จอมนางคู่บัลลังก์ NC21

99.0K · จบแล้ว
ณ ธารา
60
บท
8.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

แสงอุษาสาดส่องถึงตั้งพระบรรทม พระสนมกุ้ยเฟยทรงใช้พระหัตถ์เรียวขยี้พระเนตรกลมโต ทอดมองต้าหวางบนแท่นบรรทมเดียวกัน พระองค์ทรงประทับตะแคงหลับสนิท พระเกศาดำสนิทสยายยุ่งเหยิงอยู่บนพระเขนย ผ้าคลุมพระแท่นพาดอยู่บนพระองค์ และพระนาง กุ้ยเฟยทรงดำริได้ถึงความรักของต้าหวางที่มีให้ ทรงป้อนพระโอสถเมื่อวันวานที่พระโอษฐ์ ทั้งที่มีเรื่องบาดหมายใจกันอยู่ แต่ดำริถึงเรื่องตอนกลางวัน และเรื่องเมื่อคืน ต้าหวางทรงกลั่นแกล้งพระนางเมื่อวาน อีกทั้งเมื่อคืนแทบไม่ได้บรรทมหลับ อยากจะเอาเต้าหู้โขกหัวให้ตายไปเลยทีเดียวเชียว ทำไมถึงบ้องตื้นอะไรเช่นนี้ แค่ต้าหวางทรงจับนิดจับหน่อยก็คล้อยตามไปครรลองเสียแล้ว ไป๋กุ้ยเฟยทรงเขยิบพระวรกายหมายจะลุกขึ้นประทับนั่ง แต่ช้าก่อน ในพระทัยอยากอยู่เช่นนี้ก่อน ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเช่นกัน ท่ามกลางเสียงขยับของคลุมของพระแท่น ต้าหวางทรงไร้ปฏิกิริยา ดูท่าจะทรงบรรทมหลับสนิทจริงๆ จึงเลื่อนคลุมพระแท่นให้คลุมพระองค์ ต้าหวางทรงดำรัสด้วยสุรเสียงอู้อี้ในลำพระศอ “เจ้าเหนื่อยทั้งคืน ใยไม่นอนต่อ” ปล. นิยายเรื่องนี้เกิดจากการจินตนาการของนักเขียน นิยายแนวก่อนราชวงศ์จีน ช่วงก่อนจักรพรรดิจิ๋นซีครองราชย์ ข้อความในตัวเรื่องอาจดูผิดแปลกไปบ้าง อาจจะไม่คุ้นเลยสำหรับผู้อ่าน อยากให้ลองเข้ามาอ่าน เผื่อจะชอบ อีกทั้งเนื้อหาทั้งเรื่องมีคำราชาศัพท์เป็นส่วนใหญ่ คำแปลอยู่ท้ายข้อความ และคำแปลจีนโบราณอยู่ที่ภาคผนวกสบายใจได้จร้า ผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้ ขอฝากนิยายเรื่องนี้ในอ้อมใจด้วยนะคะ ช่วยมารีวิวเป็นกำลังใจให้ไรท์ด้วยน๊า

นิยายรักโรแมนติกนิยายจีนโบราณฮ่องเต้ฮองเฮารักหวานๆรักแรกพบจีนโบราณโรแมนติกพระเอกเก่ง

ตอนที่ 1 ต้าหวางแห่งแคว้นเฉิน

เมื่อต้าหวางทรงนามว่าเฉินหลงแห่งแคว้นเฉิน ได้สวรรคตกะทันหัน บ้านเมืองระส่ำระสายองค์ขณะที่ องค์ไท่จื่อได้เพียงสิบพรรษา องค์ไท่จื่อจัดการทุกอย่างได้อย่างหมดจด ผู้ใดหมายคิดแข็งข้อเป็นกบฏ ต่อพระองค์ ทรงไม่ตัดสินให้มากความถึงกรมอาญา แต่ทรงสั่งประหารทันที เป็นความเด็ดขาดในการบริหารบ้านเมือง ถึงพระองค์ยังทรงพระเยาว์เช่นนี้แต่มีความเด็ดขาดดุจผู้ใหญ่ อีกทั้งทรงบุกตีให้แคว้นตัน จนเป็นที่ยำเกรงของใต้หล้า ส่วนอีกแคว้นหนึ่งที่พระองค์ยังไม่ทรงทำสงครามด้วยคือเหลียง ต้าอ๋องแคว้นเฉินพระองค์นี้ทรงมีพระนามว่า เฉินเป่ยเยว่ ทรงขึ้นเป็นอ๋องแคว้นเฉิน ขณะที่ได้สิบพระชันษา โดยมีเฉินกวาง พระนามรองคือฉู่หวางเย่ เป็นทรงเป็นซูซุของต้าหวาง (ซูซุ คือ อาชาย) ต้าหวางทรงไว้วางพระทัยให้ฉู่หวางเย่เป็นอุปราช อีกทั้งให้เป็นผู้สำเร็จราชการอีกด้วย ทว่าบัดนี้ต้าหวางมีพระชนมายุได้ยี่สิบพระชันษา ยังทรงไม่ยอมมีจะมีฟูเหรินสักนางเดียว จนทำให้เป็นที่วิตกแก่เหล่าขุนนางเป็นยิ่งนัก เมื่อฎีกาของเหล่าขุนนางเขียนให้พระองค์คัดเลือกเหล่าสตรีบุตรขุนนางกลับไม่ทรงใส่พระทัย จึงทำให้ผู้คนคิดว่าทรงชอบเล่นชาย แต่ถึงกระนั้นพระองค์ก็ไม่ได้ใส่ใจคำพูดเหล่านี้ ทรงใส่พระทัยในราชกิจจาเป็นส่วนใหญ่เสียมากกว่า

วันนี้ทรงออกว่าราชการเป็นปกติเช่นทุกวัน เมื่อว่างเว้นพระราชากิจก็ทรงไปหอตำรา ต้าหวางทรงเลือกหนึ่งม้วนเปิดอ่าน แล้วทรงหันมาทอดพระเนตรจ้าวเสิ่น หัวหน้าราชองครักษ์สามารถพกกระบี่เข้าเขตพระราชฐานได้เพียงผู้เดียว

“จ้าวเสิ่น วันรุ่งพรุ่งนี้ข้าอยากออกไปล่าสัตว์ เข้าเตรียมการด้วย” เมื่อต้าหวางทรงรับสั่ง จ้าวเสิ่นจึงรับคำสั่งทันที

“พระเจ้าค่ะ”

ณ เมืองฉู่หวั่น อยู่ภายใต้การปกครองของแคว้นเฉิน อยู่กันอย่างสงบร่มเย็นใต้พระบารมีของต้าหวางแคว้นเฉิน ทั้งทรงใส่ใจราชกิจ มีแค่ขุนนางตงฉิน ถ้าขุนนางท้องที่คนไหนรีดภาษีราษฎรจะต้องถูกสั่งประหารไม่มีละเว้น อีกทั้งลดภาษีให้แก่ราษฎรจนทำให้เป็นที่สรรเสริญแก่ใต้หล้า เงินที่เข้ายุ้งฉางหลวงในทุกๆ ปี ราษฎรต่างเต็มใจถวายให้ เพราะที่นี่กินดีอยู่ดี ไม่ถึงกับมีขอทานคนอยากจน เพราะว่าเจ้าเมืองที่นี่เป็นอดีตแม่ทัพใหญ่นามว่าไป๋เจิ้น เจ้าเมืองนั้นใส่ในทุกระเบียบนิ้ว ไม่ให้มีขุนนางฉ้อราษฎร์บังหลวง ถ้าจับได้ว่าใครฉ้อราษฎร์บังหลวง จะได้รับโทษสูงสุด คือ สั่งประหารโดยไม่ต้องกราบบังคมทูล

“ต้าหวางแคว้นเฉินของเรา ทรงพระปรีชาสามารถในการรบและการปกครอง ในสมัยของพระองค์ทรงทำนุบำรุงไพร่ฟ้าประชาราษฎรให้อยู่ร่มเย็นเป็นสุข อีกทั้งทรงนำทัพตีแคว้นตัน เพียงอายุได้สิบห้าชันษา เหตุที่ทรงตีแคว้นตัน เพราะแคว้นตันเป็นคู่แค้นของแคว้นเฉินเป็นมาเนิ่นนาน เมื่อทรงได้รับชัยชนะ ทำให้แคว้นต้นยอมศิโรราบ เป็นแคว้นประเทศราชต่อแคว้นเฉินของเรา ตลอดสิบกว่าปีนี้ต้าหวางของเรายังทำให้บ้านเมืองอย่างร่มเย็นเป็นสุขตลอดมา”

น้ำเสียงไพเราะเสนาะหูของหญิงสาวอาภรณ์แดงชาดไร้เครื่องประดับกาย มีเพียงตำราที่อยู่ในมือเรียวเท่านั้น มีเด็กสิบกว่าคนที่นั่งฟังล้วนเป็นลูกของชาวบ้าน ที่นางเอามาสอนเรียนและสอนวิชากระบี่ที่นางถนัดนัก

อีกทั้งเมืองนี้เป็นที่เรื่องลือว่าบุตรสาว อดีตท่านแม่ทัพใหญ่ เจ้าเมืองฉู่หวั่น มีชื่อเสียงกระบี่อันยอดเยี่ยมสามารถปลิดชีวิตคนได้สิบคนในดาบเดียว

“อวี้เฟิ่งเจี่ยเจีย ต้าหวางเก่งกาจเช่นนี้ เพราะเหตุใดต้าหวางไม่มีฟูเหรินของเขาบ้างเล่า อวี้เฟิ่งเจี่ยเจียเคยเล่าให้พวกข้าฟังว่า ต้าหวางทุกพระองค์ต้องมีหวางโฮ่ว และเหล่าฟูเหรินไม่ใช่หรือ”

“ไม่มีสิ ดีแล้ว” อวี้เฟิ่งกล่าวแผ่วเบา จนแทบไม่ได้ยิน แต่ว่าเด็กชายคนหนึ่งเอ่ยถาม

“อวี้เฟิ่งเจี่ยเจียท่านว่าอะไรนะ”

อวี้เฟิ่งได้ยินคำถามเช่นนี้รู้สึกเขินอายจึงเปลี่ยนเรื่องพูดทันที

“ไม่มีอะไร เรามาซ้อมกระบี่กันเถอะ”

“ขอรับ”

เด็กทุกคนกล่าวรับคำสั่งของไป๋อวี้เฟิ่งทันที แล้วจึงเริ่มซ้อมกระบี่กับเหล่านั้นเด็กๆ อวี้เฟิ่งจะบอกเหล่าลูกศิษย์ของนางเสมอว่า การสู้รบไม่ใช้หน้าที่ของเหล่าทหารและผู้ชายเพียงอย่างเดียว แต่ว่าเป็นเรื่องของทุกคน ไม่ว่าหญิงหรือเด็กก็ควรรู้เรื่องการต่อสู้ ไม่ว่าศัตรูจะมาเมื่อไหร่พวกเราจะพร้อมทุกสถานการณ์

เส้นทางยาวนานต้าหวางประพาสล่าสัตว์ โดยใช้ม้าเป็นส่วนใหญ่ผู้ติดตามทหารห้าสิบนายเท่านั้น แต่ละนายเป็นทหารหน่วย 'หลานหลิน' เป็นหน่วยที่แข็งแกร่งของกองทัพ กล่าวว่าถ้าเจอหน่วยหลานหลินเมื่อใด ทุกคนต้องยำเกรงในความเหี้ยมโหดและป่าเถื่อนที่สุดจนไม่มีใครกล้าที่จะต่อกรกับพวกเขา

เมื่อเข้าถึงเขตอุทยานหลวง ต้าหวางให้เหล่าทหารของพระองค์ออกล่าสัตว์ ผู้ใดล่าสัตว์ได้มาที่สุดพระองค์หมายจะมอบกระบี่เซียนหลงให้เป็นรางวัล กระบี่เซียนหลงเป็นศาสตราวุธที่หลอมขึ้นในวันครองราชย์ เมื่อถึงเวลาจึงทำการออกล่าสัตว์โดยทันที

อย่าลืมเม้นท์เป็นกำลังใจให้ไรท์ด้วยนะ