บท
ตั้งค่า

บทที่ 6 เกิดอะไรขึ้น 2

“อาเจิน ตบหน้า...”

อาเจินได้ยินดังนั้นก็พลันยกมือขึ้นตบหน้าตนเองตามคำสั่งอย่างแรง

เพี๊ยะ!

“พอหรือไม่เจ้าคะ”

อาเจินตบตนเองแรงยิ่งนัก นางไม่รู้ว่าทำสิ่งใดผิดคุณหนูจึงได้ลุกขึ้นมาลงโทษกลางดึก แต่การทำโทษนางโดยไร้เหตุผลเพียงเพราะหงุดหงิดเล็กน้อย คุณหนูก็ลงมือมาเสมอ

ยามนี้นางตบตัวเองยังรู้สึกดีเสียกว่าถูกคุณหนูตบ

ซูลี่จูตกใจยิ่งนัก นางรีบจับมือของอาเจินเอาไว้

“ไม่ใช่ ข้าไม่ได้ให้เจ้าตีตนเอง อาเจินข้าขอโทษ แต่เจ้าจะช่วยตบหน้าข้าได้หรือไม่”

นางย่อมรู้ว่าอาเจินกำลังตัวสั่น สตรีนางนี้กลายเป็นอาเจินคนเดิมก่อนที่จะเกิดเรื่องกับสกุลซูไปแล้ว

“คะ คุณหนู บ่าวไม่กล้า”

อาเจินยิ่งรู้สึกว่าซูลี่จูมีใจวิปริตผิดเพี้ยนขึ้นทุกวันแล้ว นางเป็นสตรีร้ายกาจที่ไม่อาจคาดเดาอารมณ์ได้อย่างน่ากลัว

“ตบข้า อาเจิน ถ้าเจ้าไม่ตบ...”

อาเจินถูกเสียงของคุณหนูข่มขวัญ จึงได้ยกมือขึ้นแล้วฟาดเข้าไปที่แก้มของซูลี่จู แต่น้ำหนักมือเบายิ่งนัก

ซูลี่จูไม่ได้ล้อเล่น ในเมื่ออาเจินไม่ลงมือ นางจึงตบหน้าตนเองอย่างแรง

“โอ๊ย เจ็บ!”

“คุณหนู อย่าทำเช่นนี้เจ้าค่ะ เจ็บหรือไม่ ตีบ่าวแทนเถิดเจ้าค่ะ จะโกรธอันใดก็ตีบ่าวเถิด คุณหนูไม่สบายอยู่นะเจ้าคะ ตบตนเองแรงเช่นนั้นได้อย่างไร”

อาเจินเห็นซูลี่จูตบตนเองก็รู้สึกสงสาร นางถูกเลี้ยงดูให้เติบโตมาเพื่อปกป้องผู้เป็นนาย เป็นมือเป็นเท้าเป็นกระโถนรองรับอารมณ์ และเป็นทุกอย่างให้ซูลี่จู ความเจ็บนางทนได้แต่เมื่อเห็นซูลี่จูเจ็บอาเจินกลับรู้สึกทนไม่ได้

ซูลี่จูร้องไห้จนสะอื้น นางปาดน้ำตาแล้วเอ่ยว่า

“อาเจิน คงมีเพียงเจ้าที่ดีกับข้าที่สุด ต่อไปข้าจะชดใช้ให้เจ้า จะดีต่อเจ้า จะไม่ทำร้ายเจ้าอีกและจะปกป้องเจ้าเอง”

“คุณหนูเจ้าคะ นอนลงนะเจ้าคะบ่าวจะไปหายามาทาให้ท่านเจ้าค่ะ”

ความเจ็บนี้ทำให้ซูลี่จูเข้าใจแล้ว ว่ากำลังเกิดสิ่งใดขึ้น นางได้โอกาสในการกลับมาอีกครั้ง คำอ้อนวอนก่อนตายของนางนั้นส่งผล สวรรค์จึงได้เมตตานางเช่นนี้

ซูลี่จูปล่อยให้อาเจินจุดตะเกียง ภายในห้องสว่างขึ้นมาโดยพลัน อาเจินเดินเข้ามาพร้อมกับยาในมือ นางคุกเข่าแทบเท้าของซูลี่จู แต่กลับถูกซูลี่จูดึงมือของนางขึ้นมาให้นั่งลงบนเตียง

ด้วยความเคยชิน คิดว่าตนเองจะถูกทำร้าย อาเจินจึงหลับตาพร้อมกัดฟันแน่น

ในชาติก่อนซูลี่จูมักจะเห็นภาพนี้จนชินตา ก่อนที่นางจะตกระกำลำบากทุกครั้งที่เห็นอาเจินทำเช่นนี้นางมักจะมีอารมณ์โมโหและตบตีอาเจินราวกับสตรีบ้าคลั่ง

ทว่าหลังจากหลบหนีไปพร้อมกัน อาเจินที่คอยปกป้องนางและไม่ทอดทิ้งนางไปที่ใด ทำให้ซูลี่จูกลับใจได้ในที่สุด

ซูลี่จูจับมือของอาเจินจากนั้นจึงสัมผัสใบหน้าเล็กของสาวใช้เบา ๆ เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนแบบที่อาเจินไม่เคยได้ยินมาก่อนในชีวิต

“ข้าไม่ตีเจ้า ต่อไปจะไม่ตีเจ้าอีกแล้ว อาเจินอย่ากลัวข้าจะได้หรือไม่ ชีวิตของข้านอกจากเจ้าแล้วก็ไม่มีผู้ใดอีก อาเจิน ข้าขอโทษทุกอย่างที่ผ่านมา เจ้าจะยกโทษให้ข้าได้หรือไม่”

“คะ คุณหนู ยะ ไย...”

หรือท่านหมอให้ยาผิด คุณหนูจึงกล่าวขอโทษนาง

“เจ้ามองข้าเถิด เห็นหรือไม่ว่าข้าไม่ได้ทำอะไรเจ้าเลยแม้แต่น้อย”

อาเจินค่อย ๆ ลืมตา ไม่มีการลงโทษ ไม่มีคำด่าหยาบคาย คุณหนูพูดจากับนางด้วยน้ำเสียงที่ดียิ่งนัก ดีจนอาเจินยิ่งหวาดกลัว

ซูลี่จูยิ้มอ่อนหวาน

“อาเจิน โปรดเชื่อคุณหนูของเจ้าสักครั้งได้หรือไม่”

ถึงจะหวาดระแวง แต่นิสัยของอาเจินก็คือทุกอย่างล้วนตามใจซูลี่จู ในที่สุดนางก็ฝืนยิ้มแล้วพยักหน้าเบา ๆ

“เจ้าค่ะ”

“นั่งลงตรงนี้ ข้าง ๆ ข้า ต่อไปเจ้าไม่ต้องคุกเข่าให้ข้าอีกเข้าใจหรือไม่”

ซูลี่จูยังคงเห็นความหวาดระแวงในแววตาของสาวใช้ แต่เอาเถิดนางจะค่อย ๆ ใช้เวลาเยียวยาทุกอย่างที่ผ่านมา ชาตินี้นางไม่มีทางทำผิดซ้ำสองอีกเป็นแน่

อาเจินช่วยซูลี่จูทายา และซูลี่จูก็ช่วยทายาที่แก้มของนางให้เช่นกัน

อาเจินเห็นท่าทางอ่อนโยนเช่นนั้นของซูลี่จู จึงรวบรวมความกล้าเอ่ยปากถามนาง

“คุณหนู ท่านฝันร้ายหรือเจ้าคะ”

ซูลี่จูชะงักมือเล็กน้อย ก่อนที่จะทายาให้อาเจินต่อ จากนั้นจึงเอ่ยว่า

“อือ ข้าฝันร้ายอาเจินข้าฝันร้าย เป็นฝันที่น่ากลัวเหลือเกิน น่ากลัวจนข้าคิดว่าข้าตายไปแล้วจริง ๆ”

หัวใจของซูลี่จูบัดนี้เต้นแรงยิ่งนัก นางทั้งดีใจทั้งตื่นเต้นที่ได้ย้อนกลับมาอีกครั้ง

ขอให้เป็นเพียงฝันจริง ๆ เถิด

“อาเจินข้ากอดเจ้าอีกได้หรือไม่”

อาเจินมองใบหน้างามของนายหญิงของตนเอง ดวงตาคู่งามคลอไปด้วยหยาดน้ำตา

อาเจินยิ่งสงสัยในท่าทางของซูลี่จู โดยปกติแล้วนายของนางผู้นี้เป็นคนเย่อหยิ่งและถือตัว ทว่าวันนี้ถึงกับดึงบ่าวรับใช้เช่นนางไปกอดในอ้อมแขน

ซูลี่จูร้องไห้ อาเจินปล่อยให้นางร้องจนหยุดไปเอง ซูลี่จูมองหน้าอาเจิน คล้ายกับว่าเพิ่งได้พบหน้ากันคราแรกหลังจากที่พลัดพรากมาเนิ่นนาน

ประหลาดยิ่ง อาเจินจึงตัดสินใจเอ่ยถาม

"คุณหนูท่านคงเสียใจที่นายท่านไม่สนใจใช่หรือไม่เจ้าคะ นายท่านก็เป็นเช่นนั้นเฉยชาและไม่สนใจคุณหนูเลย อย่าทำร้ายตนเองเพื่อนายท่านอีกเลยนะเจ้าคะ ไม่คุ้มเลยสักนิด”

ซูลี่จูยิ้มเศร้าสร้อย นางย่อมจำได้วันนี้เกาเฟยอวี่มีปากเสียงกับนางเรื่องที่นางคอยตามตอแยเขาไม่เว้นวันจนเขาหาความสงบไม่ได้ ด้วยนางหึงเขาจนหน้ามืดตามัวและคิดว่าเพราะอันผิงจือที่ทำให้เกาเฟยอวี่เป็นเช่นนี้

เขาปิดประตูไม่ยอมพบหน้านาง ส่วนนางก็ไม่ยอมขยับด้วยใจหนึ่งดื้อรั้นอีกใจหนึ่งคิดจะทำให้เขาเห็นใจนางบ้าง กระทั่งฝนตกลงมาอย่างหนัก ซูลี่จูก็ยังยืนนิ่ง

นางคิดไปเองว่า เขาคงไม่ปล่อยให้นางตากฝนอยู่เช่นนี้กระมัง เขาจะหันมาสนใจนางบ้างถ้านางลำบากเพราะเขา แต่เขาก็คือเขาคนที่ไม่สนใจและไม่เหลียวแลคนเดิม

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel