ชีวิตใหม่ครานี้ขอมีสามีเป็นท่านแม่ทัพ

58.0K · จบแล้ว
เยว่หลง
31
บท
21.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เรื่องย่อ จื่อหราน หญิงสาววัย 28 จากโลกอนาคต หลังถูกคนรักที่คบกันมา 8 ปี บอกเลิกด้วยเหตุผลว่าเขาเผลอไปทำผู้หญิงท้อง ร่างกายทุกส่วนของเธอเหมือนถูกฟ้าผ่า พูดไม่ออก ได้แต่ลุกขึ้นยืน หันหลังเดินออกมาจากห้องเหมือนคนวิญญาณออกจากร่าง ความเจ็บปวดมากมายทำให้เธอเดินเหมือนคนไร้สติไปตามถนน หยุดเท้าแขนเหม่อมองท้องฟ้า หวนคิดถึงเรื่องราวในอดีตของพวกเขา ทว่าขณะที่เธอคิดจะผละตัวออกห่าง กลับมาสู่โลกของความเป็นจริงร่างกายจื่อหรานพลันถูกกระแทกตกลงสู่ผืนน้ำด้านล่าง

นิยายย้อนยุคนิยายจีนโบราณเทพสงครามท่านอ๋องแม่ทัพนางเอกเก่งข้ามมิติพระเอกเก่งจีนโบราณรักหวานๆ

ตอนที่ 1 เหตุผลของการบอกเลิก

บนท้องถนนเต็มไปด้วยผู้คนพลุกพล่าน ช่วงเวลาของการเร่งรีบ ผู้คนมากมายต่างเดินขวักไขว่ไปมาเต็มสองข้างถนน

ไม่จำเป็นต้องเงี่ยหูฟังก็ยังได้ยินเสียงพุดคุยจอแจ เสียงรถ เสียงแตร เสียงเพลงดังครึกครื้นชวนให้รู้สึกอยากโยกตัวไปมา

ภายใต้ผู้คนมากหน้าหลายตา หญิงสาวร่างกายสูงโปร่ง ผิวอมชมพู เครื่องหน้างดงามย่างเท้าบนส้นสูงมุ่งหน้าสู่ร้านอาหารชื่อดังแห่งหนึ่ง

เพียงการเดินผ่านของเธอก็สามารถเรียกความสนใจจากผู้คนโดยรอบ ออร่าความงานแผ่กระจายสะกดให้คนมองตามจนสุดสายตา

สองขานำพาร่างเพรียวระหงมาหยุดหน้าประตูบานหนึ่ง มือเรียวสวยผลักประตูก้าวเข้าไปด้านใน ก้าวขาเข้าไปหย่อนตัวลงนั่ง ก่อนจะเอ่ยถามขึ้นมาว่า

“มีอะไรหรือเปล่าถึงได้นัดมาหากะทันหันแบบนี้ ?”น้ำเสียงนุ่มนวลติดสงสัยเอ่ยถามคนนั่งฝั่งตรงข้าม สายตาเหลือบมองผู้หญิงข้างกายคนที่ได้ชื่อว่าแฟนหนุ่ม

แฟนหนุ่มของเธอมีท่าทีอ้ำอึ้งไม่ยอมพูดจา จื่อหรานจึงเอ่ยถามอีกครั้ง

“สีกังมีอะไร เรื่องร้ายแรงถึงขนาดต้องใช้เวลาทำใจนานขนาดนั้นเลยเหรอ ?”น้ำเสียงจื่อหรานติดหยอกล้อเล็กน้อย ยื่นมือออกไปหวังจับมือเขามากุมเหมือนทุกครั้งที่เคยทำเวลาเขามีเรื่องไม่สบายใจ ทว่าก่อนมือเธอจะสัมผัสถูกมือเขา สีกังกับชักมือกลับ

หัวคิ้วจื่อหรานขมวดเข้าหากัน หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ

หญิงสาวชักมือกลับมาเอนหลังพิงเก้าอี้ หรี่ตามองเขาเล็กน้อย

“สีกังพูดมาเถอะไม่ใช่เด็ก ๆ แล้ว”

เธอพอจะคาดเดาอะไรบางอย่างได้ตั้งแต่เดินเข้าห้องมาแล้ว แต่ที่เลือกจะปล่อยผ่านเพราะต้องการหลอกตัวเอง

คนถูกเรียกเงยหน้ามองสบตาผู้หญิงตรงมา สายตาของเธอราวกับมองทุกอย่างได้อย่างทะลุปุโปร่ง แต่กับยังสามารถแสดงท่าทีไม่ยี่หระใด ๆ ราวกับว่าไม่สำคัญ

ชายหนุ่มสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ ถอนหายใจออกมายาวเหยียด น้ำเสียงเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด

“จื่อหรานฉันทำผู้หญิงคนนี้ท้อง”

“...”

ความเงียบเกิดขึ้นในห้องอาหารส่วนตัวสุดหรูระดับห้าดาว ร่างกายจื่อหรานนิ่งอึ้งไป พูดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะ สายตาส่องสะท้อนภาพคนทั้งสองกำลังก้มหน้าไม่กล้าสบตากัน

หญิงสาวเม้มปาก หันหน้าหนี คิดจะพูดอะไรออกมาสักคำแต่เมื่อสายตาหันมาเห็นใบหน้ารู้สึกผิดของพวกเขา มือสองข้างกำกันแน่นใต้โต๊ะ เธอก็ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว

รู้สึกผิดแล้วทำทำไม !! อีกไม่กี่เดือนพวกเราก็จะแต่งงานกันแล้วนะ !!

หญิงสาวกรีดร้องในใจ ความรู้สึกเจ็บปวดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนจุกอยู่ในอก

สติที่ยังหลงเหลืออยู่บอกให้เธอใจเย็น จื่อหรานประสานมือบนโต๊ะอาหารหลับตาสูดหายใจเข้าลึก ๆ ลืมตาสบตาสีกังแล้วพยักหน้าเข้าใจ

ไม่มีอะไรต้องพูดกันอีกแล้ว

เธอไม่อาละวาด ไม่แม้กระทั่งเอ่ยต่อว่าเขาที่ทรยศหักหลัง ไม่แม้จะเอ่ยถามถึงสาเหตุของการกระทำ

เพราะไม่ว่าทุกอย่างจะเกิดจากสาเหตุใดความจริงเรื่องที่ว่าเขาทำผู้หญิงท้องก็ไม่เปลี่ยนไป

จื่อหรานหยัดตัวลุกขึ้นยืน

“ขอตัวก่อนนะ”คำกล่าวสั้น ๆ ที่พยายามข่มกลั้นความรู้สึกร้อนที่กระบอกตา หันหลังเดินออกจากห้องทันที

“จื่อหราน ! คุยกันก่อนสิ”คนพูดเม้มปากแน่นเอ่ยเสียงเบา “ฉันขอโทษ...”ปลายหางเสียงเบาหวิวแทบไม่ได้ยิน แต่เพราะภายในห้องเงียบมากคนฟังจึงได้ยินมันอย่างชัดเจน

เธอหันไปเผชิญหน้าชายที่รักมาก รักมากว่าแปดปีเต็ม ชายที่เธอวาดฝันอนาคตร่วมกันหลายอย่าง

ทั้งที่บอกว่าเดือนหน้าจะไปซื้อคอนโดร่วมกัน พอแต่งงานแล้วก็จะออกรถร่วมกัน จากนั้นก็มองหาธุรกิจเล็ก ๆ ทำร่วมกัน จะได้มีเวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น แล้วพอธุรกิจมั่นคงก็มีเด็กตัวเล็กสักคนเป็นสักขีพยานความรักของเรา

ทั้งที่พูดเอาไว้เสียดิบดี แต่ดูตอนนี้สิ...

ทุกอย่างที่พูดมาไม่สามารถทำได้แล้ว

ฝ่ามือที่ไม่ถูกกุมยกขึ้นตบหลังมืออีกฝ่ายเบา ๆ เอ่ยเสียงอ่อนโยนทว่าสั่นเครือ

“สีกังขอให้นายมีความสุขกับเธอมาก ๆ นะ ดูแลเด็กที่กำลังจะเกิดมาให้ดี เด็กคนนั้นคือเลือดเนื้อเชื้อไขของนายที่มีร่วมกับเธอ”

จื่อหรานเผยยิ้มให้เขา เป็นรอยยิ้มแสนเศร้าที่กลั่นออกมาจากหัวใจ

ความรู้สึกอบอุ่นของมือหายไปแล้ว ชายหนุ่มเม้มปากแน่นมองผู้หญิงที่รักมากเดินจากไปต่อหน้าต่อตา

ทำไมวันนั้นถึงได้ปล่อยอารมณ์ไปกับความรู้สึก ทำไมถึงได้ไม่คิดให้รอบคอบมากกว่านี้...

ชายหนุ่มตัดพ้อตนเองในใจ หันหลังกลับไปมองผู้หญิงข้างกาย นัยน์ตาฉายเต็มไปด้วยประกายเจ็บปวด สับสน ไม่เข้าใจ

เธอไม่เจ็บปวดบ้างเหรอถึงได้อวยพรให้ฉันมีความสุข..

เป็นคำถามที่ขอเพียงเขาเดินตามจื่อหรานออกมาจะได้รับคำตอบ

หญิงสาวผู้เดินเข้าไปในห้องอาหารด้วยท่วงท่ามั่นใจ กลับออกมาจากห้องในเวลาไม่นาน แถมจังหวะการก้าวขายังเร่งรีบราวกับกำลังหลบหนีอะไรบางอย่าง

ใบหน้าที่แสร้งว่าไม่รู้สึกอะไรเปรอะเปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตา มองภาพข้างหน้าแทบไม่เห็น

เธอไม่ได้ร้องไห้ฟูมฟาย ไม่ได้สะอึกสะอื้นออกมาปานจะขาดใจ เป็นเพียงการร้องไห้ออกมาเงียบ ๆ ปล่อยให้น้ำตาไหลรินหยดลงพื้นไปทั้งอย่างนั้น

อ่า...ท้องฟ้าวันนี้ไม่เห็นงดงามเลยสักนิด ฟ้ามืดขนาดนี้ใครจะไปมองเห็นทางข้างหน้ากัน แบบนี้คงต้องร้องเรียนกรมไฟฟ้าให้มาดูแลสองข้างถนนแล้ว ป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ !

จื่อหรานสบถในใจพาร่างไร้เรี่ยวแรงเดินไปอย่างไร้จุดหมาย ไม่สนใจด้วยว่าใครจะมองเธอยังไง

“ฮึก เจ็บจังแฮะ รสชาติของความเจ็บปวดเป็นแบบนี้เองสินะ เจ็บกว่าตอนโดนมีดบาดอีก ฮึก”

จื่อหรานยิ้มเยาะตัวเอง หยุดมองท้องฟ้ายามราตรี เป็นราตรีไร้ดาวเหมือนเธอที่ไม่มีเขาอยู่ข้างกาย

สองแขนพาดผ่านราวสะพานซุกหน้าลงบนแขน ปล่อยความคิดไหลไปเรื่อย ๆ พร้อมหยาดน้ำตาที่หวังให้เหือดแห้งลง

....

หญิงสาวถอนหายใจออกมาหลังตรึกตรองความคิดของตนเรียบร้อยแล้ว เธอถอนหายใจยิ้ม ๆ เหยียดแขนที่พิงกับราวระเบียงสะพาน ทว่าจังหวะที่ยืดออกจนสุดแขน ร่างของใครก็ไม่รู้พลันกระแทกร่างเธอเข้าอย่างจังส่งผลให้มือลื่น หน้าคะมำไปด้านหน้า

จื่อหรานตกใจส่งเสียงออกมา สองมือยื่นคว้าหวังจับราวสะพาน แต่โชคร้ายมือของเธอคว้าจับได้เพียงอากาศ ปลายสายตาคือใบหน้าตกตะลึงของผู้หญิงคนหนึ่ง

“ช่วยด้วยค่ะมีคนตกสะพาน !”เธอตะโกนด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนกระคนหวาดกลัว

คนที่กำลังร่วงลงสู่ผืนน้ำเชี่ยวกรากหยัดยิ้มมุมปาก

ชีวิตเธออะไรจะซวยได้ขนาดนี้ เลิกกับแฟนที่คบกันมานานไม่พอยังถูกคนวิ่งมาชนตกน้ำอีก !

เธอคิดอย่างปลงตก ถึงระยะห่างจากสะพานกับน่านน้ำจะไม่สูงมากนักแต่ระดับความลึกของน้ำกับยากสุดจะหยั่งถึง

เปลือกตาที่มองตรงไปด้านหน้าปิดลง ช้า ๆ ไม่ดิ้นรนขัดขืนความตายที่กำลังย่างกรายเข้ามา ปล่อยให้ร่างร่วงหล่นสู่ผืนน้ำค่อย ๆ จมหายไปท่ามกลางเสียงโหวกเหวกโวยวายยามค่ำคืน

ภายใต้ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มที่กำลังจมลึกลงไปมีเพียงความรู้สึกเสียดายลึก ๆ

ยังไม่ได้ใช้ชีวิตเท่าไรเลยแต่ต้องมาตายซะแล้ว ถ้าเกิดว่ามีชาติหน้าจริงก็อยากใช้ชีวิตให้คุ้มกว่านี้