บท
ตั้งค่า

บทที่ 1 ก้าวแรก

ท่ามกลางผู้คนที่เดินขวักไขว่กวักมือเรียกญาติพี่น้อง หรือคนที่มารอรับ เสียงตะโกนโหวกเหวกดังสลับ ชายหนุ่มเห็นหลังไวๆ ของสาวสวยตากลมโตเดินเคียงคู่ไปกับชายวัยกลางคนในชุดซาฟารีสีน้ำเงินเข้ม

‘เออแหะ ลงสถานีเดียวกันซะด้วย สักวันเราคงมีโอกาสพบกัน’

เขาแอบดีใจอยู่ลึกๆ ที่เธอก็ลงสถานีนี้ โอกาสที่จะได้เจอกันก็คงมี นี่เขาหวังจะได้เจอเธออีกอย่างนั้นหรือ?

“ไอ้ฟ้า! ทางนี้โว้ย!” เสียงตะโกนจากข้างบันไดหน้าสถานีดังขึ้น

“เออ!” คนมาเยือนโบกมือตอบ

“สนุกไหมล่ะ นั่งรถไฟ ข้าบอกเอ็งแล้วว่าให้ขับรถมาเองก็ไม่เชื่อ สมัยนี้ถนนสะดวกสบายไม่มีหลุมมีบ่อหรอกน่า”

สายฟ้าหยักไหล่เล็กน้อยแทนคำตอบด้วยความเคยชิน

“ก็พอได้ แค่ยืนจนขาแข็งมาครึ่งทางล่ะ”

“เอาน่า ถือว่าเป็นประสบการณ์”

ปลัดพฤกษ์ตบไหล่เพื่อนเบาๆ เป็นเชิงปลอบใจ

นับตั้งแต่จบมัธยมปลาย สายฟ้าไปเรียนออกแบบผลิตภัณฑ์ที่อังกฤษ ในขณะที่เมษเข้าเรียนรัฐศาสตร์ในมหาวิทยาลัยชั้นนำแห่งหนึ่งของประเทศ

ทั้งคู่ยังคงติดต่อกันอย่างสม่ำเสมอ เพราะสายใยอันแน่นเหนียวระหว่างผู้เป็นพ่อที่เป็นเกลอแก้ว คบหากันมาตั้งแต่เยาว์วัย อีกทั้งยังเป็นหุ้นส่วนกันอีกด้วย

รถกระบะสี่ประตูเลี้ยวเข้าสู่ถนนที่มีป้ายไม้ขนาดใหญ่บอกชื่อไร่สุดเขตฟ้า ผู้มาเยือนกดกระจกไฟฟ้า กวาดสายตามองทิวทัศน์โดยรอบ ท้องทุ่งเขียวขจีต่อเนื่องไปกับทิวไม้เบื้องหลังกว้างไกลไปจนจรดทิวเขายาวเหยียด

สายฟ้าสูดลมหายใจเข้าลึกๆ อากาศสดชื่นจนหัวใจสดใส

“ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะเพื่อน”

คนขับยกมือขวาขึ้นวาดไปเบื้องหน้า เป็นทำนองบอกให้รู้ว่า ทั้งหมดสามร้อยหกสิบองศาที่ทั้งสองมองเห็น คือ อาณาจักรอลังการของทั้งสองครอบครัว อันเกิดจากการมิตรภาพของพ่อทั้งสองฝ่าย

ก่อนหน้าที่สายฟ้าจะมาถึง พ่อกับแม่ของพฤกษ์ก็เดินทางไปเยี่ยมญาติที่ประเทศนอร์เวย์ได้หลายวันแล้ว และกำหนดจะกลับในเดือนหน้า ถือโอกาสพักผ่อนไปในตัว ทั้งไร่จึงเหลือพฤกษ์เป็นผู้ดูแลหลักเพียงคนเดียว

“สุดเขตฟ้าจริงๆ ข้าไม่คิดว่า จะยิ่งใหญ่ขนาดนี้”

สายฟ้าชื่นชมจากหัวใจ

“กี่ปีแล้วล่ะ ที่พวกเอ็งไม่ได้กลับมาเหยียบที่นี่”

“นั่นสินะ เปลี่ยนไปมากจนจำไม่ได้”

“ที่ไร่ก็มีแต่ พ่อแม่ข้ากับคนงานอยู่อาศัย ส่วนธาราก็นอนที่หอโรงบาลซะส่วนใหญ่”

พฤกษ์เคยบอกเขาแล้วว่า ธาราเป็นแพทย์ประจำอยู่ที่โรงพยาบาลประจำจังหวัด

“ยังจุ้นจ้านอยู่เหมือนเดิมไหม?”

เขานึกถึงยายเด็กผมเปีย ตัวอ้วนในวัยประถมคนนั้นได้เลือนราง

“ตอนทำงานก็ดูจริงจังดี แต่พอเลิกงานก็กลายเป็นจอมจุ้นเหมือนเดิม”

ผู้เป็นพี่ชายทำหน้าเอือมระอา

สายลมเริ่มแรงลู่ผิวหน้าชายหนุ่มจนชานิดๆ ทิวทัศน์เขียวขจีสุดลูกหูลูกตาสร้างความสดชื่นยิ่งนัก สายฟ้าสูดลมหายใจเข้าไปเต็มปอด พฤกษ์บรรยายการเพาะปลูกในไร่ให้เขาฟังอย่างละเอียด ทั้งปลูกต้นสัก สับปะรด ข้าวโพด และทดลองปลูกพืชชนิดใหม่ๆ อีกหลายพันธุ์

พ่อของพฤกษ์ชอบเพาะพันธุ์พืชชนิดใหม่ๆ ทำให้มีโรงเรือนเพาะชำอยู่มากมาย โดยเฉพาะกล้วยไม้ ที่นี่นับได้ว่า เป็นแหล่งรวมกล้วยไม้หายากแห่งหนึ่ง

“สดชื่นจริงๆ บรรยากาศที่นี่ น่าอยู่สุดๆ เลยว่ะ”

“เอ็งอยู่ก็ดีสิ ข้าจะได้มีคู่หู”

“ขอคิดสักพักล่ะกัน เน้นเรื่องงานให้ลงตัวก่อน”

สายฟ้ามุ่งจะหาไอเดียและวัตถุดิบในการทำงานให้ได้อย่างที่หวังเสียก่อน เขายังไม่คิดว่าจะปักหลักที่ใดแน่ชัด

“ก็คงอยู่สักพักจนกว่าจะมีแรงบันดาลใจใหม่ๆ ล่ะเพื่อน”

“นี่ขับรถตั้งนานแล้ว ยังไม่ถึงบ้านอีกเหรอวะ เข้าเขตไร่มาตั้งนานแล้วนะ”

สายฟ้าเริ่มนิ่วหน้า เพราะสงสัยตะหงิดๆ ว่า บ้านสุดเขตฟ้าอยู่ตรงไหน

“เอ็งก็คิดดูสิว่า ไร่ชื่อสุดเขตฟ้า บ้านก็ชื่อสุดเขตฟ้า มันน่าจะอยู่ไกลแค่ไหนล่ะ”

เจ้าบ้านทำน้ำเสียงยียวน

หลังจากเก็บเสื้อผ้าเข้าเรือนพักหลังเล็กแล้ว สายฟ้าก็เดินเล่นไปรอบๆ บ้านสองชั้นหลังใหญ่ด้านหน้า ซึ่งเป็นบ้านที่พ่อกับแม่ และน้องสาวพฤกษ์พักอาศัย พฤกษ์ก็มีเรือนหลังเล็กที่อยู่ถัดมา เยื้องอยู่กับบ้านพักแขกที่สายฟ้าเข้ามาอาศัย

อาศัยช่วงเวลาก่อนอาหารเย็น สอบถามสารทุกข์สุกดิบของอีกฝ่าย พฤกษ์รู้จักน้องชายอีกสองคนของสายฟ้าเป็นอย่างดี สายฟ้าจึงเล่าเรื่องราวของพวกเขาให้ฟังคร่าวๆ สุดท้ายก็แวะวนมาเรื่องการเดินทาง

“อะไรนะ โดนสาวจูบเรอะ” หนุ่มหน้าคมผิวเข้มอุทานอย่างลืมตัว เพียงชั่วครู่แววตาตระหนกตกใจก็เปลี่ยนไป พฤกษ์หรี่ตาลงเล็กน้อยจับจ้องเพื่อนรัก อีกฝ่ายเลิกคิ้ว เขาเพียงเล่าให้ฟังเพราะคิดว่า มันเป็นแค่เรื่องบังเอิญ

“อะฮ้า!”

“อย่า! อย่าคิดแบบนั้น! นี่มันความซวยต่างหาก โดนด่าจนคนมองทั้งโบกี้”

สายฟ้าโบกมือแสดงอาการยืนยันขันแข็ง อีกฝ่ายยังทำสายตาเขม็งอยู่ไม่เลิก

“พูดมาตรงๆ ว่า เอ็งติดใจอะไรหรือเปล่า?”

“ก็ไม่นะ แต่ลงสถานีเดียวกัน ก็น่าจะเป็นคนแถวนี้”

“สวยไหม?”

“น่ารักดี” คนตอบแอบอมยิ้ม

“นี่เขาเรียก พรหมลิขิต ฮ้า! ไม่แน่นะ อาจจะเป็นเนื้อคู่ก็ได้”

พฤกษ์ฟังแล้วถึงกับตบอกด้วยความลืมตัว

“เอางี้ ตอนเย็นมีงานงิ้วพอดี ข้าจะพาเอ็งไปเสี่ยงเซียมซีหาคู่ดูสักหน่อย ศาลเจ้าที่นี่ขึ้นชื่อมากนะโว้ย เรื่องการหาคู่ๆ เอ็งรีบๆ ไปอาบน้ำ เดี๋ยวไปกินข้าวกัน”

พูดจบ ฝ่ายนั้นก็หัวเราะเริงร่า เดินจากไปด้วยความมาดหมาย เย็นนี้ล่ะ เขาจะพาเพื่อนผู้หล่อเหลาแถมโสดสนิทไปเสี่ยงเซียมซีหากคู่สักหน่อย ส่วนตัวเขาเองนั้น จะต้องจัดการเรื่องตัวเองให้สำเร็จในปีนี้!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel