บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 6

"งานของคุณสำคัญ แต่ชีวิตคนที่มีเรื่องมีราวกับคุณก็สำคัญเหมือนกัน เมื่อกี้คุณก็เห็นข่าวแล้ว นี่แค่บางส่วนที่เขียนพออ่านได้นะ คุณอยากรู้ไหมว่าไอ้ที่เขียนแล้วอยากจะเขวี้ยงทิ้ง เขียนถึงเรื่องคุณกับน้องยิหวาว่าไง"

"ผมรู้ว่าความเข้าใจผิดนี้ทำให้คุณดวงยิหวาเสียชื่อเสียง แต่ผมจะช่วยอะไรได้ ถ้าขืนผมไปแสดงตัวตอนนี้ข่าวอาจจะเขียนมากกว่านี้ ชื่อเสียงก็จะเสียมากขึ้น" โมกข์อธิบายอย่างใจเย็น

"แล้วคุณไม่คิดจะช่วยน้องยิหวาบ้างเลยเหรอ ใช่ซิ คุณสบายแล้วนี่ อยู่ในสวนไกลผู้คนแบบนี้ไม่ต้องรับรู้ว่าโลกข้างนอกเป็นไง แล้วน้องยิหวาล่ะ น้องยิหวาจะอยู่อย่างไร คุณรู้ไหมว่าวันนี้ ถ้าท่านรัฐมนตรีไม่ส่งรถไปรับน้องยิหวากับฉันที่คอนโด เราสองคนคงต้องกอดคออดข้าวกันแน่ เพราะออกไปไหนก็ไม่ได้กองทัพนักข่าวเต็มไปหมด แล้วนี่ รู้อะไรไหม เริ่มมีสปอนเซอร์ขอพักงานน้องยิหวาแล้ว จนกว่าข่าวจะกระจ่างชัดเจนว่าอะไรเป็นอะไร แล้วถ้าสปอนเซอร์ ละคร อีเว้นต์ไม่จ้างน้องยิหวาอีกล่ะก็ คุณคิดว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ นั่นจะเป็นอย่างไร"

"ผม เอ่อ" โมกข์ก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรเหมือนกัน เขาไม่คิดว่ามันจะเกิดเรื่องรุนแรงเช่นนี้

"คุณไม่ต้องทำอะไรก็ได้เพราะโลกนี้ไม่มีใครรู้จักคุณ แต่น้องยิหวาไม่ใช่ นางเอกดาวรุ่งของประชาชนเป็นข่าวกับหนุ่มโนเนมก็ตลกมากพอแล้ว ใจคอคุณจะให้ข่าวไม่จริงพวกนี้ทำร้ายคนๆ หนึ่งจนไม่มีที่ยืนในสังคมเลยหรือไง"

"โอเคๆ ผมไปก็ได้ แต่นี่ไม่ใช่เรื่องตลกที่แกล้งมาอำกันใช่ไหม" ถึงโมกข์จะยอมใจอ่อนไปกับสายชล แต่ก็ยังไม่วายระแวงว่าจะมีลูกไม้ซ่อนอยู่

"ตลกอะไรล่ะคุณ ฉันเครียดจนผมจะหงอกหมดหัวแล้ว เร็วๆ เข้า ท่านรัฐมนตรีรออยู่นะ" สายชลเร่ง

"ผมขอโทร.บอกลูกค้าก่อน เราไปไม่นานใช่ไหม" โมกข์ยังห่วงงานอยู่

"รับรองว่าไม่นานแค่คุณไปอธิบายให้ท่านเข้าใจ แค่นั้นคุณก็กลับได้แล้ว"

"ถ้าคุณเล่นตุกติกอะไรล่ะก็ อย่าหาว่าผมใจร้ายแล้วกัน" เจ้าของสวนหนุ่มระวังตนเองเช่นกัน

"ขอบคุณที่คุณใจดียอมไปกับพี่ เร็วค่ะ เรื่องจะได้จบๆ น้องยิหวาและพี่จะได้เตรียมปิดข่าวเสียที"

