บท
ตั้งค่า

ข้อตกลง 1

“ท่านแม่ พอเถอะขอรับ” ไป่จวิ้นบอกมารดาด้วย

สีหน้าเศร้าสร้อยไม่ต่างกับคนเป็นแม่

“...แม่ขอโทษนะจวิ้นเอ๋อร์” ถ้าหากนางไม่รบเร้าให้ลูกรับราชการตั้งแต่ต้น เรื่องคงไม่กลายเป็นแบบนี้

“ไม่ใช่ความผิดท่านแม่เสียหน่อย อย่าโทษตัวเองเลยขอรับ แล้วข้าก็เป็นคนตัดสินใจในท้ายที่สุด ท่านแม่ไม่ได้บังคับข้าเสียหน่อย”

หงเสวียนซู่พูดไม่ออก บุตรชายผู้กตัญญูและซื่อสัตย์ของนางต้องมีสภาพเป็นแบบนี้ เพราะมีหัวหน้าไม่ได้ความ กองทหารที่ไป่จวิ้นสังกัดอยู่นั้นมีทหารบาดเจ็บล้มตายและพิการมากเป็นประวัติการณ์ ทั้งที่ไม่ใช่สงครามใหญ่ระดับแคว้น นายกองคนนั้นถูกลงโทษจากความสะเพร่าของตน แต่แล้วอย่างไร บุตรชายของนางได้อะไรกันล่ะ

ไป่จวิ้นรับราชการต่อไม่ได้ ถึงจะมีเงินชดเชยมอบให้ก้อนหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้มากมายเพราะเป็นเพียงพลทหาร

หนำซ้ำยังหาคนแต่งงานด้วยไม่ได้เพราะสภาพร่างกายเช่นนี้ ไม่ว่าไปทาบทามสู่ขอลูกสาวบ้านใดล้วนถูกปฏิเสธ

สามีของหงเสวียนซู่จากไปแล้ว หน้าที่นี้จึงเป็นนางรับผิดชอบ หากทำไม่สำเร็จคงไม่มีหน้าไปเจอบรรพบุรุษ นางอับจนหนทางต้องยอมอายใช้เงินแลกเปลี่ยน

จะไม่มีใครต้องการบุตรชายของนางเป็นสามีจริง ๆ หรือ

“เฮ่อ…จวิ้นเอ๋อร์ไปผ่าฟืนต่อเถอะลูก แม่จะไปทำมื้อเที่ยง นี่ก็เลยเวลามาเยอะแล้ว คุยเรื่องนี้กันก่อนกินข้าวรสชาติอาหารคงเฝื่อนแย่”

หงเสวียนซู่ไม่อยากให้ลูกชายเป็นกังวล ถึงเขาจะบอกว่าไม่เป็นไร แต่คงวิตกและโทษตัวเองไม่ต่างจากนาง เรื่องนี้ให้คนเป็นแม่อับอายคนเดียวก็พอแล้ว

ไป่จวิ้นใช้ไม้เท้าเดินค้ำยันมานั่งผ่าฟืนที่หลังบ้านด้วยสีหน้าสลดหดหู่ เกียรติเพื่อวงศ์ตระกูลอะไรกัน ตอนนี้กระทั่งเกียรติของความเป็นคนก็ไม่มีเหลือด้วยซ้ำ แค่ชะตาพลิกผันเพียงนิดก็ทำให้ชีวิตดำดิ่งได้ขนาดนี้เลยเชียว

อย่าหวังลม ๆ แล้ง ๆ เลย ไม่มีใครต้องการเจ้าเป็นคู่ชีวิตหรอก คนไม่ได้ความเช่นนี้จะไปทำอะไรได้

ไป่จวิ้นเติบโตมาในครอบครัวอบอุ่นที่ดูประหลาดในสายตาคนนอกอยู่เล็กน้อย ที่แคว้นนี้ไม่ว่าครอบครัวไหนก็ถูกสอนว่า ภรรยาต้องเชื่อฟังสามี หรือไม่ก็ภรรยาเป็นสมบัติของสามี แม้จะต่างถิ่นฐานแต่ก็สอนสั่งมาคล้ายกัน

เมื่อออกไปเจอสังคมข้างนอก ตนจึงรู้ว่าครอบครัวไป่แตกต่าง เพราะคนที่เชื่อฟังอีกฝ่ายคือบิดาของเขาต่างหาก

ไป่จวิ้นเห็นท่านพ่อท่านแม่รักใคร่กันดีแม้จะแตกต่าง เขาจึงตระหนักว่าเรื่องพวกนี้ไม่เกี่ยวกันเลย ตั้งแต่นั้นก็ตั้งใจว่า หากพบคนที่ตนรักและได้ครองคู่กันดังหวัง เขาจะฟังนาง ฟังสิ่งที่นางร้องขอ ฟังความคิดเห็นของนาง และความต้องการของนาง เขาจะรับฟังทั้งหมดแล้วก้าวเดินไปด้วยกัน

น่าเสียดายที่ความใฝ่ฝันนั้นคงไม่มีทางเป็นจริง

หงเสวียนซู่ก้มมองน้ำในหม้อเดือดพล่านอย่างเหม่อลอย ถึงจะตัดสินใจทำลงไปแล้ว แต่ก็อดถามตัวเองไม่ได้ว่า ทำแบบนี้ดีแล้วแน่หรือ สิ่งที่นางทำส่งผลให้ครอบครัวถูก

ติฉินนินทาตกเป็นขี้ปากชาวบ้านทุกวัน

ถ้าถึงที่สุดแล้วไม่มีใครยอมมา คงต้องจ้างวานให้คนอื่นอุ้มท้องแล้วเอาแต่เด็กมา…

นั่นเป็นทางเลือกสุดท้ายของสุดท้ายที่นางคิดไว้ ภาวนาอย่าให้ตัวเองกับบุตรต้องไปถึงจุดนั้น หากเมื่อทำไปแล้วก็ต้องออกจากเมืองนี้ ที่ดินและบ้านก็ต้องขายทิ้ง เงินที่ลูกชายของนางเก็บหอมรอมริบจนได้มา สุดท้ายก็ต้องตัดใจทิ้งอย่างนั้นหรือ

“...มีใครอยู่ไหม มีใครอยู่หรือไม่เจ้าคะ!”

เสียงตะโกนดังลั่นจากหน้าบ้านทำให้คนกำลังเคี่ยวน้ำแกงสะดุ้งโหยง หงเสวียนซู่ตกใจจนทำกระบวยร่วงจากมือ นางผลักประตูออกอย่างแรงด้วยความหงุดหงิด ตั้งใจจะตะคอกถามกลับเสียด้วยซ้ำหากไม่ได้เห็นใบหน้านั้นเข้าก่อน

ถ้าไม่ได้เห็นชุดโทรม ๆ เก่า ๆ ที่สวมอยู่คงเข้าใจผิดว่าเป็นคุณหนูบ้านไหนเข้าแล้ว

สำหรับสาวชาวบ้านธรรมดานับว่าดูแลตัวเองได้ดีเกินพอเชียวละ

“มีธุระอะไร”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel