บทย่อ
ฝนตกในคืนนั้น…เธอเพียงแค่ต้องการลืมอดีตด้วยจูบของคนแปลกหน้า แต่ชายลึกลับผู้แบกรอยแผลในหัวใจ กลับกลายเป็นไฟร้อนที่เผาเธอจนมอดไหม้ เมริญา ไม่เคยคิดว่าจูบเพียงครั้งเดียวจะทำให้ชีวิตเธอพลิกจากหญิงสาวธรรมดา กลายเป็นผู้หญิงที่ถูกจองจำด้วยไฟปรารถนา อินทัช ไม่ใช่แค่ชายหล่อดุดันที่ซ่อนตัวจากอดีต...แต่เขาคือความเร่าร้อนในคืนฝนพรำที่เธอไม่เคยลืมได้อีกเลย
ตอนที่ 1 จูบกลางฝนในคืนที่หลงทาง
ตอนที่ 1
จูบกลางฝนในคืนที่หลงทาง
เสียงฟ้าร้องกัมปนาทดังก้องไปทั่วผืนฟ้า คล้ายจะกลบเสียง หัวใจที่กำลังสั่นไหวและแตกสลาย ของเมริญาทิ้งไป
เมริญาตีกดพวงมาลัยแน่นจนข้อขาวขึ้นเป็นสันนูน เธอขับรถฝ่าม่านฝนที่กระหน่ำลงมาอย่างบ้าคลั่ง ออกมาจากงานหมั้นที่ควรจะเป็นคืนแห่งความสุขที่สุดในชีวิตของเธอ ทั้งที่เพชรเม็ดงามยังคงส่องประกายเย็นเยียบอยู่บนนิ้วนางข้างซ้าย แต่ทว่าหัวใจกลับ ร้าวรานเกินกว่าจะทนแบกรับไหว
“หึ…หมั้นเหรอ? ผู้ชายแบบนั้นน่ะ สมควรเหรอที่จะได้ฉันไป”
เธอพึมพำกับตัวเองในความมืดมิดและเงียบงัน น้ำเสียงเต็มไปด้วยความขมขื่น ก่อนที่เท้าเรียวจะ เหยียบเบรกอย่างแรง จนรถปาดเป๋เล็กน้อย เมื่อดวงตาเหลือบไปเห็นเพิงไม้หลังเล็กๆ ริมทางเปลี่ยวที่ดูเหมือนจะส่องประกายแวววาวด้วยแสงไฟสีส้มนวลที่ริบหรี่ราวกับจะดับมิด
หญิงสาวจอดรถชิดขอบทางอย่างไม่คิดชีวิต ดึงเสื้อคลุมหนาขึ้นเหนือศีรษะเพื่อกันฝนอย่างลวกๆ แล้ว วิ่งฝ่าสายฝนอันหนักหน่วง เข้าไปยังเพิงไม้นั้นอย่างไม่ลังเล เพียงไม่กี่ก้าว ร่างกายทั้งร่างของเธอก็ เปียกโชกไปทั้งตัว เส้นผมสีน้ำตาลเข้มลู่ลงแนบใบหน้า เสื้อผ้าเปียกแนบเนื้อจนเผยให้เห็นทรวดทรง ร่างกายสั่นสะท้านไม่หยุดหย่อน ด้วยทั้งความหนาวเหน็บจากสายฝน และ อารมณ์ที่กำลังปะทุ อย่างรุนแรงภายในอกในจังหวะที่เธอก้าวเท้าเข้าไปใต้ชายคาของเพิงไม้เล็กๆ แห่งนั้น…
เธอได้เห็น เขา… ชายแปลกหน้าผู้มาพร้อมกับรัตติกาล ในชุดดำสนิทที่เปียกปอนไม่ต่างจากเธอ เขายืนพิงเสาไม้อย่างสงบนิ่ง แต่ทว่า ดวงตาคมกริบดุจเสือป่า ที่จ้องมองมานั้นกลับแฝงด้วยอันตรายภายใต้แสงวาบของฟ้าแลบที่สว่างจ้าขึ้นชั่วขณะ
“วะ...วาเรนต์...”