นาทีนี้สายชลไม่สนคำขู่ใดของเจ้าของสวนหนุ่มทั้งสิ้น แค่โมกข์ยอมนั่งรถไปด้วยหัวใจผู้จัดการคนเก่งก็ลอยไปหารัฐมนตรีสุชาติแล้ว หวังว่าการมาของโมกข์จะทำให้ทุกอย่างจบลงด้วยดี

ศึกในบ้านเรียบร้อย ศึกต่อไปก็คือสยบข่าวที่กำลังร้อนให้ละลายเป็นอากาศธาตุในพริบตา เพื่อดาวจรัสแสงดวงนี้จะยังคงอยู่ต่อไป

โมกข์รู้สึกอึดอัดกับสายตาของผู้ใหญ่ทั้งสองที่นั่งมองตนสายตาไม่กระพริบ ชายท่าทางภูมิฐานที่นั่งมองหน้าเขาด้วยสายตาที่ตีความหมายไม่ออกว่าดีหรือร้าย คือท่านรัฐมนตรีสุชาติบิดาของดวงยิหวา ส่วนสุภาพสตรีที่นั่งเคียงข้างด้วยและคอยพินิจพิเคราะห์ชายหนุ่มเป็นระยะคือคุณหญิงเมตตา มารดาของนางเอกดังนั่นเอง

"เราใช่ไหมที่อยู่ในรูป" ท่านรัฐมนตรีเอ่ยถามเป็นคำแรก น้ำเสียงท่านราบเรียบและดูสงบนิ่งจนทำให้บรรยากาศในห้องโถงอึมครึมอย่างเห็นได้ชัด

"ครับ" เจ้าของสวนหนุ่มรับคำเบาๆ

"ลูกเต้าเหล่าใคร บ้านอยู่ที่ไหน ทำอาชีพอะไรแล้วรู้จักลูกสาวฉันได้อย่างไร" ประมุขของบ้านถามเสียงเข้ม

สายชลและดวงยิหวาที่นั่งลุ้นอยู่อีกด้าน ต่างภาวนาขอให้โมกข์ช่วยตอบคำถามที่ดีเพื่อให้รัฐมนตรีสุชาติพอใจ และขอให้ชายวัยกลางคนซักถามแต่พอประมาณ อย่าได้สืบหาต้นเหตุของเรื่องราวนี้เลย

"ผมทำสวนขายต้นไม้อยู่บนที่ดินของครอบครัวครับ" ชายหนุ่มตอบเพียงสั้นๆ

"ทำสวนเหรอ แต่หน้าตาเหมือนไม่ใช่ชาวสวนเลย"

"ผมเพิ่งมาจับงานสวนเมื่อไม่นานนี้เองครับ"

"แล้วเมื่อก่อนทำอะไร อยู่ที่ไหน" คุณหญิงเมตตาถาม

"ผมทำงานบริษัทเอกชนที่หนึ่ง พออิ่มตัวก็เลยออกมาดูแลสวนต้นไม้ของคุณปู่คุณย่า"

"มีพี่น้องกี่คน อยู่ที่ไหนบ้าง" ชายวัยกลางคนซักละเอียดขึ้น

"ผมเป็นลูกชายคนเดียวของบ้าน มีน้องสาวหนึ่งคนตอนนี้กำลังเรียนอยู่"

"เรียนอยู่ที่ไหน"

"เรียนอยู่ที่ เอ่อ อเมริกาครับ" โมกข์รู้สึกอึดอัดมากที่ถูกซักประวัติละเอียดถี่ยิบขนาดนี้ เขาไม่เข้าใจเลยว่ารัฐมนตรีสุชาติจะถามเรื่องส่วนตัวพวกนี้ไปทำไมกัน

"น้องเรียนอเมริกา แล้วเราล่ะ จบเมืองนอกด้วยหรือเปล่า"

