มยิ้มหวานกรีดแผ่วที่หัวใจของเขา
“ทานที่คุณชอบครับ คุณชอบอะไรผมก็จะทานแบบนั้น”
หล่อนหัวเราะเบา ๆ ด้วยการใส่จริตเข้าไปให้น่าหลงใหล
“เอาเหมือนกันสองชุดค่ะ”
อรุณรัตนาบอกพนักงานสาวที่รับรายการแล้วออกไป ทำให้ปวริศมีโอกาสได้อยู่กับหล่อนตามลำพัง เขายังนึกถึงความอวบอิ่มเต็มมือที่เขาได้กอบกุมเจ้าโนมเนื้อของหล่อน เขามองตรงไปที่นั่น นึกอยากจะสัมผัสดอมดมและซุกไซ้ สัมผัสความนุ่มหยุ่นและหอมกรุ่นกลิ่นเนื้อสาว
เขาอยากรู้ว่ากลิ่นเนื้อของหล่อนจะหอมเพียงใด อากัปกิริยาที่งามละมุนกึ่งเชิญชวนแบบนี้ มันยิ่งทำให้หัวใจของเขาร้อนฉ่า ปวริศยื่นมือไปรวบมือเรียวของหล่อนมากุมไว้ ก่อนจะยกขึ้นแล้วโน้มใบหน้าต่ำลงไป สายตายังจับทาบที่ดวงหน้ากับรอยยิ้มของหล่อน
ริมฝีปากได้รูปกับปลายจมูกโด่งสัมผัสกับหลังมือนุ่มที่ชโลมครีมอย่างดีจนนุ่มและหอมสมใจ เขาจูบหนัก ๆ ก่อนจะแนบแก้มลงไปแตะแล้วพรมจุมพิตแผ่วอีกครั้ง ก่อนที่อรุณรัตนาจะค่อย ๆ ดึงกลับอย่างอ้อยอิ่งเหมือนเปิดโอกาสให้เขาได้สัมผัส เพราะหล่อนเองก็ตกอยู่ในอาการไหวหวามกับสัมผัสนั้น
“คงทำแบบนี้กับผู้หญิงมาหลายคนแล้วสิคะ”
อรุณรัตนาแสร้งจีบปากจีบคอพูดเชิงตัดพ้อ
“ไม่เลยครับ ยังไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนที่สามารถเหนี่ยวรั้งหัวใจของผมได้เท่าคุณ ผมรู้สึกเหมือนตกหลุมรักคุณตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เห็น ไม่ว่าหลับหรือตื่น ผมก็เห็นแต่หน้าคุณ”
ปวริศรวบมือบางของหล่อนไว้แน่น
“ผมมีความรู้สึกทรมานเมื่อไม่ได้เห็นหน้าคุณ ไม่ได้ติดต่อกับคุณ ผมอยากอยู่กับคุณในทุก ๆ วัน”
อรุณรัตนายิ้มเอียงอาย
“คุณนี่ล่ะ ปากหวานเสียจริงนะคะ แค่ลมปากของคุณ ยังทำให้หัวใจของฉันอ่อนล้าแล้วเพลียได้ถึงขนาดนี้ ถ้าหากมีโอกาสได้อยู่กับคุณ ฉันคง..”
ปวริศยิ้มพลางมองลึกเข้าไปในดวงตาของหล่อนอย่างมีความหมาย
“ผู้ชายถ้าลองได้สมหวัง ไม่นานก็เบื่อ เพราะว่าผู้ชาย มักรักง่ายหน่ายเร็ว เวลาอยากได้ก็สารพัดที่จะทำ ที่จะปรนเปรอพะเน้าพะนอ ครั้นพอสมใจก็เริ่มเบื่อหน่ายและหาทางออก”
“นั่นต้องไม่ใช่ผมอย่างแน่นอน ผมจะพิสูจน์ให้คุณได้เห็น”
ปวริศพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น ก่อนจะค่อย ๆ ปล่อยมือของอรุณรัตนาเมื่อพนักงานยกอาหารมาเสิร์ฟ ทั้งสองนั่งทานอาหารไป คุยกันไป ด้วยความรู้สึกว่าหัวใจเป็นสีชมพูแล้วมันกำลังผลิบานด้วยรอยยิ้ม หลังจากทานอาหารอิ่มทั้งสองก็ไปหาที่นั่งดื่มกันต่อจนดึก ปวริศขับรถตามไปส่งอรุณรัตนาจนถึงบ้านแล้วขับรถกลับ
หลังจากวันนั้น ทั้งสองก็เริ่มพัฒนาความสัมพันธ์มากขึ้น ได้อยู่ด้วยกันนานขึ้น บ่อยครั้งขึ้น ทำให้รู้ว่าเขาสองคนสามารถพูดคุยกันได้ทุกเรื่องเข้ากันได้ทุกเรื่องจนต่างฝ่ายต่างก็มีความรู้สึกว่าได้เจอคนที่ใช่แล้ว
