ตอนที่เจ็ด ตัวร้ายหรือ 1
ตอนที่เจ็ด
ตัวร้ายหรือ
มิคาดว่าเย็นวันหนึ่งขณะที่นางเดินอย่างเหม่อลอยในสวนข้างตำหนักกลับพบกับองค์ชายสิบเข้าโดยบังเอิญ
บทจะได้พบก็ได้เห็นหน้าหล่อเหลาจนเต็มตา บทจะไม่ได้เห็นอยู่มาเป็นเดือนก็ราวกับเงาล่องหน
ชิงชิงบ่นงึมงำขณะลอบมองเสี้ยวหน้าของเจ้านายหนุ่มอย่างหลงใหล
“เจ้าจะมองอีกนานหรือไม่ ยังไม่ออกมาอีก” เสียงตวาดดังออกมาจนชิงชิงตกใจ
เสียงตวาดดังออกมาจากปากขององค์ชายหมิงเล่อซึ่งนั่งหันหลังอยู่
เขารู้ด้วยหรือว่านางลอบมองอยู่ นางอุตส่าห์ซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้ถึงเพียงนี้
สาวน้อยชิงชิงค่อยๆลุกขึ้นเดินอย่างเชื่องช้าไปยังเบื้องหน้าองค์ชายหมิงเล่อ
“เจ้านั่นเอง” ไม่น่าเชื่อว่าองค์ชายหนุ่มจะจดจำสาวน้อยตัวประกอบซึ่งไร้ความสำคัญนางนี้ได้
“ถวายบังคมองค์ชายสิบเพคะ” ชิงชิงทำความเคารพตามอย่างที่ได้รับการสั่งสอนอย่างกวดขันจากหัวหน้าหวั่นเจียว ศีรษะน้อยๆก้มต่ำไม่กล้ามองหน้าหล่อเหลาตรงๆอย่างที่ใจอยาก
“มาลอบทำอันใด” เสียงดุดันยังคงตวาดใส่จนชิงชิงเริ่มสั่นกลัว
“หม่อมฉัน...เอ่อ...มา...มาเก็บดอกไม้เพคะ” ชิงชิงหลับหูหลับตาแถแก้ตัวไปอย่างน้ำขุ่นๆ
สวนด้านนี้มีดอกไม้ที่ใดกัน
องค์ชายสิบย่อมรู้ดีเช่นกันจึงตวาดถามซักไซ้ออกมาอีก
“ดอกไม้อยู่ที่ใด”
“อยู่...เอ่อ...หม่อมฉันหลงทางเพคะ ฮือๆๆๆ” เมื่อหาทางลงไม่ได้ สาวน้อยชิงชิงจึงใช้วิธีร้องห่มร้องไห้เพื่อกลบเกลื่อน นางคุกเข่าลงบนพื้นแล้วก้มหน้าก้มตาร้องโฮๆ สองมือปาดป่ายน้ำตาที่หลั่งไหลออกมาด้วยความหวาดกลัว
เหตุใดคนหล่อต้องดุมากถึงเพียงนี้
องค์ชายสิบนิ่งเงียบอยู่พักหนึ่งก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่าย
“หยุดร้องไห้ ข้าไม่ชอบเห็นน้ำตา” เสียงที่เปล่งออกมายังคงดุดันแต่เบาลงกว่าเดิมมาก
สาวน้อยชิงชิงค่อยๆเปลี่ยนเป็นสะอึกสะอื้น
“เจ้าเคยขายของอยู่ที่ตลาดใช่หรือไม่” จู่ๆองค์ชายหนุ่มก็เอ่ยถาม
“ใช่เพคะ” ชิงชิงตอบตามจริงโดยยังคงสะอึกสะอื้นเบาๆ
“เช่นนั้นตามข้าออกไปที่ตลาดด้วยกัน” องค์ชายสุดหล่อออกคำสั่งแล้วเดินจ้ำอ้าวนำหน้าออกไปโดยไม่รั้งรอ
ชิงชิงตาโตอย่างตกใจ สองมือป่ายปาดน้ำตาลวกๆแล้วกึ่งวิ่งกึ่งเดินตามหลังไปด้วยเกรงจะโดนลงโทษที่ชักช้า
เมื่อเห็นรถม้าซึ่งจัดเตรียมรอไว้อยู่แล้ว ชิงชิงจึงยืนละล้าละลังด้วยไม่แน่ใจว่าต้องทำอย่างไร
“ขึ้นไปนั่งด้านหน้า เกะกะจริง”
องค์ชายหนุ่มก้าวพรวดขึ้นไปนั่งด้านใน ก่อนจะส่งเสียงเร่งออกมาอย่างรำคาญใจ
“รีบขึ้นมา หรือว่าเจ้ามีปัญหา”
“ไม่มีเพคะ” ชิงชิงคิดต่อในใจว่าก่อนจะปีนขึ้นไปนั่งด้านหน้าของรถม้าอย่างทุลักทุเล
ผู้ใดจะกล้ามีปัญหากับองค์ชายเล่า
แล้วองครักษ์ทึ่มทื่อพวกนี้ไม่คิดจะช่วยนางบ้างหรืออย่างไรกัน
สาวน้อยชิงชิงนั่งด้านหน้ารถม้าออกจากวังอย่างคึกคัก ตั้งแต่นางเข้ามาอยู่ที่นี่ ยังไม่มีโอกาสได้ก้าวเท้าออกมาเลยสักครั้ง ครานี้ได้ออกมากับองค์ชายสุดหล่อเสียด้วย ช่างเป็นเรื่องดีนัก
ขบวนเดินทางจัดผู้คุ้มกันเพียงไม่กี่คน มองเผินๆคล้ายดั่งคุณชายหนุ่มรูปงามผู้หนึ่งออกมาเที่ยวชมตลาดกับสาวใช้ประจำตัว ไม่นานขบวนเล็กๆก็มาถึงยังตลาดกลางเมือง
ชิงชิงมองซ้ายมองขวาอย่างคุ้นเคย นางจากที่นี่ไปนานเป็นเดือนแต่ทุกสิ่งทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม เหล่าตัวประกอบทุกคนยังคงใช้ชีวิตไปตามวงล้อโดยไม่มีหยุดพักและเปลี่ยนแปลง
ความจริงหญิงสาวอยากแวะทักทายป้าเกาและคนเก่าแก่ที่รู้จักแต่เมื่อถึงหน้าถนนหนึ่ง องค์ชายสิบกลับลงมาจากรถม้าแล้วเดินเท้าชมข้าวของสองข้างทางคล้ายกำลังเพลิดเพลินไปกับความครึกครื้น
แน่นอนว่านางในฐานะสาวใช้ย่อมต้องเดินตามติดไปรับใช้อย่างใกล้ชิด จนถึงร้านอาหารซึ่งตั้งอยู่หลบมุมในตรอกเล็กๆ องค์ชายหนุ่มหักเลี้ยวเข้าไปอย่างรวดเร็วจนชิงชิงเกือบหน้าขมำเลี้ยวตามแทบไม่ทัน
โอ๊ย!...จะเลี้ยวก็ไม่ให้สัญญาณกันด้วย เกือบเลยไปทิ่มเสาแล้ว
ชิงชิงได้แต่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่กับตัวเอง ในขณะที่เดินตามไปจนถึงหน้าห้องส่วนตัวห้องหนึ่งซึ่งองค์ชายสิบจ้ำพรวดเข้าไปแล้วปิดประตูใส่หน้าเสียงดัง
อ้าว...โดนทิ้งเสียแล้ว
สาวน้อยมองเลยไปเห็นเหล่าองครักษ์ยืนคุ้มกันอยู่หน้าห้องอย่างรู้หน้าที่ หญิงสาวจึงได้แต่ยืนรออยู่หน้าห้องด้วยไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร
