ตอนที่ 2
ชายหนุ่มมั่นใจว่าเมื่อคืนนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้นแน่ เขาเหนื่อยและฤทธิ์แอลกอฮอล์ในกายทำให้หลับสนิท ไม่มีปัญญาลุกขึ้นมาทำอะไรใครแน่ ที่สำคัญโมกข์ยังไม่รู้เลยว่าในห้องที่นอนนั้นมีใครอยู่ด้วย
"เท่านั้นเหรอ มันจะเท่านั้นได้ไง นายตั้งใจจะมาทำอะไรฉันใช่ไหม บอกมานะ ไม่งั้นฉันจะเรียกตำรวจ"
จะเป็นไปได้อย่างไรในเมื่อประตูห้องปิดสนิท หลังจากที่ผู้จัดการส่วนตัวพาเธอมาหลบสายตานักข่าวจากการกลายร่างเป็นเมรีขี้เมาเมื่อคืนนี้ ผู้ชายคนนี้โกหก เขาต้องเข้ามาด้วยวัตถุประสงค์บางอย่างในตัวเธอ แค่คิดว่าเมื่อคืนนี้ทั้งเธอและเขาตัวเปล่าเล่าเปลือยร่วมกันบนเตียง แล้วอะไรมันจะเกิดขึ้นเล่า ถ้าไม่ใช่...
"ผมพูดความจริง นี่ไง คีย์การ์ดของห้อง ผมควรถามคุณต่างหากว่าเข้ามาทำอะไรในห้องผม หรือว่าบริการ"
สิ้นคำว่าบริการ เสียงกรีดร้องก็ดังลั่นแสบแก้วหูขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมทั้งหมอนผ้าห่มสิ่งใดก็แล้วแต่ที่อยู่ใกล้มือเจ้าหล่อน ลอยละลิ่วมาหาโมกข์ในทันทีทันใด พร้อมทั้งคำด่าทอที่เต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราดของเธอ
"ไอ้ผู้ชายเฮงซวย ไอ้คนบ้า ไอ้คนลามก กล้าพูดได้ไงว่าฉันขายตัว ฉันไม่ใช่ผู้หญิงอย่างว่านะ ไม่รู้หรือไงว่าฉันคือใคร"
ดวงยิหวาแสนโกรธเมื่อได้ยินคำว่าบริการ ซึ่งแปลความหมายได้ว่าเธอคือผู้หญิงที่ขายเรือนร่าง แต่นั่นไม่โกรธเท่ากับหมอนี่ตาต่ำหรือตาบอดกันแน่ ถึงได้ไม่รู้จักนางเอกคนดังของยุคอย่างเธอ ดวงยิหวา สกุลชาติ
"ผมไม่รู้" โมกข์เอ่ยสั้นๆ เขาไม่รู้จริงๆ ว่าเจ้าหล่อนเป็นใคร มีชื่อเสียงใดในสังคม รู้แต่ว่าตอนนี้หัวใจของชายหนุ่มโหยหาแต่ลูกต้นไม้ที่รออยู่ที่สวนเท่านั้น
"กรี๊ด..."
เสียงกรีดร้องดังขึ้นเป็นหนที่สาม คราวนี้เจ้าหล่อนจะกรีดร้องเรื่องอะไรอีก แต่จะเรื่องอะไรก็ช่าง โมกข์ไม่อยู่ฟังให้เสียสุขภาพจิตแน่ เขาก้าวเดินจนเกือบจะถึงประตูแต่แล้วก็มีใครบางคนเปิดประตูเข้ามาก่อน
"อุ๊ย..."
ร่างสูงที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามาอุทานเสียงหวาน รูปร่างที่ล่ำสันสมชายชาตรีแต่โมกข์มองออกว่า แอบซ่อนความเป็นหญิงในหัวใจไว้และเผยออกมาแค่อายไลน์เนอร์ที่ขอบตาเท่านั้น
"พี่เป็ด" ดวงยิหวาร้องเรียกแล้วโผเข้ากอดคนที่เพิ่งเข้ามาทันที
"เขา เขา เขาขืนใจยิหวา เขาล่วงเกินยิหวาค่ะ พี่เป็ด พี่เป็ดต้องช่วยยิหวานะ ยิหวากลัว ยิหวาไม่อยากมีปัญหาอีกแล้ว" เธอร่ำไห้ร้องขอความช่วยเหลือจากหนุ่มหัวใจสาวที่ยืนตกตกลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า
"น้องยิหวา ใจเย็นๆ ก่อน พูดใหม่อีกทีซิคะ เกิดอะไรขึ้น" สายชลเอ่ยถามเสียงเบา สายตามองมาที่โมกข์อย่างไม่ไว้วางใจ หัวสมองคิดแล้วว่าจะจัดการกับเรื่องที่เกิดขึ้นตอนนี้อย่างไรดี จะทำอย่างไรให้ชื่อเสียงของนางเอกในสังกัดไม่ดับไปเพราะความฉาวชั่วข้ามคืน
"ผู้ชายคนนี้" ดวงยิหวาชี้มาที่โมกข์แล้วพูดต่อว่า
"เข้าห้องมาหายิหวา อยู่กับยิหวาทั้งคืนแล้วก็ แล้วก็..." นางเอกสาวร่ำไห้สะอื้นเสียงดังลั่น สายชลเดาเรื่องต่อจากนั้นได้โดยไม่ต้องมีคำอธิบายใดๆ อีก
คุณพระช่วย ทำไมมันถึงได้เกิดเรื่องแย่ๆ กับนางเอกคนสวยซ้ำแล้วซ้ำเล่าได้นะ
"นายเป็นใคร แล้วเข้ามาในห้องนี้ได้ไง มานี่เลย ห้ามไปไหน มาพูดกันให้รู้เรื่อง" สายชลเริ่มทำหน้าที่ของผู้จัดการที่ดี ด้วยการไปดึงมือของโมกข์ไว้แล้วบังคับไม่ให้เขาไปไหน โดยขู่ว่าจะแจ้งความหากว่าชายหนุ่มก้าวขาออกไปจากห้องนี้แม้แต่ก้าวเดียว
"น้องยิหวาไปแต่งตัวก่อน เดี๋ยวพี่เป็ดเคลียร์ทางนี้เอง เร็วค่ะ เราต้องรีบแล้ว"
ดวงยิหวารีบจัดการตามที่บอก คว้าเสื้อผ้าที่สายชลนำมาให้เปลี่ยนหายเข้าไปในห้องน้ำ ส่วนโมกข์กลายเป็นผู้ต้องหาให้ผู้จัดการคนเก่งสอบสวนหาความจริงในขณะนี้
"นายต้องไม่พูดเรื่องนี้กับใครทั้งนั้น" สายชลพูดแกมสั่ง หลังจากที่สืบสาวราวเรื่องทั้งหมดจนได้ความกระจ่างแล้ว
ที่แท้เมื่อคืนนี้โมกข์เป็นฝ่ายผิดที่เมาจนตาลายและเข้าห้องพักผิด ดีที่เขาง่วงมากและหลับไปโดยไม่ได้สนใจว่าบนเตียงมีใครอีกคนนอนอยู่ด้วยจนกระทั่งเช้า แต่ปัญหาไม่ได้จบลงแค่คำขอโทษจากปากของชายหนุ่ม
"นายต้องสัญญาก่อนว่าจะไม่พูดเรื่อง เอ่อ เรื่องนี้กับใคร แล้วก็ห้ามพูดด้วยว่าเมื่อคืนนี้ฉัน เอ่อ ฉัน เอ่อ เอาเป็นว่าไม่พูดและลืมเรื่องนี้ไปซะ"
"ผมจะไปพูดกับใครได้ คุณไม่ต้องห่วงหรอก ผมรับปากแล้วก็คือรับปาก เรื่องที่เกิดขึ้นในห้องนี้จะไม่มีวันหลุดจากปากผมแน่" โมกข์ยืนยันคำเดิมครั้งที่เท่าไรไม่รู้
เขาระอากับสองคนนี้เหลือเกิน คนหนึ่งก็คาดคั้น อีกคนก็ออกสั่งๆ ทำราวกับว่าโมกข์เป็นเด็กที่พูดไม่รู้เรื่องไปได้ อยากรู้นักใครจะมาสนใจเจ้าหล่อนนักหนา กับแค่การนอนร่วมเตียงกับผู้ชายแปลกหน้าแค่คืนเดียวในโรงแรม โดยไม่มีอะไรบุบสลายแม้แต่ปลายเล็บ ทำไมมันถึงได้เป็นเรื่องใหญ่โตขนาดนี้
"เอาอย่างนี้ดีกว่า" สายชลเปิดกระเป๋าแล้วหยิบสมุดปากกาขึ้นมาเขียน จากนั้นก็ดึงเช็คเงินสดที่เขียนตัวเลขระบุไว้ในนั้นว่า หนึ่งแสนบาท
"นายเอาเงินนี้ไป แล้วเขียนสัญญานี้" เขาฉีกกระดาษแผ่นหนึ่งออกจากสมุดที่อยู่ในกระเป๋า สายชลใช้เวลาไม่ถึงหน้านาทีร่างสัญญาตามใจฉันขึ้นมาส่งให้โมกข์
"อะไรของพวกคุณนักหนาเนี่ย ผมบอกว่าไม่พูดก็คือไม่พูดไง คุณจะกลัวอะไรขนาดนั้น" โมกข์ชักจะอารมณ์เสียแล้ว
"เอาเงินไปแล้วลงชื่อในสัญญาซะ ว่านายจะไม่พูดเรื่องนี้กับใคร ถ้าพูดฉันจะแจ้งตำรวจจับนายเข้าคุกแน่" น้ำเสียงสายชลจริงจังอย่างเห็นได้ชัด แต่โมกข์ไม่เล่นด้วย เขาคืนทั้งเช็คเงินสดและสัญญาบ้าๆ นั่นอย่างไม่ไยดี
"ผมไม่มีเวลามาทำเรื่องบ้าๆ พวกนี้หรอก แล้วทีหลังถ้ากลัวว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้อีก ก็ปิดประตูห้องให้เรียบร้อยก่อนนอนไม่ใช่แง้มไว้ให้ใครเข้ามาได้ อ้อ แล้วจำไว้ว่าเป็นสาวเป็นนางมานอนที่อื่น ก็ควรใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยไม่ใช่นอนแก้ผ้าโล่งโจ้งบนเตียงแบบนี้ ดีนะที่เป็นผม ถ้าเป็นคนอื่นป่านนี้รับรองได้ว่าคุณไม่มีทางได้มานั่งสั่งโน่นสั่งนี้แบบนี้แน่"
โมกข์ไม่สนใจหน้าอินทร์หน้าพรหมที่ไหนทั้งสิ้น หมดเวลาที่เขาจะมานั่งฟังเรื่องไร้สาระของสองคนนี้แล้ว ลูกๆ ต้นไม้และงานในสวนอีกมากรออยู่ ชายหนุ่มลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องในทันที
"ไปไม่ได้นะ ฉันสั่งว่าไม่ให้ไปอย่างไรล่ะ" ดวงยิหวาตะโกนลั่นห้อง แต่โมกข์ไม่ฟังซ้ำยังเดินดุ่มๆ ออกไปอีก ในที่สุดนางเอกสาวก็ทนไม่ไหวรีบวิ่งตามชายหนุ่มที่กำลังเปิดประตูห้องออกไป
"นายห้ามไปไหนนะ" เสียงนางเอกสาวดังลั่น
ดวงยิหวาหน้าเสียเมื่อเปิดประตูตามโมกข์ออกมาหน้าห้องแล้วพบว่ามีคนอื่นอยู่ในบริเวณนั้นอีกหลายคน ทุกสายตาหันมาจับจ้องมองเธอเป็นตาเดียวด้วยความตกตะลึง นางเอกสาวขวัญใจประชาชนเกาะแขนเดินออกมากับผู้ชายสองต่อสองในโรงแรมตอนเช้าตรู่ อะไรจะเกิดขึ้นต่อจากนี้...
