บทย่อ
เรื่องย่อ จื่อหราน หญิงสาววัย 28 จากโลกอนาคต หลังถูกคนรักที่คบกันมา 8 ปี บอกเลิกด้วยเหตุผลว่าเขาเผลอไปทำผู้หญิงท้อง ร่างกายทุกส่วนของเธอเหมือนถูกฟ้าผ่า พูดไม่ออก ได้แต่ลุกขึ้นยืน หันหลังเดินออกมาจากห้องเหมือนคนวิญญาณออกจากร่าง ความเจ็บปวดมากมายทำให้เธอเดินเหมือนคนไร้สติไปตามถนน หยุดเท้าแขนเหม่อมองท้องฟ้า หวนคิดถึงเรื่องราวในอดีตของพวกเขา ทว่าขณะที่เธอคิดจะผละตัวออกห่าง กลับมาสู่โลกของความเป็นจริงร่างกายจื่อหรานพลันถูกกระแทกตกลงสู่ผืนน้ำด้านล่าง
ตอนที่ 1 เหตุผลของการบอกเลิก
บนท้องถนนเต็มไปด้วยผู้คนพลุกพล่าน ช่วงเวลาของการเร่งรีบ ผู้คนมากมายต่างเดินขวักไขว่ไปมาเต็มสองข้างถนน
ไม่จำเป็นต้องเงี่ยหูฟังก็ยังได้ยินเสียงพุดคุยจอแจ เสียงรถ เสียงแตร เสียงเพลงดังครึกครื้นชวนให้รู้สึกอยากโยกตัวไปมา
ภายใต้ผู้คนมากหน้าหลายตา หญิงสาวร่างกายสูงโปร่ง ผิวอมชมพู เครื่องหน้างดงามย่างเท้าบนส้นสูงมุ่งหน้าสู่ร้านอาหารชื่อดังแห่งหนึ่ง
เพียงการเดินผ่านของเธอก็สามารถเรียกความสนใจจากผู้คนโดยรอบ ออร่าความงานแผ่กระจายสะกดให้คนมองตามจนสุดสายตา
สองขานำพาร่างเพรียวระหงมาหยุดหน้าประตูบานหนึ่ง มือเรียวสวยผลักประตูก้าวเข้าไปด้านใน ก้าวขาเข้าไปหย่อนตัวลงนั่ง ก่อนจะเอ่ยถามขึ้นมาว่า
“มีอะไรหรือเปล่าถึงได้นัดมาหากะทันหันแบบนี้ ?”น้ำเสียงนุ่มนวลติดสงสัยเอ่ยถามคนนั่งฝั่งตรงข้าม สายตาเหลือบมองผู้หญิงข้างกายคนที่ได้ชื่อว่าแฟนหนุ่ม
แฟนหนุ่มของเธอมีท่าทีอ้ำอึ้งไม่ยอมพูดจา จื่อหรานจึงเอ่ยถามอีกครั้ง
“สีกังมีอะไร เรื่องร้ายแรงถึงขนาดต้องใช้เวลาทำใจนานขนาดนั้นเลยเหรอ ?”น้ำเสียงจื่อหรานติดหยอกล้อเล็กน้อย ยื่นมือออกไปหวังจับมือเขามากุมเหมือนทุกครั้งที่เคยทำเวลาเขามีเรื่องไม่สบายใจ ทว่าก่อนมือเธอจะสัมผัสถูกมือเขา สีกังกับชักมือกลับ
หัวคิ้วจื่อหรานขมวดเข้าหากัน หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ
หญิงสาวชักมือกลับมาเอนหลังพิงเก้าอี้ หรี่ตามองเขาเล็กน้อย
“สีกังพูดมาเถอะไม่ใช่เด็ก ๆ แล้ว”
เธอพอจะคาดเดาอะไรบางอย่างได้ตั้งแต่เดินเข้าห้องมาแล้ว แต่ที่เลือกจะปล่อยผ่านเพราะต้องการหลอกตัวเอง
คนถูกเรียกเงยหน้ามองสบตาผู้หญิงตรงมา สายตาของเธอราวกับมองทุกอย่างได้อย่างทะลุปุโปร่ง แต่กับยังสามารถแสดงท่าทีไม่ยี่หระใด ๆ ราวกับว่าไม่สำคัญ
ชายหนุ่มสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ ถอนหายใจออกมายาวเหยียด น้ำเสียงเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด
“จื่อหรานฉันทำผู้หญิงคนนี้ท้อง”
“...”
ความเงียบเกิดขึ้นในห้องอาหารส่วนตัวสุดหรูระดับห้าดาว ร่างกายจื่อหรานนิ่งอึ้งไป พูดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะ สายตาส่องสะท้อนภาพคนทั้งสองกำลังก้มหน้าไม่กล้าสบตากัน
หญิงสาวเม้มปาก หันหน้าหนี คิดจะพูดอะไรออกมาสักคำแต่เมื่อสายตาหันมาเห็นใบหน้ารู้สึกผิดของพวกเขา มือสองข้างกำกันแน่นใต้โต๊ะ เธอก็ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว
รู้สึกผิดแล้วทำทำไม !! อีกไม่กี่เดือนพวกเราก็จะแต่งงานกันแล้วนะ !!
หญิงสาวกรีดร้องในใจ ความรู้สึกเจ็บปวดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนจุกอยู่ในอก
สติที่ยังหลงเหลืออยู่บอกให้เธอใจเย็น จื่อหรานประสานมือบนโต๊ะอาหารหลับตาสูดหายใจเข้าลึก ๆ ลืมตาสบตาสีกังแล้วพยักหน้าเข้าใจ
ไม่มีอะไรต้องพูดกันอีกแล้ว
เธอไม่อาละวาด ไม่แม้กระทั่งเอ่ยต่อว่าเขาที่ทรยศหักหลัง ไม่แม้จะเอ่ยถามถึงสาเหตุของการกระทำ
เพราะไม่ว่าทุกอย่างจะเกิดจากสาเหตุใดความจริงเรื่องที่ว่าเขาทำผู้หญิงท้องก็ไม่เปลี่ยนไป
จื่อหรานหยัดตัวลุกขึ้นยืน
“ขอตัวก่อนนะ”คำกล่าวสั้น ๆ ที่พยายามข่มกลั้นความรู้สึกร้อนที่กระบอกตา หันหลังเดินออกจากห้องทันที
“จื่อหราน ! คุยกันก่อนสิ”คนพูดเม้มปากแน่นเอ่ยเสียงเบา “ฉันขอโทษ...”ปลายหางเสียงเบาหวิวแทบไม่ได้ยิน แต่เพราะภายในห้องเงียบมากคนฟังจึงได้ยินมันอย่างชัดเจน
เธอหันไปเผชิญหน้าชายที่รักมาก รักมากว่าแปดปีเต็ม ชายที่เธอวาดฝันอนาคตร่วมกันหลายอย่าง
ทั้งที่บอกว่าเดือนหน้าจะไปซื้อคอนโดร่วมกัน พอแต่งงานแล้วก็จะออกรถร่วมกัน จากนั้นก็มองหาธุรกิจเล็ก ๆ ทำร่วมกัน จะได้มีเวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น แล้วพอธุรกิจมั่นคงก็มีเด็กตัวเล็กสักคนเป็นสักขีพยานความรักของเรา
ทั้งที่พูดเอาไว้เสียดิบดี แต่ดูตอนนี้สิ...
ทุกอย่างที่พูดมาไม่สามารถทำได้แล้ว
ฝ่ามือที่ไม่ถูกกุมยกขึ้นตบหลังมืออีกฝ่ายเบา ๆ เอ่ยเสียงอ่อนโยนทว่าสั่นเครือ
“สีกังขอให้นายมีความสุขกับเธอมาก ๆ นะ ดูแลเด็กที่กำลังจะเกิดมาให้ดี เด็กคนนั้นคือเลือดเนื้อเชื้อไขของนายที่มีร่วมกับเธอ”
จื่อหรานเผยยิ้มให้เขา เป็นรอยยิ้มแสนเศร้าที่กลั่นออกมาจากหัวใจ
ความรู้สึกอบอุ่นของมือหายไปแล้ว ชายหนุ่มเม้มปากแน่นมองผู้หญิงที่รักมากเดินจากไปต่อหน้าต่อตา
ทำไมวันนั้นถึงได้ปล่อยอารมณ์ไปกับความรู้สึก ทำไมถึงได้ไม่คิดให้รอบคอบมากกว่านี้...
ชายหนุ่มตัดพ้อตนเองในใจ หันหลังกลับไปมองผู้หญิงข้างกาย นัยน์ตาฉายเต็มไปด้วยประกายเจ็บปวด สับสน ไม่เข้าใจ
เธอไม่เจ็บปวดบ้างเหรอถึงได้อวยพรให้ฉันมีความสุข..
เป็นคำถามที่ขอเพียงเขาเดินตามจื่อหรานออกมาจะได้รับคำตอบ
หญิงสาวผู้เดินเข้าไปในห้องอาหารด้วยท่วงท่ามั่นใจ กลับออกมาจากห้องในเวลาไม่นาน แถมจังหวะการก้าวขายังเร่งรีบราวกับกำลังหลบหนีอะไรบางอย่าง
ใบหน้าที่แสร้งว่าไม่รู้สึกอะไรเปรอะเปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตา มองภาพข้างหน้าแทบไม่เห็น
เธอไม่ได้ร้องไห้ฟูมฟาย ไม่ได้สะอึกสะอื้นออกมาปานจะขาดใจ เป็นเพียงการร้องไห้ออกมาเงียบ ๆ ปล่อยให้น้ำตาไหลรินหยดลงพื้นไปทั้งอย่างนั้น
อ่า...ท้องฟ้าวันนี้ไม่เห็นงดงามเลยสักนิด ฟ้ามืดขนาดนี้ใครจะไปมองเห็นทางข้างหน้ากัน แบบนี้คงต้องร้องเรียนกรมไฟฟ้าให้มาดูแลสองข้างถนนแล้ว ป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ !
จื่อหรานสบถในใจพาร่างไร้เรี่ยวแรงเดินไปอย่างไร้จุดหมาย ไม่สนใจด้วยว่าใครจะมองเธอยังไง
“ฮึก เจ็บจังแฮะ รสชาติของความเจ็บปวดเป็นแบบนี้เองสินะ เจ็บกว่าตอนโดนมีดบาดอีก ฮึก”
จื่อหรานยิ้มเยาะตัวเอง หยุดมองท้องฟ้ายามราตรี เป็นราตรีไร้ดาวเหมือนเธอที่ไม่มีเขาอยู่ข้างกาย
สองแขนพาดผ่านราวสะพานซุกหน้าลงบนแขน ปล่อยความคิดไหลไปเรื่อย ๆ พร้อมหยาดน้ำตาที่หวังให้เหือดแห้งลง
....
หญิงสาวถอนหายใจออกมาหลังตรึกตรองความคิดของตนเรียบร้อยแล้ว เธอถอนหายใจยิ้ม ๆ เหยียดแขนที่พิงกับราวระเบียงสะพาน ทว่าจังหวะที่ยืดออกจนสุดแขน ร่างของใครก็ไม่รู้พลันกระแทกร่างเธอเข้าอย่างจังส่งผลให้มือลื่น หน้าคะมำไปด้านหน้า
จื่อหรานตกใจส่งเสียงออกมา สองมือยื่นคว้าหวังจับราวสะพาน แต่โชคร้ายมือของเธอคว้าจับได้เพียงอากาศ ปลายสายตาคือใบหน้าตกตะลึงของผู้หญิงคนหนึ่ง
“ช่วยด้วยค่ะมีคนตกสะพาน !”เธอตะโกนด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนกระคนหวาดกลัว
คนที่กำลังร่วงลงสู่ผืนน้ำเชี่ยวกรากหยัดยิ้มมุมปาก
ชีวิตเธออะไรจะซวยได้ขนาดนี้ เลิกกับแฟนที่คบกันมานานไม่พอยังถูกคนวิ่งมาชนตกน้ำอีก !
เธอคิดอย่างปลงตก ถึงระยะห่างจากสะพานกับน่านน้ำจะไม่สูงมากนักแต่ระดับความลึกของน้ำกับยากสุดจะหยั่งถึง
เปลือกตาที่มองตรงไปด้านหน้าปิดลง ช้า ๆ ไม่ดิ้นรนขัดขืนความตายที่กำลังย่างกรายเข้ามา ปล่อยให้ร่างร่วงหล่นสู่ผืนน้ำค่อย ๆ จมหายไปท่ามกลางเสียงโหวกเหวกโวยวายยามค่ำคืน
ภายใต้ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มที่กำลังจมลึกลงไปมีเพียงความรู้สึกเสียดายลึก ๆ
ยังไม่ได้ใช้ชีวิตเท่าไรเลยแต่ต้องมาตายซะแล้ว ถ้าเกิดว่ามีชาติหน้าจริงก็อยากใช้ชีวิตให้คุ้มกว่านี้

