ตอนที่ 4
"ทำไงดีคะ นักข่าวเต็มไปหมดเลย" น้ำเสียงร้อนรนของชายหัวใจสาวทำให้เจ้าของต้นเรื่องยิ่งเครียดเพิ่มขึ้นอีก
สีหน้าของดวงยิหวาเต็มไปด้วยความกังวล เธอปิดการติดต่อทุกอย่างที่ใครจะเข้าถึงตัวได้ และขบคิดว่าจะทำอย่างไรกับเรื่องที่เกิดขึ้นดี ในขณะที่เสียงโทรศัพท์ของผู้จัดการคนเก่งดังไม่ขาดสายแต่ไม่มีการกดรับแม้แต่สายเดียว
"ยิหวาหลบไปก่อนดีไหมคะ" นางเอกสาวตัดสินใจแล้ว
ปกติเธอไม่เคยหนีและไม่คิดจะหนีนักข่าวไม่ว่าต้องตอบคำถามใด แต่ครั้งนี้มันเกินกว่าที่จะรับไหว เรื่องที่เกิดขึ้นตั้งตัวแทบไม่ทันที่สำคัญไม่คิดด้วยซ้ำว่ามันจะเกิดขึ้นได้
"จะไปทางไหนล่ะคะ ตอนนี้ถ้าจะออกจากคอนโดคงต้องมีเครื่องบินมารับแล้ว" ผู้จัดการคนเก่งก็ไม่รู้ว่าจะหาทางแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างไร
ดวงยิหวาเป็นนางเอกในสังกัดที่วางตัวดีมาตลอด ได้รับรางวัลชมเชยจากหลายสถาบันของประเทศ ดังนั้นเมื่อมีภาพหลุดที่เป็นจริงออกมาเช่นนี้ แน่นอนว่าต้องเหนื่อยกับการตอบคำถามแน่
"แล้วนี้น้องยิหวาติดต่อคุณพ่อคุณแม่หรือยังคะ"
นอกจากเรื่องข่าวที่กำลังร้อนแรงตามหน้าหนังสือพิมพ์และสื่อออน์ไลน์แล้ว อีกเรื่องที่สายชลเป็นกังวลไม่แพ้กันก็คือ จะตอบคำถามท่านรัฐมนตรีและคุณหญิงอย่างไร เกี่ยวกับข่าวของบุตรสาวสุดที่รักที่กำลังเป็นที่จับตามองในเวลานี้
"ยังค่ะ แต่ว่าป่านนี้คุณพ่อคุณแม่คงเห็นข่าวแล้ว" น้ำเสียงนางเอกสาวหนักใจไม่แพ้กันเลยทีเดียว
"พี่คิดว่าเราต้องแถลงข่าวค่ะว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เดี๋ยวขอพี่คิดก่อนว่าเราควรจะพูดอย่างไร"
ทางออกเดียวที่สายชลคิดได้ในเวลานี้ก็คือการพูดความจริง เขาคาดคั้นถามจนแน่ใจแล้วว่าโมกข์ไม่ได้ทำอะไรดวงยิวาแม้แต่ปลายเล็บ และให้นางเอกสาวไปสำรวจตนเองว่าร่างกายมีส่วนใดบุบสลายหรือไม่ เมื่อดวงยิหวาบอกว่าไม่มีร่องรอยใดผิดปกติ นั่นก็แสดงว่าอาจจะเป็นแค่เรื่องการเข้าห้องผิดแค่นั้นก็ได้
สายชลประเมินสถานการณ์ว่าข่าวนี้จะไม่มีวันสงบ หากว่าดวงยิหวาไม่ออกมาให้สัมภาษณ์หรืออธิบายใดๆ ให้คนทั้งประเทศรู้ และถ้าขืนปล่อยให้นานกว่านี้ คะแนนความนิยมในตัวนางเอกสาวอาจจะหายไป ซึ่งนั้นก็หมายถึงงานและรายได้ที่หดหายไปด้วยเช่นกัน
"ยิหวาขอโทษนะคะ" น้ำเสียงนางเอกสาวสั่นเครือ ดวงยิหวาปาดน้ำตาที่หลั่งรินเลอะแก้ม รับความผิดที่เกิดขึ้นไว้ที่ตนเองเพียงคนเดียว
"ถ้ายิหวาไม่เมาจนขาดสติ ก็คงไม่มีเรื่องแบบนี้"
"ไหนบอกพี่ซิ ทำไมต้องเมาขนาดนั้นด้วย ปกติน้องยิหวาไม่ดื่มนี่คะ" สายชลเองก็สงสัยเหมือนกันว่าทำไมจู่ๆ ดวงยิหวาถึงได้ลุกขึ้นมาทำในสิ่งที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ต้นเรื่องคือดวงยิวาไปนั่งดื่มในผับชั้นใต้ดินโรงแรมหรู ดีที่สายชลตามหาเจอแต่กว่าจะพบนางเอกสาวก็อยู่ในสภาพเมาจนพูดอะไรไม่รู้เรื่องแล้ว ทำให้ต้องตัดสินใจลากตัวออกมาจากที่นั่นก่อนจะมีใครเห็น
ดวงยิหวาอาเจียนจนเลอะเทอะเปรอะเปื้อนไปหมด ทางแก้ปัญหาเฉพาะหน้าของสายชลก็คือ เปิดห้องให้นางเอกสาวล้างเนื้อล้างตัวก่อนแล้วค่อยกลับบ้าน เมื่ออาเจียนจนหมดตัวและร่ำร้องหาแต่ที่นอน สายชลเห็นว่าดึกมากแล้วจึงให้เธอนอนที่นี่ พรุ่งนี้เช้าตนจึงมารับพร้อมกับเสื้อผ้าชุดใหม่ ไม่คิดว่าความรีบร้อนจะทำให้ปิดประตูไม่สนิท และกลายเป็นว่ามีใครอีกคนเข้าไปในห้อง จนเกิดเรื่อวราวใหญ่โตตามมาทีหลัง
"ยิหวาโกรธค่ะ" นางเอกสาวสะอื้น
"โกรธอะไรคะ" สายชลซักด้วยความสงสัย
"หรือว่ามีใครทำอะไรให้น้องยิหวาโมโห"
"ไม่มีค่ะ แต่ยิหวาโกรธที่ตัวเองโง่มากกว่า ทำไมถึงคิดไม่ออกว่าอะไรเป็นอะไร"
"โง่ โง่เรื่องอะไรคะ" ผู้จัดการคนเก่งงงมากขึ้นไปอีก
"เมื่อวานยิหวาเอาขนมไปให้รักเกียรติที่คอนโด แต่พอถึงหน้าห้องยิหวาเห็น..."
"เห็นอะไรคะ"
"เห็นสิรินเข้าไปในห้องค่ะ พี่เกียรตินุ่งผ้าเช็ดตัวออกมารับ สองคนนั้นจูบกันหน้าห้องแล้วหายเข้าไปด้วยกัน"
"โธ่เอ๊ย..." สายชลถึงบางอ้อ
มิน่าเล่า แม่นางเอกคนดังของสายชลถึงได้ไปดื่มเสียจนหัวราน้ำเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โตจนตอนนี้
"ถ้าเป็นคนอื่นยิหวาจะไม่โกรธเลยนะ แต่ทำไมต้องเป็นสิรินด้วย" ดวงยิหวาเงยหน้าขึ้นสบตาผู้จัดการคนเก่ง
"เดี๋ยวค่ะ นี่ตกลงน้องยิหวาโกรธที่รักเกียรติมีคนอื่นนอกจากน้องยิหวา หรือว่าโกรธที่รักเกียรติยุ่งกับสิรินคะ" สายชลจับทางไม่ถูก เดาอารมณ์ดวงยิหวาไม่ออกจริงๆ
"เพราะยุ่งกับสิรินซิคะ สิรินกับยิหวาเป็นคู่แข่งกันใครๆ ก็รู้ แล้รักเกียรติไปยุ่งด้วยอีกทำไม ทำแบบนี้มันไม่ไว้หน้ายิหวาเลยนะคะ จะไม่ให้ยิหวาโมโหได้ไงล่ะ"
อพิโถเอ๋ย ดวงยิหวา สายชลอยากจะเป็นลม ...
โมโหที่นางร้ายได้กินตับพระเอก เสียใจที่พระเอกคู่ขวัญเลือกกินตับนางร้ายที่เป็นคู่แข่งกันมาแต่ไหนแต่ไร สุดท้ายนางเอกคนสวยก็ต้องกลายเป็นดาวจรัสแสงที่ไม่รู้ว่าจะค้างฟ้าต่อหรือ หรือร่วงหล่นถูกดินกลบไม่เห็นแสง
"ยิหวาโมโหตัวเองที่ไม่น่ายอมเป็นข่าวคู่จิ้นกับคนนิสัยไม่ดีอย่างนายรักเกียรติเลย ถึงแม้ว่ายิหวาจะไม่ได้รู้สึกอะไรกับหมอนั่น แต่มันก็อดที่จะโกรธตัวเองไม่ได้ มิน่าล่ะพักหลังสิรินชอบมาพูดอะไรแปลกๆ ที่แท้ก็คงคิดว่าชนะยิหวาที่แอบไปกินกันลับหลังโดยที่ยิหวาไม่รู้มาก่อนเลย" ยิ่งพูดนางเอกสาวก็ยิ่งโมโห และความโมโหนี่เองที่เป็นเหตุให้ดวงยิหวาหาทางดับความโกรธความเสียใจด้วยน้ำเมา
"สรุปคือโกรธ โมโห เสียใจ ที่นายรักเกียรติกุ๊กกิ๊กกับสิริน โดยที่น้องยิหวาไม่รู้มาก่อนว่าสองคนนั้นแอบทำอะไรกันลับหลัง" สายชลสรุป
"ค่ะ ที่สำคัญเมื่อวานนี้สิรินส่งรูปนี้มาให้ยิหวาด้วยค่ะ พี่เป็ดคิดว่ามันน่าโมโหไหมคะ" นางเอกสาวหยิบโทรศัพท์เปิดขึ้นมาอีกครั้ง แล้วกดไล่หารูปที่ทำให้โมโหโดยไม่สนใจเสียงข้อความนับร้อยที่ดังเลย
"ทะเล" สายชลเงยหน้าถามด้วยความสงสัย
"ที่ยิหวาไปที่นั่นก็คืออยากจะถามรักเกียรติว่า ทะเลที่เคยพายิหวาไปกินข้าวสารภาพว่าชอบว่าปลื้มนัก แล้วทำไมต้องพาสิรินไปทับรอยด้วย"
"ทับรอย" ชายหนุ่มตาโตด้วยความตกใจจนนางเอกสาวต้องรีบบอกว่า
"หมายถึงพาไปกินข้าวร้านเดียวกันทำไม แบบนี้เท่ากับไม่ให้เกียรติยิหวาเลย"
"น้องยิหวา" สายชลเข้าใจเรื่องทั้งหมดแล้ว
กับคนภายนอกหรือแฟนคลับดวงยิหวาน่ารักอ่อนหวานและแสนดี แต่ถ้ากับคนใกล้ชิดเธอคือคุณหนูขาวีนที่ไม่เคยยอมใครง่ายๆ โดยเฉพาะกับที่ไม่ชอบหน้าหรือไม่ถูกชะตาด้วยอย่างสิรินแล้ว อะไรที่ดวงยิหวาได้หรือเป็นเจ้าของ อีกฝ่ายไม่มีสิทธิ์ เรื่องนี้สายชลรู้ดี และเข้าใจทุกอย่างจนหมดสิ้น
แต่เรื่องของรักเกียรติและสิรินเก็บเอาไว้ทีหลัง เรื่องสำคัญที่ต้องจัดการก่อนตอนนี้ก็คือ ข่าว ที่มาของข่าวจะเกิดเพราะอะไรคงกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ และถือเสียว่าเป็นคราวเคราะห์ของนางเอกสาวเสียเอง ที่ไม่รู้จักควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ ดังนั้นจึงควรรีบคิดดีกว่าว่าจะทำอย่างไรให้ดวงยิหวากลับไปยืนในจุดเดิมได้ ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป
นอกจากนักข่าวที่รุมล้อมดักหน้าดักหลัง เพื่อขอสัมภาษณ์อยู่ที่หน้าคอนโดเต็มไปหมดจนนางเอกสาวไปไหนไม่ได้แล้ว ท่านรัฐมนตรีบิดาของดวงยิหวาก็มีคำสั่งให้เธอกลับมาที่บ้านโดยด่วน เพื่ออธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้กระจ่างก่อนที่ข่าวจะใส่สีตีไข่จนเสียชื่อมากไปกว่านี้
"มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดค่ะ คุณพ่อ" ดวงยิหวาเปิดปากคำแรก
"เข้าใจผิดยังไง รูปที่ออกในสื่อต่างๆ เห็นหน้าลูกสาวฉันชัดขนาดนั้น ยังจะบอกว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิดอีกเหรอ" ท่านรัฐมนตรีสุชาติย้อนถาม
"ยิหวา ตกลงมันยังไงลูก คนนี้คือแฟนใช่ไหม" คุณหญิงเมตตาเอ่ยถามอีกคน
"ไม่ใช่ค่ะ ยิหวาไม่เคยรู้จักเขา แค่ตื่นขึ้นมาแล้วเพิ่งเห็นหน้าเป็นครั้งแรกเท่านั้นเอง"
"เห็นหน้าเป็นครั้งแรก" บิดามารดาอุทานพร้อมกันด้วยความตกใจ