"ท่านจะถามเรื่องส่วนตัวผมไปทำไมครับ" โมกข์ชักจนเริ่มทนไม่ไหวแล้ว

"ฉันถาม นายมีหน้าที่ตอบ" ชายวัยกลางคนใช้เสียงข่ม

"ผมจบปริญญาตรีที่เมืองไทย แล้วไปเรียนต่อปริญญาโทที่อเมริกา ผมทำงานในบริษัทที่ปรึกษาด้านการเงินแห่งหนึ่งหลังจากที่เรียนจบ แต่เพราะผมเบื่อกับความวุ่นวายของคนก็เลยย้ายตัวเองกลับมาเมืองไทยแล้วก็มาใช้ชีวิตสงบในสวน แค่นี้พอใจหรือยังครับ" ปลายเสียงโมกข์ประชดเล็กน้อย

"ใช้ได้ ถ้างั้นพ่อแม่นายทำอะไร" ท่านรัฐมนตรีอยากรู้ต่อ

"พ่อแม่เกษียณไปทำไร่กุหลาบอยู่ที่ทางเหนือครับ มีอะไรจะถามผมอีกไหม ถ้าเรียกมาแค่นี้ ผมคงต้องขอตัวกลับก่อน" เจ้าของสวนหนุ่มสุดจะทนแล้ว

"ตอนนี้มีเงินเก็บในบัญชีเท่าไร รายได้จากการขายต้นไม้เป็นไง แล้วธุรกิจอื่นนอกจากขายต้นไม้แล้วนายทำอะไรอีกบ้าง"

"ผมขอไม่ตอบเพราะนี่คือเรื่องส่วนตัวของผม"

"แต่นายต้องบอก เพราะฉันจะได้รู้ว่านายมีปัญญาดูแลลูกสาวฉันให้สุขสบายไหม"

" ดูแลลูกสาว ลูกสาวใครครับ" โมกข์งงกับคำพูดของอีกฝ่าย หันหน้าไปหาสายชลเป็นเชิงถามว่าหมายถึงอะไร แต่สายชลส่ายหน้าเพราะไม่รู้จริงๆ ว่ารัฐมนตรีสุชาติคิดอะไรอยู่

"นายคิดเองแล้วกันว่า ผู้ชายที่เป็นสุภาพบุรุษควรรับผิดชอบผู้หญิงที่ตัวเองมีความสัมพันธ์ด้วยในฐานะไหน"

"คุณพ่อ/ท่าน"

ดวงยิหวาและโมกข์ตะโกนลั่นห้องด้วยความตกใจ สายชลเป็นอีกคนที่ตกใจไม่แพ้กัน รัชมนตรีสุชาติลุกขึ้นยืนสบตากับคนที่อ่อนวัยกว่าและพูดด้วยน้ำเสียงที่ทรงอำนาจว่า

"เมื่อก่อนนายจะทำกับพวกผู้หญิงที่ผ่านเข้ามาในชีวิตอย่างไรก็ช่าง แต่ลูกสาวฉันไม่ใช่ของเล่นให้นายเชยชมฟรีๆ แล้วจากไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น คนหนุ่มสาวสมัยนี้นึกจะรักก็รัก นึกจะใคร่ก็ใคร่ให้ผู้ใหญ่ปวดหัวเล่น"

"ผมไปทำอะไรลูกสาวท่านตั้งแต่เมื่อไร เรื่องเมื่อคืนนี้ผม..."

"นายไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ เพราะภาพที่คนทั้งโลกเห็นเป็นหลักฐานที่มัดตัวได้เป็นอย่างดี ถ้าไม่อยากให้ไอ้สวนต้นไม้ถูกขายไปทำหมู่บ้านจัดสรร หรือถูกเวนคืนเอาที่ไปทำถนนให้รถวิ่งล่ะก็ นายควรจะตอบคำถามที่ฉันถามเมื่อกี้มาดีๆ ดีกว่า"

"ท่านไม่มีสิทธิ์ทำกับผมแบบนี้ และผมก็จะไม่ตอบคำถามอะไรทั้งนั้น" โมกข์ยืนกรานเสียงแข็ง

"นายมีสิทธิ์ไม่พูด และฉันก็มีสิทธิ์จะทำ ในเมื่อเรื่องสนุกของนายคือความเสื่อมเสียของครอบครัวฉัน คนอย่างรัฐมนตรีสุชาติก็มีวิธีจัดการเอาคืนเหมือนกัน"

"ท่านขู่ผมเหรอ"

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel