บทที่13 ความอลหม่าน
อาหารเย็นในวันนี้ ถือว่าเป็นอาหารที่อร่อยมากสำหรับคนทั้งตระกูลเฉิน
ข้าวต้มข้นมากจนสามารถเสียบตะเกียบได้ ที่น่าตกตะลึงก็คือ ผัดผักกาดอร่อยและหอมหวานกว่าปกติที่ได้กินมาก
ทำเอาทุกคนทั้งในและนอกกินกันไม่หยุด
จ้าวซื่อลูกกลอกตาไปมา ยิ้มเหมือนไม่ยิ้มแล้วพูดว่า “น้องเสี่ยวม่าน ไม่คิดว่าเจ้าจะทำอาหารเก่งขนาดนี้นะ? ดูเหมือนพวกผู้ชายจะชอบกินมากเลยนะ? ต่อไป น้องเสี่ยวม่านต้องทำบ่อยๆแล้วล่ะ”
ลู่ม่านแสยะยิ้มเย็นชา จ้าวซื่อเก็บทุกเม็ดจริงๆสินะ อยากให้นางอยู่บ้านทำอาหารล่ะสิ?
“ได้สิ!” ลู่ม่านหยักหน้า “งั้นพี่สะใภ้ใหญ่ก็ไปทำงานในนากับพวกท่านพ่อทุกวันแล้วกัน จะได้ช่วยพวกผู้ชายแบ่งเบาภาระด้วย”
นางตั้งใจพูดเสียงดัง พวกผู้ชายที่อยู่ทางนั้นต่างก็มองมาทางนี้กันหมด
จ้าวซื่อขี้เกียจมาก ปกติชอบใช้ข้ออ้างทำอาหารไม่ไปทำงานอยู่บ่อยครั้ง ครั้งนี้ได้ยินลู่ม่านบอกให้นางไปทำงาน นางไม่มีทางทำอยู่แล้ว
“น้องเสี่ยวม่าน ข้าแค่ล้อเล่นเอง จะให้เจ้าทำอาหารทุกวันได้อย่างไร?”
เฉินจื่อฉายเห็นแล้วก็รีบพูดว่า “จ้าวซื่อ เจ้าพูดไร้สาระอะไรอีกแล้ว?”
จ้าวซื่อก็ถึงหุบปาก คีบผัดผักกาดให้เถาฮัวอย่างไม่พอใจแรงๆ “กิน!”
พอพูดจบ ทันใดนั้นเฉินหลี่ซื่อก็ใช้ตะเกียบฟาดไปที่หลังมือของจ้าวซื่อ “ทำไมไม่กินให้ตายล่ะ? กิน?”
จ้าวซื่อเก็บจนร้องซี๊ดออกมา “ท่านแม่ทำอะไรน่ะ? คนเยอะแยะไม่ตี มาตีข้าทำไม?”
เฉินหลี่ซื่อไม่ได้อยากตีจ้าวซื่อ แต่จ้าวซื่อโดดเด่นเกินไป จึงถูกใช้เป็นข้ออ้าง
โดยเฉพาะ ตอนที่ทุกคนยอมรับว่าลู่ม่านทำอาหารอร่อย นั่นเหมือนกำลังตบหน้านางอยู่เลย เหมือนกำลังบอกว่าเมื่อก่อนนางอมของไว้ไม่ยอมทำให้พวกเขา!
“ข้าจะตีเจ้า! ตีเจ้าแล้วยังไง?” เฉินหลี่ซื่อว่าแล้วตีอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ตีพลาด ตีโดนตัวของเถาฮัวเข้า
เถาฮัวโตกว่าเหอฮัว แต่ปกตินางถูกจ้าวซื่อตามใจจนเป็นนิสัย จึงค่อนข้างอ่อนแอ
พอถูกตีแบบนี้ นางก็ร้องไห้ออกมาเสียงดังทันที
ถึงแม้จ้าวซื่อจะชอบเอารัดเอาเปรียบ นิสัยไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ก็รักลูกตัวเองมาก ตอนนี้เถาฮัวถูกตีแบบนี้ นางก็ทนไม่ไหว ลุกขึ้นพลิกโต๊ะจนคว่ำ
“ไม่ต้องกินมันแล้ว ยัยแก่!”
โชคดีที่ลู่ม่านไหวพริบเร็ว รีบดึงตัวเหอฮัวออกมา ก็ถึงไม่โดนโต๊ะทับเอา หลิวซื่อมองดูจ้าวซื่ออย่างหวาดกลัว คงเป็นเพราะความขี้ขลาดของนาง ไม่เคยเห็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งแบบนี้มาก่อน
เฉินหลี่ซื่อโกรธจนมือไม้สั่นเทา “เจ้าเรียกข้าว่าไงนะ? เจ้าว่ามาใหม่สิ?”
“ยัยแก่ ข้าเรียกเจ้าแล้วยังไง เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาตีลูกสาวข้า?”
“ข้าตายเสียดีกว่า!” เฉินหลี่ซื่อนั่งลงไปบนพื้น ร้องไห้โฮเสียงดัง เฉินหลิ่วเอ๋อปกป้องแม่ตัวเอง เข้าไปอยากจะตบจ้าวซื่อ แต่กลับถูกจ้าวซื่อผลักออกไปเสียก่อน
เฉินหลิ่วเอ๋อโกรธจนตะโกนไปข้างนอกว่า “เฉินจื่อฉาย เจ้าโง่หรือไงกัน? แม่กับน้องถูกรังแกขนาดนี้แล้ว เจ้ายังจะดูอยู่อย่างนั้นอีกเหรอ?”
เฉินจื่อฉายก็ถึงรู้ตัว รีบเดินเข้ามาข้างใน กระชากผมของจ้าวซื่อ แล้วลากนางออกไป
“ยัยบ้า เจ้าบ้าไปแล้วไง?”
“เฉินจื่อฉาย! เจ้าไม่เห็นว่าลูกสาวถูกตีหรือไง? ข้าก็แค่กินอาหารไปผิดหัวใครกัน?”
เถาฮัวและเฉินสือซ่วนที่อยู่นอกห้องเห็นเช่นนี้แล้วก็ร้องไห้แล้วรีบตามออกไป เสียงไกลออกไปเรื่อยๆ
เพราะมีเรื่องนี้เข้ามาแทรก จะกินก็กินไม่ได้แล้ว ลู่ม่านจึงพาเหอฮัวกับหลิวซื่อเดินออกไป พวกผู้ชายก็เข้าไปปลอบใจเฉินหลี่ซื่อ
หลิวซื่อเอ่ยขึ้น “พี่สะใภ้ใหญ่กล้าหาญจริงๆ……”
ลู่ม่านรู้สึกว่าครั้งนี้จ้าวซื่อทำดีมาก “การเป็นแม่คน ปกป้องลูกแบบนี้ถูกต้องแล้ว ข้ารู้สึกว่าพี่สะใภ้ใหญ่เก่งมากจริงๆ”
หลิวซื่อได้ยินแล้ว ก็มองไปยังเหอฮัวที่ตัวผอมแห้ง อดไม่ได้ครุ่นคิดตาม
