ฉันนี่แหละ...คุณหนูพันล้าน เซิงเกอ!

925.0K · จบแล้ว
คุณหนูเงา
452
บท
626.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เพื่อความรักแล้ว เซิงเกอทิ้งทุกอย่าง ยอมเป็นแม่บ้านเต็มตัว แต่สุดท้ายเพิ่งจะรู้ว่า ทุกความตั้งใจจริงของเธอนั้นไม่ได้รับการชายตามองของคนรักเลยสักนิด เซิงเกอท้อแท้ใจ ปักใจที่จะหย่า “ซอร์รี่นะยะ ฉันจะไม่ทนอีกต่อไปละ ได้เวลาเปิดตัวสักทีสินะ”ต่อมาไม่นาน สนั่นว่อนไปทั้งเน็ต ซุปเปอร์เศรษฐีนีพันล้าน เหมือนว่าจะหย่าแล้วงั้น?! คราวนี้ละก็ พวกบรรดาหนุ่มๆซีอีโอบอสใหญ่ต่างแก่งแย่งรุมล้อมเอาอกเอาใจกันยกใหญ่เลยทีเดียว ทำเอาเฟิงยู่เหนียนที่ดูอยู่หน้าจอพีคไปเลย วันต่อมาเปิดแถลงข่าว กล่าวอย่างสวยหรู:ขออ้อนวอนคุณภรรยากลับบ้าน!

นิยายรักโรแมนติกประธานพันล้านนางเอกเก่งพลิกชีวิต

บทที่ 1 อย่ายืดเยื้อเลย หย่ากันเถอะ

ยามรัตติกาล

เซิงเกอรู้สึกนอนไม่สบาย

เธอรู้สึกตัวเองเหมือนถูกคนกดทับไว้จนเกือบหายใจไม่ออก

ข้างหูยังมีเสียงหายใจถี่กระชั้นและเสียงหนักอึ้งส่งมาให้ได้ยิน

จากนั้นช่วงล่างของร่างกายพลันรู้สึกเจ็บปวดอย่างสุดแสน

เมื่อรับรู้ถึงความเจ็บแปลบ เซิงเกอก็ลืมตาด้วยความตื่นตระหนก ก่อนจะเห็นร่างผู้ชายคร่อมอยู่บนกายตนอย่างเลือนราง

“ยู่เหนียน ใช่คุณหรือเปล่า?”

คนนั้นเปล่งเสียงเอ่ยคำว่า“อืม”บางเบา กลิ่นเหล้าบนกายเขาแรงมาก จากนั้นนอกจากการบุกรุกในเขตหวงห้ามอย่างไม่ลดละแล้วก็ไม่มีเสียงอื่นใดอีก

เซิงเกอได้ยินเสียงอันคุ้นเคยก็โล่งอก จากนั้นก็ค่อย ๆ เคลิ้มไปตามจังหวะผู้ชาย ทั้งยังส่งเสียงครางอันทรงเสน่ห์โดยไม่รู้ตัวอีกด้วย

การบุกรุกดุเดือดขึ้นเรื่อย ๆ เธอกัดฟันทนความเจ็บจากการฉีกขาด ปล่อยตัวไปตามความเพลิดเพลินของราคะ คล้ายกับอยู่ในปุยเมฆก็ไม่ปาน

แต่งงานมาสามปี ในที่สุดเฟิงยู่เหนียนก็ยอมเสพสุขจากกายเธอ!

เพราะเธอคือภรรยาที่คุณปู่ยัดเยียดให้แก่เขา ที่ผ่านมาเขาจึงไม่เคยชายตาเหลียวมองเธอเลย

ไม่ว่าครั้งนี้เขาจะเข้าห้องนอนเธอด้วยเหตุผลประการใด

ทว่าเธอล้วนแล้วแต่ปีติยินดีทั้งสิ้น

สองชั่วโมงต่อมา เสียงครางสยิวก็เงียบหาย เฟิงยู่เหนียนนอนทับร่างเธออย่างอ่อนเปลี้ยเพลียแรง แสงจันทราที่สองผ่านหน้าต่างขับเน้นให้รูปร่างของเขาสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น

เซิงเกอฟังเสียงหัวใจของเขาเต้นรัวแรง ชวนให้รู้สึกว่าเป็นเรื่องจริง ทว่าก็เหมือนกับความฝันเล็กน้อย

หากเป็นความฝัน เธอยินดีหลับใหลตลอดกาล

เธอโอบท้ายทอยเขาด้วยความหลงใหล ด้วยเหตุที่ออกกำลังกายมาอย่างหนักหน่วง เสียงที่เอื้อนเอ่ยจึงหอบเหนื่อย “ยู่เหนียน…ยู่เหนียนฉัน……”

ยังไม่ทันได้เอ่ยคำว่า “รักคุณ”ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงพึมพำของผู้ร่วมเรียงเคียงหมอน

“อะหนิง......”

เซิงเกอตัวแข็งทื่อดั่งก้อนศิลาในบัดดล

หัวใจถูกบีบจนสั่นสะท้าน โลหิตทั่วร่างเสมือนไหลย้อนกลับ

อะหนิงคือชื่อเล่นของมู่จื่อหนิง คือรักครั้งแรกที่ตราตรึงใจเฟิงยู่เหนียน เพราะฝีมือคุณปู่ หลายปีมานี้ผู้หญิงดังกล่าวจึงอยู่แต่ต่างประเทศ

ทว่าเมื่อวาน มู่จื่อหนิงกลับเข้าประเทศแล้ว

ทั้งยังส่งข้อความท้าทายให้เธออีกต่างหาก

“เซิงเกอ ฉันกลับมาแล้ว ตระกูลเฟิงไม่มีพื้นที่สำหรับเธออีกต่อไป”

“ฉันกับอะยู่รักกันมาตั้งแต่เด็ก เธอคิดว่าเวลาเพียงไม่กี่ปี เธอจะแทนที่ฉันได้เหรอ?!ไสหัวไป กลับไปอยู่ในศูนย์เด็กกำพร้า ที่นั่นถึงจะเป็นที่ที่เธอควรอยู่”

“เธอคงไม่รู้ว่าอะยู่รักฉันแค่ไหนสินะ ถึงเขาจะนอนอยู่กับเธอ แต่เขาก็จะเรียกชื่อฉัน ส่วนเธอก็มีค่าแค่เป็นตัวแทนของฉันเท่านั้น เซิงเกอ รสชาติแบบนี้หอมหวานไหมล่ะ?”

ตัวแทน?

เธอคือหลานสะใภ้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนของคุณปู่ คือสะใภ้ตระกูลเฟิงที่ถูกต้องตามกฎหมาย เธอคือเซิงเกอ เธอไม่ใช่ตัวแทนใครทั้งนั้น

ข้างหูยังมีเสียงเฟิงยู่เหนียนขานชื่อ“อะหนิง อะหนิง”ส่งมากระทบใบหูไม่หยุดหย่อน……

ข้อความแดกดันดังกึกก้องอยู่ในหัวไม่หยุด ย้ำเตือนให้เธอรู้ว่า ตัวเองปั้นน้ำเป็นตัว หลอกตัวเอง เข้าข้างตัวเองเสมอมา

ทันใดนั้นเซิงเกอน้ำตาไหลพรากไม่ขาดสาย กำหมัดแน่นขนัด ร่างกายสั่นเทิ้มไปหมด

หลายปีมานี้ เธอสงบเสงี่ยมเจียมตัว เอาอกเอาใจผู้คน ทั้งยังลาออกจากงาน อยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน ทำตัวเป็นภรรยาแสนดี

แม่สามีกับน้องสาวของเขารังเกียจที่เธอไม่มีชาติกำเนิด และพวกเธอยังเป็นคนยกยอคนรวย หยามเหยียบคนจน จึงพูดจาถากถางเธออยู่เสมอ เธอไม่อยากเพิ่มปัญหาให้กับเฟิงยู่เหนียน จึงกัดฟันเก็บซ่อนความขมขื่นทั้งปวงไว้คนเดียว

เพียงเพื่อต้องการได้รับความรักจากเขา แล้วเธอยังต้อยต่ำไม่พออีกหรือ?

ทำไมต้องบดขยี้ศักดิ์ศรีที่เหลืออันน้อยนิดของเธอทิ้งด้วย

ราตรีนี้ช่างยาวนานเสียจริง

เซิงเกอยากจะข่มตาหลับตลอดทั้งคืน

……

เช้าวันรุ่งขึ้น เฟิงยู่เหนียนตื่นเพราะแสงอาทิตย์ที่สาดส่องผ่านหน้าต่างแล้วทำให้แยงตา

เขานวดระหว่างคิ้ว ลืมตาก็เห็นเซิงเกอนั่งหันหลังให้เขาบนโต๊ะเครื่องแป้ง

เมื่อเหลวแหลกเมื่อคืนผุดขึ้นกลางสมองเขา จากนั้นดวงตาดำขลับของเขาหรี่ขึ้น รอบกายแผ่กลิ่นไอเย็นยะเยือกออกมา

ถึงแม้เซิงเกอจะหันหลังให้เขา ทว่าก็สัมผัสถึงรังสีพิฆาตบนกายผู้ชายอย่างฉายชัด

เธอทาครีมบำรุงต่ออย่างลอยหน้าลอยตา ทันใดนั้นข้อมือพลันถูกกระชากเต็มแรง เธอจึงถูกดึงตัวขึ้น

ครีมบำรุงหน้าหล่นใส่พื้น ขวดครีมแตกกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ครีมในขวดพลันเปรอะเปื้อนทั่วพื้น

เซิงเกอเงยหน้าจ้องเขม็ง ทว่าแววตาอันกราดเกรี้ยวและรังเกียจเดียดฉันท์ของผู้ชายยังคงทำให้หัวใจเธอสั่นระริก

“คุณคิดว่าใช้ยาชั้นต่ำและวิธีสกปรกพวกนั้นให้ผมแตะต้องคุณ จากนั้นคุณก็จะได้เป็นสะใภ้ตระกูลเฟิงอย่างแท้จริงหรอกหรือ?”

เฟิงยู่เหนียนจ้องถมึงทึงพร้อมกับแยกเขี้ยวยิงฟัน เขาไม่เพียงแต่ไม่ปล่อยมือ ทางกลับกันยังใช้แรงบีบกว่าเดิมอีกต่างหาก

ใบหน้าหล่อเหลาอันเปี่ยมไปด้วยความอำมหิต ช่างน่ากลัวเสียจริง

วางยา?

เซิงเกอยิ้มด้วยหน้าซีดขาว“ในสายตาคุณ ฉันเป็นผู้หญิงแบบนั้นเหรอ?”

เฟิงยู่เหนียนยกมุมปากด้วยความแดกดัน นัยน์ตาเอ่อล้นไปด้วยความรังเกียจ “ตอนนั้นคุณก็ใช้ลูกไม้หลอกคุณปู่ ให้คุณปู่บังคับผมแต่งงานกับคุณให้ได้ไม่ใช่เหรอ ตอนนี้มาแสร้งเป็นคนใสซื่อทำไม”

“ผู้หญิงที่เลวระยำในสายเลือดอย่างคุณ เทียบอะหนิงไม่ได้แม้แต่ปลายเล็บ”

ผู้หญิงเลวระยำในสายเลือด แสร้งใสซื่อ……

ที่แท้ ในความคิดของเขา เธอเลวร้ายขนาดนั้นเลย

ทว่าวิธีการวางยา หากเธออยากทำ คงทำไปตั้งนานแล้ว ทำไมต้องรอถึงตอนนี้?เฟิงยู่เหนียนไม่รู้จักเธอดีแท้

ความทุ่มเทพยายามของเธอตลอดทั้งสามปี ช่างตลกสิ้นดี มันไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง

เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ไม่มีความจำเป็นต้องยืนหยัดต่อไป

เซิงเกอทนความเจ็บที่เขากำข้อมือ จากนั้นก็กัดฟันสะบัดมือเขาทิ้งแรง ๆ

ก่อนจะเงยหน้าด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

“เฟิงยู่เหนียน พวกเราหย่ากันเถอะ”