เธอพึมพำเสียงแผ่วเบา ชื่อของอดีตคู่หมั้นผู้เคยสร้างบาดแผลในใจหลุดรอดจากริมฝีปากที่สั่นเทาของเธอ ใบหน้าของชายแปลกหน้าคนนี้ช่างละม้ายคล้ายคลึงกับวาเรนต์เหลือเกิน… มากพอที่จะทำให้หัวใจของเธอเต้นระรัวและหลงลืมตัวตนไปชั่วขณะ
ความมืดมิด ความอ้างว้าง ความผิดหวัง และ ความต้องการบางอย่างที่ไร้คำอธิบาย ผลักดันให้เมริญาตัดสินใจอย่างบ้าบิ่น เธอพุ่งเข้าไปหาชายคนนั้น มือเรียวคว้าหมับเข้าที่คอเสื้อเขาอย่างแรง แล้ว ประกบริมฝีปากของเธอลงไปอย่างบ้าคลั่ง!
ริมฝีปากนุ่มหยุ่นแนบชิดติดกับริมฝีปากหนาหยาบกร้านของเขาจนได้ยิน เสียงสูดหายใจที่หนักหน่วง ของชายหนุ่มในความมืด เขาชะงักไปเล็กน้อย คล้ายจะ ผลักเธอออก ด้วยความประหลาดใจ…แต่เพียงชั่ววินาทีเดียว ความลังเลนั้นก็สลายไป เขากลับกระชากร่างบอบบางของเธอเข้ามาแนบแน่น โอบกอดจนอกเธอแนบชิดกับแผงอกแข็งแกร่งของเขา ก่อนจะ จูบตอบกลับมาอย่างเร่าร้อนและดุดันยิ่งกว่า!
มันไม่ใช่แค่การสัมผัสของริมฝีปาก แต่มันคือ การกลืนกินลมหายใจ ซึ่งกันและกันอย่างหิวกระหาย และ ดุเดือดรุนแรง ชนิดที่เธอไม่เคยได้รับจากใครมาก่อน ความร้อนรุ่ม แผ่ซ่านไปทั่วสรรพางค์กาย ราวกับจะเผาไหม้ทุกสิ่งให้มอดไหม้ไปพร้อมกับหยาดฝน
ฝนยังคงโปรยปรายลงมาอย่างหนักหน่วงไม่ลดละ กลิ่นดินชื้นและกลิ่นไอฝน ผสานเข้ากับ ไอร้อนระอุ ที่แผ่ออกมาจากกายของคนทั้งสอง มือหนาของเขาเลื่อนลงลูบไล้แผ่นหลังของเธออย่างแผ่วเบา ผ่านเนื้อผ้าที่เปียกแนบเนื้อ จนสัมผัสได้ถึงความนุ่มละมุนของผิวหนังใต้ผืนผ้า สะโพกผายของเธอถูกดึงให้ แนบชิดกับต้นขาที่แข็งแรงดุจเหล็กกล้า ของเขาจนไร้ช่องว่าง
“เธอคิดว่าฉันเป็นใคร”
เสียงทุ้มแหบพร่ากระซิบถามแนบชิดใบหูของเธอ ไออุ่นจากลมหายใจของเขาสัมผัสผิวเนื้อจนรู้สึกวาบหวาม เมริญาหลับตาแน่น พยายามกลืนกินทุกสัมผัสและทุกความรู้สึกที่กำลังถาโถมเข้ามา
“ไม่รู้...แต่ได้ไหม...อย่าเพิ่งหยุด” เธอตอบกลับด้วยเสียงที่สั่นเทา ไม่มีความลังเลหลงเหลืออยู่ในน้ำเสียงนั้นอีกแล้วและเขาก็ ไม่หยุด…
ริมฝีปากหยาบกร้านของเขาเริ่มเคลื่อนไหวช้าๆ ลากผ่านแก้มเนียนนุ่ม ซอกคอขาวระหง คลอเคลียจนขนกายลุกชัน ก่อนจะ ไล่ต่ำลงไปตามกระดูกไหปลาร้า ที่นูนเด่น เธอแหงนใบหน้าขึ้นรับสัมผัสจากเขาอย่างเต็มที่ราวกับไม่เกรงกลัวว่าใครจะมาเห็น มือหนาของเขา ขยุ้มเสื้อของเธอขึ้นอย่างรวดเร็วและเด็ดขาด เผยให้เห็นชุดชั้นในที่เปียกแนบลำตัว เผยให้เห็นยอดอกที่แข็งชูชันเพราะไอเย็นจากภายนอก และ ปลายนิ้วที่เย็นเฉียบ ของเขาก็เริ่ม สำรวจร่างกายที่สั่นระริก ของเธออย่างเชื่องช้า แต่เต็มไปด้วยความเร่าร้อน
มันคือ อารมณ์ชั่ววูบที่ดิบเถื่อน แต่กลับ น่าติดใจราวกับยาเสพติด ที่ทำให้เธอไม่อาจถอนตัวได้
“ถ้าไม่หยุดตอนนี้…ฉันจะไม่ปล่อยเธอกลับไปง่ายๆ” เขาใช้เสียงพร่ากระซิบเตือนอีกครั้ง คล้ายจะให้โอกาสเธอได้คิดทบทวน
และเธอก็ตัดสินใจโดยไม่ต้องคิดซ้ำสอง… “งั้นก็อย่าหยุด”
เสื้อผ้าที่เปียกชุ่มถูกผลักออกจากร่างกายทีละชิ้นอย่างไม่ไยดี ร่างเปลือยเปล่าที่เปียกปอนด้วยหยาดฝน ถูกดันให้แนบชิดติดกับเสาไม้เย็นเฉียบ ความร้อนจากร่างกายที่แนบชิดกันช่างตรงข้ามกับความหนาวเย็นรอบกาย
เขาฝังตัวลง ไล้ลิ้นช้าๆ จากซอกคอที่หอมกรุ่นของเธอ ผ่านผิวเนียนนุ่มไปสู่ ยอดอกที่แข็งชูชัน ด้วยความปรารถนาและไอเย็นฉ่ำ มือของเธอกำเสื้อของเขาแน่นจนข้อขาว ราวกับเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวเดียวในพายุอารมณ์นี้ ขาเรียวของเธอ เกี่ยวรัดรอบเอวสอบของเขาโดยไม่รู้ตัว ราวกับจะรัดตรึงเขาไว้ไม่ให้จากไปไหน
เสียงฝนที่ซ่ากระหน่ำ ราวกับจะโหมโรงให้บทเพลงรักยามค่ำคืนนี้ ได้กลบเสียง ครางหอบ ที่เล็ดรอดออกมาจากริมฝีปากของเธอ ร่างกายที่เปลือยเปล่า กระเพื่อมโยกตามแรงกระแทก ที่แม้จะเริ่มต้นอย่างเนิบช้า แต่ทว่า ลึกซึ้งและหนักแน่น ทุกจังหวะที่เชื่อมเข้าหากันนั้น ช่างเร่งเร้าให้ความปรารถนาทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
“แรงอีก…ได้ไหม…” หญิงสาวพึมพำกระซิบเสียงพร่า พรั่งพร้อมไปด้วยความต้องการที่ไร้ขีดจำกัด ใบหน้าของเธอแหงนเงยรับสัมผัสทั้งหมดอย่างหมดสิ้น
“เธอจะขออะไร…ฉันให้หมดคืนนี้” เขากระซิบตอบกลับมาอย่างดุดัน ก่อนจะ กระแทกกายเข้าหาอย่างรุนแรงและหนักหน่วงขึ้น ตามคำขอของเธอ แรงกระแทกที่รุนแรงและเร่าร้อนนั้น ทำให้ร่างทั้งสอง แทบจะยืนไม่ไหว คล้ายจะล้มลงไปกองบนพื้นได้ทุกเมื่อ
เมื่อทุกอย่างสงบลงในที่สุด…เขาซบใบหน้าลงที่ซอกคอหอมกรุ่นของเธอ หายใจแรงราวกับสัตว์ป่า ที่เพิ่งผ่านการต่อสู้มาอย่างดุเดือด และบัดนี้กำลังจะสงบลง
ขณะที่เมริญาหลับตาแน่น…ทั้งร่างกายและหัวใจของเธอกำลัง ปั่นป่วนเกินกว่าจะเข้าใจ มันไม่ใช่ความรัก…แต่มันกลับ ร้อนรุ่มกว่าทุกความรู้สึก ที่เธอเคยรู้จักมาตลอดชีวิต
ฝนยังคงตกกระหน่ำไม่ขาดสาย…
แต่ในคืนนี้…เธอไม่ได้เปียกแค่เพราะสายฝนอีกต่อไปแล้ว… เธอกำลังเปียกชุ่มไปด้วยหยาดเหงื่อแห่งความปรารถนา และน้ำตาของความสับสนที่ไม่อาจแยกแยะได้

