3
“เดี๋ยวสิ คุณเอาฉันไปเปรียบเทียบกับผู้หญิงคนอื่นได้ยังไง”
“ก็การกระทำของคุณที่จงใจเข้าหาผมน่ะสิ”
“ฉันเนี่ยนะจงใจเข้าหาคุณ”
“ใช่! ผมเห็นคุณนั่งอยู่โต๊ะด้านในร้าน แล้วเดินออกมาตรงนี้ทำไมไม่ทราบ” โจเซฟปล่อยหมัดเด็ดใส่เด็กสาววัยเอ๊าะ ที่ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังเล่นอยู่กับอะไร
“คือฉัน...” คนที่โดนต้อนจนมุมเริ่มจะไปไม่ถูก
“ยอมรับเถอะว่าคุณตามมาอ่อยผม”
“ไม่ได้อ่อยค่ะ คุณหลงตัวเองไปไหม?”
“โอเค งั้นก็ขอตัวครับ” โจเซฟบอกพร้อมกับทำท่าจะเดินกลับเข้าไปในร้าน
“เดี๋ยวก่อน คุณยังไม่ได้ให้นามบัตรฉันนะ” ดารินกัดฟันเอ่ยถามเรื่องสำคัญ
“คุณจะติดต่อผมทำไม?” โจเซฟเลิกคิ้วถามอย่างสงสัย ที่แม่สาวใจกล้ายังไม่หยุดตื้อตน
“ก็ถ้าคืนนี้ฉันมีอาการข้างเคียงเกี่ยวการถูกคุณชนล้มลงไปกองกับพื้น พ่อของฉันจะได้ตามตัวคนก่อเหตุได้ถูกไง” ดารินให้เหตุผล
“งั้นเอานามบัตรคุณมา คืนนี้ผมจะโทรไปสอบถามอาการ”
“นี่ค่ะ” ดารินรีบส่งนามบัตรไปให้อีกฝ่ายอย่างดีใจ ที่อย่างน้อยก็มีความหวังว่าจะได้เจอกับเขาอีกครั้ง
“ขอตัวครับ” โจเซฟรับนามบัตรของสาวเจ้ามา ก่อนจะเดินเข้าไปในร้านอาหาร
ดารินปล่อยให้เขาเดินไปก่อนครู่หนึ่ง ก็เดินตามกลับเข้าไปในร้าน และเดินตรงไปยังโต๊ะที่มีเพื่อนๆ นั่งรอกันอยู่
“ว่าไงบ้างริน” นิสาถามอย่างรอลุ้นผล
“เขาว่าคืนนี้จะโทรมา” ดารินบอกพลางกลั้นยิ้มเอาไว้แทบจะไม่อยู่ กับครั้งแรกที่เธอยื่นนามบัตรให้กับผู้ชาย
“จริงดิ?” เมรีถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ เพราะเป็นที่ทราบกันทั่วว่า...คนอย่างโจเซฟไม่มีทางเล่นด้วยกับสาวที่เสนอตัวให้โจ่งแจ้งแบบที่เพื่อนสาวของเธอทำเมื่อครู่อย่างเด็ดขาด
“เรื่องจริง คืนนี้ฉันจะแคปเบอร์โทรเข้าของเขาให้ดู” ดารินบอกยิ้มๆ
“จ้า! โทรคุยไม่นับนะ นับที่ตกลงคบเป็นแฟน” ดีน่ารีบดักทาง
“ตามนั้นเลย” ดารินบอกอย่างมั่นใจ เพราะตั้งแต่ได้สบตากับเขาเมื่อครู่ พลัน! ก็เห็นภาพของเด็กชายตัวน้อยที่แสนจะน่ารักน่าชังผุดขึ้นมาในม่านตาทันทีทันใด พระเจ้า! นี่ใช่ไหม ที่เขาเรียกว่าสบตาแล้วเห็นไปถึงอนาคต
คัลเลนที่เห็นเหตุการณ์ตอนเพื่อนรักหมุนตัวเดินชนเข้ากับสาวคนหนึ่งอย่างจังที่หน้าร้าน ถามอย่างข้องใจ “เกิดอะไรขึ้นวะเพื่อน?”
“ก็แค่เด็กให้ท่าน่ะ” โจเซฟบอกพร้อมกับถอนหายใจอย่างรู้สึกเพลียๆ กับความมั่นหน้ามั่นโหนกของหญิงสาวคนเมื่อครู่
“สวยนะ หุ่นก็เซ็กซี่ด้วย” คัลเลนเอ่ยหยอก
“อย่าใส่ใจเลย รีบทานข้าวเถอะ อีกเดี๋ยวต้องไปประชุมต่อ” โจเซฟเอ่ยเตือนด้วยสีหน้านิ่งๆ
“คืนนี้ไปเที่ยวผ่อนคลายกันไหม ช่วงนี้เบื่อๆ ว่ะ ชีวิตไม่มีสีสันเลย ไม่เหมือนมึง ดูสิ สวยกว่าดารานางแบบเลยนะเพื่อน” คัลเลนสะกิดเพื่อนรัก เพราะอยากจะให้อีกฝ่ายสานสัมพันธ์กับสาวคนเมื่อครู่ต่อ
“สวยแต่ไม่น่าจะมีสมอง” โจเซฟบอกด้วยสีหน้าตึงๆ
“รู้ได้ไงว่าน้องเขาไม่มี ดูจากการแต่งตัวแล้ว ฐานะทางบ้านคงจะไม่ธรรมดา”
“หรือไม่ก็เด็กเสี่ย” โจเซฟประเมินเด็กสาวคนเมื่อครู่ ซึ่งยอมรับก็ได้ว่า...เขาถูกใจเธอเป็นอย่างมาก แต่เธอเลือกวิธีเข้าหาเขาได้ห่วยสุดๆ
“ต้องสนด้วยเหรอวะ?” คัลเลนเลิกคิ้วถามอย่างรู้สึกขำๆ
“สนบ้างก็ดี” โจเซฟมองค้อนตัวยุยงก่อนจะใช้ส้อมจิ้มสเต๊กเนื้อนุ่มๆ ทานต่ออีก 3-4 คำ แล้วสั่งเช็คบิลทันที
ดีน่าเอ่ยขึ้นทันทีหลังเห็นสองหนุ่มเดินออกจากร้านไป “โห...เช็คบิลจากไปโดยไม่หันมามองเพื่อนสาวของเราเลย”
“จะมองทำไม ยังไงคืนนี้เขาก็ต้องโทรมาอยู่แล้ว” ดารินตอบพร้อมกับยกไหล่ทั้งสองข้างขึ้นนิดๆ
“จ้า...ฉันรอฟังข่าวดีนะ” ดีน่าบอกอย่างไม่เชื่อว่าคนอย่างโจเซฟจะโทร. หาเพื่อนสาว แม้ว่าเพื่อนของเธอจะสวยและหน้าตาดีมากๆก็ตาม
“โอเค งั้นเช็คบิลเลยไหม พอดีฉันต้องไปหาพ่อที่สนามกอล์ฟต่อ” ดารินรีบบอกหลังเปิดอ่านข้อความในมือถือที่บิดาส่งมาให้
“แล้วแต่เจ้ามือเลยจ้ะ” เมรีบอกยิ้มๆ เพราะตนเองและเพื่อนสาวอีกสองรับประทานอาหารกันจนอิ่มแปร้แล้ว ไม่มีเหตุผลที่ต้องนั่งต่อ
ชั่วโมงต่อมา...สนามกอล์ฟ
ดารินขับรถไปถึงก็รีบเดินตรงไปยังคาเฟ่ที่บิดาชอบไปนั่งดื่มกาแฟเป็นประจำ ก่อนจะยกมือไหว้คนสนิทของบิดาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“สวัสดีค่ะคุณอาดิลก”
“อ้าว! คุณรินมาเมื่อไหร่ครับ” ดิลกรับไหว้ก่อนจะเอ่ยถามอย่างตกใจนิดๆ
“เพิ่งมาถึงนี่แหละค่ะ เป็นไงบ้างคะวันนี้” ดารินรีบเข้าไปนั่งข้างๆ บิดาอย่างไม่รอช้า
“ไม่ได้ออกไปตีกอล์ฟหรอกลูก แค่มาจิบกาแฟและนั่งคุยกันเท่านั้น” ธาดาหันไปบอกบุตรสาวด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ
“มีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ” ดารินถามอย่างแปลกใจ หลังสังเกตเห็นดวงตาของบิดาแดงก่ำนิดๆ
“เปล่านี่” ธาดาเอ่ยปฏิเสธทันที
“แล้วทำไมคุณพ่อตาแดงๆ คะ”
“ก็ดิลกน่ะสิ เล่าเรื่องเก่าๆ ทำเอาพ่อบ่อน้ำตาเเตกเลย” ธาดาเอ่ยพลางส่งค้อนไปให้คนสนิทที่ไม่ยอมช่วยแก้ต่างให้ตนเหมือนกับทุกครั้ง
“จริงเหรอคะ” ดารินถามย้ำพร้อมกับจับสังเกต
“จริงครับคุณหนู” ดิลกเอ่ยยิ้มๆ
“โอ๋ๆ เดี๋ยวรินปลอบเองค่ะ” ดารินบอกก่อนจะขยับเข้าไปกอดบิดา ที่ยังคงมีร่องรอยของความเศร้าหมองหลงเหลืออยู่ให้เห็น
“เนี่ย! รักใดๆ ก็ไม่เท่ากับรักของลูกสาว จริงไหมดิลก” ธาดาอมยิ้มหลังถูกบุตรสาวอ้อน
“จริงที่สุดครับท่าน” ดิลกขานรับทันใด
“อืม...งั้นคืนนี้เราไปเที่ยวด้วยกันไหมคะ?” ดารินเอ่ยชวนด้วยสีหน้ายิ้มๆ
“ที่ไหนเหรอครับคุณหนู” ดิลกถามอย่างสนใจ
“ไม่รู้สิคะ คุณอาแนะนำรินหน่อยสิ”
“โห...ถ้าผมบอกคุณหนูจะไปเหรอครับ”
“จัดมาได้เลย”
“ผมอยากไปเที่ยวผับครับ” ดิลกบอกความต้องการของตัวเองออกไปทันที
“คิกๆๆ” ดารินได้ฟังก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้
“ไม่ดูอายุเลย” ธาดาเองก็หลุดหัวเราะออกมาอย่างเบรกไม่อยู่
“โธ่! สักครั้งในชีวิตผมก็อยากจะไปเปิดหูเปิดตาดูบ้างครับท่าน” ดิลกบอกพร้อมกับกลอกตาอย่างเพลียๆ ที่ถูกทั้งเจ้านายและบุตรสาวหัวเราะใส่ตน
“ไปก็ไป ว่าแต่...เราแอบไปกันสามคนนะ โอเคไหม” ธาดาเอ่ยสรุป
“เยี่ยมที่สุดเลยค่ะ ถ้าพ่อพาดอกฟ้าไปด้วย คงได้ตีกับรินในคลับแน่” ดารินบอกทีเล่นทีจริง ทำเอาบิดากับคนสนิทถึงกับหัวเราะออกมาพร้อมกัน
