บท
ตั้งค่า

บทที่ 2

คนเฝ้าประตูชักสีหน้า ราวกับใครไปติดค้างเงินเขา ตะโกนเสียงดังลั่น

“เชิญท่านหมอทำไมตั้งนมนาน นี่ถ้าไม่รู้คงคิดว่าเจ้าเที่ยวโสเภณีที่ไหนแล้ว”

“พี่อู๋พูดติดตลกแล้ว” จ้าวฮุยยิ้มเศร้า

คนเฝ้าประตูเหลือบมองพวกซูมู่จื้อ ถึงจะเปิดประตูช้าๆ

หนานเหอหน้าตาถมึงทึง ซูมู่จื้อโน้มน้าวให้สงบลง ใช้พลังจิตสื่อสารกับเขา

“ฝ่าบาท ที่นี่เป็นแดนมนุษย์ ประตูหลักจวนอ๋องไม่ใช่สำหรับพวกเราปุถุชนธรรมดาจะเดินผ่านได้

หนานเหอเดินตามเข้าไปอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก แต่พอเข้าไปก็หันกลับมามองเหยียด ตอนหันกลับไปนั้น ก็ได้ยินเสียงปังประตูข้างเล็กๆ พังลง

“อ๊าก” คนเฝ้าประตูตะโกนออกมาด้วยความตกใจ “เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย?”

จ้าวฮุยเหงื่อไหลพราก พวกเขาเกือบโดนทับเข้าให้แล้ว

ซูมู่จื้อเหลือบตามองหนานเหอ ใช้พลังจิตพูด

“ฝ่าบาท ท่านทำหรือ?”

“อืม เหอะ”

ซูมู่จื้อส่ายหัวอย่างเหนื่อยหน่าย ร้ายเดียงสา!

ประตูเล็กเปิดเข้าสู่ส่วนดอกไม้ด้านหลัง เมื่อเข้าไปก็เห็นสวนที่เต็มไปด้วยดอกไม้บานสะพรั่ง

ช่วงฤดูใบไม้ร่วงยังมีทิวทัศน์เช่นนี้ ช่างน่าประหลาดใจเสียจริง

ดูเหมือนว่าจ้าวฮุยจะมาที่นี่เป็นประจำ ค่อนข้างคุ้นเคยและไม่มีใครขัดขวาง ไม่นานก็พาทั้งสามคนเข้าไปในจวน

จวนไม่ใหญ่ จัดเก็บเรียบร้อย แต่กลับให้ความรู้สึกหดหู่ ในจวนมีคนสองสามคน ซูมู่จื้อดูแล้วรู้สึกค่อนข้างคุ้นตา เดาว่าน่าจะเป็นคนของบ้านจ้าวจือฝู่

“นายท่าน หมอเซี่ยมาแล้ว” จ้าวฮุยรายงานทันทีที่เดินเข้าประตู

“ขอบพระคุณท่านหมอที่มา” จ้าวจือฝู่ผลักประตูออกมา ใบหน้าอ่อนล้า แต่ก็กล่าวขอบคุณ

“ท่านจือฝู่อย่าได้เกรงใจ บอกข้าได้หรือไม่ว่าสถานการณ์เป็นเช่นไร?” ซูมู่จื้อถามพลางวางกล่องยาน้อยลง

“หมอเซี่ยดูเอาเองเถิด” จ้าวจือฝู่สั่งให้เปิดประตู เชิญซูมู่จื้อเข้าไป

หนานเหอกับหลินอิ่งก็อยากจะเข้าไปด้วย แต่กลับถูกจ้าวฮุยห้ามไว้

“ขออภัยทั้งสองท่าน ห้องของคุณหนูไม่สะดวกให้พวกท่านเข้าไป”

“พวกเจ้ารอสักครู่ เดี๋ยวข้าก็ออกมาแล้ว” ซูมู่จื้อโบกมือให้พวกเขา

หนานเหอจึงไม่เข้าไป และขยายขอบเขตการรับพลังจิตให้กว้างขึ้น

“ท่านจือฝู่ ข้าจำได้ว่าสองปีก่อนท่านปฏิเสธการสมรสของจวนอ๋อง เหตุใดคุณหนูจ้าวจึงยังแต่งเข้ามาอีกหรือ?” ซูมู่จื้อถามเสียงต่ำ

จิ้งหวังเป็นน้องชายของฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน แม้ไม่ได้เป็นที่ชื่นชอบนัก แต่ก็เป็นเชื้อพระวงศ์ที่แท้จริง ฐานันดรของคุณหนูจือฝู่ไม่เพียงพอในตำแหน่งซื่อจื่อเฟย แต่งเข้ามาได้มากสุดก็เป็นเช่อเฟย

ฉากที่เห็นในตอนนี้ คุณหนูจ้าวคงเป็นเพียงนางสนม

“เฮ้อ” ท่านจือฝู่ถอนหายใจ “ข้าน่ะไม่ยอมหรอก แต่ถูกยัยหนูปากมันนั่นเกลี้ยกล่อม จะตามหาจิ้งอ๋องซื่อจื่อให้ได้ จะเป็นจะตายตลอดทั้งวัน แล้วข้าจะทำเช่นไรได้?”

“ตอนที่มาแรกๆ ก็ดีอยู่ ซื่อจื่อชอบนางมาก แต่ไม่ถึงสองเดือนเขาก็มีรักใหม่อีก ลืมยัยหนูของข้าไว้ข้างหลัง ครั้งนี้ป่วยเป็นโรคประหลาด หากว่าไม่มีคนกลับมารายงานข่าวคราวก็ไม่รู้เลยว่าพวกเขาจะทรมานนางอย่างไรบ้าง”

พูดถึงตอนท้าย น้ำเสียงจ้าวจือฝู่สะอื้น หัวใจของผู้เป็นพ่อแทบแตกสลาย

ช่วงที่คุยกัน ทั้งสองก็เดินมาถึงห้องชั้นใน จ้าวฮูหยินเองก็อยู่ด้วย

จ้าวฮูหยินกอดหญิงสาวไว้ในอ้อมแขนแน่น มือเท้านางถูกมัดไว้ ดิ้นไม่หยุด ส่งเสียงอู้อี้ในปาก

จ้าวฮูหยินปาดน้ำตาพลางตบหลังหญิงสาว

“อาซวี่เด็กดี แม่อยู่นี่แล้ว แม่จะอยู่เป็นเพื่อนเจ้านะ”

คุณหนูจ้าวมีชื่อว่าจ้าวฉางซวี่

ซูมู่จื้อมองหญิงสาวอย่างสงสัย ถามอย่างไม่มั่นใจ

“นางคือคุณหนูจ้าว?”

ที่ซูมู่จื้อรักษาโรคประหลาดของนางไปเมื่อสองปีก่อน ก่อนจะกลับได้พบกันครั้งหนึ่ง ใช้คำว่าสดใสก็ไม่ใช่เรื่องเกินจริงเลยแม้แต่น้อย

แต่หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าล่ะ? แก้มสองข้างซูบตอบ ผิวซีดเหลือง ราวกับคนใกล้ตายก็ไม่ปาน

“เฮ้อ นางทำตัวเองแท้ๆ ไม่ยอมกินข้าว ทุกข์ทรมานจากการเบื่ออาหาร” จ้าวฮูหยินปาดน้ำตา ถอนหายใจ

ซูมู่จื้อวางกล่องยาน้อยลงแล้วพูดกับจ้าวฮูหยิน

“ฮูหยิน ท่านปล่อยตัวคุณหนูได้หรือไม่?”

จ้าวฮูหยินส่งเสียง “อือ อือ” แล้วรีบคลายตัวจ้าวฉางซวี่

“เชือกที่มัดมือมัดเท้าก็คลายออก” ซูมู่จื้อกล่าว

“แต่ว่า...” จ้าวฮูหยินเหลือบมองไปรอบๆ ห้องแล้วหยุดพูด

สภาพทั้งห้องเป็นไปตามที่จ้าวฮุยพูดจริง อะไรที่เสียได้ก็เสียหมด

“ไม่เป็นไร เชื่อข้าเถอะ” ซูมู่จื้อพูดเสียงขรึม

จ้าวฮูหยินมีท่าทีลังเลเล็กน้อย กัดฟันคลายเชือกที่มัดจ้าวฉางซวี่ออก

แล้วก็เป็นไปตามที่ทุกคนพูด จ้าวฉางซวี่รีบปีนขึ้นเตียง หยิบหมอนเขวี้ยงปา ตอนนี้ทั้งห้องมีแค่หมอนเท่านั้นที่ยังไม่พัง

ซูมู่จื้อไตร่ตรองอย่างละเอียด พฤติกรรมของจ้าวฉางซวี่นั้นบ้าคลั่งมาก แต่สิ่งที่ตรงกันข้ามคือแววตาที่ชัดเจนมาก

นางรู้ว่าตนกำลังทำอะไรอยู่ ซูมู่จื้อตัดสินใจได้ในทันที มองไม่เห็นทางเข้าไป เขาจึงเตรียมปล่อยกลีบดอกท้อ

ภายในห้องนอกจากจ้าวจือฝู่ จ้าวฮูหยิน จ้าวฉางซวี่ แล้วยังมีสาวใช้ติดตามหลังแต่งเข้าอีกสองคนที่จ้าวฉางซวี่พามาจากที่บ้าน

มีมนุษย์กลุ่มหนึ่งอยู่ ซูมู่จื้อไม่กล้าทำอะไรเอิกเกริก จึงได้แต่ค่อยๆ ปล่อยซุ่ยฉิง ซุ่ยอวี้

“คุณหนูจ้าวมีอาการนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?” ซูมู่จื้อถาม ดึงดูดความสนใจสายตาคนดู กลีบดอกไม้สองกลีบถือโอกาสแปะติดกับผนังห้อง

“เมื่อคืนหลังกินมื้อเย็นเสร็จเจ้าค่ะ” สาวใช้สวมเสื้อสีเขียวคนหนึ่งตอบ

“เป็นตลอดจนถึงตอนนี้? ไม่มีพักเลยหรือ?”

“ใช่เจ้าค่ะ” สาวใช้อีกคนกล่าว

“กุก กุก” จู่ๆ การกระทำของจ้าวฉางซวี่ก็หยุดลง เห็นนางหันหัวมาอย่างยากลำบาก มองซูมู่จื้อแล้วส่งเสียงแปลกๆ

ซูมู่จื้อมองนางอย่างสงสัย แสงสาดส่องไปที่ซุ่ยฉิง ซุ่ยอวี้ที่ปีนไปถึงหัวเตียง อีกก้าวเดียวก็จะเข้าใกล้ได้

“กุก กุก” จ้าวฉางซวี่ส่งเสียงประหลาดอีกครั้ง

ครั้งนี้ซูมู่จื้อเห็นการแสดงออก แววตา และริมฝีปากของนางอย่างชัดเจน

นางไม่ได้บ้าจริงๆ และมีสติสัมปชัญญะมาก การแสดงออกที่ร้อนรน ถึงแม้จะส่งเสียง “กุก กุก” ประหลาด แต่ริมฝีปากกลับพูดเป็นสองคำอื่นว่า “หนีไป”

ซูมู่จื้ออึ้งไปชั่วขณะ จากนั้นรู้สึกว่ามีบางอย่างร่วงลงมาบนหลังมือ เหลือบไปมองด้วยสัญชาตญาณ เป็นเส้นผม จึงไม่ได้ใส่ใจอะไร ขณะที่กำลังจะเงยหน้า จู่ๆ ก็พบว่ามีบางอย่างผิดปกติ เส้นผมนี้ก็...ยาวมาก... โยงจากหลังมือของเขาเชื่อมต่อกับศีรษะของจ้าวฉางซวี่

“นี่คือ...” ซูมู่จื้อประหลาดใจ แต่กลับนึกถึงคนผู้หนึ่งแวบเข้ามา ไม่ถูก ต้องเรียกว่าเป็นผีตนหนึ่ง

ซูมู่จื้อพึมพำด้วยน้ำเสียงไม่ดี

“มันคือเส้นด้าย!” จึงรีบจะดึงมือตัวเองกลับ แต่สายไปเสียแล้ว

ทันใดนั้นเองด้ายสีดำบนหลังมือก็ขยับ กระตุกเชือกขึ้น ราวกับลิ้นพิษที่กำลังคายพิษพุ่งตรงไปที่ซูมู่จื้อทันที

ซูมู่จื้อมองเห็นมีเพียงเส้นเดียวบนหลังมือ ในจุดที่เขามองไม่เห็นก็มีด้ายดำสองสามเส้นพุ่งมาจากด้านหลัง

ปลายหางตากำลังจะถูกแทง มีดบางแหลมสองสามเล่มปรากฏขึ้น ห่างจากเส้นด้ายเพียงหนึ่งชุ่น

แสงเย็นสาดเข้ามา ด้ายถูกตัดขาดทันที

ด้ายดำที่เหลือเหมือนถูกลวก รีบหดกลับไปอย่างรวดเร็ว

“ที่แท้คือนักเชิดหุ่นนี่เอง” จู่ๆ เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นมาจากปากประตู

ซูมู่จื้อไม่ต้องหันไปก็รู้ว่าคือใคร

แต่ด้านหน้าคนผู้นั้นมีคนหนึ่งขวางอยู่ คือจ้าวฮุย พูดด้วยความโกรธเคือง

“นี่คือห้องของคุณหนูของพวกข้า ท่านเข้ามาไม่ได้ รีบออกไปเสีย”

หนานเหอดึงเขาออกไปอย่างร้อนใจ พร้อมร่ายเวทตรึงกายและปิดวาจา โลกก็สงบขึ้นทันใด เขาค่อยๆ เดินไปอยู่ข้างๆ ซูมู่จื้อ พินิจดูจ้าวฉางซวี่แล้วพูดเสียงเย็น

“เหตุใดยังไม่ปรากฏตัวเล่า?”

ในเวลานี้ซูมู่จื้อยังอยู่ในภาวะหวาดกลัว ไม่ผิด ผีตนนั้นที่เขานึกถึงก็คือนักเชิดหุ่น

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel