บทที่ 6 หนีไม่พ้น
"เล็กบ้านมึงสิ เขาเรียกขนาดกลางไอเวร!"
จ้าวหันควับไปมองคนที่พูด ใบหน้าหล่อบึ้งตึงยิ่งกว่าเดิมเมื่อน้องชายสุดที่รักของเขาถูกเจ้าทัพหยามเหยียด
"สำหรับกูเรียกว่าเล็กนะ"
เจ้าทัพใช้คางเกยไหล่ของคนตัวเตี้ยกว่าเอาไว้ ใบหน้าเรียบนิ่งยกยิ้มมุมปากนิดๆ
"มึงใหญ่แค่ไหนกันเชียวถึงได้มาว่ากู"
จ้าวหลุบตาเหยียดมองไปทางเป้ากางเกงของอีกคน พลางเอี่ยวตัวหนีคนที่ใช้คางเกยไหล่เขาด้วย
เจ้าทัพไม่ได้ตอบอะไร มือแกร่งกลับคว้าเข้าที่มือเรียวแล้วดึงให้มาตะครุบเข้าที่เป้าของตัวเอง พลันแสยะยิ้มขึ้นเมื่อเห็นปฏิกิริยาของเด็กตรงหน้า
"เหี้ย อนาคอนด้าเหรอวะ..."
จ้าวแทบจะไม่มีเสียง เขาไม่อยากจะเชื่อสัมผัสตัวเอง ภายใต้กางสแลคผ้านิ่มนั้นมีงูยักษ์หลับใหลอยู่ นี่ขนาดยังไม่ตื่นนะเนี่ย เขาไม่อยากจะคิดตอนมันตื่นเลย
"น้ำลายหกแล้วเด็กเหี้ย แล้วก็ใส่กางเกงได้แล้วมั้ง"
"มีที่ไหน!"
เรียวนิ้วปาดเช็ดน้ำลายทิพย์ของตัวเอง สีหน้าจ้าวเลิ่กลั่กขึ้นสุด พลันจะก้มหยิบกางเกงที่ร่วงหล่นอยู่ที่ปลายเท้า ความเจ็บชายเอวก็แล่นปราดขึ้นมาจนต้องนิ่วหน้ายืดตัวตรงกลับไปดังเดิม
จ้าวหันไปมองเจ้าทัพอย่างขอความช่วยเหลือ คนตัวโตทำหน้าเบื่อหน่ายถอนหายใจใส่แต่ก็ยอมก้มลงไปเก็บให้อยู่ดี
"อ้ะ!"
จ้าวสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อปลายจมูกโด่งของคนบางคนสะกิดโดนบั้นท้ายของเขา
อยู่ๆใบหน้าหล่อเหลาของจ้าวก็ขึ้นสีแดงซ่าน เจ้าตัวเม้มริมฝีปากจนเป็นเส้นตรง หัวใจที่เงียบสงบกลับเต้นโครมครามเพราะสัมผัสเพียงแผ่วเบาและไม่ได้ตั้งใจของคนตัวโต
"..."
เจ้าทัพยังคงแสดงใบหน้าเรียบเฉยเหมือนไม่รู้เรื่องที่จมูกตัวเองไปเฉียดแก้มก้นของอีกคนอย่างไม่ตั้งใจ เขาดึงกางเกงมาไว้ที่เอวจ้าวแล้วผู้เชือกกางเกงให้ พร้อมกับอุ้มจ้าวขึ้นในท่าเจ้าสาว แล้วพาไปยังเตียงนอนดังเดิม
"ขอบใจ"
ทันทีที่หลังแตะพื้นเตียง จ้าวก็เอ่ยขอบคุณเจ้าทัพทันที เขาขอบคุณจากใจจริงเพราะถ้าไม่ได้เจ้าทัพเขาก็คงทำอะไรไม่สะดวก พยาบาลสาวก็คงช่วยอะไรเขาไม่ได้ อีกอย่างเขาอายผู้หญิงด้วย ส่วนผู้ชายด้วยกันเขาไม่อายหรอก
"ไม่รับ"
เจ้าทัพปฏิเสธทันควัน
"แล้วมึงจะเอาอะไร"
"ขอจุ๊บหนึ่งที"
เจ้าทัพยื่นแก้มที่พองลมไปหาอีกคนที่นอนบนเตียงให้จุ๊บด้วยสีหน้านิ่ง
"ฝันไปเถอะ! โรคจิตนะมึงเนี่ย"
จ้าวหดคอหนีใบหน้าเข้มของเจ้าทัพ เขาเองก็ปฏิเสธทันทีเช่นกัน
ไม่รับคำขอบคุณแต่เสือกจะเอาจุ๊บ บ้าป่ะเนี่ยใครจะทำกัน!
