ตอนที่ 4 ในอ้อมแขน 60% hot

หลายวันแล้วที่เขาแอบสังเกตดูเธอจากที่ไกลๆ สัมผัสได้ถึงความเหงา เหว่ว้า เหมือนว่าเธอกำลังรอคอยใครสักคน แล้วคนที่เธอกำลังคิดถึงจะใช่คนที่เธอรักหรือเปล่า แต่ถ้าเธอมีใครอยู่ในใจแล้วจริงๆ ทำไมเธอถึงได้ประหม่าเมื่ออยู่ต่อหน้าเขาล่ะ

‘หรือว่าใครคนนั้นจะเป็นเขาเอง’ ชายหนุ่มคิดเข้าข้างตนเอง

ผู้หญิงสาวๆหลายคนในหมู่บ้าน ตั้งแต่วันแรกที่เขาย้ายเข้ามาในบ้านหลังนี้ พวกเธอมักจะมาเกี้ยวเขา มาทักทายเขา และทอดสะพานให้เขาอยู่บ่อยครั้ง จนเขาเห็นเป็นเรื่องปกติ แต่ว่าที่ไม่ปกติก็คือเธอคนนี้

บ่อยครั้งที่เธอมองมาที่เขา ทว่าพอเขาหันกลับไปมอง เธอ เธอกลับหลบหน้าเขาตลอด และหลายครั้งที่เธอมองหาเขาทางหน้าต่าง พอเขาสบตาเธอเข้าจังๆ เธอก็รีบผลุบหายไป ดูท่าทางตกใจเหมือนเห็นเขาเป็นผียังไงยังงั้น

แล้วตอนนี้ เธอก็กำลังใจเต้นแรงในวงแขนของเขาแบบหวั่นๆ แต่กลับไม่ขัดขืน เธอมองเขาเหมือนกับว่าเธอกำลังฝันอยู่อย่างนั้นแหละ

เพราะในแววตาของเธอดูมีเครื่องหมายคำถามอยู่ตลอดเวลา แม้ว่าร่างกายของเธอกำลังประหม่าตื่นเต้นจนหน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงอย่างเห็นได้ชัดก็ตาม เขาจึงอดขำและอดเอ็นดูเธอไม่ได้

เหตุที่เขามาซื้อบ้านหลังนี้ เพราะมันเป็นบ้านที่อยู่ท้ายหมู่บ้าน มันดูสงบและอากาศปลอดโปร่งดีมาก เขาเป็นครูสอนภาษาที่ย้ายมาจากกทม.เนื่องจากเบื่ออากาศที่ร้อนอบอ้าวและรถราที่ติดเป็นพรืดในแต่ละวัน

เขาจึงขอลาออกจากสถาบันการสอนภาษาที่เมืองกรุง มาเป็นอาจารย์สอนภาษาอยู่แถวบ้านนอกแทน แต่ว่าช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอม สถาบันสอนภาษาจึงหยุดตาม วันนี้เขาก็เลยมีเวลาไปเที่ยวสถานบันเทิงจนดึกดื่นบ้าง แต่ไม่คิดว่าดึกขนาดนี้แล้ว พอกลับมาถึงบ้านเขากลับพบว่าสาวน้อยข้างบ้านคนนี้ ยังมานอนอยู่ที่ชิงช้านี่อีก มันดูอันตรายเกินไปหรือเปล่า

แม้ว่าจะเป็นหมู่บ้านเล็กๆที่เงียบสงบ ไม่น่าจะมีอันตรายใดๆ แต่ว่าหากมีคนเมา หรือว่าพวกงูหรือสัต์ร้ายที่ออกหากินตอนกลางคืนมาเจอเข้าจะเป็นยังไง ทำไมเธอถึงได้ไม่ระวังตัวเองเลย แถมตอนนี้ที่ตกมาอยู่ในอ้อมกอดของเขา เธอก็ยังดูเบลอๆงงๆ เหมือนยังแยกไม่ออกอีกว่านี่เป็นความฝันหรือว่าความจริง

‘ช่างไร้เดียงสาจริงๆ’

เธอไม่คิดว่าเขาจะเป็นอันตรายกับเธอเลยหรือไง

‘จูบสักทีดีไหม’

แค่คิดมอล์ฟก็รู้สึกตื่นเต้นและร้อนฉ่าไปทั้งร่าง

ความเป็นสัตว์ร้ายเพศผู้ในตัวถูกปลุกให้ตื่นโดยไม่รู้ตัว เพราะดวงตาใสแจ๋วที่มองเขาไม่กะพริบ และปากเล็กจิ้มลิ้มที่อ้าเผยอน้อยๆนี่อีก มันทำให้เลือดในกายของเขาสูบฉีดแรงขึ้นไปอีกจนเริ่มหายใจถี่ขึ้นเมื่อตาคมหลุบมองต่ำลงจดจ้องที่ริมฝีปากเล็กสีแดงอมชมพูเหมือนกำลังมองรวงน้ำผึ้งที่เขาอยากจะแลบลิ้นกวาดกินให้หนำใจ

‘จะหวานสักแค่ไหน’

ความรู้สึกภายในเริ่มเรียกร้องหนักขึ้น จนหน้าอกกว้างกระเพื่อมขึ้นไม่ต่างกับคนตัวเล็ก ที่จ้องมองเขาราวกับถูกมนตร์สะกด

ชายหนุ่มกลืนน้ำลาย พยายามหักห้ามใจตนเองอย่างที่สุดที่จะไม่ล่วงเกินสาวน้อยในอ้อมแขนไปมากกว่านี้ แต่ว่ามันช่างยากเย็นเหลือเกิน

ท่ามกลางอากาศยามค่ำคืนที่ปลอดโปร่งเย็นสบาย สายลมพัดอ่อนๆ ภายใต้แสงจันทร์นวลผ่องที่ส่องประกายบนน่านฟ้า สาดส่องลงมากระทบดวงตาใสแจ๋วของเธอให้ไหวระริกไปมา ช่างน่าพิสมัยนัก

ความสวยงามที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ ทุกอย่างรอบกายดูสวยงามแสนโรแมนติกไปหมด โดยเฉพาะริมฝีปากเล็กที่สวยน่ามองและน่าลิ้มลองรสชาติจนเขาแทบจะหักห้ามใจเอาไว้ไม่ไหว ในหัวมันคิดแต่อยากจะ ‘จูบ’ เธอเสียให้รู้แล้วรู้รอดไป

และชายหนุ่มลงทำมือในสิ่งที่เขากำลังคิด

ปากอุ่นจัดโฉบลงมาบดจูบปากเล็กตามที่ใจเรียกร้องต้องการอย่างรวดเร็ว เขาประกบปากสอดลิ้นเข้าไปดูดกินความหอมหวานภายในโพรงปากนุ่มของหญิงสาว ด้วยความกระหายหิว โดยไม่อาจห้ามใจได้เลย