5
[ว่าไง?]
[แกขับรถเลี้ยวไปไหนน่ะเจฟ]
[พอดีนัดสาวไว้ที่โรงแรม แกกลับก่อนได้เลย]
[แหม...เบาได้เบานะเพื่อน]
[รู้น่า] โจเซฟส่ายหน้าก่อนจะกดวางสายของเพื่อนรักที่เดาว่าตอนนี้น่าจะกลับถึงคอนโดแล้ว ก่อนจะเริ่มถอดเสื้อผ้าออกอย่างรู้สึกง่วงนอนขึ้นมานิดๆ
ก๊อกๆ ก๊อกๆ
“ให้ตายสิ ใครวะมาเคาะเรียก” โจเซฟสบถออกมาอย่างหัวเสีย ก่อนจะหยิบเสื้อคลุมขึ้นมาสวม แล้วเดินไปเปิดประตูห้องนอนอย่างรู้สึกหงุดหงิด
คลิก!
“คุณตามฉันมาใช่ไหม?”
“มะ...ไม่ใช่ ผมไม่ได้ตามคุณมาสักหน่อย” โจเซฟปฏิเสธปากคอสั่น พลางจ้องมองสาวตรงหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาว่าอีกฝ่ายจะกล้ามาหาตนที่ห้องพัก แถมยังใส่แต่เสื้อคลุมบางๆ เพียงตัวเดียว
“อย่ามาโกหกหน่อยเลยค่ะ ฉันรู้ว่าคุณอยากเอาฉันจะแย่” เด็กสาวส่งสายตาเย้ายวน พร้อมกับเอื้อมมือไปจับปลาช่อนแอมะซอนตัวเขื่องที่กำลังผงกหัวดิ้นส่ายไปมาหงึกหงักอย่างท้าทาย
“นี่คุณ!” โจเซฟอุทานอย่างตกใจที่อยู่ๆ อีกฝ่ายก็มือไว มาจับของตนดื้อๆ ราวกับว่าคุ้นเคยกันมาเป็นปี
“รับรองว่าฉันจัดการกลืนกินคุณทั้งตัว”
หญิงสาวไม่พูดเปล่า ผลักร่างสูงให้เข้าไปในห้อง แล้วกดล็อกประตูห้องอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็กระตุกสายรัดเสื้อคลุมของเขาออก พลัน! ก็เผยให้เห็นความอลังการที่มีขนาดมหึมา ตั้งลำตระหง่านเตรียมพร้อมที่จะออกรบ
หญิงสาวยกยิ้มที่มุมปาก ก่อนจะคว้าไมค์ทองคำมาร้องเพลง เอ๊ย! ก่อนจะคว้าดุ้นเนื้ออุ่นๆ ที่ยาวและใหญ่จนล้นมือมาดูดเลีย และตวัดลิ้นหยอกเย้าส่วนหัวที่บานเปล่งขึ้นลงช้าๆ ประหนึ่งของรักของหวง
“อย่า...อะ...อืม...” โจเซฟที่อยากจะผลักแม่เสือสาวออก แต่ใจของเขาก็ไม่แข็งพอที่จะทำแบบนั้นได้ เพราะเสียวและไฟปรารถนาที่ก่อตัวขึ้น ซึ่งมันกำลังเรียกร้องการปลดปล่อยอย่างบ้าคลั่ง
“ชอบไหมคะ? ต้องการให้ฉันทำต่อไหม” หญิงสาวเงยหน้าขึ้นถาม พร้อมกับสไลด์มือนุ่มๆ ขึ้นลงตามลำขนาดเขื่องเบาๆ อย่างทะนุถนอม
“ไม่ ผมไม่...ต้องการ” โจเซฟกัดฟันตอบ ทั้งที่ในใจอยากจะจับไมค์ทองคำมาตีหัวหรือฟาดเข้าที่เบ้าหน้างามๆ สักสอง-สามที เป็นการเจิมสิริมงคล
“อืม...ฉันให้คุณตอบอีกครั้ง” หญิงสาวส่งยิ้มยั่ว พลางตวัดลิ้นเลียวนตรงส่วนหัวที่เบ่งบานไปมาอย่างหยอกเย้า
คนที่ถูกจับน้องชายเป็นตัวประกันอยู่ในมือ เงยหน้าซู้ดปากเบาๆ อย่างรู้สึกเสียวซ่านทรวงในเป็นที่สุด “ซี้ด...จะทำอะไรก็ทำเถอะ”
“รับรองว่าฉันจะทำให้คุณถึงใจกว่าผู้หญิงทุกคนที่เคยผ่านมา” หญิงสาวบอกก่อนจะลุกขึ้นยืนพร้อมกับถอดเสื้อคลุมโยนทิ้ง เผยให้เห็นเรือนร่างที่สุดจะเซ็กซี่ชัดๆ เต็มๆ ตา
“พระเจ้า!” โจเซฟอุทานก่อนจะช้อนอุ้มแม่เสือสาวขึ้น แล้วเดินตรงไปยังเตียงขนาดใหญ่อย่างไม่รอช้า หึ! เด็กเสี่ยก็เด็กเสี่ยเถอะ วินาทีนี้เขาไม่สนใจอะไรแล้ว
กริ้ง...กริ้ง...
เสียงที่ดังก้องกังวานอยู่ข้างๆ หู ทำให้โจเซฟลืมตาขึ้นมองไปรอบๆ ห้อง ก่อนจะสบถออกมาอย่างหัวเสีย “บ้าจริง นี่เราฝันไปเหรอเนี่ย?”
คนที่ตกใจตื่นรีบกดรับสายทันใด
[ครับ]
[สวัสดีตอนเช้าค่ะคุณโจเซฟ ตอนนี้เจ็ดโมงครึ่งแล้วนะคะ]
[โอเคครับ ขอบคุณ] โจเซฟกดวางสายก่อนจะขยับลุกจากเตียงแล้วเดินตรงไปยังห้องน้ำด้วยสีหน้าหงุดหงิด เพิ่งเข้าใจคำว่าฝันค้างเป็นยังไงก็วันนี้
เวลา 11:12 น. หลังจากที่ดารินเช็คเอาท์ออกจากโรงแรมพร้อมกับบิดาและคนสนิทเสร็จ ก็พากันเตรียมตัวจะเดินทางกลับบ้าน เพราะเพิ่งจะทราบว่าดอกฟ้าโวยวายเสียงดังใส่แม่นมของตน เนื่องจากไม่สามารถติดต่อบิดาของเธอได้
“รีบๆ ขับรถตามไปนะลูก” ธาดาบอกบุตรสาวก่อนจะเข้าไปนั่งในรถที่คนสนิทขับมาจอดรถ
“ค่ะพ่อ เจอกันที่บ้านค่ะ” ดารินพนักหน้ารับเบาๆ
“ไปก่อนนะครับคุณหนู” ดิลกบอกพลางส่งยิ้มให้
“ค่ะคุณอา” ดารินโบกมือให้พร้อมกับจ้องมองรถของบิดาแล่นออกไป ก่อนจะเดินเข้าไปนั่งในรถที่พนักงานขับวนมาให้ โดยไม่ลืมให้ทิปอีกฝ่าย
“ขอบคุณครับ” พนักงานรีบยกมือไหว้อย่างดีใจ
“ขอบคุณเช่นกันค่ะ” ดารินยกมือไหว้ตอบก่อนจะค่อยๆ ขับรถไปตามทางออก
ติ๊ดๆ ติ๊ดๆ
เสียงเรียกเข้าที่ดังขึ้น ดารินเหลือบมองที่หน้าจอมือถือครู่หนึ่งก่อนกดรับสายพร้อมกับเปิดสปีกเกอร์โฟน
[ว่าไงดีน่า]
[เป็นไงบ้าง เมื่อคืนเขาโทรมาไหม?]
[เอ่อ...โทรแล้ว พอดีเรายุ่งๆ น่ะ ก็เลยบอกว่าจะโทรกลับหาเขาวันนี้]
[จริงเหรอ?]
[ก็จริงน่ะสิ เราว่าจะชวนเขาไปดินเนอร์น่ะ]
[กรี๊ดดด ฉันรอชมภาพถ่ายคู่นะ]
[จ้า แค่นี้ก่อนนะ]
ดารินรีบตัดสายแล้วบ่นพึมพำกับตัวเองอย่างรู้สึกหงุดหงิดนิดๆ “โอ๊ย! เอาไงดีเนี่ย ทำไมเมื่อคืนเขาถึงไม่ยอมโทรมาหาเรานะ หึ! งั้นก็บุกไปหาที่บริษัทเลยดีกว่า”
บริษัท J C คอนสตรักชัน
ก๊อกๆ
โจเซฟเงยหน้าขึ้นจากเอกสารบนโต๊ะทำงาน ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงสุภาพ “เชิญครับ”
คลิก! คนที่ยืนด้านนอกรีบหมุนลูกบิดที่ประตูห้อง แล้วก้าวเข้าไปด้านในพร้อมกับฉีกยิ้มหวานโปรยเสน่ห์ “ไงคะที่รัก เซอร์ไพรส์หรือเปล่า”
“คุณ...” โจเซฟจ้องมองหญิงสาวตรงหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา
“ตามมารยาทคุณอาจจะแกล้งโทรไปถามไถ่อาการของฉัน แต่ก็เปล่า? ทำเบอร์โทรหายเหรอคะ?” คนที่รอเก้อเปิดฉากยิงคำถามทันที
“คุณมาได้ยังไง” โจเซฟเอ่ยถามอย่างแปลกใจ ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะสามารถผ่านด่านเลขาหรือแม้แต่พนักงานต้อนรับขึ้นมายืนอยู่ตรงนี้ได้ โดยที่ตนไม่รู้
“ฉันก็บอกว่าเป็นแฟนของคุณ พวกเขาดูตกใจอยู่นิดหน่อย แต่ประเมินจากความสวยของฉันแล้ว ก็เลยยอมปล่อยให้ฉันขึ้นมาหาคุณได้ง่ายๆ” ดารินไขข้อข้องใจให้กับหนุ่มฮอตที่ไม่ว่าจะมองจากมุมไหน ก็หล่อไปหมดทุกองศา
“เฮ้อ...โอเค คุณยังเจ็บตรงไหนอยู่อีกไหม?” โจเซฟเอ่ยถามพร้อมกับรีบเบนสายตาไปจากใบหน้าจิ้มลิ้มและหุ่นอันเซ็กซี่อย่างรวดเร็ว เพราะกลัวว่าคืนนี้จะเก็บเอาไปฝันเหมือนกับคืนอีก
“เจ็บค่ะ เจ็บจี๊ดที่ตรงนี้เป็นอย่างมาก” ดารินบอกพร้อมกับชี้ไปที่หน้าอกข้างซ้ายของตัวเอง
“ผมงานยุ่งนะ ไม่มีเวลามาเล่นกับคุณหรอก กลับไปเถอะ” โจเซฟบอกก่อนจะทำทีเป็นก้มลงมองเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะต่อ
“ใจร้ายจัง เลี้ยงข้าวฉันสักมื้อสิ” ดารินเอ่ยอ้อนเสียงหวาน ใช่! นี่เป็นครั้งแรกที่เธอยอมเสียหน้ามาตามตื้อผู้ชาย ส่วนหนึ่งคือเธอชอบเขามาก ส่วนที่สองคือไม่อยากแพ้พนันกับเพื่อนๆ แต่ก็นั่นแหละ หากเเรง กระตุ้นไม่มากพอ ก็คงจะทำให้เธอมาถึงตรงนี้ไม่ได้
“โอเค ถ้าว่างผมจะโทรไปนัดคุณครับ” คนที่สองจิตสองใจอยากจะเดินหน้าก็อยากเดิน แต่ติดตรงที่เธอเป็นเด็กเสี่ย
“วันนี้เป็นไง?” ดารินเอ่ยชวนด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยประกายแห่งความหวัง
“ผมงานยุ่ง” โจเซฟกัดฟันตอบ ขณะที่ความคิดเป็นร้อยเป็นพันเกี่ยวกับท่วงท่าระหว่างชายหญิง ผุดขึ้นมาในหัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสาบานได้ว่าไม่มีผู้หญิงคนไหนทำให้เขาจิตนาการเตลิดได้เพียงนี้มาก่อน
“ฉันรอได้” ดารินจ้องมองคนที่เอาแต่หลบตาเธออย่างขำๆ
“ดูก่อน แล้วผมจะโทรไป” โจเซฟพยายามข่มอารมณ์หื่น เอ๊ย! อารมณ์ดิบ ที่อยากจะจับสาวตรงหน้าโก่งโค้งลงบนโต๊ะทำงาน แล้วสอดใส่ เอ๊ย! เติมเต็มความเป็นชายเข้าไปในตัวเธอ จากนั้นก็กระแทกแรงๆ จนเธอส่งเสียงครางลั่นดังไปทั่วทั้งห้อง
“โอกาสสุดท้ายของคุณแล้วนะ คุณโจเซฟ” ดารินฉีกยิ้มยั่วก่อนจะเดินหันหลังเดินไปที่ประตูห้องอย่างช้าๆ เพื่อให้อีกฝ่ายได้มองเอวที่เล็กคอดรับกับบั้นท้ายงอนๆ และเรียวขางามๆ ขยับโยกย้ายตามจังหวะก้าวเดินชัดๆ
คลิก!
โจเซฟมองประตูห้องที่ปิดลงอย่างรู้สึกหงุดหงิด เลือดในกายไหลเวียนและเดือดพล่านไปหมด ไม่คิดว่าสาวอายุแค่นี้จะยั่วเก่งเป็นบ้า
คนที่กำลังตกอยู่ภายใต้มนต์สะกดของเด็กสาววัยแรกรุ่น ถึงกับสะดุ้งเบาๆ หลังได้ยินเสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น
ก๊อกๆ