"มึงปวดขี้ปวดเยี่ยว อยากอาบน้ำจะทำไงดีนะ พยาบาสาวเขาจะอุ้มมึงไหวเหร้อ~"
เจ้าทัพทำลอยหน้าลอยตาพูด หางตาแอบเหลือบมองปฏิกิริยาของคนที่นอนอยู่ว่าจ้าวทำสีหน้ายังไง
"เดี๋ยวให้ไอเทิดกับไอปั้นช่วยอุ้มก็ได้ ตาโล้นพ่อกูเดี๋ยวก็มา มึงไม่ต้องหวัง ฮ่าๆ"
จ้าวหัวเราะร่า เขายักคิ้วให้คนตัวโตไปที เขาไม่หลงกลคำลวงไอคนไม่สนิทนี่ง่ายๆหรอก
"หึหึ"
"หัวเราะควยไรครับ!"
เสียงหัวเราะเหมือนเย้ยกันออกมาจากปากเจ้าทัพ จนจ้าวต้องหยุดหัวเราะแล้วหันไปถามว่าคนตรงหน้าหัวเราะแบบนั้นเพราะอะไร
เจ้าทัพไม่ได้ตอบแต่กลับหยิบโทรศัพท์ยื่นบางอย่างให้ดู
"เขาพึ่งส่งมาเมื่อกี้เลย พอดีพ่อกูขายรถได้ เลยชวนพ่อมึงและคนอื่นไปเที่ยวกัน"
จ้าวมองรูปภาพในข้อควาทแชท มีข้าวปั้นถูกเทิดทูนอุ้มวิ่งเล่นบนชายหาด ตาโล้นนอนอยู่ในทรายข้างๆกันมีลุงชาติกับป้าขมิ้นอยู่ด้วย แล้วยังมีตามั่นพ่อเทิดทูนกับยายจี๊ดแม่ข้าวปั้นด้วย ทุกคนดูมีความสุข หน้าตาชื่นมื่นชื่นบานกันถ้วนหน้า แต่ตอนนี้จ้าวหน้าบูดบึ้งเป็นตูดลิงแล้ว
อะไรกัน เขานอนป่วยอยู่โรงพยาบาลแท้ๆ แต่ทุกคนกลับไปเที่ยวทะเลกันสนุกสนานเนี่ยนะ เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนยังมาเยี่ยมเขาอยู่เลย!! แต่นี่หนีไปอยู่ทะเลกันไวจังวะ อย่างงี้ต้องโทรไปต่อว่า!!
จ้าวกดที่ไอคอนรูปกล้องบนจอโทรศัพท์ทันที รอไม่นานก็มีคนกดรับ ปรากฏใบหน้าชายแก่คนหนึ่ง ข้างๆมีภรรยาชะโงกหัวเข้ามาดูด้วยความอยากรู้อยากเห็น
"สวัสดีครับลุงชาติ"
จ้าวยกมือข้างที่ไม่เจ็บไหว้คนในกล้อง เขาไม่ได้ถือโทรศัพท์เอง แต่มีเจ้าทัพถือเอาไว้ให้ พร้อมกับเพลนกล้องมาให้เขาคุยกับลุงชาติได้สะดวกด้วย
[อ่าวจ้าวลูก เป็นไงบ้าง ดีขึ้นหรือยัง]
"ดีขึ้นแล้วครับ ผมขอคุยกับตาโล้นหน่อยสิครับ"
[อ่อ ได้ๆลูก แป๊บหนึ่งนะ ไอ้โล้นโว้ยยย จ้าวอยากคุยด้วยโว้ย]
กล้องโทรศัพท์ถูกถ่ายขึ้นฟ้าบ้างลงดินบ้าง สักพักก็กลับมาเป็นปกติ ชายแก่ร่างอ้วนท้วมนอนฝังตัวในทรายรับโทรศัพท์มาไว้ในมือ ก่อนจะโบกมือทักทายลูกชายอย่างอารมณ์ดี
[ว่าไงไอลูกชาย]
"ว่าไงอะไรกันละ ไหงหนีเที่ยวกันหมดวะ แล้วลูกที่อยู่โรงพยาบาลไม่ห่วงหรือไง"
จ้าวโวยวายเสียงดัง ซึ่งทางฝั่งนู้นก็น่าจะเปิดลำโพงด้วย เพราะอยู่ๆเทิดทูนหนุ่มแว่นหนาเตอะกับข้าวปั้นคนแคระก็โผล่หัวมาทางฝั่งซ้ายและฝั่งขวาของจอทำหน้าอยากใคร่รู้
[ก็ไอทัพมันก็ดูแลแล้วไง]
"ก็แล้วรู้จักกันที่ไหนเล่าโว้ย! สนิทกันที่ไหนละ จะไปรบกวนเขาได้ไงกัน"
[ลูกป้าชื่อเจ้าทัพอายุยี่สิบสาม เรียนจบจากกรุงเทพพึ่งกลับมาอยู่บ้าน จะมาสานต่อธุรกิจขายรถของครอบครัวจ้าหนูจ้าว รบกวนได้ตามสบายเลย]
เสียงป้าขมิ้นแนะนำตัวลูกชายเสียงเจื้อยแจ้วเข้ามาในกล้อง จ้าวแทบอยากจะทึ่งหัวตัวเอง นี่เขาเตะคนแก่ผิดมั้ยเนี่ย กวนตีนได้เรื่องเลยเว้ย
[ทีนี้ก็รู้จักมันแล้วเนอะ งั้นก็อยู่ด้วยกันได้เนอะ ไม่แน่นะไอจันทร์ ถ้ามึงอยู่กับมันใกล้ชิดกับมัน ความทรงจำวัยเด็กของมึงกับมันอาจจะกลับมาก็ได้นะ เอ้า เอาไปไอเทิด กูจะนอนอาบแดด]
ตาโล้นพูดๆเสร็จแล้วก็ส่งโทรศัพท์ให้เทิดทูน หนุ่มแว่นรับโทรศัพท์มาไว้ เทิดทูนขยับกรอบแว่นให้เข้าดั้งใหม่ ก่อนจะเอ่ยว่า
[อาทิตย์หน้ามีสอบนะครับ อ่านหนังสือด้วย]
ติ๊ด
สายถูกวางไปทันที แม้ว่าจ้าวจะกดโทรกลับไปอีกกี่ทีก็ไม่มีคนยอมกดรับสาย เขาเตรียมคว้าโทรศัพท์ที่มือเจ้าทัพจะเขวี้ยงทิ้งด้วยความโมโห แต่เจ้าทัพเร็วกว่า เขายกมือขึ้นเหนือหัวเอาโทรศัพท์หนีอย่างรู้งาน
"หึ้ย แม่ง!"
จ้าวสบถอย่างคนหัวเสีย พลันกระชากผ้าห่มมาปิดหน้าด้วยความหงุดหงิด เขาไม่ได้งอลที่ทุกคนทิ้งเขาไปเที่ยวทะเลอย่างเดียวหรอก แต่เขาโมโหไอเทิดที่ยังจะให้เขาอ่านหนังสืออีกด้วย! มันไปเที่ยวก็ยังมิวายลืมเคี่ยวเข็ญเขาอีก ไอพระธรรมมะธรรมโมเวร! ไอคนทำตัวเป็นครู ทำตัวเป็นแม่ ไอคนหลากหลายหน้าที่ ไอเวร!
ไอเทิดกลับมาเมื่อไหร่ เขาจะไม่ไปทำบุญวันพระกับมัน เขาจะไม่ไปฟังพระเทศน์กับมัน และจะไม่สวดมนต์ก่อนนอนด้วย! เขางอลเขาน้อยใจ! ป่วยอย่างนี้ยังจะให้เขาอ่านหนังสือให้ปวดหัวให้ป่วยหนักมากกว่าเก่าอีก เขาไม่ทำ!!
เจ้าทัพนั่งมองคนที่ฟึดฟัดบ่นหงุงหงิงอยู่ในผ้าห่มคนเดียว เขาก้มมองข้อความในโทรศัพท์แล้วพิมพ์ตอบกลับไป
:ฝากดูน้องด้วยนะไอทัพ
เจ้าทัพกดออกจากหน้าจอแชท เขาเงยหน้าขึ้นมาดูคนป่วย เสียงลมหายใจฮึดฮัดเงียบไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ มีเพียงลมหายใจที่สม่ำเสมอบ่งบอกว่าเจ้าตัวได้หลับไปแล้วแทน
"เดี๋ยวก็ตาย"
เขาค่อยๆดึงเอาผ้าที่คลุมหน้าจันทร์จ้าวออกอย่างเบามือ คนป่วยยังคงหลับสนิทไม่รู้เรื่องราว เจ้าทัพยังคงนั่งมองคนหลับอยู่อย่างนั้นไม่ลุกไปไหน
เขาจับจ้องใบหน้านวลขาวอย่างไม่วางตา เด็กหนุ่มผมฟ้าสีจ้า มีคิ้วที่เรียวสวย จมูกโด่งเข้ารูปกับริมฝีปากบางแดงระเรื่อ ถ้าลืมตา ตาจ้าวจะเป็นสีเทาอ่อนเข้ากับใบหน้าลูกครึ่งนี้มาก ถ้ายิ้มจ้าวจะมีลักยิ้มที่แก้มข้างซ้ายปรากฏจนดูหล่อกระชากใจ ทุกสิ่งอย่างรวมเป็นจันทร์จ้าวที่หล่อเพอร์เฟค
"พี่กลับมาแล้วนะจันทร์จ้าว จำพี่ได้สักทีเถอะ..."
เจ้าทัพดึงมือคนที่หลับมาจับเอาไว้ เขาซุกใบหน้าเข้ากับมือข้างนั้น พลางพูดกับคนที่หลับอยู่ด้วยน้ำเสียงที่เบาหวิวที่แทบจะไม่ได้ยิน
เจ้าทัพยังคงซบหน้าอยู่กับฝามือของคนป่วยอยู่อย่างนั้น อยู่ๆมือจ้าวก็กระตุกออกจากมือเขาอย่างแรง
"อย่านะ ปล่อยเราไป! ใครก็ได้ช่วยผมด้วย! ช่วยด้วย!"
จ้าวยกมือปัดป่ายบนอากาศ ใบหน้าหล่อนั่นยับยุ่งเหยิง ราวกับว่ากำลังฝันร้ายหนีอะไรอยู่สักอย่าง
"จ้าว ไม่เป็นไรๆ กูอยู่นี่ ไม่มีใครทำอะไรมึงได้ กูอยู่ตรงนี้แล้ว"
เจ้าทัพรีบคว้าสองมือนั่นให้หยุดแล้วโอบกอดไว้ทันที เขาลูบหัวเด็กหนุ่ม พลางพูดปลอบใจจากฝันร้าย ไม่รู้ว่าจ้าวได้ยินคำพูดเขาหรือไม่ แต่เจ้าตัวสงบนิ่งลงทั้งๆที่ยังหลับอยู่ เพียงไม่นานจ้าวก็เลิกดิ้นและละเมอ นอนนิ่งหลับสนิทไปในที่สุด
เจ้าทัพยังคงกอดและลูบหัวจ้าวไว้อยู่อย่างนั้นไม่ไปไหน เขาไม่อยากให้จ้าวฝันร้ายละเมออีก เขาจะเป็นคนที่ปกป้องจ้าวจากฝันร้ายเอง
"กูอยู่ตรงนี้แล้วจ้าว จะไม่มีใครทำอะไรมึงได้อีก..."
'ปล่อยเรานะ! ปล่อยเราไป อย่าเข้ามานะ!'
'กลับมานี่จันทร์จ้าว กลับมาหา...'
'ไม่!! ใครก็ได้ช่วยด้วย ช่วยผมด้วย'
'จ้าวหนีเราไม่พ้นหรอก...'
